มิตรภาพที่เริ่มต้น (ฉบับปัดฝุ่น)

    เคยโพสไว้ จบในตอนอยู่แล้วในครั้งแรก

    แต่คิดถึงตัวละครเลยหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่คะ

    +++++++++++++++++

    โยธกาวางถุงพลาสติกใบใหญ่อย่างกระแทกกระทั้น เสยผมยาวหยักศกให้เข้ารูป
    ปลายจมูก ไรขมับชื้นไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เกาะพราวจนต้องใช้หลังมือเช็ดเบา ๆ
    ทรุดตัวนั่งบนพื้นไม้ขัดมันอย่างอ่อนละโหย

    น้ำสีเขียวอ่อนในแก้วใสทรงสูงมีน้ำแข็งลอยฟ่องชวนให้กระหาย
    หล่อนหยิบยกขึ้นมาดื่มอัก ๆ ราวกับขาดน้ำมานานหลายวัน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบเตยกระทบจมูก
    คนดื่มเลยสูดกลิ่นและลิ้มรสอย่างชื่นใจ เมื่อได้กลับมาอยู่ในบรรยากาศเก่า ๆ ของบ้านไม้หลังเล็ก
    ทางแถบชานเมืองนนท์แห่งนี้

    “จะหยิบจะวางอะไรให้มันเบา ๆ หน่อยเรา แล้วนี่หนีไปเที่ยวทะเลที่ไหนมาหา
    หอบปลาหมึกกุ้งแห้งมาเต็มเชียว”  
    พี่สาวคนโตอดบ่นไม่ได้ หยิบถุงกุ้งแห้งสีส้มอ่อนตัวโตน่ากินออกมาจากถุงใบใหญ่
    ตามด้วยปลาหมึกตัวแบนมัดโตที่ตากแห้งอย่างดี

    “เที่ยวไหน ไม่ได้ไปซะหน่อย”  หญิงสาวว่าเสียงสะบัด คล้ายไม่ถูกใจอะไรสักอย่าง

    “อ้าว! แล้วเราเอาของพวกนี้มาจากไหน”  
    พี่คนรองสงสัย รินน้ำใบเตยจากเหยือกใส่แก้วที่เหลือแต่น้ำแข็งให้ใหม่
    คนเป็นน้องเลยตอบสนองด้วยการดื่มทีเดียวเกือบหมดแก้วก่อนตอบคำถาม

    “ของตอบแทนกระท้อนเมื่อเดือนที่แล้วไง พี่แก้ว พี่เข็มคิดดูดิ
    ให้กุ้งแห้งให้ปลาหมึกโยไม่ว่าแต่นี่เล่นให้ปลาเค็มมาด้วย
    กว่าจะหอบมาได้ลำบากแทบตายขึ้นรถยูโรก็ไม่ได้ต้องหารถธรรมดามากว่าจะถ่อมาถึงนี่
    แค้นคนให้จัง”  คนเป็นน้องไม่พูดเฉย ๆ แต่หยิบหางปลาอินทรีย์ตัวยาวยกให้คนเป็นพี่ดูทั้งตัวอีกด้วย

    คนเกิดก่อนสองคนหัวเราะชอบใจ  “เพื่อนบ้านคนไหนล่ะ พี่ศรี หรือคุณปรีดา”  
    คนพูดนึกถึงเพื่อนบ้านของน้องสาวที่เคยเห็นหน้าและคุยด้วย

    โยธกาส่ายหน้าปฏิเสธ  “ไม่ใช่พี่สองคนนั่นหรอกพี่แก้ว
    แต่เป็นคนข้างห้องอีกด้านหนึ่งของโยต่างหาก ตั้งแต่คราวโน้นที่เอากระท้อนไป
    โยเอาให้เขาด้วยแล้วเขาก็หายหน้าหายตาไป ห้องก็ปิดไว้เหมือนไม่มีคนอยู่
    นึกว่าหมดกรรมไม่เจอกันแล้ว”  หล่อนบอกกับพี่สาว นึกถึงโน้ตแผ่นเล็ก ๆ
    ลายมือตัวโตโย้หน้าเย้หลังของเจ้าของไม่ได้

    “มั้ยล่ะ”  พี่แก้วร้องออกมา  “พี่บอกเราแล้ว ยังไงพี่ฝากขอบคุณเขาไปด้วยนะ
    อุตส่าห์มีน้ำจิตน้ำใจซื้อของมามากกว่าราคากระท้อนที่ให้ไปอีก”  
    นึกปลื้มกับความคิดที่คะยั้นคะยอให้น้องสาวหอบหิ้วของจากสวนหลังบ้าน
    ไปฝากเพื่อนบ้านจนรู้จักมักคุ้นไม่ใช่คนแปลกหน้าที่รู้จักเพียงแค่เดินสวนกันไปมาเท่านั้น

    หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
    หันไปคว้ากล้วยลูกเล็กขนาดใหญ่กว่านิ้วก้อย เปลือกสีเหลืองทองกลิ่นหอมมาปอกเข้าปาก
    เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยไม่ยอมพูดถึงชื่อเจ้าของของฝากที่หล่อนขนมาจากห้องให้เสียอารมณ์


    ชายหนุ่มร่างสูงผุดลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้หวายบุนวมนุ่มตัวใหญ่ ริมสวนหย่อม
    เมื่อเห็นใบหน้าคุ้น ๆ ที่เขาเจอเมื่อเดือนที่แล้ว เดินหอบหิ้วถุงใบโตเดินเลี้ยวพ้นไม้ใบเขียวเข้ามา
    รอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปากก่อนที่จะพาขายาว ๆ ของตัวเองก้าวเข้าไปหา

    “หวัดดีครับ”  

    หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ วี่แววไม่แน่ใจฉายฉานชัดเจนจากตากลมโต
    คิ้วเรียวขมวดมุ่นครุ่นคิด ก่อนอุทานเสียงเบา

    “อย่าบอกนะครับว่าเวลาแค่เดือนเดียวทำให้คุณถึงกับลืมคนอย่างผม”  
    ชนแดนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม อารมณ์เด็ก ๆ ในตัวนึกอยากยั่วเย้าคนตรงหน้าหวนกลับมาอีกครั้ง

    ทำเอาคนตรงหน้าสะบัดหน้าหนี เดินเลี่ยงเขาไปอีกทาง
    ไม่สนใจจะโต้ตอบอะไรด้วยผิดกับนิสัยของหล่อนที่รู้สึกอย่างไรก็มักจะพูดไปตามนั้น

    มือใหญ่ดึงถุงที่โยธกาหิ้วอยู่ไปครอบครองซะเอง
    ทำให้หล่อนต้องหมุนตัวกลับหันไปถลึงตาใส่ ดึงถุงกลับมาถือตามเดิม
    แต่เขาก็ยังยื้อยุดเอาไว้กลายเป็นว่าต่างคนต่างดึงเข้าหาตัวเอง
    ไม่ทันมองหญิงสาวร่างบางผิวขาวอมชมพูที่ก้าวเข้ามาหยุดยืนมองทั้งเธอและเขา

    “คุณแดนขาาา”  
    เสียงหวานเยิ้มปานน้ำผึ้งเดือนห้าทำเอาโยธกาปล่อยมือหันไปมองคนมาใหม่ที่ยืนยิ้มหวาน
    ปากแดง แก้มแดงโดยการแต้มแต่งจากเครื่องสำอางค์ยี่ห้อดัง ที่เข้ามาเกาะแขนเพื่อนบ้านของเธออยู่

    จังหวะที่โยธกาปล่อยมือทำเอาชนแดนเกือบหงายหลังลงไปกองกลับพื้นดีแต่ยั้งตัวไว้ทัน  
    อีกมีแรงยุดจากมือบางที่เกาะแขนเขาไว้ด้วย

    “ขอบคุณครับคุณต่าย”  
    ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณตามมารยาทและเบี่ยงการเกาะกุมจากมือบางอย่างแนบเนียน
    ไปยืนข้างเพื่อนบ้านแทน

    “ขอบคุณมากนะค้า ความจริงคุณแดนไม่น่าลำบากเลยนะคะ”  
    หญิงสาวจีบปากจีบคอฉอเลาะอย่างน่ารักตามสไตล์ของหล่อน

    ชนแดนขมวดคิ้ว งุนงงกับการบอกเล่าของสาวสวยที่ชื่อ กระต่าย
    เจ้าของห้องแรกของชั้น19 ชั้นเดียวกับเขา

    “ก็กุ้งแห้ง กับปลาหมึกไงค่ะ พี่ศรีเอามาให้บอกว่าคุณแดนเอามาฝาก”  
    หล่อนเอ่ยยิ้ม ๆ นึกถึงของที่ศรีเพื่อนข้างห้องที่เอาของมาให้
    ของฝากจากชายหนุ่มหน้าตาดีเสียแต่ว่าผิวคล้ำไปหน่อยเท่านั้นสำหรับความรู้สึกของหล่อน

    “แล้วหอบอะไรมาถุงโตเชียวคะ”  หล่อนพินิจถุงใบโตที่อยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่ม

