เพลงเก่ากับกรุ่นควันกาแฟ
พ.ไทยยืนวงษ์
ผมจะไม่ถามหรอกว่าใครชอบฟังเพลงแบบไหน เพราะถามไปก็เท่านั้น คนเราต่างจิตต่างใจ ล้วนชอบพอเสพสุขในรสดนตรีไปตามครรลองที่เหมาะสมกับตัว บ้างรักชอบจริงจัง บ้างก็ชอบตามๆกันเพราะเป็นการร่วมยุคสมัย
ผมจะบอกว่าดนตรีที่ผมชอบฟังจริงจังนั้นมีอยู่สองแบบ ที่เรียก แบบนี้เพราะเห็นว่ากระชับและชัดเจนกว่าคำว่าประเภทที่เป็นการแบ่งความซาบซึ้งของดนตรีออกเป็นรูปธรรมมากเกินไปอยู่สักหน่อย ดนตรีสองแบบที่ว่านี้คือดนตรีไทยสากลแบบเก่าและดนตรีคลาสสิคของฝรั่ง
วันนี้ไม่อยากพูดเรื่องดนตรีคลาสสิค ด้วยว่าบรรยากาศไม่ให้ คงว่ากันเรื่องของไทยๆกันก่อน ดนตรีไทยสากล ถ้าสมัยนี้คงต้องเป็นนายเบิร์ดนายมอสอะไรจำพวกนี้ ซึ่งผมฟังแล้วระคายหูเต็มที ในวันที่อากาศหนาวเย็น เสียงใบไม้ต้องลมหวิวๆ ผมนั่งทำงานที่โต๊ะไม้ริมหน้าต่าง เสียงร้องของครูเอื้อ สุนทรสนานแว่วหวานดังมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าๆที่เก็บไว้นานหลายสิบปี พูดถึงความรักที่สุกงอมของหนุ่มสาวท่ามกลางวัฒนธรรมของชาวกรุงสมัยก่อนกึ่งพุทธกาล เสียงผู้ชายทุ้มนุ่มส่วนหญิงนั้นเล่าก็แหลมใส เมื่อบางวรรคบางตอนที่กินใจ ผมต้องวางปากกาลงแล้วนั่งนิ่งๆ หลับตาเสียได้ก็จะเป็นการดี ทำให้เห็นภาพสวยๆของเมืองไทยเมื่อหลายสิบปีก่อนกับความรักที่มิใช่จะได้มาโดยฉาบฉวยเหมือนคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน
ร้านกาแฟชายน้ำที่บ้านเก่า ลุงเจ้าของร้านจะเปิดรับเฉพาะเพลงลูกทุ่งเท่านั้น เพลงฝรั่งหรือเพลงจีนที่กำลังฮิตไม่สนใจ เรานั่งจิบกาแฟคุยกันเรื่องชาย เมืองสิงห์ สมยศ ทัศนะพันธ์ ก้าน แก้วสุพรรณและเมืองมนต์ สมบัติเจริญ เมื่อลุกไปชงกาแฟให้ลูกค้า แกจะฮัมเพลง เหล้าจ๋าอย่างมีความสุข
ผมจำภาพของลุงคนนั้นได้ดี แม้ว่าแกจะตายจากไปเมื่อเกือบยี่สิบปีแล้ว
วันนี้ ผมเขียนเรื่องนี้อยู่ที่บ้าน นึกว่าจะเขียนอะไรดีอยู่นานก็นึกไม่ออก สุดท้ายก็คิดได้ว่าไม่ควรนึกให้เสียเวลา อยากเขียนอยากเล่าอะไรก็เขียนไป ใครจะอ่านก็อ่าน ใครเห็นแล้วไม่ได้ความก็จะข้ามไปเอง เมื่อคิดได้ดังนี้ก็สบายใจ ลุกไปชงกาแฟให้ตัวเองหนึ่งกา เปิดแผ่นสุเทพ วงศ์คำแหง เพลงที่หนึ่ง หัวหินสิ้นมนต์รัก...
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
6 ต.ค. 46 20:36:10
]