=[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 21/3 "เป็นอยู่ด้วยจิตว่าง"

    “ประสกคงเคยได้ยินฉายา "หลวงจีนกระต่ายน้อย" มาบ้าง?"

    "ฉายานี้ข้าพเจ้ากลับเคยได้ยิน ฟังว่าท่านไต้ซือเพียงเพราะเพื่อช่วยกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง ถึงกับมิเสียดายกับการลงมือสังหารหมาป่าทั้งฝูง แต่ข้ากลับมิเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ถึงท่านต้องการช่วยเหลือกระต่าย ข้าก็เชื่อว่าท่านสามารถกระทำได้โดยมิจำเป็นต้องปลิดชีวิตหมาป่าเหล่านั้น และ ยิ่งไม่เชื่อว่าท่านจะช่วยเหลือชีวิตหนึ่งโดยการทำลายชีวิตอื่น"

    เสี่ยวซาตอบกลับอย่างมั่นใจ หลวงจีนชราที่เมตตา การุณย์ เช่นนี้ มีหรือจะสังหารสิ่งมีชีวิตอย่างไร้เหตุผล เช่นนี้

    "อมิตพุทธ อาตมาก็อยากจะเชื่อว่ามันมิได้เกิดขึ้น ทว่าเรื่องราวที่ประสกกล่าวมานั้น ล้วนเป็นความจริงโดยสิ้น "

    หลวงจีนชรากลับยอมรับว่าเป็นความจริง คราวนี้ถึงกับทำเอาเสี่ยวซานิ่งงันไป

    "เมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นอาตมายังมิได้เป็นเจ้าสำนักเส้าหลินเทียนซาน ได้ติดตาม "หลวงจีนจิตว่าง" ผู้เป็นซือแป๋ดั้นด้นไปหยางโจวเพื่อสืบคดีปริศนารายหนึ่ง เนื่องจากคดีรายนั้นมีผลกระทบในวงกว้างต่อผู้คนยิ่งนัก และผู้ต้องสงสัยในคดีนั้นก็คือพรรค ‘ฉิกจับอิด’ ดังนั้นเราสองศิษย์อาจารย์จึงลอบสืบสวนเรื่องราวอย่างลับๆ ในที่สุดก็สืบได้เบาะแสหลายประการซึ่งบ่งชี้ไปยังคนผู้หนึ่ง "

    หลวงจีนชรากล่าวพลางทบทวนความหลังด้วยสีหน้าหม่นหมอง

    "ทว่าผู้ต้องสงสัยรายนั้นเป็นคนที่ยากตอแย เพราะมันเป็นถึง ผู้คุ้มกฎฝ่ายขวาของพรรคฉิกจับอิด มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการในเขตลุ่มน้ำแยงซีและฮวงเหอ มีนามว่า ‘หลี่เทียนเล้ง’ นอกจากนั้น มันยังเป็นน้องร่วมสาบานของ หลี่เฉินเชียง ประมุขพรรค ฟังว่าคนผู้นี้รักใคร่และภักดีต่อหลี่เฉินเชียงยิ่งนัก ถึงขั้นยินยอมเปลี่ยนมาใช้แซ่หลี่แทนแซ่เดิม"

    "พรรคฉิก จับอิด ในเวลานั้น แม้ยังเทียบ หอห้ากระบี่ ไม่ได้ ทว่าขุมกำลังก็ยิ่งใหญ่มิใช่น้อย ในเขตเมืองหยางโจวแล้วหากคิดจัดการกับหลี่เทียนเล้ง น่ากลัวยากเย็นกว่าการปีนป่ายขึ้นสวรรค์ อาตมาเมื่อทราบเช่นนั้นกลับตัดสินใจกระทำการโดยวู่วาม ลักลอบออกจากที่พำนัก ลอบไปจัดการกับหลี่เทียนเล้ง โดยลำพัง คิดมิถึงกลับพลาดท่าเสียที ขณะที่กำลังรอความตายอยู่นั้น ซือแป๋ของอาตมาได้ติดตามมาช่วยไว้ได้ทัน ท่านผู้เฒ่าชักนำอาตมาหลบหนีการตามล่าของหลี่เทียนเล้ง"

