ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าจะแก้ลำบากแฮะ โพสต์เลยละกัน
---------------------------------------
เรื่องเล่าของเหล่าตัวกวน
บทที่ 1 การพบกันครั้งแรกของเหล่าตัวกวน
ณ บ้านเลขที่สิบสอง กริมมอลด์ เพลซ
"ดูผังครอบครัวตระกูลเราให้ดีนะจ๊ะ สักวันลูกจะสืบสานกิ่งก้านของแผนผังเลือดบริสุทธิ์ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม" คุณแม่วางมือทั้งสองลงบนบ่าของลูกชายวัยสิบเอ็ดขวบของเธอ วันนี้เป็นวันเดินทางไปเรียนฮอกวอตส์วันแรกของลูกชายคนโตของเธอ
"ทำไมพ่อถึงไม่อยู่ล่ะฮะ วันนี้ พ่อสัญญาแล้วแท้ ๆ" เด็กชายหันไปถามมารดาเหมือนไม่สนใจเรื่องที่เธอเพิ่งพูดนัก "มันช่วยไม่ได้นี่จ๊ะซิริอัส พ่อเขามีงานด่วน" "แต่นี่ผมยังไม่ได้บอกลาพ่อเลย แล้วพ่อก็ไม่กลับบ้านมาตั้งสามวันแล้วด้วย" "ก็บอกแล้วไงว่า พ่อมีงานน่ะ พูดไม่รู้เรื่องรึไง! เพราะพ่อน่ะเป็นพ่อมดสายเลือดบริสุทธิ์ถึงได้ต้องทำงานเผื่อเจ้าพวกเลือดไม่สมประกอบ เลือดสีโคลนทั้งหลายไง" แม่ของเขาเริ่มทำเสียงดุ "ถ้ามีเลือดสมบูรณ์แล้วไม่ได้อยู่บ้าน มันจะมีความหมายอะไรล่ะครับ" หางเสียงซิริอัสเจือด้วยความเศร้า ลุงของเขายังสนิทกับเขามากกว่าพ่อเสียอีก "เอ๊ะ เจ้าเด็กนี่ ยอกย้อนจริง มัวแต่ขลุกอยู่กับลูกพี่ลูกน้องใฝ่ต่ำอย่างอันโดรเมด้าบ่อย ๆ น่ะสิ ถึงได้เป็นแบบนี้ นังนั่นน่ะ ขนาดบ้านสลิทเธอรีนยังไม่ได้เข้าเลย พอตอนนี้ปีกกล้าขาแข็งถึงได้ตีตัวออกห่างไปซะได้หรอก แกต้องเอาอย่างเบลลาทริกซ์นะรู้ไหม เขาน่ะฉลาดที่แต่งงานกับคนที่มีเลือดสูงศักดิ์เช่นเดียวกับพวกเรา" ซิริอัสไม่ได้ว่าอะไร แต่ใจจริงเขาไม่เห็นด้วยที่แม่ว่าลูกพี่ลูกน้องที่เขาชอบแบบนั้น อันโดรเมด้าออกจะคุยสนุก ไม่เคยถือตัว แถมยังสอนอะไรเขาหลายอย่างด้วย เพียงแต่หลังจากเธอจบฮอกวอตส์ ก็ไปทำงานที่แวดล้อมไปด้วย "พวกเลือดสีโคลน" เต็มไปหมด ตอนนี้แม่ของเขาจ้องจะลบชื่อเธอออกจากผังแทบทุกวันแล้ว จริง ๆ แม่เขาไม่รู้ว่าอันโดรเมด้ากำลังเดทกับเท็ด ท๊องซ์ซึ่งมีเลือดมักเกิ้ล 100% อยู่นะเนี่ย "เอาล่ะ ได้เวลาเดินทางแล้ว"
