=[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 22/2 "ชุมนุมผู้กล้า!"

    เทือกเขา สลับซับซ้อน ยาวเหยียด พาดผ่านป่ารกชัฏ ที่เร้นลับและน่าสะพรึงกลัว มองดูคล้ายมังกรร้ายตัวหนึ่ง ที่ซุ่มซ่อนรอคอยโอกาส มังกรที่แท้รอคอยโอกาสอันใด?

    หรือมันรอคอยโอกาสที่จะผงาดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่!?

    ที่บนยอดเขายังมีสำนักคุนหลุน หนึ่งในหอห้ากระบี่อันเกรียงไกร ตัวสำนักแม้ไม่ใหญ่โตโอ่โถง แต่จัดสร้างอย่าง ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติแห่งขุนเขา มิเพียงเท่านั้นยังแฝงไว้ซึ่งความเข้มแข็ง ครั่นคร้ามที่ยากยิ่งจะเข้าใจ

    คุนหลุน ในร้อยปีที่ผ่านมาก่อกำเนิดยอดฝีมือที่เก่งกาจมากมาย แต่กลับมีน้อยครั้งที่ยอดฝีมือเหล่านั้นถูกเอ่ยอ้างถึง เนื่องเพราะถูกเงาของสำนักอันดับหนึ่งแห่งหอห้ากระบี่บดบังอยู่โดยตลอด จนมิสามารถสำแดงความเก่งกล้าออกมาได้
    ทว่าคุนหลุนที่เปรียบประดุจมังกรร้ายที่ซุ่มซ่อน ย่อมไม่ยอมตกอยู่ภายใต้เงาของผู้อื่นตลอดไป เวลาแห่งการผงาดขึ้นของมันต้องระบือลือลั่น ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงในยุทธจักร และดูเหมือนเวลานั้นใกล้มาถึงแล้ว!

    หวงอี้เฟยสาวเท้าผ่านสิ่งก่อสร้างที่เป็นห้องโถง ลัดเลาะผ่านไปตามภูเขาจำลองและสวนหย่อม ชั่วไม่นานก็ไปถึงสถานที่ด้านหลังของสำนักคุนหลุน มันเงยหน้ามองป้ายที่แขวนอยู่เหนือซุ้มทางเข้า คล้ายกำลังตัดสินใจว่าสมควรเข้าไปหรือไม่ดี ในมือของมันถือจดหมายฉบับหนึ่ง ทีท่าของมันคล้ายกระตือรือร้นยิ่ง ทว่าติดอยู่ที่ป้ายนั้นเขียนเอาไว้ว่า

    "เขตหวงห้ามของสำนัก ผู้บุกรุกมีโทษตาย"

    ดังนั้นแม้เป็นเรื่องรีบด่วน แต่มันอย่างไรไม่คิดตาย จึงได้แต่หยุดยืนอยู่บริเวณนั้น
    ฉับพลันหวงอี้เฟยรู้สึกถึง กระแสสมที่ปั่นป่วนกรรโชกเข้าใส่ใบหน้า อากาศโดยรอบหนาแน่นกดดันมันจนหูอื้อตาลาย เสื้อผ้าแทบจะขาดหลุดออกจากร่าง เสียงระเบิดกึกก้อง เศษธุลีปลิวกระจายโดยรอบ บางส่วนซัดต้องร่างจนปวดแปลบ เงาดำสายหนึ่งพุ่งทะยานออกราวกับมังกรร้าย

    มันรีบคุกเข่ากระแทกลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง หัวเข่าแม้เจ็บปวด ทว่าวาจาที่มันกล่าวออกไปกับแฝงความปิติจนล้นพ้น

    "ขอแสดงความยินดีกับท่านอาจารย์ ที่สามารถสำเร็จกระบวนท่าที่ 18!!"

    เงาร่างนั้นแสดงตัวออกมาและหัวเราะ
    "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ครานี้พวกมันจะได้ รับทราบความร้ายกาจของเรา ตั๋วล่ายสุก"

    ทันทีที่ลงจากเขาบู๊ตึ้ง มันก็เก็บตัวฝึกวิชา เหตุเพราะมันทราบดีว่า ลำพังพลัง ฝีมือ หากไม่พึ่งพายาพิษ และ อาวุธลับแล้ว ยากที่จะต้านทานเพลงกระบี่ไตรลักษณ์ได้

    แต่ไหนแต่ไรมา ตั๋วล่ายสุกชมชอบการต่อสู้ช่วงชิง และเอาชนะผู้อื่น ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเก่งกาจขนาดไหน มันย่อมหาหนทางเอาชนะได้เสมอมา แม้ชาวยุทธทั่วไปจะกล่าวขานถึงมันในแง่ที่ชั่วร้ายและอำมหิต แต่ตัวมันยังมีข้อดีอยู่ประการหนึ่ง
    นั่นคือ…มันเป็นคนซื่อสัตย์เป็นอย่างยิ่ง!!!

    หากบอก ตั๋วล่ายสุกเป็นคน สัตย์ซื่อ??? ผู้คนย่อมมิเชื่อถือคำพูดนี้เป็นอันขาด ถึงกับมีบางคนมองผู้คนที่คิดเช่นนั้นว่าเป็นคนวิกลจริต

    หากแต่คำพูดนี้กลับเป็นความจริง!!!

    มันเป็นคนสัตย์ซื่อ ทั้งยังซื่อสัตย์อย่างยิ่ง เพียงแต่มันเพียงซื่อสัตย์ต่อตนเอง !!!

