ููู^^นวนิยาย_กับ_ชายในฝัน^^

    ร่างที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ขยับตัวเมื่อได้ยินเสียงแม่เรียกให้ไปทานข้าว ฟ่างตัดสินใจปฏิเสธโดยอ้างว่ากำลังไดเอทอยู่ นึกถึงสมัยก่อน แม่ชอบว่าเรื่อยเรื่องที่ฟ่างชอบอ่านนิยาย เพื่อนๆก็ว่าเป็นเจ้าแม่นิยาย ตอนนี้แม่คงว่าฟ่างไม่ได้แล้วแหละ เพราะฟ่างเป็นนักเขียนนวนิยายแล้ว เมื่อฟ่างมองไปที่หน้าจอก็ต้องถอนหายใจเพราะนอกจากหัวเรื่องว่า “ชายในฝัน” แล้วมีแต่ความว่างเปล่า แหมก็ชายในฝันของหล่อนหน่ะ นอกจากต้องหล่อ เท่ห์   สมาร์ท มาดแมน แอนด์ แฮนซัมแล้วยังมีอะไรอีกไหมนะ  อยากให้หน้าตาแบบแบรดพิท ผสมกับ ลีโอนาโด หุ่นเหมือนทอม ครุ้ซ อ้อ แล้วก็นิสัยขรึมๆแบบ แอนดริว เกรกสัน เอ…ยังไม่เพอร์เฟกดีเลย โอ้ย! ปวดหัว ไปๆมาๆก็ยังไม่ได้ลงมือพิมพ์อะไรสักตัว ทำยังไงดีหว่า บ.ก.ก็เร่งอยู่เหย็งๆ  ไม่เอาแล้ว ปวดหัวจัง อย่างนี้ต้องพักผ่อนสมอง ว่าแล้วมือก็ไวทันความคิด ปิดเครื่อง วิ่งไปสตาร์ทรถและขับไปที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเทพอันเป็นที่นัดพบกันของกลุ่มเพื่อนทันที
    “นี่ๆฉันว่าเราไปทะเลกันเถอะ”  พิมุกดาหรือ ไอ้มุกของเพื่อนๆเสนอความคิดหลังจากที่รับรู้ว่าเพื่อนแต่ละคนต่างเครียดเรื่องงาน ทั้งศรยา หรือ ซันนี่ และพาฝันหรือฟ่างต่างเห็นด้วย แม้ว่าเดือนนี้พวกเขาจะไปทะเลเป็นครั้งที่3แล้วก็ตาม
    “ฟ่างๆ ดูนั่น” มุกสะกิดฟ่างให้ดูข้างหน้า อ๋อ!คุณหมอภากรสุดหล่อของฟ่างนี่เอง ยังไม่ทันจะทักก็ได้ยินเสียงแสนจะกวนประสาทการรับฟังดังขึ้น
    “สวัสดีจ๊ะ สาวๆ ช่างบังเอิญจังนะครับที่มาเจอกันได้วันนี้ ผมว่าเป็นบุพเพสันนิวาสแน่ๆเลย จริงไหมครับคุณฟ่าง”  
    แหม  จะใครซะอีกหล่ะ ก็นายชานนท์จอมกวน ยียวน ทะลึ่ง อย่างนี้มีอยู่คนเดียวจริงๆ
    “แหม! คุณนนท์เองเหรอคะ โธ่ สงสัยสายตาฉันสั้นไปหน่อย มองไกลๆนึกว่าทางม้าลายเคลื่อนที่ได้ คุณหมออย่าเดินกับนายนี่บ่อยนะคะ ฉันตกใจแทบแย่” ฮ่าๆๆๆ สะใจดีแท้
    “ผมว่า บางที ผมกับคุณหมออาจจะสูงเกินไปก็ได้นะครับ คุณเลยมองไม่ค่อยชัด ทั้งคุณซันนี่ และคุณมุก ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกตินี่ครับ” นายนนท์ตอบหน้ากวนแสนกวนในความคิดของฟ่าง  
    “หนอยๆๆ มาหาว่าเราเตี้ย โธ่นายยักษ์ดำเอ๊ย!” ประโยคนี้ฟ่างไม่ได้พูดออกมาหรอก เพราะยายซันนี่สะกิดเอาไว้ ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กรอด…