พวกเขามาถึงสถานีรถด่วนฮอกวอตส์ที่ชานชาลาเลยที่เก้าเศษสามส่วนสี่ พ่อมดแม่มดมากมายต่างพากันมาส่งลูกหลานที่กำลังจะออกเดินทางไปเรียน "ทีนี้ลูกก็จะได้ไปอยู่บ้านสลิทเธอรีนเหมือนพ่อกับแม่แล้ว จำไว้นะว่า พวกเลือดบริสุทธิ์น่ะหายาก เพราะฉะนั้นมองหาเด็กผู้หญิงที่มีเลือดบริสุทธิ์ในบ้านสลิทเธอรีนไว้ให้ดีล่ะ เพราะฉันไม่ยอมให้แกไปเกลือกกลั้วกับพวกที่มีเลือดชั้นต่ำกว่าเราเด็ดขาด จำไว้" "ครับ" ซิริอัสรับคำอย่างเนือย ๆ ทั้งที่ใจจริงนั้นเบื่อหน่ายยิ่งกว่าที่แสดงออกหลายเท่านัก "แม่ย้ำคำนี้กับผมมาตั้งแต่จำความได้แล้วนะ" "ผมว่าพี่ควรจะทำตามที่แม่พูดนะ เพราะพวกที่ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์น่ะไร้ค่า" รีกุลัส น้องชายซิริอัสผู้มีเค้าใบหน้าหล่อเหลาเหมือนซิริอัสกลับพูดข่มพี่ชาย พร้อมกับกอดอกแบบวางมาด "เห็นไหม ขนาดน้องชายแกยังรู้เรื่องดีกว่าแกเสียอีก" แม่ว่าพลางดึงรีกุลัสมากอดอย่างรักใคร่
ซิริอัสถอนหายใจก่อนก้าวขึ้นรถไฟไป เขาพยายามทำเป็นหาที่นั่งนาน ๆ โดยลากสัมภาระไปตลอดทางเดินรถไฟ และภาวนาให้รถออกเร็ว ๆ ในที่สุดเสียงหวูดรถไฟก็ดัง ซิริอัสจึงวางสัมภาระไว้แล้วเดินกลับมาหาแม่และน้องชาย "ลาก่อนครับแม่ รีกุลัส แล้วเจอกันตอนปิดเทอมนะครับ" "อย่าลืมนะ ซิริอัส คบแต่พวกเลือดบ. . ." "ผมไปแล้วครับ" ซิริอัสรีบหลบกลับขึ้นรถไฟก่อนแม่ของเขาจะทันพูดจบประโยค
ซิริอัสยืนอยู่ตรงทางเดินรถไฟ สายตามองไปที่ชานชาลา แม่เขายังคงตะโกนแต่คำว่าเลือดบริสุทธิ์กับสลิทเธอรีนไม่เลิก จนคนที่ยืนอยู่บนชานชาลาเริ่มหันมามองด้วยสายตารังเกียจ แต่ซิริอัสไม่ได้สนใจแล้ว สายตาของเขาเหลือบมองครอบครัวอื่นที่โบกมือและกล่าวคำอำลาลูกหลานของตนที่อยู่บนรถไฟที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากชานชาลา ผู้ใหญ่บางคนอวยพร บางคนก็บอกให้ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี บางคนก็บอกให้ส่งจดหมายมาบ่อย ๆ
"ทำไมครอบครัวเราไม่เป็นอย่างนี้บ้างนะ" ซิริอัสรำพึงออกมาเบา ๆ ขณะที่สายตามองตามสุนัขตัวหนึ่งที่วิ่งไล่ตามรถไฟ สายตาของมันจดจ้องไปที่ตู้หนึ่งที่อยู่ถัดไปทางด้านหลังของเขาราวกับจะมาร่วมส่งเจ้าของที่ต้องเดินทางจากไปเรียนด้วยเช่นกัน รถไฟวิ่งมาไกลแล้ว แต่ซิริอัสยังคงทอดสายตามองร่างที่ปรากฎอยู่ไกลลิบของสุนัขตัวนั้นอยู่ พยายามคิดว่ามันมาส่งเขาด้วย
