==========================
แปลจาก Waiting For Her โดย Amina Henry
=========================
-1-
นี้คือเรื่องทั้งหมดที่ฉันจำได้
มีเด็กผู้หญิงอยู่คนนึง ฉันเอง ชื่อของฉัน คือ วิกตอรี (ชัยชนะ) บารนส์ เกลียดชื่อตัวเองชะมัด กับชื่อนี้ มันเหมือนกับว่าฉันต้องไปกอบกู้ชาติ หรือรบชนะสงครามมาอะไรทำนองนั้น อย่างกับฉันควรจะเป็นพวกมีอุดมการณ์สูงส่งอย่างงั้นแหละ บางครั้ง ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่ามันฟังดูงี่เง่า แบบว่า ฉันก็เป็นแค่ฉัน
แม่เล่าว่าที่ตั้งชื่อฉันว่า วิกตอรี เป็นเพราะแม่คลอดฉันทันก่อนที่แม่จะถูกส่งไปเรือนจำเพราะถูกจับได้ว่าค้ายา แม่ยังบอกอีกว่า แม่โล่งใจที่ฉันเกิดมาครบสามสิบสอง ทั้งๆ ที่ตอนตั้งท้อง แม่ล่อยาเพียบขนาดนั้น ดังนั้น ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ยังทรงเมตตา ฉันคือ วิกตอรี ของแม่อย่างแท้จริง
แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเรียกฉันด้วยชื่อนี้นักหรอก แม้แต่ยายเองก็เหอะ ยกเว้น เวลาที่ยายโมโหมากๆ ยายก็จะเรียกชื่อฉันเต็มยศ ช้าๆ ชัดๆ วิก ตอ รี แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าโดนแน่ เอาเหอะ ใช่ว่ายายจะโมโหฉันบ่อยๆ ซะที่ไหน
คนส่วนใหญ่เรียกฉันว่า วิคกี้ ไม่ก็ เมาส์ นั่นเป็นชื่อที่สมกับฉันมากกว่า แต่ต้องนับแม่เป็นข้อยกเว้น แม่เรียกฉันว่าวิกตอรีเสมอ
แม่กำลังจะกลับมาอยู่บ้านหลังจากเวลาผ่านไปสิบสองปี ยายซื้อชุดใหม่ให้ฉันสำหรับโอกาสพิเศษนี้โดยเฉพาะ มันเป็นชุดลูกไม้สีขาวแบบที่มีโบสีเขียวติดอยู่ด้านหลัง ซึ่งพอใส่แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กอมมือไม่มีผิด แต่ฉันก็ไม่ว่าอะไร ที่ฉันทำก็แค่เคี้ยวหมากฝรั่งไปเรื่อยๆ ระหว่างรอยายรีดมันให้เสร็จ จะได้เอาไปแขวนเก็บในตู้เสื้อผ้า
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย มองดูตัวเอง ก็เห็นแค่เด็กผู้หญิงสูงโย่ง ผอมแห้ง สงบเสงี่ยม ไม่ต่างอะไรจากเด็กผู้หญิงผิวสีอายุสิบสองจะสิบสามที่เห็นอยู่ทั่วๆ ไป
ฉันนอนอยู่บนเตียง พยายามซึมซาบช่วงเวลาสุดท้ายในห้องนอนของตัวเอง เพราะตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันต้องยกมันให้แม่และย้ายก้นไปนอนที่โซฟาแทน
แม่ฉันติดเฮโรอีน แม่ต้องเข้าคุกเพราะถูกจับได้ขณะขายยาในสนามโรงเรียน พ่อฉันก็ติดเฮโรอีนแต่พ่อตายไปแล้ว ฉันเองก็คงติดไอ้ผงขาวนี่มาตั้งแต่เกิด ลึกๆ แล้วในใจ ฉันรู้มาตลอดว่าตัวเองก็ติดเฮโรอีน มันเหมือนมันมีช่องว่างที่รอการเติมเต็มอยู่ในตัวของฉัน หลายครั้ง ที่รู้สึกปวดร้าว อ้างว้าง เหมือนต้องการอะไรบางอย่าง อะไรก็ได้ที่จะมาอุดรอยโหว่ อะไรก็ได้ที่ทำให้ฉันพ้นไปจากความรู้สึกนี้
นี้แหละ ชีวิตของฉัน ฉันคิดเอาเองว่าแม่คงรู้สึกอย่างเดียวกันนี้มาโดยตลอด และเป็นเหตุผลให้แม่เล่นยา แต่ถึงจะรู้อย่างนี้ ก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกใกล้ชิดกับแม่มากขึ้นซักนิด
