โรคแพ้ความหล่อ ตอนที่ 2

    ตอนที่แล้ว
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2468690/W2468690.html

    บทนำพิเศษ

    ขออนุญาตคุณอรพิม เอาบทนี้ที่คุณเขียนไว้ในกระทู้ก่อนมาเป็นบทนำนะครับ เพราะเขียนได้ดีถูกใจ แฮ่ะๆ

    +++

    "อ๊าก...ก"

    เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวน เมื่อเห็นหนุ่มหล่อคนหนึ่งวิ่งผ่านไปหญิงสาวรูปร่างอวบอ้วน ตุ้ยนุ้ย กลมกลึง  ค่อยๆขยายตัว พองมากขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างถลนออกมาจนล้นเบ้า ราวกับว่ามันจะระเบิดแตกออกมาวินาทีใดวินาทีหนึ่งผิวหนังที่อุดมไปด้วยไขมันค่อยๆนูน  พุพองเป็นตุ่มขึ้นมา ก่อนจะแตกโพล๊ะ....แล้วเมือกสีม่วงเหนียวๆก็ไหลออกมาร่างนั้นยังกรีดร้องทุรนทุรายไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด เนื่องจากยังอยู่ในรัศมีความหล่อนั่นเองและแล้ว

    เมื่อคนหล่อถูกยิงเด๊ดสะมอเร่ไป  เจ้าของร่างอ้วนก็หยุดทุรนทุราย   เจ้าตัวจะค่อยๆสลัดคราบเหนียวๆนั้นออก แล้วร่างโปร่งบาง สาวสวยสเลนเดอร์ก็ปรากฏแทน....อิอิ

    โดยคุณอรพิม

    +++

    โรคแพ้ความหล่อตอนที่ 2

    “อย่าหันไปมอง”

    ผมเอ่ยเตือนเสียงเรียบๆ เพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าเป็นการออกคำสั่ง ผู้หญิงบางคนจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้โดยไร้เหตุผลเท่าที่ควร เขาว่าผู้หญิงบางทีก็เหมือนแมว พอเราดึงหางจะดันไปข้างหน้า พอเราดึงหัวจะถอยไปด้านหลัง

    “มันตายแล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าความหล่อของมันจะหลงเหลือเป็นพิษหรือเปล่า”

    “ไว้ใจได้ คุณน่าจะสงสัยนะว่าตอนฉันยิงเจ้านี่ ฉันยังมองหน้ามันได้”

    ท่าทางของเธอดูมั่นใจเป็นพิเศษ ว่าจะไม่หวั่นไหวต่อโรคแพ้ความหล่อ

    “ฉันฉีดวัคซีนต่อต้านความหล่อไว้แล้ว ต่อให้หล่อปางตายขนาดไหน ก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

    “วัคซีนต่อต้านความหล่อ!!!!”

    ผมร้องเสียงหลง นึกไม่ถึงว่าวัคซีนชนิดนี้จะถูกค้นพบและสามารถนำมาใช้ได้แล้ว  ถ้าอย่างนั้นความหวังของมนุษยชาติก็ยังคงไม่มืดมนอนทการเสียเลยทีเดียว

    “มันราคาแพงมาก “ เธออธิบายด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม  “และจะมีใช้เฉพาะหน่วยงานของพวกเราเท่านั้น คนธรรมดายังไม่มีสิทธิ์ใช้วัคซีนชนิดนี้”

    หญิงสาวนักล่ามนุษย์หล่อ เดินตรงไปยังร่างไร้วิญญาณสังเกตว่าคนหล่อนี่อยู่ในอริยาบทใดก็ยังดูดี ขนาดหมอนี่โดนยิงหน้าแหก แต่ตัวมันยังมีความหล่อหลงเหลือ ลำตัว แขน ขา มันยังมีรังสีแห่งความหล่อแผ่ซ่านจางๆ ในอณูอากาศจนน่าเป็นห่วงว่าพวกผู้หญิงอาจสำลักความหล่อ

    “คุณจะทำอะไร” ผมถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเธอปักเข็มฉีดยาลงเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอของมนุษย์หล่อคนนั้น แล้วค่อยๆดูดเลือดขึ้นมาอย่างช้าๆและใจเย็น

