ความคิดเห็นที่ 1 เกี่ยมฮุ้นในเวลานี้สำรวมจิตและสมาธิเป็นหนึ่ง กระบี่สีขาวใสเหลือบฟ้าบางเบาทว่าแข็งแกร่ง และ คมกล้า ถูกชักออก ส่วนฝักกระบี่ถืออยู่ในมือซ้ายจับจ้องมายังฮั่นตง ทั่วตลอดทั้งร่างแผ่กลิ่นอายฆ่าฟันออกมาอย่างหนาแน่น เวลานี้ทั้งสองเพียงกั้นขวางด้วยระยะไม่กี่สิบก้าว ผู้ชมรอบข้างเริ่มรู้สึกลมหายใจอึดอัดขัดข้อง ทว่าฮั่นตงยังมีทีท่าเฉื่อยชาปรอดโปร่ง ราวกับมิรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของฝ่ายตรงข้าม เกี่ยมฮุ้นยังจับจ้องอยู่บนร่างของอีกฝ่าย ความเข้มข้นของกลิ่นอายฆ่าฟันยิ่งหนาแน่นขึ้นอีก "ท่านลุง!" หลี่ซังซังที่ชมดูอยู่ด้านข้างพลันร่ำร้องขึ้นด้วยความตระหนก หลี่เฉินเชียงกลับชมดูอย่างเฉยเมย ฮั่นตงนั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายรีดเร้นพลังทั้งมวลออกมาจากร่างจนสุดกำลัง มิเพียงไม่แตกตื่น ยังคงผ่อนคลายท่วงท่าปรอดโปร่งสบายใจ ลมหายใจยังสม่ำเสมอ จิตสงบเป็นสมาธิ พร้อมสาวเท้าเข้าหา กระบี่ในมือชี้ลงยังเบื้องล่าง ส่วนฝักกระบี่เพียงแนบไว้ข้างลำตัว เวลานี้ระยะของทั้งฝ่ายหดลงเหลือเพียงไม่เกินสิบก้าว รังสีการฆ่าฟันของเกี่ยมฮุ้นยิ่งแผ่ซ่านหนาแน่นขึ้น รังสีที่แผ่ออกมาแม้หนาแน่น ทว่าตัวของมันกลับแปรเปลี่ยนเป็นเลือนรางและเบาบางราวกับหมู่เมฆหรือหมอกควันที่เพียงกระทบถูกก็พร้อมจะกระจัดกระจายไปอย่างไร้ร่องรอย นับเป็นเรื่องแปลกประหลาดยิ่ง!!! ฮั่นตงเห็นเช่นนั้นกลิบมิมีทีท่าแตกตื่นลนลาน ยังรักษาท่วงท่าอันปลอดโปร่ง ราวกับมิรู้สึกอันใด กลับเป็นผู้คนที่ชมดูอยู่รู้สึกอึดอัดแทบขาดใจตาย เพียงหวังให้การประลองอันสะท้านขวัญนี้เริ่มขึ้นแต่เร็วไว! หนึ่งปลอดโปร่ง หนึ่งเครียดขึ้งอำมหิต จดจ้องกันอยู่ชั่วน้ำเดือด ในที่สุดเกี่ยมฮุ้นก็เป็นฝ่ายที่เคลื่อนไหวก่อน! กระบี่ในมือของมันพลันเคลื่อนไหวรวดเร็วราวประกายวิชชุ ชั่วพริบตา ทะยานผ่านระยะเกือบสิบก้าว จู่โจมเข้าใส่ลำคอของฮั่นตงปานอสรพิษร้าย เสียงดังติง ฮั่นตงสะบัดกระบี่ในมือปัดป่ายกระบี่ของอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น จากนั้นกระบี่ในมือกลายเป็นรังสีกระบี่สิบกว่ายี่สิบสาย มีทั้งทิ่ม แทง ฟาด ฟัน ระดมเข้าใส่เกี่ยมฮุ้นราวกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ควับๆๆๆ เสียงกระบี่ฟาดฟันแหวกผ่านอากาศอย่างหนักหน่วง กระบี่ของฮั่นตงแทบฟาดฟันกระทบถูกร่างของอีกฝ่าย ทว่าก่อนที่ตัวกระบี่จะได้สัมผัสกับร่างอันเป็นเลือดเนื้อของเกี่ยมฮุ้น เงาร่างของมันก็พลันปลิวสลายไปอย่างคาดไม่ถึง เมื่อสังเกตเห็นอีกคราก็พลันพบว่าอีกฝ่ายเคลื่อนกายถอยไปกว่าสี่ก้าว! ฮั่นตงแม้ยังรักษาท่วงท่าอันปรอดโปร่งเอาไว้ได้ ทว่าในใจรู้สึกกังวลต่อท่าร่างอันเร้นลับของฝ่ายตรงข้าม ท่าร่างที่คล้ายรวดเร็ว คล้ายเชื่องช้า ทว่าผสมผสานเข้ากับท่าจู่โจมของตนดุจเดียวกับมีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงอยู่! ฮั่นตงเร่งระดับความเร็วของกระบวนท่าขึ้นอีกสามส่วน ทว่าอีกฝ่ายคล้ายเป็นหมู่เมฆอันเบาบางยามกระทบถูกสายลม เพียงเริ่มใช้กระบวนท่าร่างก็ปลิวสลายไป กระทั่งร่องรอยให้สืบสาวยังมิมี อดีตยอดมือปราบขบคิดชั่วครู่พลันเปลี่ยนยุทธวิธี  ทั้งร่างลอยขึ้นประดุจมังกรทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า วิหคถลาลม กระบี่ในมือกราดฟาดเข้าใส่เกี่ยมฮุ้นในลักษณะจากบนลงล่าง มุ่งเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย เกี่ยมฮุ้นกลับยืนนิ่งเฉยมิได้ตีโต้ ทว่าเมื่อกระบี่ของฮั่นตงจวนเจียนจะฟาดฟันลงบนใบหน้า ร่างของมันพลันพลิ้วถอยไปเบื้องหลังราวกับปุยนุ่น ฮั่นตงมิยอมให้อีกฝ่ายตั้งตัวติด พลิกแพลงจากกระบี่ที่ฟาดฟันเป็นทิ่มแทง