เวลานอนจ้องลายน้ำบนเพดานอยู่อย่างนี้ ฉันชอบนึกสงสัยว่าตัวเองจะรู้สึกยังไงเวลาอุ้มท้อง บางที ฉันคงจะหายเหงา อย่างน้อยก็มีใครสักคนรัก แต่ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าคนอย่างฉันจะเลี้ยงเด็กไหวเรอะ
ยายไม่ยอมให้ฉันทาลิปสติก ดังนั้น ฉันจะรอจนตัวเองเดินไปจนสุดถนนถึงจะควักตลับเครื่องสำอางค์ขึ้นมาแต่งตรงใต้ต้นไม้ พื้นฐานแล้วฉันเป็นเด็กดีทีเดียว ว่านอนสอนง่าย มีสัมมาคารวะ แต่ตอนนี้ ในตัวฉัน มันมีบางอย่างที่กำลังเปลี่ยนแปลง อย่างตอนนี้ฉันรู้สึกสับสนบ่อยๆ ฉันอยากเป็นสาวเร็วๆ ฉันอยากจะโตไวๆ
ฉันเดินไปที่บ้านทอมมี่ แม่เธอไม่อยู่บ้านพอดี เราสองคนเลยยึดบ้านเป็นของเรา จริงๆ แล้วแม่ของทอมมี่ไม่เคยอยู่บ้านเลยก็ว่าได้ เราสองคนพี้กัญชาที่ได้มาจากพี่ชายของทอมมี่ จากนั้นก็พากันมานั่งที่หน้าบ้าน จิบคูลเอดสลับกับคุยกัน
เด็กผู้หญิงสองคน นั่งทอดอาลัยบนบันไดหน้าบ้านอย่างไม่เกรงกลัวไอแดด เราจะอยู่ต่อไปได้ยังไง ในเมื่อเราเป็นหญิงสาวที่ถูกขังอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิง ช่างเถอะ ยังไงเวลานี้ฉันก็กำลังรู้สึกดี ทอมมี่ชอบลิปสติกของฉัน ฉันเพิ่งได้มันมาเมื่อวาน เป็นลิปสติกสีเชอรี่ พลัม ที่ขโมยมาจากร้านขายยาไรท์ เอด
หนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ทำให้เราสนิทกัน เป็นเพราะทอมมี่สังเกตเห็นทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ไม่ใช่แค่เรื่องอย่างลิปสติก แต่ทอมมี่จับอารมณ์ฉันได้ เรื่องอื่นๆ ก็ด้วย ในความเป็นเพื่อนแล้ว การใส่ใจกันเป็นเรื่องสำคัญสุดๆ
เมาส์ เธออยากเป็นอะไรตอนโต
ฉันยักไหล่ ไม่รู้สิ ฉันจะบอกได้ยังไงว่าความจริงแล้วฉันไม่อยากเป็นอะไรเลย ขอแค่ไม่ตายไปก่อนก็พอ อาจจะมีคนมารักบ้างก็ดี ฉันไม่ชอบคำถามนี้ มันทำฉันอึดอัด บ่อยไปที่ฉันสงสัยว่าตัวเองจะอยู่จนจบมัธยมปลายมั้ย อาจจะเป็นทนายมั้ง
ทอมมี่พยักหน้า ดี ฉันว่าฉันจะเป็นแดนซ์เซอร์ล่ะ
เราต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนจะโพล่งมาว่า กรึ่มๆ
เจ๋งเป้ง นี้เป็นเกมส์ของเราสองคน เราจะสรรหาคำศัพท์แปลกๆ ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากทีวี แต่บางคำก็ได้มาจากที่อื่นอย่างพจนานุกรม หรือด้านหลังกล่องซีเรียล และใครที่ได้คำศัพท์ที่เก๋ที่สุด คนนั้นก็ชนะ เราเล่นมันมาตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน
ติดเกาะ
คำนั้นใช้ได้เลย งั้น เขตร้อนฝนตกชุก เราเงียบกันไปอีกครั้ง
ฉันทอดสายตาออกไปตามถนน พยายามมองความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ แต่ไม่ทั้งหมด มองหัวเข่าที่ถลอก ฟังเสียงร้องไห้ของเด็ก เสียงรถ เสียงหัวเราะทุ้มๆ วันนี้ร้อนเป็นบ้า ติดเกาะ คำของฉัน ฉันลิ้มรสคำที่ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น เป็นคำที่ดีทีเดียว คล่องปากใช้ได้
นี่ กลัวมั้ยที่แม่เธอจะกลับมาอยู่ด้วย
ฉันยักไหล่ เราทิ้งเรื่องนั้นไว้แค่นี้