"เฮ้ ขอทางไปหน่อยสิ" เสียงทักดังมาจากข้างหลังเขา เขาหันไปก็พบเด็กชายผมสีดำยุ่ง ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงฉายอยู่หลังแว่นตา มือหนึ่งลากหีบสัมภาระ กำลังมองเขาอยู่ "อ้อ โทษที" ซิริอัสหลบไปจากทางเดินและเพิ่งนึกได้ว่า เขาวางสัมภาระทิ้งไว้ตรงทางเดิน "ปีหนึ่งเหมือนกันรึ" "อืม ยังหาตู้ว่าง ๆ ไม่เจอเลย นายก็เหมือนกันหรือ" "ใช่ อ้อ ลืมแนะนำตัวไป ฉันชื่อซิริอัส แบล็ค แล้วนายล่ะ" ซิริอัสหันมาถามหลังจากเดินมาถึงหีบที่วางไว้ "เจมส์ พ็อตเตอร์" เจมส์ปล่อยมือจากสัมภาระออกมาจับมือกับซิริอัส
"เซเวอรัส เสนป" เจมส์กับซิริอัสหันไปมองก็พบเด็กผู้ชายผมสีดำมันปลาบยาวประบ่ากำลังยืนกอดอก เชิดหน้ามาทางพวกเขาอยู่ "ยินดีที่ได้รู้จัก" เจมส์ยื่นมือไปหาเสนป แต่เขามองกลับอย่างเหยียด ๆ "ฉันไม่ได้ทักนายสักหน่อย ฉันทักทายาทตระกูลแบล็ค ผู้มีสายเลือดพ่อมดบริสุทธิ์อยู่ต่างหาก" เสนปปรายตาไปที่ซิริอัส พลางยื่นมือไปหาเขา "ฉันเองคงต้องขอบอกว่า ฉันก็ไม่ได้ทักนายเหมือนกัน" ซิริอัสกอดอกตอบอย่างเย็นชา "หึ" เสนปแค่นหัวเราะพลางชักมือกลับ "มิน่า แม่นายถึงนั่งตะโกนอยู่ตรงชานชาลาไม่หยุด ว่าให้ทำตัวดี ๆ ในบ้านสลิทเธอรีน เพราะไอ้เลือดบริสุทธิ์ในตัวนาย มันผ่านเข้าไปไม่ถึงสมองนี่เอง" เสนปหัวเราะเยาะพลางหันหลังเดินจากไป "อย่าลืมกราบเท้าหมวกคัดสรรให้ส่งนายไปอยู่บ้านสลิทเธอรีนล่ะ เราจะได้เป็นเพื่อนกัน"
ซิริอัสกับเจมส์ยังคงมองตามอย่างขุ่นเคือง จากนั้นทั้งคู่ก็ชวนกันไปหาตู้รถไฟที่ว่างอยู่ และมาเจอเอาตรงตู้สุดท้ายนั่นเองที่ว่างสุด แต่ที่นั่นมีเด็กชายคนหนึ่งนั่งมองวิวข้างนอกอยู่แล้ว "เอ่อ จะเป็นไรไหม ถ้าเราขอนั่งที่ตู้นี้ด้วย" ซิริอัสเอ่ยถาม "อ้อ ไม่เป็นไรหรอก นั่งสิ ฉันกำลังอยากได้เพื่อนร่วมเดินทางพอดี" เด็กชายผมสีอ่อนหันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน "ฉันเพิ่งเข้าปีนี้ปีแรกนะ ชื่อซิริอัส แบล็ค" "ฉันเจมส์ พ็อตเตอร์ เด็กใหม่เหมือนกัน" "ฉันก็เป็นนักเรียนใหม่เหมือนกัน ชื่อรีมัส ลูปิน ยินดีที่ได้รู้จัก" ซิริอัสและเจมส์จับมือกับรีมัสแล้วนั่งลงด้วยกัน ไม่นานทั้งสามก็คุยกันอย่างสนุกสนานไปตลอดการเดินทาง