เสือกกระบี่ไปข้างหน้า เป้าหมายยังเป็นใบหน้าของอีกฝ่ายเช่นเดิม ครานี้เกี่ยมฮุ้นมิรีรอให้กระบี่ของอีกฝ่ายจู่โจมถึง ร่างพลันแฉลบวูบมาทางขวา หมุนกายตามสภาวะ ฝักกระบี่ในมือซ้ายตีเป็นวงอ้อม ทิ่มแทงสกัดเข้าใส่กกหูข้างซ้ายของฮั่นตงประดุจสายฟ้า ในขณะที่ร่างกายอยู่ในลักษณะหันหลังให้ นับเป็นท่วงท่าที่รวดเร็ว พิศดาร และงดงาม จนเกินที่จะบรรยาย มิหนำซ้ำตำแหน่งที่จู่โจมยังคล้ายคาดเดากระบวนท่าของคู่ต่อสู้เอาไว้ล่วงหน้า ผู้คนต่างอุทานดัง อา มองเห็นฮั่นตงถลาวูบไปข้างหน้า กลับคล้ายเสนอตัวเข้าหาฝักกระบี่นั้นด้วยตนเอง ท่ามกลางเสียงร้องอย่างตื่นตระหนกของผู้ที่อยู่รอบข้าง ฮั่นตงรู้สึกพลังลมที่แหลมคมทิ่มแทงเข้าใส่กกหูข้างซ้าย ร่างกายยังอยู่ในลักษณะพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม หากคิดหลบหลีกแม้มิยากลำบากนัก ทว่าอีกฝ่ายย่อมฉวยโอกาสที่สภาวะจู่โจมของตนเสื่อมโทรม ลงมือตีโต้มาอย่างสุดกำลัง ดังนั้นได้แต่เปลี่ยนกระบวนท่ากลางครัน โผพุ่งร่างขึ้นสู่ด้านบนราวกับมีอะไรมาหนุนยอ โดยมิต้องเสียเวลาเกร็งกำลังแม้แต่น้อย แสดงให้เห็นถึงพลังลมปราณที่หนาแน่นและสูงล้ำจนยากหยั่งถึง ร่างของยอดมือปราบประดุจวิหคยักษ์ถลาลม ลอยขึ้นสูงกว่า 10 เชี๊ยะในช่วงพริบตา จากนั้นพลิกเอาศีรษะอยู่ล่าง เท้าอยู่บน กระบี่และฝักในมือแปรสภาพเป็นรุ้งยาว ทยอยทิ่มแทงเข้าใส่แขนทั้งสองข้าง ใบหน้า และดวงตาทั้งคู่ของเกี่ยมฮุ้น กระบวนท่าทั้งรวดเร็วและเฉียบคม ชั่วพริบตาดูไปคล้ายมีสิบกว่ายี่สิบมือทิ่มแทงเข้าใส่อย่างหนาแน่น ราวกับหิมะสุมซ้อน เกี่ยมฮุ้นขยับกายวูบ ร่างพลันหายลับไปจากจุดนั้นราวกับภูตวิญญาณ แลเห็นเป็นเงาดำมืดทะมึนจากนั้นปรากฏเงาร่างสองสายหนึ่งร่างหนึ่งบน แยกย้ายกันพุ่งออกจู่โจมเข้าใส่ร่างของฮั่นตงทั้งท่อนบนและท่อนล่างโดยพร้อมเพรียง ฮั่นตงงงงันวูบหนึ่ง อยู่ๆ คู่ต่อสู้พลันคล้ายแยกออกเป็นสองร่าง ทั้งยังลงมือตีโต้มาจากจุดอับทั้งล่างและบนราวกับเป็นการจู่โจมของผู้คนสองคนพร้อมๆ กัน ยังมีผู้ใดมิรู้สึกมึนงง? แต่เวลานี้ไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดมากนัก ประกายกระบี่หนึ่งบนหนึ่งล่าง กรีดผ่านวูบไหว ราวกับดาวตก กระหนาบเข้าใส่ทั้งบนและร่าง ได้แต่พลิกแพลงตามสถานการณ์ ฝักและกระบี่ในมือแยกย้ายกันออกต้านปะทะ แว่วเสียง ติงๆ ตังๆ ถี่ยิบ ทั้งสองหักล้างกัน สิบกว่ากระบวนท่า ฮั่นตงบัดเดี๋ยวหัวอยู่ล่างเท้าอยู่บน บัดเดี๋ยวหัวอยู่บนเท้าอยู่ล่าง ท่าร่างว่องไวสุดปราดเปรียว เคลื่อนไหวจู่โจมทั้งซ้ายขวามิหยุดยั้งโดยร่างมิได้สัมผัสพื้นแม้แต่น้อย อาศัยหยิบยืมแรงจากการปะทะลอยตัวอยู่บนอากาศ นับว่าพลังตัวเบาของเขาลึกล้ำจนยากหยั่งคาดทีเดียว! ทว่าเกี่ยมฮุ้นที่กลายเป็นเงาร่างสองสายยังน่ากลัวกว่า รวดเร็วกว่าเป็นเท่าทวีคูณ ยามกะทันหันมิอาจจำแนกว่าร่างใดเป็นร่างจริงและลวง จู่โจมประสานเข้าใส่โดยมิปล่อยให้อีกฝ่ายหยุดพัก ผู้คนรอบข้างต่างรู้สึกแตกตื่นจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง ผู้ใดต่างคาดคิดมิถึงว่าจะพบเจอผู้ที่มีพลังฝีมือที่รวดเร็วเฉียบคม และฝีมือที่เร้นลับพิศดารเฉกเช่นที่ทั้งสองกำลังสำแดงอยู่เช่นนี้ ฮั่นตงสงบจิตใจลงพิจารณาร่างทั้งสองของเกี่ยมฮุ้น เขาทราบว่าเสื้อผ้าสีเทาขาวลายตาที่ฝ่ายตรงข้ามสวมใส่มีส่วนทำให้ตนเองสับสน การแยกร่างเช่นนี้แท้ที่จริงคือยอดวิชาเร้นลับจากเกาะพู้ซึง(ญี่ปุ่น)ซึ่งอาศัยหลักการเคลื่อนไหวสลับไปมาอย่างรวดเร็วจนคู่ต่อสู้เกิดภาพติดตาคล้ายเห็นว่ามีสองร่าง ผู้ใช้วิชาเช่นนี้ ย่อมต้องรู้จักความสัมพันธ์ของจังหวะเร็ว และ ช้า เป็นอย่างดี แม้ฮั่นตงจะฝึกวิชาจนถึงขั้นเยี่ยมยุทธ มีโสตประสาทที่ว่องไว ปราดเปรียว