ปลาเสือกับเด็กริมคลอง
พ.ไทยยืนวงษ์
กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นคนชอบน้ำก็ปาเข้าไปย่างกลางคน เมื่อยังเด็กมีชีวิตริมน้ำ เช้าตื่นขึ้นมาก็ไปอาบน้ำคลองที่ท่า พายเรือไปโรงเรียน โรงเรียนก็อยู่ติดน้ำ ขากลับลงเรือที่ท่าโรงเรียน ถึงบ้านเปลี่ยนชุดแล้วไปช่วยป้าเก็บผักบุ้งที่ขึ้นดารดาษอยู่ชายน้ำแล้วเลยถือโอกาสเล่นน้ำคลองกับเพื่อนๆให้ช่ำใจ กลับมาบ้านอีกทีก็ใกล้ค่ำ บางวันที่ฝนตกก็นั่งที่เชิงกระไดมองดูสายฝนที่โปรยหนาตาเป็นม่านสีขาวบดบังทิวทัศน์ของอีกฟากฝั่งคลองเห็นเป็นเพียงภาพเลือนราง ยอไม้ไผ่ที่ท่าหน้าบ้านจุ่มแช่ส่วนที่เป็นตาข่ายลงในน้ำทำหน้าที่ซื่อสัตย์ของมัน รอเวลาเพียงให้คนไปกดปลายอีกด้านหนึ่งลงส่วนที่เป็นตาข่ายจะยกขึ้นช้าๆ บ่อยครั้งที่ได้ปลาเล็กปลาน้อยติดขึ้นมา ถ้าโชคดีบางครั้งจะติดเอาปลาใหญ่อย่างสวายหรือปลาช่อนตัวเขื่องมาเป็นอาหารจานพิเศษนอกเหนือไปจากผัดผักบุ้งและน้ำพริก
ในคลองมีปลาตะเพียนกับปลากระดี่มากมาย ยกยอครั้งใดไม่ค่อยพลาดปลาทั้งสองชนิดนี้ ปลาหมอนั้นต้องใช้เบ็ดหย่อนเอาตามโคนเสา เหยื่อที่มันชอบมากคือแมลงแกลบที่มีแยะตามเล้าไก่ ผู้ใหญ่บอกว่าถ้าอยากได้ปลาดุกให้ใช้ไข่แมลงแกลบ วิธีเอาก็ไม่ยาก เลือกเอาแมลงแกลบตัวเมีย(ตัวจะป้อมกลม ก้นจะเป่งๆสังเกตง่าย)บีบเบาๆที่ท้องไข่สีเหลืองนวลรูปร่างรีคล้ายเมล็ดข้าวจะค่อยๆปลิ้นออกมา เบ็ดตัวเล็กๆเกี่ยวไข่แมลงแกลบสัก2-3ใบหย่อนครั้งใดได้เรื่องทุกคราว แต่ส่วนมากก็ยังเป็นปลาหมออยู่ดีนานๆถึงจะเป็นปลาดุกสักตัวหนึ่ง
บางทีเราก็จะได้ปลากระทิง
ปลากระทิงเป็นปลาที่รูปร่างยาวคล้ายปลาไหลแต่ไม่ใช่ ปากแหลมเล็กเป็นจะงอยเหมือนปากไก่ ตัวเป็นเมือกลื่นมือมาก ที่สำคัญเงี่ยงแข็งๆบนหลังของมันทำให้เป็นปัญหาอย่างยิ่งในการปลดมันออกจากตาข่าย เนื้อปลากระทิงทำทอดมันอร่อยมาก ป้ามักบอกว่ารองจากปลากรายแล้วก็ไอ้ทิงนี่ล่ะเด็ดนัก ทั้งมันทั้งเหนียว ทุกครั้งที่ได้ปลากระทิง ป้าจะรวบรวมให้ได้ปริมาณสักหลายๆตัว ทำให้ตายก่อนใช้มีดขอดเอาเกล็ดและเมือกลื่นๆออกไป จากนั้นก็ใช้ช้อนสังกะสีบางๆสีเขียวขูดเอาเนื้อปลาออกมา ขูดขูดขูด เนื้อปลาที่ได้จะแหลกเหนียว เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ก็จะนำไปคลุกเข้ากับเครื่องแกงที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็มาถึงการทอด ผมชอบดูเวลาป้าโยนชิ้นของเนื้อปลาที่ปั้นเป็นแผ่นไม่หนาไม่บางเกินไปลงในกระทะที่น้ำมันเดือดท่วม สีของเนื้อปลาที่ผสมเครื่องแกงสีส้มๆจะค่อยๆคล้ำเป็นสีน้ำตาล กลิ่นหอมของมันโชยไปไกลเรียกน้ำลายให้ออกมาสอในปาก วันนั้นจะกินข้าวได้หลายจาน