เมื่อทั้งหมดลงรถจากรถไฟ ชายร่างยักษ์ใหญ่ในชุดเสื้อคลุมสีน้ำตาลคล้ายหมีก็ออกมาต้อนรับ "เด็กใหม่ปีหนึ่งมาทางนี้" เจมส์ ซิริอัส และรีมัสลงเรือลำเดียวกันมุ่งสู่ปราสาท ศ. แม็กกอนากัลออกมาต้อนรับพวกนักเรียนใหม่ที่ด้านหน้าห้องโถง เพื่อนำพวกเขาเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ เมื่อนักเรียนทุกคนเข้ามาเรียบร้อยแล้ว เธอก็ประกาศให้นักเรียนทุกคนในห้องโถงใหญ่ทราบว่าจะให้หมวกคัดสรรเลือกบ้านให้กับนักเรียนปีแรก จากนั้นเธอก็ประกาศเรียกชื่อตามลำดับตัวอักษร
ซิริอัสคิดในใจว่า ถ้าเขาถูกเลือกให้ไปอยู่สลิทเธอรีน เขาก็จะเดินตามรอยของสายเลือดตระกูลแบล็คทุกคนต่อไป คบแต่พวกเลือดบริสุทธิ์ ทำงานกับพวกเลือดบริสุทธิ์ แต่งงานกับคนเลือดบริสุทธิ์ จากนั้นก็มีลูกเพื่อพร่ำสอนถึงวิถีชีวิตของเลือดบริสุ. . . . "แบล็ค ซิริอัส!" ถึงตาเขาแล้ว ซิริอัสเดินขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ เขาพยายามระงับมือที่สั่น ก่อนที่ศ. แม็กกอนากัลจะสวมหมวกคัดสรรให้เขา "อืม ตระกูลแบล็คอีกแล้วรึ แถมยังมีสายเลือดบริสุทธิ์อีกต่างหาก หายากแล้วนะ สมัยนี้ ทุกคนในตระกูลเธออยู่บ้านสลิทเธอรีนทั้งนั้นเลยด้วย อ้อ จะยกเว้นก็อันโดรเมด้าคนนึงเท่านั้นล่ะ ช่างเถอะ เอาเป็นว่า ฉันจะส่งเธอไปบ้านนี้ละกัน" หมวกคัดสรรบอกคำข้างหูซิริอัส แต่เขารีบปฏิเสธก่อนที่มันจะประกาศชื่อบ้านออกมา "ไม่นะ! ไม่เอาสลิทเธอรีนเด็ดขาด" ซิริอัสพึมพัม "หืม ทำไมล่ะ ฉันว่าเธอมีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับบ้านนั้นนะ ไม่เอาหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ กริฟฟินดอร์!" หมวกคัดสรรประกาศออกมาเสียงดัง ซิริอัสยิ้มออกมาด้วยความโล่งอกพลันความคิดหนึ่งก็แว่บขึ้นมาว่า ถ้าเขาส่งนกฮูกไปบอกแม่ว่าเขาไม่ได้อยู่บ้านสลิทเธอรีนเหมือนทุกคนในตระกูลแบล็ค แม่จะโวยวายขนาดไหนน้า. . . ศ. แม็กกอนากัลยังคงขานชื่อต่อไป "ลูปิน รีมัส!" "พ็อตเตอร์ เจมส์!" "กริฟฟินดอร์" หมวกคัดสรรส่งทุกคนมาอยู่บ้านเดียวกันหมด
"เสนป เซเวอรัส!" "สลิทเธอรีน" หมวกคัดสรรประกาศทันทีที่เสนปสวมหมวก "สมกับเจ้าหมอนั่นแล้วล่ะ ถ้ามันได้อยู่บ้านอื่นสิแปลก" เจมส์บ่นออกมาดัง ๆ เสนปดูเหมือนจะได้ยินเพราะเขาหันมาส่งสายตาเขม่นใส่เจมส์