กว่าคนธรรมดามาก สามารถแยกแยะสรรพสิ่งต่างๆ ได้โดยง่าย แต่กับร่างทั้งสองนี้ กลับมิสามารถแยกแยะว่าร่างใดจริง ร่างใดลวง อย่างไรก็ตามย่อมมีเพียงร่างเดียวเท่านั้นที่เป็นตัวจริง หากคิดรับมือกับวิชานี้เพียงสามารถจู่โจมเข้าใส่ร่างจริงจนคู่ต่อสู้ได้รับความกระทบกระเทือน ร่างปลอมก็จะสลายไปเอง  แต่ปัญหาอยู่ที่สามารถแยกแยะร่างจริงได้หรือไม่? อดีตมือปราบผ่อนกระบวนท่าให้เชื่องช้าแต่หนักแน่นเพื่อดึงให้เกี่ยมฮุ้นไม่อาจใช้ความเร็วอันเป็นอาวุธสำคัญอย่างเต็มที่ สายตาเขาลอบชำเลืองมองไปที่เงาของฝ่ายตรงข้าม ใช่แล้ว แม้เกี่ยมฮุ้นจะรวดเร็ว แต่นั่นไม่รวมถึงเงาของเขาด้วย เงาของตัวปลอมจะจางกว่าตัวจริงเล็กน้อย!! ดังนั้นฮั่นตงจึงเกร็งพลังฟันใส่ร่างที่เงาสีเข้มกว่าโดยหมายมั่นว่าเป็นกระบวนท่าพิฆาต! ควับ ฟุ่บ! กระบี่ของฮั่นตงตวัดฟันเข้าใส่ร่างของเกี่ยมฮุ้นอย่างถนัดถนี่ แต่แทนที่เกี่ยมฮุ้นจะรับบาดเจ็บ ร่าง 'จริง' พลันสลายเป็นหมอกควัน เงากระบี่ไหววูบ ปรากฏกระบี่สองเล่ม แหวกผ่านม่านควัน ทิ่มสกัดใส่ดวงตาและคอหอยของฮั่นตงอย่างรวดเร็ว "เพ้ย" ฮั่นตงตวาด จากนั้นอาศัยกำลังจากช่วงเอวบิดวูบหนึ่ง ร่างพลันพลิกขนานกับพื้น ฝ่าเท้าทั้งสองทยอยเตะกราดออกสัมผัสกับปลายกระบี่ทั้งสองเล่มจนเบนเบือน จากนั้นพุ่งร่างหมุนคว้างไปข้างหน้าหลบเลี่ยงจากกระบวนท่าอันร้ายกาจได้อย่างหวุดหวิด เมื่อฮั่นตงลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อีกครั้งพบว่า ขณะนี้ร่างของเกี่ยมฮุ้นได้ปรากฏขึ้นเป็นสามร่างแล้ว!!! ฮั่นตงมองร่างทั้งสาม พลางถอนหายใจพึมพำกับตนเองเบาๆ "คนผู้นี้กลับมีฝีมือร้ายกาจกว่าที่คาดไว้นัก" ยังมิทันขาดคำ ร่างทั้งสามของเกี่ยมฮุ้นโผพุ่งเข้าจู่โจมฮั่นตง ร่างทั้งสามซ้อนเรียงกันจนเห็นประดุจร่างเดียว ฮั่นตงหรี่ตามองดูว่าคนผู้นี้จะเล่นลูกไม้อันใด พลันพบว่าผิดท่า เนื่องจากซ้อนเรียงกันอยู่ทำให้มิสามารถเห็นอีกสองร่างที่อยู่ด้านหลัง เมื่อพบว่าร่างที่พุ่งเข้าหาจากสามร่างเวลานี้เพียงหลงเหลือร่างเดียว ก็เป็นจังหวะที่เกี่ยมฮุ้นทิ่มแทงกระบี่เข้าใส่ ฮั่นตงไม่มีโอกาสขบคิดว่าอีกสองร่างไปที่ใด ได้แต่สบัดกระบี่ต้านปะทะตามสภาวะ กระบี่ทั้งสองยังมิทันสัมผัสกัน ฮั่นตงพลันรู้สึกรังสีกระบี่จู่โจมมาจากด้านหลัง มิต้องเหลียวดูก็ทราบว่าร่างของเกี่ยมฮุ้นอีกร่างลอบจู่โจมเข้าใส่ทางเบื้องหลัง เวลานี้อั่นตงคล้ายกลับเรือน้อยท่ามกลางกระแสคลื่นอันบ้าคลั่งของท้องทะเล มิเพียงด้านหน้าต้องมือกับศัตรู ด้านหลังยังต้องปิดป้องจากการลอบจู่โจม หนทางรอดเพียงสายเดียวคือ ร่อนร่างขึ้นสู่ด้านบน ซึ่งปรอดโปร่งไร้เรื่องราว ขณะกำลังตัดสินใจโผพุ่งกายขึ้นสู่ด้านบน พลันรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เกี่ยมฮุ้นย่อมไม่ยั้งมือไว้ไมตรีสำหรับตน ดังนั้นด้านบนย่อมเป็นกับดัก เกี่ยมฮุ้นเมื่อแยกเป็นสามร่าง อีกร่างคงลอบจู่โจมจากด้านบนเป็นแน่!! แม้คิดดังนั้น ทว่ายังคงพุ่งขึ้นสู่ด้านบน ร่างของเกี่ยมฮุ้นทั้งสองกลับลอบแสยะยิ้มอย่างสมใจ เวลานี้เหยื่อได้เดินเข้าสู่กับดักที่วางไว้แล้ว แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 10:38:34 จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 15 ต.