    “ฟ่าง ทำหน้าดีๆหน่อยสิ หมอกรมาด้วยนะ” อุ้ย นี่ถ้าซันนี่ไม่กระซิบเตือน หมอภากรต้องเห็นธาตุแท้ของเราแน่ๆ  ฝากไว้ก่อนเถอะน่า นายชานนท์
    “ผมได้ยินแว่วๆว่าจะไปทะเลกันเหรอครับ” หมอภากรถามยิ้มๆ ทำให้ฟ่างเผลอยิ้มตอบ ก่อนจะรู้สึกตัว “อ๋อ ค่ะ คุณหมอสนใจจะไปกับพวกเราด้วยไหมคะ”
    “ตกลงเลยครับ แหมกำลังเซ็งกรุงเทพอยู่พอดี” ไม่ใช่หมอภากรหรอกนะที่ตอบ นายชานนท์ต่างหากหละ ฮึม…ไม่มีใครถามนายสักหน่อย

    ตลอดการเดินทางบรรยากาศครึกครื้นด้วยอารมณ์ขันของชานนท์ ปะปนไปกับการต่อล้อต่อเถียงของเขากับฟ่าง เมื่อถึงหัวหินต่างคนต่างเก็บสัมภาระแล้วออกมาเดินเล่น เพราะพรุ่งนี้เย็นต้องกลับกรุงเทพ  
    ฟ่างยืนจ้องชานนท์อยู่นานเพราะกำลังคิดกับคำพูดของเพื่อนๆที่ว่าหน้าตาอย่างเขานั้นเป็นพระเอกหนังได้สบาย นี่ยายมุกยังบอกว่า “คุณนนท์หล่อแบบเข้มๆนะ คิ้วหนา ตาคม หุ่นดี แถมฐานนะดีอีกต่างหาก ชายในฝันของบางคนเลยนะ”  แหม!ไม่รู้ทำไมยัยพวกนั้นถึงว่านายนนท์หล่อ นะ แต่สงสัยถ้าเป็นพระเอกหนังต้องชื่อเรื่อง โลกนี้มีแต่กลางคืน แหงเลย
    “ไม่ทราบว่าติดใจอะไรบนใบหน้าผมรึเปล่าครับ นั่นแน่ คุณต้องแอบรักผมอยู่แน่เลย ยอมรับมาดีๆ ผมอาจจะรับพิจารณาก็ได้นะครับ” นายนนท์หันมาเห็นฟ่างมองอยู่พอดี เลยคิดไปโน่น  หึ เอาไว้ดวงอาทิตย์ดับก่อนเถอะย่ะ
    “อ้าว ไปไหนหละคุณ ไม่ต้องเขินหรอก เฮ้ย โยนอะไรมานี่ แหม ไม่มีผ้าเช็ดหน้า ก็ไม่ต้องใช้เปลือกหอยแทนก็ได้ โอ้ย” ชานนท์กระโดดหลบเปลือกหอยที่ฟ่างขว้างใส่ แต่ก็ไม่พ้นเพราะแม่คุณไม่รู้ไปหามาจากไหนเยอะแยะ ขณะที่อีกฝ่ายหัวเราะอย่างเป็นต่อ


    “แหม ตอนกลางวันหัวเราะต่อกระซิกกันมาเชียวนะฟ่าง  นี่หมายความว่าที่คุณนนท์เค้ากวนๆแก เพราะเค้าชอบแกใช่ไหม แล้วแกก็ชอบเค้าด้วยหละสิ” มุกถามฟ่างขณะนั่งดูทีวีตอนค่ำ
    ฟ่างหน้าร้อน เขินจัด เอ…หน้าจะแดงหรือเปล่านี่ แต่เฉไฉทำเป็นไม่ได้ยิน
    “ว่าไงฟ่าง ตอบมาดีๆ” ยายซันนี่ก็อีกคน ถามอะไรก็ไม่รู้
    “อะไรกัน โธ่! ฉันเนี่ยนะชอบนายนนท์ พวกเธอก็รู้ว่าฉันชอบคนที่มีความเป็นผู้นำ ไม่ใช่ขี้เล่นไปวันๆ อย่างนายนนท์นะไม่ใช่สเปก” ฟ่างตอบแก้เขิน แต่คนที่ถูกพูดถึงเดินมาพอดี หน้าที่ทะเล้นอยู่เป็นนิจขรึมลงทันที ชานนท์กัดกรามแน่นและเดินย้อนไปนอกบ้านพักโดยไม่พูดอะไร ทำให้ทั้งสามสาวหน้าเสียไปตามๆกัน
    “ฟ่าง แกไปง้อสิ”
    “ใช่ๆ ไปเร็วฟ่าง”
