กาลเริ่มมิตรภาพ

    วันเกิดพ่อ  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2298254/W2298254.html

    ดอกปอบาน  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2463254/W2463254.html


    ** กาลเริ่มมิตรภาพ **


             น้ำ..นั่งเหม่อมองตุ๊กตาตัวใหญ่ที่อยู่บนเตียง มันเป็นตุ๊กตาหมีสีขาว จมูกสีชมพูมีอุ้งมือและอุ้งเท้าสีชมพู อยู่ในห่อถุงโปร่ง ๆ สีฟ้า.. ตัวตุ๊กตาเขียนว่า Happy birth day เขาได้มันเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และกำลังจะถูกทิ้งขว้างไปพร้อม ๆ กับมันเหมือนกัน แฟนเขาพึ่งโทรมาบอกว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอก พร้อมกับผู้ชายอีกคน ที่หล่อกว่า รวยกว่าเขา  เขามันแค่หนุ่มเจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่ อุปกรณ์ และซ่อมเครื่องยนต์ จน ๆ คนหนึ่ง     ไม่ได้ไฮโซเหมือนลูกชายนักการค้าผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น จึงต้องอกหัก เป็นธรรมดา

             เขาตัดสินใจแพ็คกระเป๋า ไปเที่ยวทะเล เผื่อให้ผ่อนคลาย เขาหิ้วกระเป๋าลงมาจากชั้นสองของบ้าน มาฝากงานกับลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเดินเลยไปเปิดท้ายรถฮอนด้า ซีวิคสีน้ำเงินเข้ม เก็บกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้วก็เข้าประจำตรงที่คนขับ เริ่มต้นการเดินทางห่างออกจากกรุงเทพฯ เมืองหลวง  

             "---เหมือนว่าเธอยังอยู่ตรงนี้  
             เหมือนว่าเธอไม่จากไปไหน  
             เสียงของเธอไม่เคยขาดหาย
             นานแค่ไหนก็ฉันไม่เคยลืมเธอ
             เผื่อ..อาหารที่เธอชอบใจ  
             เผื่อเอาไว้ให้เราสองคน  
             มีแสงเทียนที่ยังส่องให้เห็นความทุกข์ทน
             คนหนึ่งคนกับความเคยชินลำพัง....

             ดึกแล้ว..ฉันยังคงดื่มให้เธอ..
             งานเลี้ยงก็คงยังไม่มีเลิกรา..
             คืนนี้สุดท้ายก็คงใช้น้ำตา..
             ดื่มฉลองให้เธอที่ลาฉันไป  
             ...." -----

             เสียงเพลงจากละครเมืองดาหลา ที่ผู้จัดรายการวิทยุเอามาเปิดเพื่อเอาใจแฟนละคร ดังมาจากเครื่องรับวิทยุ น้ำมองทางข้างหน้าอย่างเหงา ๆ  บรรยากาศสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อออกนอกเมือง

             ท้องฟ้ากว้างอ้างว้างเหมือนฉันไหม
             เดินทางไกล..ลึก ๆ ข้างในแสนสับสน
             เวลานี้ไม่มีใคร..มาใส่ใจสักคน
             เหงา..จนฝนในตา..ไหลมาริน ๆ
             ท้องฟ้ากว้าง..เดินทางกับฉันไหม
             ถึงแม้ไม่มีคนใส่ใจ..คนพลัดถิ่น
             ฉันจะได้อุ่นใจ..ไม่ต้องน้ำตาริน
             นะ..ไปกับคนพลัดถิ่น...ริมทะเล

             ไม่มีใครให้อ้อน..อ้อนท้องฟ้าก็ได้วะ.. เขาคิดในใจ..แล้วก็ยิ้มให้กับเพลงที่
    ได้ยิน

    "..ก่อนเราเคยอยู่ลำพัง..อะไรก็ได้ทุกอย่าง แม้อ้างว้างไม่เคยขื่นใจ..ต่อมามีเธอโชคดี
    ดั่งมีพลังขึ้นใหม่........"