ค. 46 20:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยอดฝีมือเฉกเช่นฮั่นตงกลับมีผู้มองเห็นเป็นเหยื่อที่เดินเข้าสู่กับดัก นอกจากเกี่ยมฮุ้นน่ากลัวมิมีบุคคลที่สองเด็ดขาด! ประกายกระบี่ไหววูบ เงาร่างหนึ่งหน้าหนึ่งหลังของเกี่ยมฮุ้น พลันทิ่มแทงกระบี่แตกระเบิดออกถี่ยิบ สานจนเป็นร่างแหกระบี่ปากหนึ่งรอคอยอยู่เบื้องล่าง หากแม้นฮั่นตงร่อนร่างลงบนพื้น น่ากลัวมิอาจหลบรอดจากแหกระบี่นี้ไปได้ ทว่าเวลานี้ฮั่นตงแม้ใช้กำลังจนสุดล้า ทว่าร่างยังอยู่บนอากาศ นับว่าปลอดภัยชั่วขณะ ขอเพียงโฉบแฉลบร่างลงยังที่อื่น การทุ่มเทของเกี่ยมฮุ้นไยมิใช่สูญเปล่าแล้ว? ฉับพลันเงาร่างที่สามของมันได้ปรากฏขึ้นแล้ว มิเพียงเท่านั้นกระบี่ในมือยังฟาดฟันเข้าใส่ร่างของฮั่นตงอย่างรวดเร็วราวกับดาวตก กระบวนท่าทั้งรวดเร็วและอำมหิต แม้มิรัดกุมจนไร้ช่องโหว่ แต่หากคิดหลบรอดจากกระบวนท่านี้ มีแต่ต้องยอมร่วงหล่นลงในแหกระบี่ที่คลี่กางดักอยู่ มิเช่นนั้นได้แต่เสนอตัวรับคมกระบี่นี้เสีย? ในจังหวะที่ร่างลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ด้านล่างรอคอยด้วยแหกระบี่ ด้านบนกลับปรากฏกระบี่ที่เหี้ยมโหดยิ่งกว่าฟาดฟันเข้าใส่ ยังมีผู้ใดสามารถรอดชีวิต? หรือฮั่นตงแม้ล่วงรู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ยังมิอาจรอดพ้นไปได้? หากเป็นเช่นนั้นช่วงเวลาหลายปีของการเป็นมือปราบคงทำให้เขาตกตายไปไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง ต้องไม่มีชีวิตรอดถึงตอนนี้! เมื่อสามารถมีชีวิตรอดจนถึงบัดนี้ ย่อมมีความสามารถอยู่บ้าง.. ฮั่นตงแย้มยิ้มแล้ว เป็นรอยยิ้มที่สง่างามยิ่ง จากนั้นตวาดว่า "มาได้ประเสริฐ!" ฮั่นตงที่คล้ายมาจนสุดล้า พลันเปลี่ยนเป็นคล่องแคล่วและปราดเปรียว ท่าร่างที่คล้ายกับมาถึงที่สุด พลันเปลี่ยนแปลงอีกครา เง่าร่างของเขาพลิ้วไหว จากนั้นอาศัยเท้าขวาเหยียบย่ำบนหลังเท้าซ้าย หยิบยืมพลังดีดกายขึ้นอีกครา กลับเป็นท่วงท่า "ไต่บันไดเมฆ" ร่างของอดีตยอดมือปราบพุ่งปราดดุจเกาทัณฑ์ แฉลบผ่านข้างกายของเงาร่างที่สามของเกี่ยมฮุ้นไปอย่างหวุดหวิด จากนั้นแว่วเสียงกระบี่กรีดผ่านร่าง เกี่ยมฮุ้นที่อยู่บนอากาศ ถูกฟันแยกเป็นสองส่วน!!! ทว่ายังคงเป็นเฉกเช่นเดิม ร่างที่ถูกฟัน พลันสลายเป็นหมอกควัน แล้วที่ปรากฏขึ้นแทนที่คือเงาร่างที่เพิ่มเป็นสองสาย ฮั่นตงลอบทอดถอนใจ ในช่วงเวลาคับขันเป็นตาย คนผู้นี้กลับสามารถหลบหลีกท่าจู่โจมของเขาไปได้อย่างหวุดหวิด แม้ฮั่นตงจะรอดชีวิตจากกระบวนท่าอันลึกล้ำพิศดารของเกี่ยมฮุ้นไปได้ อีกครา ทว่าสถานการณ์ของเขามิได้ดีขึ้นเท่าใดนัก เนื่องเพราะยิ่งต่อสู้ คู่ต่อสู้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้กลับปรากฏร่างของเกี่ยมฮุ้นรายล้อมอยู่รอบกายของเขากว่าสิบร่าง การต่อสู้ยิ่งมายิ่งตึงมือขึ้นทุกที ผู้คนที่ชมดูต่างรู้สึกพิศวงงงงวยไปตามๆกัน ซุนหยางกล่าวกับซิเหวินคังว่า "เกี่ยมฮุ้นอันร้ายกาจ กลับเรียนรู้วิชาเร้นลับ จากเกาะพู้ซึง(ญี่ปุ่น) สามารถแยกร่างได้กว่าสิบร่างโจมตีพร้อมกัน เป็นเหตุให้ยอดฝีมือเช่นฮั่นตงถึงกับมือไม้ปั่นป่วน" ตอนนี้ในสายตาผู้ชมการประลอง กลับเห็นฮั่นตงร่ายรำเพลงกระบี่ทั้งรุกทั้งรับเข้าปะทะกับร่างทั้งสิบ บางคราพุ่งฉวัดเฉวียนไปรอบๆ กระบี่ในมือทั้งทิ่ม แทง กราด ฟาด สกัด เข้าใส่ กลับอาศัยหนึ่งต้านสิบโดยมิปรากฏลางแพ้แต่อย่างใด ทว่าคราใดที่กระบี่ของเขาฟาดฟันเข้าใส่ร่างหนึ่งร่างใดของเกี่ยมฮุ้น เงาร่างนั้นก็หายไป กลับปรากฏร่างใหม่บุกเข้ามาแทนที่  จนมิสามารถจำแนกว่าใดจริงอันใดลวง ทุกคนต่างยอมรับกับกระบวนท่าอันรวดเร็ว ว่องไว ของฮั่นตง มิต้องสงสัยเลยว่าเขาสามารถรับมือกับยอดฝีมือระดับแนวหน้าของยุทธภพได้พร้อมกันทีเดียวหลายคน  แต่อย่างไรก็ดี หลายคนยังเห็นว่าอดีตมือปราบผู้นี้ยากยิ่งจะต่อกรกับเกี่ยมฮุ้นได้ เงาร่างฮั่นตงขณะนี้ดุจมังกรร้ายที่ปราดเปรียวพุ่งฉวัดเฉวียน รับมือกับ ร่างทั้งสิบของเกี่ยมฮุ้น ทว่าสองหมัดยากต้านทาน สี่ฝ่ามือ ในที่สุด ฮั่นตงก็ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม ร่างทั้งหมดจับจ้องมายังฮั่นตง กระบี่ในมือบ้างชูขึ้นเหนือศีรษะ บ้างลดต่ำลงเสมออก