เฮ้! นั่นเจย์นี่นา เจย์เป็นแฟนฉัน
เป็นไง สาวๆ เขาทัก แล้วแทรกตัวนั่งตรงกลางระหว่างเรา
เรากำลังเมายา ทอมมี่บอก
จริงอะ เจ๋ง มีเหลือบ้างมั้ย
เกลี้ยงแล้ว บ๋อแบ๋
ฉิบ.. ช่างเหอะ ยังไงฉันก็หาเอาเองได้ วันนี้ พวกเธอทำไรกันบ้าง ฮึ เขาวางมือตัวเองบนขาของฉัน
เราโตมาด้วยกัน ฉัน เจย์ แล้วก็ทอมมี่ รวมทั้งเด็กอีกกลุ่มใหญ่ในละแวกนี้ เมื่อปีที่แล้วนี่เองที่ฉันกับทอมมี่เริ่มคิดว่าเจย์เท่ห์ และเขาก็เลือกฉัน และทอมมี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเธอชอบเราทั้งคู่ แถมยังมีหนุ่มๆ อีกเป็นกระบุงโกยที่ต่อคิวรอคุยกับเธอ อีกอย่าง มันเป็นนิสัยของเธออยู่แล้ว ใจเป็นแม่น้ำ
ทอมมี่อ้าปากหาวแล้วบอกเจย์ว่า ก็ไม่ทำอะไร... ดูทีวี
ช่าย สาวๆ ฉันก็เหมือนกัน เราสามคนคุยกันเรื่องรายการทีวีพักหนึ่ง แล้วเจย์ก็จูงมือฉันเข้าไปข้างใน ตรงไปยังห้องนอนของทอมมี่ โดยทิ้งเธอนั่งยาม พลางสูบบุหรี่ที่ขโมยมาอยู่นอกบ้าน ตอนเดินเข้าไปข้างใน ฉันยังได้ยินเสียฮัมเพลงของเธออยู่เลย
ฉันกับเจย์เคยมีอะไรกันก่อนหน้านี้มาสามครั้ง จริงๆ ฉันไม่ชอบการมีเซ็กซ์ซักเท่าไหร่ ตอนจูบก็ดีอยู่หรอกนะ เกือบๆ เหมือนที่เคยจินตนาการเอาไว้อย่างในหนัง แต่ตอนอย่างว่า ไม่เหมือนที่เห็นในหนังซักกะนิด ไม่มีดนตรีบรรเลง ไม่มีแสงเทียน ไม่มีภาพสโลว์โมชั่น ไม่มีอะไรเลย นอกจากเหงื่อโซมกับเสียงครวญคราง
จากนั้นที่เหลือก็แค่รอให้มันเสร็จๆ ไปเพราะนอกจากจะเจ็บแล้ว มันยังเป็นอะไรที่น่าเบื่อสิ้นดี บางครั้งเท่านั้นที่ฉันรู้สึกวูบวาบขึ้นมาบ้าง เหมือนๆ จะพอใจหรืออะไรสักอย่าง
แต่ ส่วนใหญ่แล้ว ฉันคิดว่ามันงี่เง่า เป็นเหมือนอะไรที่คนเราจำเป็นต้องทำ
ปกติแล้ว เวลามีอะไรกัน ฉันจะเหม่อคิดถึงเรื่องอื่น อย่างเด็กที่อยู่ในตัวของฉัน หรือตอนไปเที่ยวทะเล หรือการได้ไปกินไอติมกับใครบางคนที่บอกว่าเขาเป็นพ่อของฉัน วันนี้ ฉันคิดถึงศัพท์ของฉันซ้ำไปซ้ำมา บางครั้ง ฉันก็พึมพำใส่ซอกคอเจย์ ติดเกาะ
เสร็จแล้ว เราสองคนก็นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงของทอมมี่ เจย์วาดนิ้วไปตามท้องแขนของฉันอย่างไม่มีแบบแผน
พรุ่งนี้ แม่ฉันจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว ฉันควรจะทำยังไงดี
เขายักไหล่ แล้วควานหาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกง ก็แค่รักท่าน ฉันว่านะ ยังไงก็แม่เธอนี่นา
แต่ฉันแทบไม่รู้จักเค้าเลยนะ เหมือนคนแปลกหน้า อะไรทำนองนั้น แย่ชะมัด
ยังไงเค้าก็เป็นแม่เธออยู่ดี
ฉันว่าฉันเกลียดแม่
ทำไมล่ะ
ฉันส่ายหน้าเงียบๆ เพราะฉันเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย
น่า แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง เขาพยายามเอื้อมมือมาโอบฉัน แต่ฉันผุดขึ้นลุกนั่ง นึกหงุดหงิด บางครั้งเขาก็งี่เง่าเกินจะทน ฉันสวมเสื้อผ้ากลับ ติดเกาะ ช่างเป็นคำที่เหมาะเจาะอะไรอย่างนี้ ฉันจะกลับไปข้างนอก
จากคุณ :
นารูมิ
- [
20 ต.ค. 46 07:37:34
]