    “เรื่องอะไร ทำไมฉันต้องง้อ” ฟ่างพูดอย่างคนดื้อไม่ยอมไปง้อชานนท์ซึ่งกำลังนั่งกินเหล้าอยู่ที่ชายทะเล เพื่อนๆต่างสงสัยไปตามๆกันเพราะปกติเขาแทบจะไม่กินเหล้าเลย
    “ทำไมวันนี้กรอกอย่างกับกินน้ำวะ”อธิป เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นมา แต่ไม่มีใครกล้าถามถึงสาเหตุ ท่าทางที่กระด้างไม่พูดจาของชานนท์ทำให้เพื่อนๆนึกกลัว เพราะต่างรู้ว่านอกจากเวลาทำงานที่เขาค่อนข้างจะเคร่งขรึมแล้ว เวลาอื่นๆชานนท์ไม่เคยอารมณ์เสียเลย แล้วยังเป็นคนสนุกสนาน ไม่เคยคิดมาก แล้วก็ไม่เอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัวจนเครียด ต่างคนจึงต่างเดาเหตุผลต่างๆนานา
    บรรยากาศตอนกลับต่างจากตอนมาอย่างลิบลับ เพราะการเงียบขรึมของคนๆเดียวแท้ๆ ทุกคนต่างคิดเหมือนกันว่าทำไมตอนกลับระยะทางช่างไกลเหลือเกิน คนที่อึดอัดที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฟ่าง “ก็แหม คนเคยทะเลาะ ต่อปากต่อคำกันนี่นา เงียบไปอย่างนี้ก็อึดอัดสิ” ฟ่างพยายามหาข้อแก้ตัว แต่ก็ไม่สบายใจมาตลอดทาง ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมง้อก่อนอยู่ดี
    “ฟ่าง ตอนลูกไม่อยู่คุณเอื้อโทรมานะลูก ฝากถามเรื่องต้นฉบับด้วย”
    “ค่ะแม่ เดี๋ยวฟ่างโทรกลับหาพี่เอื้อเอง” พี่เอื้อก็คือบ.ก.คนสวยของหนังสือที่ฟ่างทำงานอยู่ แล้วยังเป็นเพื่อนกันในบางโอกาส ยกเว้นเวลาที่ฟ่างไม่ยอมส่งต้นฉบับ พี่เอื้อแปลงร่างเป็นเจ้านายที่โหดมาก เรียกว่าจากนางฟ้าเป็นนางยักษ์เชียว
    “พี่เอื้อขา…ฟ่างขอเวลาอีกนิดนะคะ”
    “นี่หนูฟ่าง อีกนิดของหนูหนะมันหลายนิดแล้วนะจ๊ะ เอาอย่างนี้ พี่ให้เวลาถึงวันเสาร์ ถ้าไม่เอามาส่ง พี่จะพิมพ์เรื่องของคนอื่น” พี่เอื้อของหนูฟ่างกำลังจะแปลงร่างแล้วสินะ
    “ค่ะๆๆๆ เสาร์นี้เสร็จแน่นอนค่ะ แต่เย็นๆนะคะพี่เอื้อ” ฟ่างต่อรอง
    “ตกลง ห้ามเกินกำหนดนะ พี่จะรอ”
    “จ้า แค่นี้นะคะ เดี๋ยวจะรีบไปเขียนต่อ บ้ายบายค่ะ”
    กริ้ง…กริ้ง เอ…อะไรอีกหละทีนี้
    “ฟ่างเหรอ มุกนะ รีบมาที่ร้านโอเค คอฟฟี่เร็ว รีบมานะ”
    “อ้าว วางสายไปซะแล้ว งานก็เลยจะไม่เสร็จ เอ แต่ถึงจะเขียนต่อก็นึกไม่ออก” เมื่อได้ข้อแก้ตัวให้กับตัวเองแล้ว ฟ่างก็รีบไปที่ร้านกาแฟ สถานที่นัดพบแห่งที่สองของพวกหล่อน

    “เฮ้ย ฟ่าง ทำใจดีๆนะ ฉันว่าคุณหมอกับคุณเกศอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้” ซันนี่ปลอบฟ่างหลังจากที่คุณหมอภากรเดินออกจากร้านพร้อมพยาบาลสาวสวยที่ชื่อเกศกนก