    “เอาเลือดหมอนี่ไปทำเซรุ่มรักษาโรคแพ้ความหล่อ”

    “ให้ตายเถอะ มันจะไปกันใหญ่แล้ว”

    “เรื่องที่ร้ายกว่านี้ยังไม่ตามมา ถึงตอนนั้นคุณจะรู้ว่าเรื่องแค่นี้กระจอกมาก”

    เธอว่าขณะจัดเก็บเลือดมนุษย์หล่อไว้ในกระเป๋าถือเล็กๆ ใช้เข็มกลัดซึ่งมีเครื่องหมายอะไรสักอย่างกลัดเข้าไปตรงลำคอของร่างไร้วิญญาณนั้น

    “ชายคนนั้นเป็นของฉัน เพราะฉันเป็นคนยิงเขา ฉะนั้นเงินรางวัลค่าหัวจึงเป็นของฉัน”  เธอหันมาบอกหน้าตาเฉย ผมสะดุ้งแล้วร้องเสียงหลงว่า

    “อะไรนะ...คุณจะบ้าเหรอ ผมเป็นคนพบเขาก่อนคุณนะ”

    “แต่ฉันเป็นคนยิงเขา..ไม่ต้องพูดมาก”

    ท่าทางสาวนักล่ามนุษย์หล่อเฉียบขาดและดูเย็นชาจนไร้น้ำใจ ที่จริงชายคนนี้จะต้องเป็นผมจัดการไม่ใช่หล่อน ซึ่งเหมือนเสียมรรยาทยื่นมือเข้ามาสอดแทรก

    “ว่าไงจะเอายังไง”

    เธอเอียงคอถาม มือควงปืนเล่นอย่างปราศจากความหมาย แต่ภายใต้ท่าทางเรียบเฉยนั้นคือความเอาจริงเอาจังอยู่อย่างซ่อนเร้นจริงจัง และผู้หญิงแบบนี้ควรจะอยู่ให้ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    “ตามใจคุณเถอะ อยากได้ค่าหัวก็เอาไป”

    ผมบอกก่อนมองหน้าหล่อนอย่างขุ่นเคือง แต่แล้วผมก็รู้สึกหน้ามืด ลมในช่องท้องตีสว้านขึ้นมาตามลำคอ พื้นดินหมุนคว้างเข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้น

    พระเจ้าช่วยด้วย... เรื่องที่ผู้คนกลัวกันนักกันหนาก็บังเกิดขึ้นจนได้ หลังการระบาดของโรคแพ้ความหล่อ ก็มีพวกนักวิจัยทางการแพทย์และนักจิตวิทยาประกาศเตือนว่าให้ระวังโรคอีกชนิดหนึ่งที่จะตามมา นั่นคือโรคแพ้ความสวย ประสาทของผมลั่นเปรี้ยะก่อนอาเจียนอาหารมื้อเช้าออกมาจนหมดใส้หมดพุงดาวนับพันกระจายเต็มหน้า

    โรคนรกนี่มาถึงที่นี่แล้ว รวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

    “คุณเป็นอะไร”

    เสียงใสๆของหญิงสาวนักล่าแว่วมาเหมือนไกลแสนไกล แม้แต่เสียงก็ยังดูสวย ทำเอาผมรับฟังอย่างลำบากยากเย็น คล้ายเห็นเงาลางๆเดินใกล้เข้ามา ทำเอาต้องตะกายถอยออกไปสุดชีวิต

    “อย่าเข้ามาใกล้ผม  คุณเป็นคนสวย ..ได้โปรด โรคแพ้ความสวยมาถึงนี่แล้ว”

    สองขานั่นชะงัก เธอหยุดห่างออกไประยะหนึ่ง ผมไม่กล้าเงยหน้ามองเธอ นึกหวาดเสียวในใจ ถ้าเมื่อครู่ไม่ไหวตัวสะบัดหน้าและสายตาออกจากวงหน้านั้นภายในเสี้ยวพริบตา  สงสัยคงถึงขั้นสิ้นสติหยอดน้ำข้าวต้มหรือขาดใจตายเป็นแน่แท้ เฉียดนรกไปเพียงเส้นยาแดงผ่าหกสิบสี่