บ้างกุมกระชับด้วยสองมือ ล้วนแล้วแต่มุ่งมายังร่างของเขาทั้งสิ้น ฮั่นตงลอบชำเลืองมองไปโดยรอบพลางถอนหายใจ ทันใดนั้นประกายตาของเขาเปลี่ยนเป็นจ้าจรัส คล้ายตัดสินใจอันใดที่เด็ดขาด กระบี่ในมือพลันกรีดสะบัดเป็นวงรอบกายรัศมีประมาณ 3 ก้าว จากนั้นปักกระบี่ของกู่ฮวยฮวยตรึงกับพื้น ฝักกระบี่กลับสะบัดเหวี่ยงทิ้งลง จากนั้นสองมือปล่อยตก ด้วยท่วงท่าปลอดโปร่งสบาย ค่อยๆพริ้มตาลง ทันทีที่ฮั่นตงพริ้มตาทั้งสองข้างสนิท เรื่องราวอันอัศจรรย์ และ พิสดารพลันบังเกิด ทุกผู้คนที่ชมดูอยู่รอบข้างต่างรู้สึกถึงไอเย็นจู่โจมเข้าสู่ร่าง ลึกจนเสียดกระดูก เย็นเยียบไปถึงก้นบึ่งของจิตใจ ฮั่นตงพลันแผ่ไอเย็นคุกคามรอบด้าน มิเพียงเท่านั้น ยังปรากฏประกายสีเขียวเรืองรองปกคลุมร่างเขาจนสิ้น เงาร่างทั้งสิบกว่าสายของเกี่ยมฮุ้น พลันเคลื่อนไหวอีกครา สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างรวดเร็ว คล้ายมีเจตนาหยั่งความเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ ทว่าฮั่นตงยังคงมิเคลื่อนไหว มีเพียงความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านออกมามิสิ้นสุด และประกายสีเขียวเรืองรองที่ยังคงหนาแน่นขึ้นทุกที เวลานี้มิมีผู้ใดสามารถเอ่ยปากกล่าววาจา บางคนถึงกับหนาวเย็นจนฟันสั่นกระทบดัง กึกๆ ทันใดนั้น คนผู้หนึ่งอุทานออกมา "เงาพรายไร้รูป!" ในเวลานี้ผู้ที่สามารถเอ่ยวาจาได้ย่อมมิใช่ชนชั้นธรรมดาสามัญ ทุกคนหันไปตามต้นเสียง พลันพบว่า ผู้ที่กล่าวคือ ประมุขพรรคฉิกจับอิด หลี่เฉินเชียงเอง! ฟุ่บ! เงาร่างหนึ่งของเกี่ยมฮุ้นพลันจู่โจมทิ่มแทงกระบี่ในมือเข้าหาร่างของฮั่นตง แต่ร่างที่นิ่งสนิทนั้นยังคงมิเคลื่อนไหว กระบี่ทิ่มแทงบรรลุถึงร่างของเขา เงาร่างของเกี่ยมฮุ้นพลันสลายหายวับ เงาร่างอีกด้านพลันเคลื่อนไหวเข้าฟาดฟันจากด้านหลังแต่ยังคงเป็นเช่นเดิม คือเมื่อสัมผัสถูกร่าง พลันสลายเลือนหายไป เป็นอยู่เช่นนี้ 7-8 ครา ทว่าเงาร่างของเกี่ยมฮุ้นหาได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ดูท่าการจู่โจมทั้งหมดเพียงเป็นการหลอกล่อหยั่งเชิงประการหนึ่ง! ฮั่นตงยื่นมือขวาไปข้างหน้า ประกายสีเขียวและไอเย็นซึ่งดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดจากมือข้างนี้ ปรากฏหนาแน่นขึ้นถึงจุดสุดยอด เวลานี้ถ้าผู้ชมคนใดขาดคนป้องกัน หรือไม่มีพลังยุทธมากพอ ก็จะรู้สึกกระอักกระอ่วน เลือดลมโคจรสับสน คนที่อ่อนแออาจถึงกับลมปราณแตกซ่านได้ เกี่ยมฮุ้นรู้ว่าฮั่นตงเตรียมใช้ท่าไม้ตายสุดยอดแล้วจึงเกร็งพลังเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้น เตรียมใช้ท่าไม้ตายบ้าง ท่าไม้ตายต่อท่าไม้ตาย ย่อมต้องมีคนหนึ่งตายคนหนึ่งรอด สถานการณ์ตึงเครียดถึงขีดสุด!!! "หยุด!!!!" แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 10:50:18 จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 15 ต.ค. 46 20:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หลี่เฉินเชียงซึ่งชมดูอยู่ตลอดร้องขึ้น เสียงอันดังกังวานเปี่ยมด้วยกำลังภายในของเขาส่งผลให้ยอดฝีมือทั้งสองต้องชะงักลงจริงๆ!! "ท่านฮั่นและท่านเกี่ยมต่างแสดงฝีมือสุดยอดให้เราได้ชมแล้ว แต่หากมีการต่อสู้มากกว่านี้เกรงว่าต้องมีการสูญเสีย" หลี่เฉินเชียงหัวร่อ "การประลองเป็นเพื่อกระชับมิตรหาใช่สร้างศัตรู ครั้งนี้ให้เสมอกันคิดว่าคงไม่มีผู้ใดคัดค้าน ท่านเกี่ยมก็คงยอมรับฝีมือของท่านฮั่นเสียที" เกี่ยมฮุ้นแค่นเสียงอย่างไม่พอใจทีหนึ่งเพราะอยากต่อสู้จนถึงที่สุด แต่เมื่อคนห้ามปราม เป็นประมุขพรรคก็จำต้องยินยอม ร่างทั้งสิบของเขาลดลงเหลือเพียงร่างจริง จึงลดดาบลงสะบัดหน้าเดินจากไป ฮั่นตงก็คลายจากกระบวนท่า