    “เพื่อนที่ไหนเค้าเดินจับมือกันอย่างนั้น แล้วพวกแกไม่เห็นตอนที่ป้อนไอติมกันเหรอ แหม ขนาดนั้นหน่ะ ไม่ต้องสงสัยแล้วแหละว่าเป็นอะไรกัน โอ้ย  ก็มันจริงนี่นามาหยิกฉันทำไม   ไอ้ซันนี่ โอ้ย อีกแล้ว”
    “เออ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ก็ฉันแค่ชื่นชมหมอกรก็แค่นั้น เค้าจะไปมีแฟนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันปลื้มคุณหมอเหมือนปลื้มดารา ไม่คิดว่าจะได้เป็นแฟนกับเค้าสักหน่อย” ฟ่างพูดหน้าเฉย ทำให้เพื่อนๆต่างมองอย่างสงสาร เพราะคิดว่าฟ่างพูดปลอบใจตัวเอง
    สรุปว่าวันนั้นฟ่างอิ่มหนำสำราญกลับบ้านเพราะทั้งมุก และซันนี่ต่างช่วยกันสั่งอาหารที่ฟ่างชอบมาให้ แล้วมีเหรอที่หล่อนจะปฏิเสธ
    “เอ ไหนว่าคนอกหักแล้วจะกินข้าวไม่ลงหว่า แล้วทำไมเรากินได้มากเท่าเดิม เออ มากกว่าเดิมอีก แหม ว่าจะได้ลดความอ้วนสักหน่อย” ฟ่างพูดกับตัวเองขณะนั่งพิมพ์นิยาย เอ๊ะ นอกจากทานข้าวได้ตามปกติแล้ว ทำไมสมองมันแล่นอย่างนี้หว่า……..
    ในที่สุดนิยายเรื่อง “ชายในฝัน”ของฟ่างก็แต่งเสร็จ หลังจากส่งต้นฉบับและได้รับคำชมเชยจากพี่เอื้อคนสวยเรียบร้อย รอลงพิมพ์ได้เลย ฟ่างก็เดินหน้าบานออกจากบริษัท และได้พบกับคุณหมอภากร ซึ่งมากับคุณเกศกนก จริงอย่างที่มุกว่า สวีทหวานจ๋อยกันอย่างนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นอะไรกัน
    “คุณฟ่าง สวัสดีครับ”
    “คุณหมอ สวัสดีค่ะ นั่นคุณเกศใช่ไหมคะ”
    “สวัสดีค่ะ คุณฟ่าง คุณหมอเคยพูดถึงบ่อยๆ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยทักอย่างเป็นมิตรและไม่เสแสร้ง ฟ่างก็ไม่อาจเป็นนางมารร้ายได้หรอก
    “วันพุธนี้เชิญคุณฟ่าง และเพื่อนๆไปร่วมงานหมั้นของผมกับเกศด้วยนะครับ กระชั้นชิดไปหน่อย แต่จัดกันอย่างเรียบๆ มีแต่คนกันเองไปครับ”
    “ยินดีด้วยค่ะ ฟ่างไปแน่นอน” ฟ่างตอบ และยิ้มอย่างจริงใจ เอ…มีแต่คนกันเองไป แล้วนายชานนท์จะไปไหมน้า
    แปลกจังทำไมฟ่างถึงตั้งตารอให้ถึงวันพุธเร็วๆจังเลย แล้วยังเตรียมหาชุดสวยไว้อีก ไม่เห็นกังวลหรือเสียใจเหมือนที่มุก กับซันนี่พูดเลย หรือว่าอยากเห็นหน้าใครกัน เฮ้ย!ไม่ใช่ๆๆๆๆเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เรื่องอะไรต้องอยากเห็นหน้านายนั่นด้วย ไม่ใช่สักหน่อย










    จากคุณ : ก้านตอง - [ 20 ต.ค. 46 18:44:25 A:202.183.136.226 X: ]