    วาระสุดท้ายของโลกคงมาถึงแล้ว

    ทันใดนั้น หางตาผมเห็นขางามๆของเธอก้าวเข้ามา แล้วรู้สึกว่าปากถูกบีบจนอ้ากว้าง วัตถุบางอย่างถูกทิ้งลงไปในลำคอในขณะที่ผมพยายามจะสำลักสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมา แต่หล่อนตบเปรี้ยงเต็มแรงจนดาวกระจายเต็มหน้าอีกครั้ง  พร้อมเสียงเฉียบขาดสำทับ

    “กินลงไป นี่เป็นยารุ่นทดลองของพวกเรา ยาป้องกันโรคแพ้ความสวย”

    ผมดิ้นพราด เจ็บตัวไม่เท่าไร แต่เจ็บใจสิเหลือทน แต่พอนึกได้ว่าโดนคนสวยตบ จิตใจก็ชุ่มชื้นเยือกเย็นอย่างประหลาด ถ้าหากเป็นคนขี้เหร่ตบ อาจลุกขึ้นจระเข้ฟาดหางไปแล้ว ส่วนคนสวยๆตบอาจยอมให้ตบจนตายคามือ

    “เห็นแก่น้ำใจของคุณก็แล้วกัน”

    หล่อนว่า แล้วเหมือนยืนมองสังเกตปฏิกิริยาอย่างเฉยเมย ผมหอบหายใจแฮ่ก ก่อนพยายามฝืนใจมองหน้าเธอ ให้ตายเถอะ... เป็นใบหน้าที่สวยและมีเสน่ห์จนน่ากลัว หากไม่มียาป้องกันความสวยบางทีอาจขาดใจตายไปอย่างน่าเวทนาแล้ว

    “คุณเป็นคนสวยจริงๆ พระเจ้า.....สวยจนน่ากลัว”

    ผมพึมพำขณะที่แก้วหูลั่นเปรี๊ยะ.....แต่ยาดูเหมือนจะออกฤทธิ์แล้ว จึงสามารถมองหน้าเธอได้อย่างค่อนข้างสบายใจ

    ดูเหมือนว่าโรคแพ้ความสวยจะระบาดขึ้นอย่างทันทีทันใด ถนนสายนั้นพลันเต็มไปด้วยสภาพโกลาหลวุ่นวายอีกครั้ง  พวกผู้ชายหลายคนแผดร้องเลียงลั่นเหมือนคนบ้า วิ่งกระเจิงอย่างขาดสติ บางคนเป็นหนักถึงกับตะกายผนังตึกล้มลงชักตาตั้ง บางคนอ้าปากค้างนั่งน้ำลายยืดอย่างคนไม่สามารถบังคับตัวเองได้  ซึ่งบริเวณนั้นจะต้องมีผู้หญิงหน้าตาดีเดินอยู่อย่างแน่นอน

    แต่ที่ผิดแผกแตกต่างไปจากโรคแพ้ความหล่อคือ พวกชายหล่อทั้งหลายยังพากันออกมาเดินถนนแบบหลบๆซ่อนๆความหล่อ ไม่เปิดเผยเท่าไรนักแต่พวกผู้หญิงสวยนี่กลับไม่รู้จักหลบใบหน้าสวยๆของพวกเธอเลย ทั้งที่รู้ว่าเป็นพิษเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ผมเห็นหลายคนเดินโปรยยิ้มไปมาอย่างภาคภูมิใจ  แจกยิ้มหวานไปทั่ว เป็นการทดสอบประสิทธิภาพความสวยของตนเอง อาการที่พวกผู้ชายสบตาพวกเธอแล้วชักตาตั้งกลับกลายเป็นความภาคภูมิใจเหลือแสน ใครทำให้ผู้ชายแพ้ปางตายได้มากที่สุด กลายเป็นเรื่องน่าชื่นชม

    ยังดีที่โรคนี้เพิ่งระบาด มิฉะนั้นน่ากลัวว่าพวกเธอต้องเจอกับนักล่าสาวสวยแล้ว ค่าหัวของพวกเธอคงแพงลิ่วไม่ห่างจากคนหล่อเท่าไร

