ตอนที่แล้วค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2499347/W2499347.html
---------------------------
> > > ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7
หลังจากงานชาปณกิจนุ่น 2 วัน
> > >แม่ของนุ่นได้ขออนุญาตอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า
> > > > > ในห้องICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary
> > > เล่มนี้มาให้บอมให้ได้> >
> > > แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุงกระดาษที่ข้างในมีdiary
เล่มหนึ่งมาให้
> > > หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบdiary ขึ้นมา
> > > มันเป็นdiary เล่มสีชมพู
ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น
> > > ชื่อของบอมมีอยู่ในdiaryของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ
> > > เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นในdiary
> > > เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์
> > > > > ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน>
>
> > > บอมพูดเมื่ออ่านdiary
และได้รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่
> > > และเมื่อช่วงหนึ่งในdiary จึงได้รู้ว่า
> > >นุ่นเข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ ที่เรียนพิเศษ
> > > สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้า
ใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม
> > > ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก
> > >ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้
> > > ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ
> > > เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึกของตัวเอง
> > > นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้
วีรภานั่งมองจอคอมพิวเตอร์ มือเคลื่อนลูกกลม ๆ ของเมาท์เป็นระยะ ๆ สายตาไล่ตัวหนังสือบนจออย่างช้า ๆ เธอกำลังตรวจปู๊ฟ และจัดหน้าตัวหนังสือ วรรคตอน ย่อหน้า ให้เป็นระเบียบสวยงามมากขึ้น หญิงสาวอยู่ในชุดนอนผ้าแพรสีฟ้าอ่อนสบาย ๆ บนโต๊ะข้างจอคอมพิวเตอร์มีกระดาษต้นฉบับเปิดกางอยู่ ดินสอ 2B ปลายแหลมวางอยู่ในแนวขวาง มีแก้วน้ำเปล่าทรงสูงวางอยู่แทนที่แก้วกาแฟเมื่อคืน
ติ๊ด ๆ เสียงนาฬิกาข้อมือบอกเวลา เธอละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์มองเวลาที่ผนังด้านข้างของห้อง ขณะนั้นเข็มสั้นอยู่ที่เลขสิบ เข็มยาวอยู่ที่เลขสิบสอง วีรภาลดสายตาลงมาที่พื้น เสื่อยาว ๆ สองผื่นปูติดกัน มองชมจันทร์กำลังหลับผล็อยอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่มีอะไรเหน็ดเหนื่อยเท่ากับหัวใจที่อ่อนล้า
ก่อนหันสายตากลับมาที่จอคอมพิวเตอร์อย่างเดิม คลิกเม้าท์ดูห้อง เพื่อนกันฉันพี่น้อง เธอเห็นนิคของแจคอยู่ในห้องนั้น เธอนิ่งรอเขาทักทายก่อน เหมือนเขาเองก็รอเธอทักก่อนเช่นกัน จึงไม่มีคำทักทายใด ๆ ระหว่างทั้งคู่ วีรภา คุยกับเพื่อน ๆ ในห้องไปเรื่อย ๆ จนแจคบอกลาคนในห้อง เธอรีบเรียกเขา เพราะมีคำถามที่ต้องการจะรู้คำตอบ
<vee > ไปแล้วหรอแจค เดี๋ยวก่อน ตอบคำถามเราก่อนดิ เสียไปเท่าไหร่อ่ะ
เธอถามเขาถึงค่าโทรศัพท์ที่เขาโทรมาคุยกับเธอเมื่อคืนนี้
<smegal> อ่ะ
<vee > คอยคำตอบอยู่นะ
<smegal> ไหนบอกฟามจำสั้น
<vee > อิอิ แจคจำไม่ได้หรอ เราเคยบอก ว่าบางเรื่องเราจำแม่นมากอ่ะ ฮี่ ๆ
<vee > เร็ว ๆ
เธอรู้สึกร้อนใจที่ไม่ได้รับคำตอบจากเขา
<smegal> นิดหน่อยอะ วี
<vee > บอกมา
<smegal> สำหรับเพื่อน
<vee > เท่าไหร่ล่ะ
<smegal> สบายมาก
<vee > อยากรู้อ่ะ เราทำให้นายเสียไปเท่าไหร่
<smegal> นิดหน่อยไง
<vee > นิดหน่อยก็บอกดิ
เธอชักเริ่มคันหัวใจ เพราะถามเขาหลายครั้งแล้ว เขายังไม่ยอมบอกซักที
<vee > เอางี้นาทีละเท่าไหร่อ่ะ
<smegal> บอกไปเด๋วก็ลืม เราฟามจำสั้นอะ
<vee > ง่ะ โธ่
!!