    ชนแดนยิ้มเจื่อนนึกถึงของฝากสามถุงที่ให้เด็กในโรงงานออกไปซื้อมาฝากพี่ศรี
    พี่ปรีดาและเพื่อนบ้านคนใหม่ของเขา พี่ศรีสาวโสดผู้มีจิตใจดีเป็นที่รู้จักของทุกคนในชั้น
    คงจะแบ่งไปให้เธอ เธอเลยคิดว่าเขาฝากมาให้อีกทอดหนึ่งกระะมัง  คงเสียหน้าถ้าเขาปฏิเสธไป  

    “ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่ของโยเขาครับ ไม่รู้วันนี้หอบอะไรมาอีก”  
    เขาเรียกขานชื่อเพื่อนบ้านราวกับสนิทชิดเชื้อมานานหลายปี

    “อุ๊ย! อย่าบอกนะคะว่าวันนี้น้องโยมีของมาฝากพี่กระต่ายอีก”  สาวสวยทักเสียงใส

    โยธกาที่ยืนมองการสนทนาของสองหนุ่มสาวมาตั้งแต่ต้น
    เพราะจะเดินหนีไปของก็ยังอยู่กับชายหนุ่มข้างห้องอยู่ ยิ้มตาหยีใส่หญิงสาวร่วมชั้น

    “พี่ต่ายเดาแม่นจังค่ะ วันนี้โยเอากล้วยเล็บมือนางมาฝากค่ะ ของจากสวนหลังบ้านอีกแล้ว”

    “ขอบคุณนะคะน้องโย แหม…ดีจังไม่ได้ทานตั้งนานแล้ว หาย๊ากยากนะคะ เกรงใจจัง
    อ้อ! ยังไงแวะไปที่ห้องพี่สิคะ พี่ให้หนูแบ่งขนมเจ้าอร่อยจากบางลำภูไปให้พี่ศรีกับคุณปรีดาแล้ว
    เห็นน้องโยกับคุณแดนไม่อยู่ที่ห้องเลยเก็บไว้ก่อน”

    “ขอบคุณคะสำหรับขนม งั้นโยจะแวะเอากล้วยไปให้หนูเลย
    พี่ต่ายจะออกไปไหนค่ะนี่ แต่งตัวสวยเชียว”  

    “อุ๊ย! ปากหวาน พี่มีนัดค่ะ งั้นพี่ไปนะคะเดี๋ยวไม่ทันนัด ไปนะคะคุณแดน”  
    สาวสวยประจำชั้นกล่าวจบแล้วเดินนวยนาถจากไปพร้อมกลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดังประจำตัว

    โยธกามองตาม อมยิ้ม สองสามเดือนที่ย้ายมาอยู่ที่พักแห่งนี้
    ดูเธอจะมีเพื่อนบ้านมากหน้าหลายตา ต่างนิสัยต่างมีวิถีชีวิตที่แต่งต่างกันโดยสิ้นเชิง
    คุณกระต่ายก็เป็นเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่หล่อนพบและได้รู้จัก
    มองเผิน ๆ ดูเธอจะเข้าทำนองสวย เริด เชิด หยิ่ง คล้ายเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัว
    แรก ๆ หล่อนไม่กล้าเข้าไปคุยกับเธอหรอก แต่พี่ศรีแนะนำให้รู้จัก
    พอได้พูดได้คุยเครื่องหมายการค้าที่ห่อหุ้มคุณกระต่ายไว้ก็หลุดลอกมองให้เห็นเนื้อใน
    ด้วยตำแหน่งประชาสัมพันธ์สาวสวยประจำบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
    ทำให้เธอกลายเป็นคนช่างพูดช่างคุย
    เข้ากับคนง่ายออกเป็นคนตลกที่สุดในจำนวนเพื่อนบ้านที่หล่อนรู้จักเสียด้วยซ้ำ

    รอยยิ้มยังไม่จางไปจากใบหน้า เมื่อหญิงสาวหันมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
    หล่อนสะบัดหน้าเดินจ้ำอ้าวตรงไปยังลิฟต์ไม่สนใจถุงไม่สนใจว่าใครจะถืออยู่  

    เออนะ…นี่ก็เป็นเพื่อนบ้านอีกคนของเธอ

    ชนแดนยิ้ม ก้าวเดินตามผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผมฟูที่เลิกยื้อแย่งถุงในมือเขาไปอย่างช้า ๆ


    จากคุณ : พิจิกา...ปลายฝนต้นหนาว - [ 21 ต.ค. 46 13:52:49 A:203.170.157.253 X: ]