    หัวมุมถนน เห็นหญิงรูปร่างอ้วนคนหนึ่งแต่แต่งหน้าทาปากและสวมเสื้อผ้าสีลายดอกฉุดฉาด กำลังลอยหน้าลอยตายิ้มไปมาให้พวกชายหนุ่มทั้งหลาย แต่พวกชายหนุ่มเหล่านั้นมองแล้วเฉยไม่เกิดอาการแพ้แต่อย่างไร พวกเขาพยายามกลับบ้านโดยเร็วที่สุดก่อนที่จะโดนโรคแพ้ความสวยเล่นงาน เ

    หญิงอ้วนคนนั้นท่าทางผิดหวังที่ไม่เห็นใครสบตาเธอแล้วเป็นลม สลบ และในที่สุดดูเหมือนเธอจะฟิวส์ขาด กระชากคอเสื้อผู้ชายหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งซึ่งวิ่งผ่านไปอย่างรีบร้อนจนตัวลอยจ้องหน้าร้องถามเสียงลั่นถนน

    “มองหน้าฉันสิ พ่อหนุ่ม เป็นไง มองให้เต็มตา”

    ชายเคราะห์ร้ายคนนั้นร้องเสียงหลง หญิงอ้วนท่าทางแข็งแรงมาก บางทีอาจเป็นนักมวยปล้ำหญิงก็เป็นได้  ตาของเขาเหลือกลานแบบคนใจขาดใจตายเพราะโดนบีบคอยกขึ้นจนลูกกระเดือกแทบหลุดสองมือพยายามแกะนิ้วอูมๆออกจากคอหอย

    “ทำไมมองแล้วไม่ชักตาตั้งฟะ”  หล่อนตะคอกเสียงดัง

    ชายผู้น่าสงสารนั้นดิ้นกระแด่วๆอย่างน่าเวทนาแล้วชักจนตาตั้ง

    “ฮึๆ.. ในที่สุดก็ออกอาการแพ้จนได้”

    เธอแสยะยิ้มอย่างพอใจ คิดไปว่าอาการทุรนทุรายจนตาตั้งของชายหนุ่มเป็นอาการของโรคแพ้ความสวย  เธอทำปากจู๋ยืนเข้าไปใกล้ใบหน้าซีดเผือดใกล้ตายของอีกฝ่ายหนึ่ง

    “มามะ..จะให้รางวัลค่าที่มองเห็นความสวยอันซ่อนเร้นของฉัน  จูจุ๊บ..จูจุ๊บ!!!”

    ดูเหมือนชายหนุ่มคนนั้นจะโชคดี เพราะเขาตาเหลือกค้างสลบคามือไปแล้วด้วยความหวาดกลัว หญิงอ้วนสบถอย่างขัดใจโยนร่างปวกเปียกลงไปในถังขยะด้วยท่าทางผิดหวัง คงนึกว่านั่นเป็นอาการแพ้ความสวยขั้นรุนแรงเป็นแน่แท้

    เธอบังเอิญหันมามองผมซึ่งยังนั่งมองดูเหตุการณ์อยู่ ผมใจหายวาบ แข้งขาอ่อนวิ่งไม่ไหว แต่รับรองได้ว่าไม่ใช่อาการแพ้ความสวยเด็ดขาด

    “ว่าไง พ่อหนุ่ม..”

    นั่นไง ว่าแล้ว ร่างอ้วนๆเดินยิ้มหวานตรงเข้ามาอย่างหมายมั่นปั้นมือ แต่เสียงเครื่องยนต์คำรามกึกก้องข้างหู หญิงสาวนักล่าคนนั้นเอง เธอคร่อมจักรยานยนต์บิดคันเร่งกระหึ่มพร้อมจะกระโจนออกได้ทุกขณะ

    “ขึ้นมา ถ้าไม่อยากตาย”

    ไม่ต้องให้บอกซ้ำสอง ผมตั้งสติรวบรวมพลังกายและใจตะกายซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์สุดชีวิต หางตายังพอมองเห็นมืออวบอูมคว้าเฉียดก้านคอไปหวุดหวิดจนเย็นวาบขณะที่รถพุ่งแทบกระโจนออกจากแหล่ง นึกแล้วยังเสียวสันหลังไม่หาย

    ++++++

    จากคุณ : Psycho man - [ 7 ต.ค. 46 21:48:13 ]