<smegal> เอิ๊กๆ
<vee > อยากรู้จริง ๆ บอกหน่อย แจคไม่บอกนะ อาจทำให้เราเข้าใจผิด ไม่รู้ด้วย
เธอเริ่มหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมบอก
<vee > ตามใจนะ
<smegal> เรารู้ว่าวีหัวดี
<vee > เราจะเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจละกัน
<smegal> ไม่เข้าใจผิดหรอก อุอุ
<vee > ได้แจค เราจะไม่ถามนายแล้ว เราเข้าใจไงก็เรื่องของเรานะ
เธอรู้ดีว่ายิ่งถาม เขาก็ยิ่งไม่ยอมบอกอย่างแน่นอน ตัดใจที่จะไม่รู้เสียดีกว่า ยิ่งแสดงอาการอยากรู้ ก็ยิ่งรู้สึกตกอยู่ในฐานะที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามแกล้งไม่บอก ทำให้หงุดหงิดรำคาญใจมากขึ้น บางทีคนเราก็ควรจะหยุดอยากรู้ในสิ่งที่ไม่ควรจะรู้ หรือรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์บ้าง บางครั้งรู้แล้วกลับเป็นโทษกับตัวเองเสียอีก แต่ในหลาย ๆ ครั้ง คนเราก็อยากที่จะรู้เหลือเกิน ยิ่งเขาไม่บอกก็ยิ่งอยากรู้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
วีรภาต้องบอกตัวเองว่า ไม่ต้องรู้ก็ได้นี่ เพื่อปลอบใจตัวเอง
ตัวอักษรที่ห้อง massage กลายเป็นสีแดง แสดงว่ามีคนเข้ามาซิบ ขอคุยส่วนตัวกับเธอ คลิกเม้าท์ดูที่ห้องนั้น ในห้องนั้นปรากฏโฆษณาเชิญชวนต่าง ๆ เช่น มัธยมอยากมีเซ็กส์ เล่าเรื่องเสียว เซ็กส์คนทำงาน ขายบริการ เธอไม่เคยสนใจอยากเข้าไปดูห้องไร้สาระพวกนั้น และตรวจสอบคนที่มาซิบเธอทุกครั้ง ว่ามีพื้นฐานความสนใจเกี่ยวกับอะไร เพื่อระวังตัวในการพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่มาซิบคุยส่วนตัว นิคของคนที่ทำให้เธอหงุดหงิดคันหัวใจเหลือเกินอยู่ในห้องนั้นด้วย แจคนั่นเองที่มาซิบ หญิงสาวแอบยิ้มเล็กน้อย อ่านข้อความของเขา
<smegal> เง๊ย
<smegal> โห
<smegal> จาย เย็นๆ
<smegal> วีรภาาาาาา
เธอไม่คุยกับเขาในซิบ แต่คุยต่อที่หน้าห้องบอกเขาเชิงต่อว่า
<vee > ถ้าไม่ยอมบอกก็ไม่ต้องมาถามเลย
<smegal> ^_^
<vee > ถ้าไม่ยอมบอกก็ไม่ต้องมาถามเลย
<smegal> อ่ะ
<Sea-man^^> <vee > ถ้าไม่ยอมบอกก็ไม่ต้องมาถามเลย-------------ลองถามหมอพรทิพย์ดิเผื่ออะไรๆจะสว่างขึ้นคับ
<Sea-man^^> ให้เค้าผ่าดูอ่ะ
<smegal> อุอุ
มีสมาชิกในห้องอีกคนเริ่มแซวเธอแล้ว แต่วีรภาไม่สนใจ
เขาตอบเธอในซิบ
<smegal> อ่ะ ไม่พูดกะเราจริงอะ
<smegal> บอกแล้วๆ สองชั่วโมงครึ่ง
เธอยังไม่ตอบเขาในซิบ พิมพ์ต่อที่หน้าห้อง
<vee > สัญญาก่อนดิว่าจะบอกอ่ะ ห้ามเฉไฉด้วย
<vee > ไม่งั้นปล่อยเราเข้าใจของเราเองละกัน
<smegal> อ่ะ
<vee > เท่าไหร่ล่ะ
<smegal> เราไม่อยากให้นายกังวล
<Sea-man^^> <smegal>--รับรักเค้าไปเหอะคับ เค้าอุตส่าห์ง้อขนาดนี้แล้วอ่ะ
<smegal> 555555
<Sea-man^^> ง้อต่อสิคับ
เวรกรรม หมอนั่นดันล้อเธอกับเขาอีก ไปกันใหญ่แล้ว รีบพิมพ์แก้ข้อความนั้น เพื่อไม่ให้ใครต่อใครเข้าผิดเป็นอย่างอื่น
<vee > เขารับรักเราตั้งนานแล้ว รักอย่างเพื่อนกันน่ะ ไม่รู้หรอออออ ฮี่ ๆ
ข้อความในซิบตอบมาอีก
<smegal> คุยในซิบได้มั้ย