เมื่อหมวกคัดสรรแบ่งนักเรียนเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็ได้เอร็ดอร่อยกับอาหารค่ำด้วยกันจนอิ่มหนำ พร้อม ๆ กับได้ทักทายนิกหัวเกือบขาด ผีประจำหอคอยกริฟฟินดอร์ ในที่สุดดัมเบิลดอร์ก็ลุกขึ้นกล่าวทักทายนักเรียน หลังจากจานขนมสะอาดเรียบวุธ และนักเรียนเริ่มมีอาการอิ่มจนเริ่มง่วง "ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนฮอกวอตส์" เขาเริ่มพูด "ฉันมีเรื่องจะขอประกาศเล็กน้อย เช่นเดียวกับทุกปี นักเรียนปีหนึ่งไม่ควรเข้าไปในป่าต้องห้าม และปีนี้เราได้มีการนำต้นวิลโลว์จอมหวดมาปลูกไว้ ซึ่งนับเป็นต้นไม้โบราณที่ประมาณค่ามิได้ แต่ขอแนะนำว่าพวกเธอไม่ควรเข้าใกล้มันจะดีกว่านะ เพราะมันเป็นจอมหวดสมชื่อ ถ้าใครย่างกรายเข้าไปอยู่ในระยะหวดล่ะก็" นักเรียนส่งเสียงฮือฮา บางคนก็มีสีหน้าตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ซิริอัสสังเกตว่ารีมัสดูจะเฉย ๆ ไม่เหมือนเจมส์ที่นัยน์ตาเป็นประกายราวกับได้ยินโฆษณาของเล่นชิ้นใหม่ ในที่สุด ดัมเบิลดอร์ก็บอกให้ทุกคนสลายตัวไปเข้านอนกันได้ นักเรียนปีหนึ่งจึงทยอยเดินตามพรีเฟ็คออกไปจากห้องโถงใหญ่ แยกย้ายกันไปตามบ้านของนักเรียนแต่ละคน ทุกคนปีนผ่านช่องประตูซึ่งมีภาพวาดสุภาพสตรีอ้วน เข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมทรงกลมของบ้านกริฟฟินดอร์ จากนั้นก็แยกกันเดินขึ้นบันไดเวียนไปยังหอนอนชายและหอนอนหญิง ซิริอัส เจมส์ และรีมัส พบหีบสัมภาระของพวกเขาซึ่งถูกนำมาไว้ในห้องนอนเรียบร้อย สักพักเพื่อนร่วมห้องคนที่สี่ก็ตามเข้ามา เขาเป็นเด็กชายตัวอ้วนเตี้ย นัยน์ตาหยี จมูกแหลม และมีผมสีอ่อน "หวัดดี ฉันปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก" เขาแนะนำตัวอย่างลนลาน
คืนนั้น แม้จะเหนื่อยจากการเดินทางแต่หลังจากหลับไปได้สักพักซิริอัสก็ตาสว่าง เขายังคงรู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ จนต้องลุกขึ้นมามองวิวยามค่ำคืนของฮอกวอตส์ ท้องฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยแสงดาวระยับช่างงามจับตา โอบล้อมไปด้วยความรู้สึกสงบสุขเหลือเกิน ตอนนี้ซิริอัสอิ่มเอมใจเสียจนอยากตื่นอยู่อย่างนี้ทั้งคืนเสียด้วยซ้ำ แต่ในที่สุดกลิ่นอายของสายลมยามค่ำคืนเจือด้วยกลิ่นน้ำค้างจากยอดหญ้าก็กล่อมให้เขาหลับสนิทไปทั้งคืน
จากคุณ :
Motif
- [
14 ต.ค. 46 19:11:59
]
|
|
|