    ชั่วชีวิตมันผ่านการต่อสู้น้อยใหญ่มานับครั้งไม่ถ้วน หลายครั้งที่มันพ่ายแพ้ มันไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ ยังอ้างโน่นอ้างนี่อยู่ตลอด แต่กับตัวมันเอง มันกลับยอมรับ และกลับมา คิดค้นหาหนทางจน หวนมาเอาชนะได้แทบทุกครั้ง
    เพื่อชัยชนะแล้ว มันไม่เคยยึดติดวิธีการ ไม่ว่า การใช้พิษ อาวุธลับ หรือแม้แต่ เล่ห์เหลี่ยมกลโกง มันล้วนยินดีใช้

    นี่กลับทำให้ มัน "ตั๋วล่ายสุก" พัฒนาฝีมือจนยิ่งใหญ่มาได้จนทุกวันนี้ …

    "อาจารย์ ตุลาการเที่ยงธรรม ส่งจดหมายเชิญไปปรึกษาหารือ ที่บู้ตึ้ง"

    "ดี" มันแค่นเสียงตอบ

    "เตรียมตัวออกเดินทางไปเขาบู้ตึ้ง เดี๋ยวนี้"

    ------------------------------------

    ขุนเขาตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า ยากจะหาสิ่งใดมาประชันเปรียบเทียบ ทว่าขุนเขาแม้ยิ่งใหญ่ เวลานี้กลับมีสิ่งปลูกสร้างที่หาญกล้ามาเทียบเทียมขุนเขาใหญ่ สิ่งก่อสร้างนี้ถึงกับเป็น…โรงเตี๊ยมหลังหนึ่ง!!!

    โรงเตี๊ยมกว้างใหญ่และโอ่โถง ห้องหับประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่งดงาม สูงค่า และเป็นหนึ่งในโรงเตี๊ยมสาขาของ…พรรคฉิกจับอิด!!! หลายปีก่อน ที่แห่งนี้เป็นเพียงเพิงน้ำชาเล็กๆ แห่งหนึ่ง ผู้คนผ่านไปมาไม่มากนัก แต่ ณ เวลานี้กลับเเปรเปลี่ยนไป สถานที่คึกคัก ทั่วบริเวณมีข้าวของวางขายเรียงราย ผู้คนคับคั่งราวตลาดสด

    ภายหลังโรงเตี๊ยม ฉิกจับอิด ตั้งขึ้น ผู้คนมากหน้าหลายตาที่จำเป็นต้องผ่านมายังเส้นทางสายนี้ ได้แต่เข้าพักในที่นี่ เนื่องเพราะภายในรัศมียี่สิบลี้ไม่มีโรงเตี๊ยมอื่นอีก ผู้คนเริ่มแรกคล้ายถูกบังคับใช้บริการ ทว่าเมื่อได้เข้าพักแล้วล้วนติดใจในบริการอันยอดเยี่ยม ความสะดวกสบายหรูหรา ครั้งต่อไปหากจำเป็นต้องผ่านเส้นทางสายนี้ ล้วนเจาะจงพักโรงเตี๊ยมของฉิกจับอิด!

    ดังนั้นการค้าของโรงเตี๊ยมจึงดีเป็นพิเศษ ผู้คนเข้าพำนักและดื่มกินไม่ขาดสาย ชาวบ้านพ่อค้าแม่ขายยึดเอาทำเลแห่งนี้เป็นแหล่งค้าขายแห่งใหม่ อาศัยบารมีโรงเตี๊ยม ฉิกจับอิด ที่ผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาใช้บริการ ก็พลอยได้ค้าขายของเล็กๆน้อยๆ กับแขกเหล่านั้นไปด้วย

    ทว่าทั้งหมดกลับ ไม่ใช่สามารถค้าขายได้โดยอิสระ  โรงเตี๊ยมฉิกจับอิด ยังคิดค่าเช่าและจัดแบ่งพื้นที่ให้กับพวกมันด้วย ร้านใดอยู่ใกล้ชิด ผู้คนผ่านไปมาได้สะดวก ก็คิดค่าเช่าในราคาสูง ร้านที่อยู่ห่างออกไปค่าเช่าก็ถูกลง ชาวบ้านทั้งหลายล้วนยินดีจ่าย เนื่องจากทำเลดังกล่าวดีเยี่ยม สามารถค้าขายได้กำไรงดงาม มีบ้างที่ไม่ยินยอมจ่าย ด้วยเหตุผลว่า นี่ไม่ใช่ที่ของ พรรคฉิกจับอิด แต่คนเหล่านั้นล้วนอยู่ไม่ได้นาน ด้วยสาเหตุนานาประการ!

    พรรคฉิกจับอิด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พรรคฉิก ทำการค้าจนกิจการใหญ่โต มีโรงเตี๊ยม สำนักคณิกา โรงจำนำ สำนักคุ้มกันภัย นับพันๆ แห่ง แต่น่าประหลาดที่ว่า ทุกแห่งใช้ชื่อเพียง ชื่อเดียวคือ ‘ฉิกจับอิด’

    โรงเตี๊ยมฉิก ใหญ่โต หรูหรา เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีอยู่ไม่กี่แห่ง แต่ทว่า เดี๋ยวนี้ มีนับพันแห่ง ในหลายมณฑล พรรคฉิก ได้จัดงานเฉลิมฉลอง โรงเตี๊ยมแห่งที่ สองพัน ไปเมื่อสามเดือนที่แล้วนี้เอง!

    แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 46 21:23:26

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 22 ต.ค. 46 21:11:45 ]