    "เราสองศิษย์อาจารย์หลบหนีตลอดเวลาโดยไม่ได้พักผ่อน ในที่สุดมาถึงชายป่าแห่งหนึ่ง นอกเมืองหยางโจว หลี่เทียนเล้งพลันปรากฏกายขึ้น พร้อมด้วยผู้ติดตาม อาตมาแม้มิอยากทำร้ายคน แต่ก็จำต้องสยบคนเหล่านั้นลง ในที่สุดก็หลังการต่อสู้อันดุเดือด ก็เหลือเพียง หลี่เทียนเล้ง และลูกน้องคนสนิทของมันอีกสองคน อาตมารับมือกับทั้งสอง ส่วนซือแป๋ของอาตมาก็ประมือกับหลี่เทียนเล้ง"

    "ทั้งสองสู้กันด้วยฝีมือคู่คี่ก้ำกึ่ง แต่ความจริงแล้วระหว่างประมือซือแป๋ของอาตมามีโอกาสในการสังหาร หลี่เทียนเล้ง หลายครั้งหลายหน ทว่าท่านถือหลักมุทิตาจึงไม่สังหารมัน ด้วยหวังว่ามันจะสามารถกลับตัวได้ และนั่นก็เป็นเหตุให้ท่านต้องพบจุดจบที่น่าอนาถ และก็เป็นจุดเริ่มต้นของการหลงเดินไปในหนทางที่ผิดพลาดของอาตมา"

    "ซือแป๋ของอาตมาสู้ไปพลาง สั่งสอนไปพลาง เพื่อให้ หลี่เทียนเล้งได้กลับใจ ละบาป และยอมมอบตัวต่อทางการ ทว่ามันมิเพียงไม่รับฟัง กลับอาศัยจังหวะนั้นลอบใช้พิษร้ายจู่โจมซือแป๋ของอาตมา แล้วฉวยโอกาสหลบหนีไป อาตมาคิดเข้าสกัดกั้นก็มิทันท่วงที"

    "นั่นเป็นครั้งแรกที่อาตมาได้รู้จักกับพิษร้ายประจำพรรคฉิกจับอิด นามของมันคือ "ซาเลอปี่" อาตมารีบเข้าไปดูอาการของซือแป๋ ทว่าท่านตวาดห้ามอาตมามิให้เข้ามา เพราะพิษจะแทรกซึมถึงอาตมาด้วย จากนั้นสั่งเสียให้อาตมามิให้ล้างแค้น เพียงให้จับกุมหลี่เทียนเล้งส่งทางการดำเนินคดีตามความผิด จากนั้นท่องเคล็ดวิชา "เป็นอยู่ด้วยจิตว่าง" ที่ท่านเรียนรู้จากภิกษุชราชาวชมพูทวีปให้แก่อาตมา รวมทั้งสอนหลักการฝึกให้ด้วย จากนั้นกำชับอาตมาว่าขั้นตอนในการฝึกอย่าได้คิดแค้นเคือง ให้ทำจิตใจให้ว่างเปล่าไร้ทุกข์ไร้สุข จึงค่อยฝึก จากนั้นท่านจึงได้สิ้นลมหายใจ"

    "อาตมาแม้นรับฟังคำสั่งเสียของท่าน ทว่าอาตมากำพร้าบิดามารดาแต่เล็ก ซือแป๋เป็นผู้เลี้ยงดูมา ในที่สุดอาตมามิอาจหักห้ามความแค้นได้ กลับบ่มเพาะพิษร้ายอยู่ภายในใจ สุดท้าย อาตมารีบเร่งฝึกวิชา "เป็นอยู่ด้วยจิตว่าง" เพื่อคิดล้างแค้น จนเกิดธาตุไฟแทรก ที่สุดมิเพียงฝึกไม่สำเร็จ กลับทำให้บ้าคลั่งออกอาละวาด พบคนฆ่าคน พบสัตว์ก็ฆ่าสัตว์"

    เสี่ยวซาได้ฟังยิ่งตกตะลึง นึกไม่ถึงหลวงจีนที่แสนเมตตากลับเคยบ้าคลั่งไล่สังหารผู้คน