หันไปถามหลี่เฉินเชียงว่า "เช่นนี้จะเอาอย่างไร?" "ก็ให้ท่านรับตำแหน่งผู้คุมกฏขวาน่ะสิ" หลี่เฉินเชียงตอบ ฮั่นตงมองตามหลังเกี่ยมฮุ้น "มันยังไม่ยอมรับเลย" "มันเมื่อจากไป แสดงว่ามิขัดขวาง อย่างนั้นท่านย่อมสามารถรับตำแหน่งนับจากนี้" หลี่เฉินเชียงหัวร่อ จากนั้นกล่าวด้วยเสียงดัง "ท่านทั้งหลาย พวกเรามาดื่มฉลองให้กับ ผู้คุ้มกฏขวา ของพรรคฉิก จับอิด เรา เชิญดื่ม" ผู้คนในงานเลี้ยงต่าง ยกจอกสุราขึ้นดื่ม แสดงความยินดี กับฮั่นตง หลายคนยังสนทนา เกี่ยวกับ การประลองเมื่อครู่อย่างตื่นเต้น "เอาล่ะ ขอให้ท่านทั้งหลาย ดื่มกินกันอย่างเต็มที่ ไม่เมาไม่เลิกรา" เสียงเฮฮา ตอบรับกลับมา ถึงตอนนี้ เสียงดนตรีขับกล่อมได้เริ่มขึ้น สุราอาหารชั้นดี ได้ถูกจัดส่งไปตามโต๊ะอาหารอีกครั้งด้วย นารีในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ทำเอาแขกบางคนถึงกับจ้องมองจนตาค้าง บางรายถึงกับทำรุ่มร่ามต่อหน้าผู้คน งานเลี้ยงวันนี้นับว่าสนุกสนานครบรสชาดยิ่ง ... ... ... ภายหลังเลิกงานเลี้ยง หลี่เฉินเชียง ได้พบกับเกี่ยมฮุ้น ซึ่งได้มายืนรออยู่ที่หน้าเรือนพักของมัน "เจ้าไม่พอใจหรือ?" หลี่เฉินเชียงซักถามลูกน้องคนสนิท "ใช่  ไม่พอใจ ท่านทำให้ข้าหมดโอกาสสู้ตัดสินกับฮั่นตง จึงไม่รู้ว่าใครเหนือกว่ากัน" เกี่ยมฮุ้น กล่าว "หากสู้ต่อไปเจ้าจะต้องเปลี่ยนจากไม่พอใจเป็น "สำนึกเสียใจ" แทนแล้ว" หลี่เฉินเฉียงพูดเรียบๆ "เพราะเหตุใด?" "ฮั่นตงเป็นฝ่ายเหนือกว่า เจ้าก็น่าจะทราบว่าได้พ่ายแพ้เขาครึ่งกระบวนท่า" "ถึงข้าจะพ่ายแพ้ แต่ก็สามารถเอาชีวิตมันตายไปพร้อมกันได้!!" เกี่ยมฮุ้นทักท้วง หลี่เฉินเชียงส่ายศีรษะ "นั่นกลับไม่แน่นัก" จากนั้นเน้นเสียงทีละคำ "เจ้าต้องตายแน่นอน ส่วนฮั่นตงกลับมิแน่ว่าจะตาย!!!" "นี่ท่านดูถูกข้าเพียงนี้เชียวหรือ!?" "มิใช่!" หลี่เฉินเชียงกล่าว "เจ้ายังจำเหตุการณ์ที่พบกันครั้งแรกกับฮั่นตงได้หรือไม่?" "ตอนนั้นเจ้ากับเราเดินหมากกันอยู่ เจ้าตกเป็นรองได้แต่รีๆ รอๆ มิกล้าตัดสินใจทำประการใด เมื่อฮั่นตงปรากฏตัวขึ้น เราได้หยั่งเชิงคนผู้นี้ด้วยหมากของเจ้า จำได้หรือไม่มันเดินเช่นไร?" "ข้าเจ้าจำได้ มันวางหมากลงไปโดยมิแยแสว่า หมากเหล่านั้นจะต้องสูญเสีย เมื่อข้ากเจ้าทักท้วงมันกลับมิสนใจ" "ถูกต้อง ในการเดินหมากนั้นสะท้อนถึงนิสัย การตัดสินใจ และปัญญาของผู้เดิน การที่มันกระทำเช่นนั้น แสดงให้เห็นว่ามันเป็นผู้ชมชอบเสี่ยงภัย แม้นมิอาจล่วงรู้ถึงบทสรุป ก็ยังยินดีเสี่ยงด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น มิยอมโดนกระทำฝ่ายเดียว ส่วนเจ้านั้นคำนวณผลได้ผลเสียมากเกินไป ขณะรีรอ ลังเล อาจทำให้พลาดโอกาสอันดีงาม ฉะนั้นเมื่อฮั่นตงที่เด็ดเดี่ยวเฉียบขาด ปะทะกับเจ้าซึ่งยังลังเลมิมั่นคง ผลการตัดสินเจ้าย่อมตกตายอย่างแน่นอน ส่วนมันกลับมิแน่นัก อาจตกตาย หรือเพียงสูญเสียอวัยวะ หรือเพียงแค่บาดเจ็บผิวเผิน" "ตอนที่เราเรียกให้หยุด เจ้ายังเพียงหลอกล่อ หยั่งเชิง มิได้มีการโจมตีหรือคิดตัดสินใจทำประการใดลงไป ส่วนฮั่นตงนั้นกลับตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเตรียมใช้กระบวนท่าแลกชีวิต เจ้ายังคิดว่าสามารถสังหารมัน?" คำพูดนี้ทำให้เกี่ยมฮุ้นนิ่งอึ้งไป เมื่อพิจารณาดูก็เห็นจริงตามคำของประมุขพรรคทุกประการจึงได้แต่สลดอยู่ หลี่เฉินเชียงสรุปว่า "ที่ข้ากล่าวทั้งหมดนี้เพราะหวังดีกับเจ้าดอก หากครั้งต่อไปต้องประมือกัน จงโยนความคิดเรื่องผลได้ผลเสียออกไปบ้าง แล้วตัดสินใจให้เด็ดขาด ฝีมือเช่นเจ้า คงมิพ่ายแพ้แก่มัน!" "ขอบคุณประมุขที่สอนสั่ง ข้าน้อยจะจดจำใส่ใจไว้" เกี่ยมฮุ้นคารวะผู้เป็นหัวหน้า หากจะมีใครสังเกต ในใบหน้าที่สลดของเขานั้นยังปรากฏรอยยิ้มที่มุมปากอยู่เล็กน้อย จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 15 ต.