    ****************************************************

             เมื่อเขาจัดการสัมภาระเข้าไปเก็บในห้องพักเสร็จสรรพ      ก็ออกมาเดินเตร็ดเตร่.. เหงา เขาบอกตัวเองอย่างนั้น.. เดินเรื่อยมาตรงริมทะเล..หาดทรายสีขาวเวิ้งว้าง.. แทบจะไม่มีใครยามเย็นอย่างนี้.. ถึงจะมี.. เขาก็เดินเกี่ยวก้อยกันเป็นคู่ ๆ แทบจะทั้งนั้น.. น้ำถอนหายใจเบา ๆ  ทรุดนั่งตรงม้าหินอ่อนริมป้อมยาม สายลมพัดไสว เย็นชื่นใจ กลิ่นอายทะเลทำให้เขาสดชื่นขึ้น เมื่อได้พลังมาจากทะเล เขาก็เดินต่อ ร้านค้าของที่ระลึกต่าง ๆ เริ่มเก็บของกันเพราะฟ้าเริ่มมืด แสงสุดท้ายของอาทิตย์ลาฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง ที่สุดขอบฟ้ากับน้ำจรดกัน.. เสียงกรุ๋งกริ๋งของโมบายเปลือยหอยเรียกเขาเข้าไปหา.. ในเมื่อเขาชอบเหลือเกิน อดไม่ได้ที่จะซื้อทุกครั้งที่มาทะเล เอาไปฝากเพื่อนบ้าง เก็บสะสมบ้าง แล้วแต่โอกาส  แล้วร้านนี้..เขาก็เป็นลูกค้าประจำ  เพราะเขาซื้อบ้านพักริมทะเลแห่งนี้ไว้นานปี..แล้วอีกอย่างหนึ่งคือเขามาบ่อย ด้วยความที่รักทะเลเป็นชีวิตจิตใจ

    "สวัสดีครับป้า"       เขาส่งเสียงทักทาย

    "สวัสดีคุณน้ำ.. เป็นไงคะ.. หนนี้มาอยู่นานเท่าไหร่"

    "สามวันครับ .. ขายดีไหมวันนี้"

    "พอขายได้.. แต่มีแบบใหม่ ๆ เก็บไว้ให้คุณแน่ะค่ะ.."       ป้ากุลีกุจอจะหยิบออกมาให้เขาชม แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาที่ร้าน

    "คุณจอย"        ป้าเป็นฝ่ายทักก่อน

    "มาค่ะ นั่ง ๆ "      น้ำ ออกจะ งง เมื่อเห็นท่าทีของป้า ทีเขาล่ะก็..ปล่อยให้ยืนขาแข็งตั้งนาน เลยพาลหมั่นไส้มาถึงคนที่มาใหม่

    "ลูกค้ากิติมศักดิ์ป้านี่..ดีจังนะ..มีที่นั่งให้ด้วย ทีผมมาตั้งนานไม่เห็นป้าจะดีใจขนาดนี้"

    "โธ่..คุณน้ำก็.. คุณจอยเธอมาไกล เธอมาจากเชียงรายแน่ะค่ะ"

    "อ้อ.."     เขาค่อน... มองชายหนุ่มหยัน ๆ จอยสบตาเขาตรง ๆ ผู้ชายขี้อิจฉาก็มีด้วยแฮะ  หยั่งงี้ต้องแกล้งให้เข็ด

    "ขอบคุณค่ะป้า.. เมื่อกี้เข้ามาได้ยินว่าป้ามีอะไรใหม่ ๆ นะคะ"

    "อ้อ..โมบายแบบใหม่ค่ะ เก็บไว้ให้คุณน้ำ เธอชอบสะสม"

    "อ๋อค่ะ..ขอจอยดูบ้างได้ไหมคะ"

    "ได้ ๆ เดี๋ยวนะคะ"     ป้าหยิบโมบายที่มีอยู่อันเดียวออกมาโชว์ ให้ทั้งสองดูพร้อม ๆ กัน เปลือกหอยสีขาว ร้อยสลับกับหอยเสียบต้องลมดังกรุ๋งกริ๋ง..น้ำเอื้อมมือไปหมายจะจับต้องเชยชม จังหวะเดียวกับจอยก็เอื้อมมือมาเช่นกัน มือเล็ก ๆ เนียนนุ่มชนกับมือใหญ่แข็งแรงตาสบตา..คู่หนึ่ง..ฉายแววเย่อหยิ่ง ทรนง อีกคู่หนึ่งฉายแววขี้เล่น ล้อเลียน.. น้ำเป็นฝ่ายหดมือกลับมาก่อน เขาเป็นสุภาพบุรุษเสมอ

    "จอยอยากได้จัง.. จอยก็สะสมค่ะป้า"

    "ได้ไง..ของผม"

    "แหม..คุณน้ำ ให้คุณจอยไปเถอะค่ะ..คุณน่ะมาออกบ่อย เดี๋ยวป้าให้เขาทำใหม่"    น้ำอมยิ้มนิด ๆ จริง ๆ ก็เหมือนที่ป้าพูดนั่นแหละแต่อารมณ์ขี้เล่นของเขา จึงคิดจะหยอกเหย้าหญิงสาวเล่น ๆ

    "ได้ไงป้า"

    "นี่คุณ..เป็นสุภาพบุรุษหน่อยสิ"     เธอหันมาว๊ากเสียงแข็ง ๆ

    "โธ่..ผมสั่งไว้ก่อนนะคุณ"

    "แต่ฉันอยากได้"     เธอถลึงตาให้ น้ำแกล้งกวนให้เธอขุ่นเล่น ไม่รู้สิ..เขาชอบดวงตาคู่นี้จังเวลามันขุ่นเขียวเอาเรื่องแบบนี้ดูมันมีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก

    "งั้นต้องมีของแลกเปลี่ยน"

    "อะไร.."