    "อาตมาในเวลานั้นไม่หลงเหลือสติสัมปชัญญะ เพียงรู้สึกร่อนรุ่มบ้าคลั่ง ใคร่อยากปลดปล่อยสิ่งที่มันอัดแน่นอยู่ในตัวออกไป ดังนั้นวิ่งตะบึงไปโดยไร้จุดหมาย เมื่อเตลิดอยู่สามวันสามคืน พลันพบเข้ากับฝูงหมาป่ากลุ่มหนึ่ง ไล่ล่ากระต่ายน้อยตัวหนึ่งอยู่ อาตมาสัมผัสเข้ากับจิตสังหารของบรรดาหมาป่าที่ดุร้าย จิตใจยิ่งบ้าคลั่งดังนั้นตรงเข้าซัดฟาดพวกมันดับดิ้นในฝ่ามือเดียว ขณะจะเข่นฆ่ากระต่ายน้อยตัวนั้น พลันพบว่ามันกำลังร่ำไห้"

    "กระต่ายสามารถร่ำไห้?!!!" เสี่ยวซาโพล่งออกมาด้วยความแตกตื่น

    "มิเพียงสามารถร่ำไห้ อาตมากลับรู้สึกถึงความอบอุ่นและสำนึกในบุญคุณท่วมท้นออกมาจากกระต่ายน้อยนั้น จิตใจที่บ้าคลั่งของอาตมาค่อยๆ บรรเทาลงบังเกิดความสงบขึ้นแทนที่ ในที่สุดหลุดพ้นจากอาการธาตุไฟแทรกด้วยลักษณะนั้น ทว่าแม้รอดพ้นจากอาการธาตุไฟแทรกได้ แต่วิชา "เป็นอยู่ด้วยจิตว่าง" ของอาตมาก็มิสามารถฝึกจนสำเร็จลงได้ เพราะบาปในจิตใจจากการเข่นฆ่าผู้คนและฝูงหมาป่านั้นนั่นเอง!"


    เงียบไปชั่วครู่จึงกล่าวต่อ


    "เหตุการณ์ครั้งนั้นบังเอิญมีคนผ่านมาพบเห็น และเล่าลือกันไปต่างๆนาๆ ในที่สุดถึงกับกลายมาเป็นฉายาของอาตมา อมิตพุทธ"

    "ที่แท้มีเรื่องเช่นนี้" เสี่ยวซาพึมพัมเสียงแผ่ว ราวจะพูดกับตนเอง หลวงจีนชรากล่าวต่อ

    "ทว่าเล่าลือเพียงเล่าลือ กลับมิมีผู้ใดล่วงรู้ความจริงนี้ ทุกคนต่างคิดว่าอาตมาช่วยเหลือกระต่ายน้อยนั้น ทว่าที่จริง กระต่ายน้อยเองกลับมีส่วนผู้ช่วยเหลือให้อาตมาหลุดพ้นจากอาการธาตุไฟแทรก จนถึงบัดนี้อาตมายังมิสามารถจำแนกได้ว่าอาตมาช่วยเหลือกระต่าย หรือมันเป็นผู้ช่วยเหลืออาตมากันแน่?"

    เสี่ยวซานิ่งตรึกตรองอยู่ชั่วครู่พลันกล่าวว่า "ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นทั้งสองล้วนมีส่วนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน"

    "อมิตพุทธ นี่นับเป็นข้อสรุปที่ไม่เลว สรรพสิ่ง ในโลกล้วนแล้วแต่เกื้อกูลกันและกัน ทีนี้เจ้าคงรู้ถึงโทษของความโกรธแล้วใช่หรือไม่? หวังว่าเจ้าจะไม่หลงเดินทางผิดเช่นเดียวกับอาตมา วันนี้เราสนทนากันมามากแล้ว เจ้าจงไปพักผ่อนเสียเถิด" กล่าวพลางพยุงร่างเด็กหนุ่มเข้าสู่กระท่อมน้อย
    .........
    ................
    ........................

    แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 47 09:04:29

    แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 46 23:36:47

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 9 ต.ค. 46 18:22:06 ]