ค. 46 20:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พี่ฮั่นของนาง -__________-'' แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 46 21:30:50 จากคุณ : jengly - [ 15 ต.ค. 46 21:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ให้รางวัล ข้อหาจับผิดไม่เจอ เดี๋ยวจะ โพสต์ ให้อีก 1 ท่อนไม่เกินวันศุกร์นี้จ้า (^^')> ความจริงลืมนึกว่าผู้ช่วยเกลาหมดแล้ว จากคุณ : มันตั้ม(ไม่ได้ล๊อคอิน) - [ 15 ต.ค. 46 21:31:21 A:210.86.192.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าศุกร์ไม่โพสต์ นี่แช่งยาวนะ หึหึ จากคุณ : jengly - [ 15 ต.ค. 46 21:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รูปประกอบ: กระบวนท่าที่เกี่ยมฮุ้นใช้ดูละเลือนเลื่อนลอยดุจเมฆา จากคุณ : เชษฐา - [ 15 ต.ค. 46 22:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 O___o" .. โอ้ .. จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 16 ต.ค. 46 00:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หุหุหุ แล้วก็ต้องเกือบต้องใช้ท่าไม่ตาย แต่น้องฮวยฮวยเนี้ย หลงเสน่ห์พี่ฮั่นเหรอฮ้า จากคุณ : โอเลี้ยงแก่ๆ - [ 16 ต.ค. 46 00:39:51 A:202.133.171.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ บ่างมาทำหน้าปั่นทู้ เอ้ย มาขอ นุยาด ขำคุณโอเลี้ยงแก่ๆ ค่ะ จากคุณ : jengly - [ 16 ต.ค. 46 00:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บรรยายกระบวนท่าได้ ระทึกใจดี . จากคุณ : เซียวปังตอ (Z4t4nGuru bofh) - [ 16 ต.ค. 46 02:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หรือว่า...... น้องฮวยๆ จะเป็น   นางเอก \\(^^')// จากคุณ : หลิวตังอ๋อ - [ 16 ต.ค. 46 08:59:43 A:210.86.204.87 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^_______________________________________________^ จากคุณ : น้ำลายบูด - [ 16 ต.ค. 46 09:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยินดีรับฟังคำติชมนะครับ จะได้แก้ไขจุดบกพร่องได้ พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น หากผ่านเข้ามาอ่าน พบจุดบกพร่องช่วยลงไว้สักนิด จะเป็นพระคุณ ตอนเก่าก่อน บทที่ 21/3 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2490292/W2490292.html 21/2: http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2478753/W2478753.html 21/1 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2473806/W2473806.html บทที่20 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2461504/W2461504.html บทที่ 19 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2448228/W2448228.html บทที่ 18 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2438231/W2438231.html บทที่ 17 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2423002/W2423002.html บทที่ 16 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2416822/W2416822.html บทที่ 15 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2406350/W2406350.html บทที่ 14 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2394602/W2394602.html บทที่ 13: http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2385217/W2385217.html บทที่ 12 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2380634/W2380634.html บทที่ 11 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2365373/W2365373.html บทที่ 10 