    "หอมแก้มผมทีนึง"     เขาพูดเจือหัวเราะ.. แต่แล้วก็ต้องสะบัดหน้าตามแรงตบ

    "เพี้ยะ"     เขาคลำแก้มตัวเองป้อย ๆ

    "พอใจไหมคะ"     เสียงใส ๆ หยันมาอีก เขาหันมาสบตาเธอยิ้ม ๆ

    "ขอบคุณครับ.. งั้นโมบายชิ้นนี้เป็นของคุณ"   จอย งง .. นึกว่าเขาจะโกรธ แต่เธอก็ว่าเธอยั้งมือแล้วนะ น้ำหนักไม่แรงเท่าไหร่เขาคงไม่เจ็บหรอก.. ลึก ๆ แล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้

    "ขอบคุณ"     ป้าแกก็ได้แต่หันไปมองคนโน้นที คนนี้ที.. แล้วก็ห่อโมบายส่งให้หญิงสาว.. เธอรับมาแล้วกล่าวลา

    "ป้าคะ..จอยไปก่อนค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาคุยด้วยอีก"

    "ค่ะ ป้าก็กำลังจะเก็บร้านพอดี"

    ****************************************************

             ฟ้ามืดแล้ว ดวงดาวเกลื่อนกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า.. สองหนุ่มสาวนั่งคุยกันเบา ๆ ริมทะเล.. เสียงคลื่นมาคลอเคลียอยู่ไม่ห่างสายลมเย็นพัดพากลิ่นไอทะเล และความหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้มาตามลม

    "คุณไม่โกรธ จอยนะ"

    "ไม่ครับ.. ผมว่าสมควรแล้ว อยากเล่นไม่รู้เรื่อง"     เขาหัวเราะน้อย ๆ

    "ดึกแล้ว"     หญิงสาวอุทรณ์ พร้อมกับห่อไหล่

    "ครับ..เดี๋ยวเดินไปส่งคุณที่โรงแรมก็แล้วกัน.."

    "ขอบคุณค่ะ.."  

             สองคนคุยกันกระหนุง กระหนิง ระหว่างทางเดิน.. มิตรภาพกำลังเบ่งบานและรอวันงดงาม น้ำยิ้มให้ด้วยเองในวันเหงา ๆ เมื่อย้อนกลับมานั่งที่เดิมพร้อมเบียร์อีกกระป๋องหนึ่ง  เขาชอบทะเลกลางคืน.. ท้องฟ้าแม้จะมืดดำ แต่ไม่เคยเงียบเหงาเพราะคืนที่เดือนแรม ดวงดาวก็จะสวยสด กระพริบ ระยิบ ระยับเป็นเพื่อนอยู่ตลอดคืน.. ยามคืนไหนเป็นข้างขึ้นแสงพระจันทร์จะช่วยให้ทุกอย่างกระจ่างนวลตา ท้องฟ้า..ทะเล.. ดวงดาว พระจันทร์ เป็นเพื่อนเขาได้ในความเงียบ.. ส่วนที่ไม่เหงาก็เพราะเสียงคลื่นที่คลอเคลียตลอดเวลาโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

             คราคลื่นมาสาดซัด
             ลมพาพัดเจ้าความเหงา
             ออกไปไกลจากเรา
             แต้มยิ้มเพรา..ในเงาตา
             สายลมมาเป็นเพื่อน
             ดาวและเดือนออกเกลื่อนฟ้า
             ไม่เคยเศร้าเมื่อได้มา
             ยิ้มเริงร่า..กับทะเล

                                        .....

             วันพรุ่งนี้.. เขายิ้มเมื่อคิดถึงมัน มิตรภาพระหว่างเขากับสาวเชียงรายคงจะเบ่งบานเพิ่มขึ้น.. อย่างน้อย ๆ มีเพื่อนชมทะเลในวันที่ไม่มีใคร.. คงทำให้เขาเหงาน้อยลง

    แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 21:20:53

    แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 21:09:59

    แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 46 20:59:56

    จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 16 ต.ค. 46 20:46:12 ]