เธอดับเบิ้ลคลิกที่นิค <smegal> ในห้อง massage ตัวหนังสือทุกประโยคของเขาที่ซิบตั้งแต่ต้นปรากฏขึ้นทั้งหมด กลายเป็นอีกห้องหนึ่ง
<vee > ว่ามา
<smegal> อ่ะยอมคุยแล้วเหรอ
<smegal> 55555555
<smegal> เหงมะที่หน้าห้องอะ
<vee > อิอิ แก้ให้แล้วไง
<smegal> แก้ทำไม
เอ
หมายความว่าไงนะ เธอรีบพิมพ์ตอบกลับไป ไม่อยากเข้าใจผิดคิดไปเอง หรือเข้าข้างตัวเองว่าเขาชอบเธอ เพราะนิสัยผู้ชายส่วนใหญ่ ชอบพูดหยอกเย้า ทำให้คิดไปเอง จีบเล่น ๆ หรือไม่ก็จีบเผื่อฟลุ้ค ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะเรื่องแบบนี้เธอไม่เคยพูดเล่นกับใคร หากพูดเล่นกับใคร ความหมายย่อมหมายตามอย่างที่พูดจริง ๆ เสมอ เพียงแต่ พูดเล่นเพื่อกลบเกลื่อนเท่านั้น
<vee > อ้าว ก็ไม่ถูกหรอ เราพูดไรผิดหรอ
<vee > ว่าไงเสียไปกี่บาท
<smegal> ง่ะ รู้ทำไม
<vee > รู้ไว้ประดับสมอง จะตอบป่ะ สัญญากับเราแล้วนี่
<smegal> เอาล่ะ ก็อบมาดูหน่อย เราสัญญาเมื่อไหร่
เธอชักเริ่มตะหงิด ๆ อีกแล้ว แบบนี้จะเบี้ยวกันนี่หว่า
แจคนะแจค เธอคำรามอยู่ในลำคอเบา ๆ
<vee > อืม ตามใจ
<smegal> อ้าวๆ อย่าเพิ่งใช้อารมณ์
<smegal> ใจเย็นๆ
<vee > ก็ตามใจนายแล้วไง เราก็จะไม่เซ้าซี้นายอีก
<smegal> โห น่าาา
<smegal> ใจเย็นๆ เรื่องแค่นี้อะ
<vee > เราขอร้องนายให้บอก นายจะสนใจคำขอร้องของเราไหม
<smegal> อิอิ โดนอีกเรา
<vee > ถ้านายไม่สนใจคำขอร้องของเพื่อนคนนี้ ก็ตามใจ
เธอตัดบทเอาดื้อ ๆ แต่สายตายังจ้องจอคอมพิวเตอร์ รอตัวหนังสือที่จะตอบกลับมา
<smegal> ง่าาาาา ทำไมนายอยากรู้มากเลยอะ
<smegal> เปงห่วงเหรอ
<vee > แค่อยากรู้น่ะ ไม่ได้หรอ
<smegal> 555555555
<smegal> ได้จิ
<vee > บอกมาดิ
<smegal> อยากรู้ได้
<smegal> แต่เราไม่อยากบอก
น่าน
กวนประสาทอีกแล้ว ลีลาเยอะเหลือเกิน ไม่ยอมบอกซะที จดอดที่จะถอนหายใจออกอย่างเหน็ดเหนื่อยหัวใจไม่ได้
<vee > ไม่เป็นไรหรอก เราขอแค่รับรู้เฉย ๆ ไม่ได้กังวลอะไร
<vee > จริง ๆ เชื่อเรานะ
<vee > ว่าไง
<smegal> ทำไมเหรอ กับเรื่องเท่านี้
<vee > ถ้าไม่บอกก็ไม่ต้องบอก เราก็ไม่ว่าไร
เธอชักยัวะจริง ๆ แล้วนะ!
<smegal> สายสัมพันธ์ ของเพื่อนอะ
<vee > ปล่อยเราเข้าใจไปเองก็แล้วกันนะ
<smegal> คิดไรมากกะแค่นี้
<vee > ก็นายก็ไม่ต้องแคร์สิ ว่าเราจะเข้าใจยังไงก็ช่าง
<smegal> 55555555
ไอ้บ้า!! มีน่ามาอารมณ์ดีหัวเราะอีก!
<smegal> แต่เราแคร์
ประโยคนี้ของเขาทำให้เธอต้องนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ ไม่อยากจะเชื่อว่า เขาจะแคร์เธอจริง ๆ เขาแคร์คนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน แคร์คนที่แค่พูดคุยทักทายกันธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
วีรภาอ่านประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาอีกครั้ง นึกถึงคำพูดของเขาครั้งใด ก็อดที่จะรู้สึกดีดีในหัวใจไม่ได้
--------------------------
ขอบคุณทุกตัวอักษรที่แทนกำลังใจให้กันนะคะ
จากคุณ :
ส้มโชกุน
- [
18 ต.ค. 46 20:51:10
A:203.107.222.24 X:
]