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2355452/W2355452.html บทที่ 9: http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2347342/W2347342.html บทที่ 8: http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2336310/W2336310.html บทที่ 7: http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2329311/W2329311.html บทที่ 6 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2323012/W2323012.html บทที่ 5 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2316144/W2316144.html บทที่ 4 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2309810/W2309810.html บทที่ 3 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2302015/W2302015.html บทที่ 2 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2296001/W2296001.html บทที่ 1 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2280892/W2280892.html แนะนำตัวละครและรายละเอียดโดยย่อ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2419342/W2419342.html ***************ทักทายคนอ่าน***************** บ่างตัวกลม แน่นอนพี่ฮั่นของนาง แ่นางของพี่ฮั่นหรือเปล่าต้องดูกันไป ^^ และก็วันศุกร์โพสต์แน่ แต่บอกแล้วว่าท่อนที่เหลือท่อนเดียว ไม่ได้บอกว่าตอนใหม่เน้อ แมงเม่าพันปี เหงื่อตกทำมายยยยยยยยย โอเลี้ยงแก่ๆ ฮวยฮวยหลงสเนห์พี่ฮั่นไม่เป็นไร แต่ถ้าพี่ฮั่นหลงเสนอฮวยฮวยล่ะก็ยุ่งเลย ต้องเปลี่ยนแนวเป็นนิยายสีม่วงแล่วว เซียวปังตอ (Z4t4nGuru bofh) ขอบคุณครับ หลิวตังอ๋อ -___-" น้ำลายบูด ปากฉีกถึงหูแล่ววว กว้างซะ scottie ที่อยู่ข้างล่างน่ะ หุ หุ มันเมื่อมีกระบี่ที่เลิศล้ำเล่มหนึ่ง วิชาฝีมือของมันย่อมไม่ต่ำต้อยเด็ดขาด แต่จะถึงขั้นไหนต้องดูกันไปจ้า แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 11:30:29 จากคุณ : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - [ 16 ต.ค. 46 10:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สนุกดีค่ะ มิแน่ว่าฮวยฮวยก็เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์มากกกก :) จากคุณ : scottie - [ 16 ต.ค. 46 10:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้องฮวยฮวย ของพี่ฮั่น **************************** ย้อนกลับเข้ามามองหา.... ไปดีก่า แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 23:42:07 จากคุณ : jengly - [ 16 ต.ค. 46 17:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .. ถ้าชื่อฮ่วยฮ่วยล่ะก็ .. สาวอีสานแน่ ๆ  ..เอิกส์ !! .. จากคุณ : สัตยา - [ 16 ต.ค. 46 23:03:31 A:203.155.234.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ท่อนจบของตอนที่ 22/1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2501430/W2501430.html จากคุณ : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - [ 17 ต.ค. 46 10:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไอหยามีเปลื้องผ้าด้วยวุ้ยอิอิ จากคุณ : อนาคอนด้า - [ 20 ต.ค. 46 23:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อีตาข้างบน สมกับชื่อ อนาคอนดอม จริงๆ เหอ เหอ จากคุณ : คุณชายหลิว - [ 21 ต.ค. 46 00:22:10 A:203.144.143.250 X:202.133.139.209 ]

ความคิดเห็นที่ 21 O_o มาทำมายยยยยย แง่งงงง เด๋วเรียกแม่มดจับไปลงหม้อหรอก จากคุณ : jengly - [ 22 ต.ค. 46 16:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาตามไก่หลงอีกจ้า พิศดาร : พิสดาร ผู้คุมกฏขวา : กฎ เมื่อข้ากเจ้าทักท้วงมันกลับมิสนใจ จากคุณ : รสา รสา - [ 30 มี.ค. 47 21:02:45 ]