เด็กริมคลองอย่างผมไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการได้ตกปลาหรือดักเอาปลาแปลกๆมาเลี้ยง ปลาตะกรับหรือปลาเสือดาวเป็นสิ่งที่น่ารักมาก เมื่อยกยอขึ้นมาได้ผู้ใหญ่มักจะเอาทิ้งเพราะตัวเล็กใช้ทำอาหารไม่ได้ ผมจะขอไว้ใส่ในกระชัง ค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆทีละตัวสองตัว ปลาไม่เคยตายเลยเพราะน้ำเป็นน้ำคลองอีกทั้งอาหารก็ไม่ต้องให้ มันกินอาหารที่ลอยมาตามน้ำ เสือพ่นน้ำก็เป็นปลาที่ผมชอบมาก ในน้ำคลองที่สีขุ่นถ้ามองให้ดีจะเห็นปลาเสือพ่นน้ำฝูงน้อยๆว่ายตามกันเป็นพรวน ตาโตของมันสอดส่ายไปมาหาเหยื่อ โดยมากคือแมลงที่เกาะตามต้นตามใบของผักตบชวา เวลามันเห็นแมลงเข้าสักตัวหนึ่งมันจะมารุมออที่โคนต้นว่ายส่ายวนไปมาแล้วพ่นน้ำใส่แมลงเคราะห์ร้ายตัวนั้น วิธีการของมันมักไม่พลาด เสือพ่นน้ำมีสายตาที่เยี่ยมแถมยังมีความแม่นยำในการพ่นน้ำอย่างน่าแปลก เหยื่อที่โดนน้ำฉีดใส่อย่างแรงจะพลัดร่วงลงสู่ผิวน้ำ ทีนี้ก็เป็นเรื่องของความไว เสือพ่นน้ำตัวไหนที่เร็วกว่าก็จะปราดมาโฉบเหยื่อไปกินได้ก่อนเพื่อน
บ้านเรามีญาติจากกรุงเทพฯมาเยี่ยมเสมอ ญาติบางคนมาเห็นปลาที่ผมสะสมไว้ในกระชังก็จะสนใจและอยากได้กันมากถึงกับขอเอาไปเลี้ยงในกรุงเทพฯ ตอนนั้นผมรู้สึกภูมิใจไม่น้อยที่มีของดีที่หลายคนอยากได้ ปลาสวยในคลองมีมากมายผมหาเมื่อไรก็ได้จึงตักแจกจ่ายบรรดาชาวกรุงเหล่านั้นติดไม้ติดมือกลับไปทุกคราว ภายหลังรู้สึกเศร้าใจที่พวกเขาเอาไปเลี้ยงแล้วตายหมดจึงเริ่มเพลาๆการให้ลง ต่อมาไม่ให้ใครอีกเลย
หลายสิบปีต่อมาผมยืนอยู่ริมคลอง มองไปอีกฝั่งที่เคยเป็นบ้านเกิด เห็นแต่ความเก่าแก่ทรุดโทรมเงียบเหงา ยออันเก่าไม่เหลืออยู่แล้ว มันคงไม่เป็นที่ปรารถนาของผู้คนในยุคนี้หรือไม่ก็ไม่มีปลามาให้ติดอีกต่อไป หญ้าขึ้นรกชัฏท่วมหัวเพราะเป็นบ้านร้าง เมื่อสูดเอาบรรยากาศเก่าๆที่เคยอยู่ร่วมกันมาก็ให้รู้สึกใจหายที่สิ่งเหล่านั้นกำลังจะตายจากเราไปทุกขณะ บ้านริมคลองของผมไม่มีอีกต่อไป ทุกวันนี้ใช้ชีวิตในเมืองหลวง ถูกดูดกลืนเข้าไปในระบบของการแข่งขันการทำงานที่บ้าคลั่ง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ย่างเข้าวัยกลางคน กว่าจะรู้อีกครั้งว่าเคยได้รับความสุขสมบูรณ์ในชีวิตมาตั้งแต่เกิดและเป็นฝ่ายละทิ้งมันไปเองเพราะคิดว่าเป็นการแสวงหาอนาคตที่ดีก็สายไปเสียแล้ว ในขณะที่เราดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งที่คิดว่าจะสามารถเข้ามาเติมเต็มชีวิตเราได้ให้มากที่สุดเรายิ่งถอยออกห่างตัวตนและจิตใจอันบริสุทธิ์ของเราไปทุกขณะจนเลือนรางและจางหายไปกลายเป็นเพียงกลิ่นบางๆให้เราได้พอสูดดมและบางครั้งคิดถึงจนน้ำตาไหล
ผมรักการไปเที่ยวตามลำน้ำ ผมรักบ้านริมคลอง แม้วันนี้ไม่มีโอกาสได้อยู่อาศัยแต่เพียงแค่ได้มองก็มีความสุขลึกๆ ครั้งหนึ่งได้แลเห็นฝูงน่ารักของปลาเสือพ่นน้ำก็ให้รู้สึกเต็มตื้นท่วมท้นขึ้นมาในอก ผมรักบรรยากาศแบบนี้ที่สุด ตอนนี้ใครที่มีโอกาสอย่างนี้ อย่าทิ้งมันไปนะครับ
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
7 ต.ค. 46 21:59:28
]