หญิง กลับถึงบ้านเมื่อไหร่โทรมานะ
ชาย ได้สิ
หญิงวางโทรศัพท์ยิ้มอย่างสบายใจ นี่เป็นอีกวันนึงที่หญิงโทรคุยกับชายหลังจากคบกันมาสามปี หญิงเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งหน้าที่การงานไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนัก เป็นคนขี้เหงาเกลียดการอยู่คนเดียว และชายเป็นทหารหนุ่มซึ่งใช้ชีวิตไปวันๆ แต่มีความคิดละเอียดอ่อน อ่อนไหว ช่างฝัน ชายรู้จักกับหญิงผ่านทางโปรแกรมแชท โปรแกรมหนึ่งทางอินเตอร์เนท ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างถูกคอ เหมือนคนคุ้นเคย วันแล้ววันเล่าที่ได้รู้จักพูดคุยกันอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ก็มาถึงจุดหนึ่งซึ่งอาจจะเหมือนคนที่คุยกันในอินเตอร์เนททั่วๆไปนั่นคือการนัดเจอ หญิงกับชายนัดเจอกันที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ ทั้งสองพกพาภาพฝันจากการคุยในโปรแกรมแชท คาดหวังไว้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งคงจะเป็นเช่นอย่างที่ตนเองคิดไว้ การพบกันครั้งแรกผ่านไปด้วยดี พร้อมทั้งคิดไว้ว่างคงมีครั้งต่อๆไป จากนั้นก็มีการติดต่อกันอีกอย่างต่อเนื่อง หญิงรู้ตัวว่า เริ่มมีความรู้สึกที่ดีๆให้กับเขา จากการพูดคุยกันทุกๆวัน วันละหลายๆครั้ง ดังเช่นใครๆพูดกันว่าคนเราเมื่อมีรักก็มักจะมีทุกข์ ทุกข์ของหญิงนั้นเกิดจากความรู้สึกตัวเองทั้งสิ้น คิดว่าเขาคงจะรู้สึกดีๆเหมือนกับเรา จึงทำให้เกิดการหึงหวงเนื่องจากกลัวการสูญเสียชายไปเหมือนดังเช่นเพื่อนชายคนอื่นๆที่หญิงเคยคบมา ไม่อยากให้ชายให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนอีกนอกจากตัวเอง
ตู๊ดๆ........................... หญิงฟังเสียงสัญญาณเรียกไปอย่างกระวนกระวายใจ
ทำไมไม่รับสายนะ หญิงคิดอย่างหงุดหงิด แล้วกดโทรศัพท์มือถือเรียกหมายเลขของชายไปอีกหลายครั้ง
ฮัลโหล
เมื่อกี๊ทำไมไม่รับโทรศัพท์ หญิงต่อว่า
ก็กำลังติดสายคุยกับเพื่อนอยู่
เพื่อนเหรอ รับสายก่อนแล้วก็บอกได้นี่นาว่ายังไม่ว่าง
คราวหน้าแล้วกันนะๆๆ ชายพยายามที่จะไม่ให้หญิงโกรธ
การคบหาก็ยังเป็นแบบนี้เรื่อยไป หญิงก็ยังมีท่าทีหึงหวง แล้วชายก็ยังใจเย็นขบขันกับท่าทีของหญิง ไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเบื่อหน่าย แต่แล้วจนกระทั่งครั้งหนึ่งหญิงก็โทรหาเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้ชายกลับไม่รับโทรศัพท์ แล้วยังปิดเครื่องเสียอีก หญิงก็พยายามโทรหลายครั้ง จนกระทั่งโทรศัพท์ถูกเปิดขึ้นมา
ทำไมต้องปิดโทรศัพท์ด้วย
ติดสายอยู่ คุยโทรศัพท์บ้าน เสียงโทรศัพท์ดังเลยคุยไม่รู้เรื่องต้องปิด ชายตอบ
คุยกับใคร สำคัญอะไรนักถึงกับต้องปิดมือถือ หญิงรีบถามด้วยความไม่สบายใจ
เพื่อนน่ะสิ
คนไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย
ผู้หญิง
หญิงจึงได้รับรู้ต่อจากนั้นมาว่า ชายได้มีการติดต่อกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งรู้จักทางอินเตอร์เนทเช่นกัน แต่ว่าได้แต่พูดคุยยังไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ความรู้สึกของหญิงนั้นมีแต่ความสับสนในใจ เนื่องจากไม่เคยรับรู้มาก่อนว่ามีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตของชาย จากนั้นทุกวันหญิงจึงโทรคุยกับชายเหมือนพยายามจะจับผิด เฝ้าถามตลอดว่าคุยกับใครบ้าง มีใครโทรมาหาหรือเปล่า ชายเองก็ได้แต่บ่ายเบี่ยงว่าไม่มีใคร หลายครั้งที่หญิงเฝ้าสังเกตความเป็นไปของชาย พบว่าได้ติดต่อคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเป็นพิเศษ หญิงเองก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่าคงไม่มีอะไร เขาคงเป็นแค่เพื่อนกัน เขายังรู้สึกดีกับเราเหมือนเดิม แต่ว่าวันแล้ววันเล่าที่เฝ้าบอกตัวเองอยู่เช่นนั้น มันช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้พบเจอ ชายยังคงพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้นสนิทยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งความอดทนของหญิงจึงได้ถึงที่สุด โทรคุยกับชายแล้วสอบถามถึงความจริง
ตกลงคิดกับคนนั้นแค่ไหน
ก็ยังไม่มีอะไร แค่คุยโทรศัพท์เอง เขาจะเป็นคนยังไง ดีหรือไม่ดีก็ยังไม่รู้
แล้วกับหญิงล่ะ
ชายเงียบไปพักใหญ่ หญิงคิดว่ายังไงล่ะ
หญิงนิ่งคิดไม่รู้จะบอกความรู้สึกออกไปยังไง ไม่แน่ใจเหมือนกัน อยากให้บอกจะได้รู้ไง
ชายรู้ว่าหญิงคิดกับชายยังไง ถ้าไม่รู้เลยจะคุยกันได้จนป่านนี้หรือ ไม่อยากทำอะไรให้หญิงต้องเสียใจ
ถ้ารู้แล้วงั้นก็บอกหญิงสิ ว่าสิ่งที่หญิงคิดน่ะ พอจะมีหวังบ้างมั้ย
ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันไปก่อนสิ หญิงตอบ
หญิงเริ่มรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ถามกลับไปด้วยเสียงสะอื้นไห้ แสดงว่าหญิงไม่มีความหวังใช่มั้ย แล้วต่อไปล่ะ หญิงยังจะหวังได้มั้ย
ชายรู้ว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแบบนี้สักวัน ที่หญิงถามอยู่หลายๆครั้งถึงได้ตอบเลี่ยงไปเพราะไม่อยากให้หญิงเสียใจนะ หญิงอย่าโทษตัวเองนะ ชายผิดเองทั้งหมดหญิงไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย ชายตอบด้วยเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ เราก็คบกันแบบนี้เหมือนเดิมไง อนาคตเป็นยังไงยังไม่แน่นอนหรอก อย่าเพิ่งไปคิดให้ไม่สบายใจสิ
ชายเป็นอะไร ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้น ร้องไห้หรือเปล่า หญิงถามด้วยความแปลกใจ
ไม่เป็นไร แต่หญิงอย่าคิดมากนะ อย่าคิดทำอะไรไม่ดีด้วย ไม่งั้นชายจะเสียใจมากกว่านี้ ชายตอบด้วยเสียงสั่นเครือเช่นเดิม
หญิงไม่เป็นไร ไม่อยากทำให้ชายต้องเสียใจเลย แต่ว่านี่เราจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย หยุดร้องไห้กันก่อนดีกว่าเนอะ หญิงหัวเราะตอบทั้งน้ำตา ชายหัวเราะตอบเช่นกัน คืนนั้นเป็นคืนที่แปลกที่สุดตั้งแต่คบกันมา ความรู้สึกของหญิงทั้งเศร้าใจ ทั้งอบอุ่นใจ เพราะที่ผ่านเพื่อนชายหลายคนที่เคยคบหาเวลาบอกเลิกกันไม่มีใครที่อยู่เคียงข้างเวลาหญิงกำลังร้องไห้เช่นนี้ ไม่เคยมีใครร่วมร้องไห้ด้วยกัน ปลอบโยนซึ่งกันและกัน
คุณศักดิ์สิทธิ์คะคุณคิดยังไงเกี่ยวกับความรักคะ เสียงคุณแหม่มสุริวิภาที่กำลังสัมภาษณ์คุณศักดิ์สิทธิ์ แท่งทองดังขึ้นจากในทีวี
ผมคิดว่าความรักก็เหมือนดวงดาวนะครับ ถึงแม้จะเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง แต่ก็ไม่เคยจางไปจากใจ คุณศักดิ์สิทธิ์ตอบ
หลังจากนั้นหญิงไม่ได้ยินอะไรอีกแล้วนอกจากประโยคนั้น ใช่สินะ เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง แต่ก็ไม่เคยจางไปจากใจ เหมือนอย่างเช่นความรู้สึกของหญิงตอนนี้ ถ้าอย่างนั้นแล้วเราจะมัวเศร้าอยู่ทำไม ในเมื่อเขาไม่ได้หายไปไหน แต่ยังอยู่ในใจของเราอยู่เสมอแบบนี้ หญิงคิด พร้อมกับกดโทรศัพท์หาชาย พูดคุยกันอย่างสบายใจเหมือนกับว่าเรื่องที่ผ่านมานั้น เป็นแค่ฝันไป....
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 46 12:29:32
จากคุณ :
babybabe
- [
24 ต.ค. 46 19:07:58
]