หลังจากค่าย DTAC ตีตลาดโทรศัพท์มือถือจนสะเทือนวงการสื่อสารมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน จนทำให้ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง AIS ของชินวัตร ต้องปรับตัวตามอย่างใหญ่เพื่อรักษาตลาดของตัวเองไว้ อีกทั้งมีน้องใหม่อย่าง Orange ลูกครึ่งอเมริกาเข้ามาตีตลาดในเมืองไทยอีกระลอกหนึ่ง ที่ค่าโทรถูกกว่า ใช้ง่ายกว่า และโหมโฆษณาอย่างหนัก ภาพในทีวีก็ติดตาคนดูกับไอเดียที่เก๋ไก๋ของครีเอทีฟ แหวกแนวออกมาอย่างมีชั้นเชิง คราวนี้ส่งผลให้ DTAC กับ AIS ต้องปรับตัวตามอย่างหนัก เพราะแนวคิดของ AIS คือ แรงชัดทั่วไทย ด้วยกำลังส่ง 2 วัตต์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนค่ายอื่นมีกำลังส่งแค่ 1.5 วัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8 กิโลเมตร ส่วน DTAC ก็แข่งในเรื่องค่าโทรที่ถูกกว่าและเป็นธรรม พอ Orange มาตีตลาดก็เน้นที่ถูก สามารถคุยกันได้นานขึ้น สื่อความหมายทางคำพูดได้ดีกว่าเพราะสามารถคุยได้นานขึ้นกว่าเก่า จะเห็นได้ว่ามอเตอร์ไซต์รับจ้างปากซอยก็มีโทรศัพท์แล้ว ไม่รวมถึงยายสียายมีตามบ้านนอกก็มีโทรศัพท์ใช้ ส่งผลให้องค์การโทรศัพท์ที่ถือว่าเป็นโทรศัพท์บ้านนั้นก็ต้องงัดกลยุทธ์มาสู้เช่นกัน โดยโทรทางไกลให้กด 1234 นำหน้าแล้วกดเลขที่ต้องการโทรลงไป จะเป็นการประหยัดอย่างมาก และมิหนำซ้ำก็ยังถือสิทธิ์ในการออกโทรศัพท์มือถือในระบบ 1900 เพียงผู้เดียวอีกด้วย
LOVE PHONE
เมย์ เรามีเครื่องใหม่แล้วนะ ชายอวดโทรศัพท์มือถือกับแฟนสาว
หน้าจอสีด้วย อุ้ยสวยจังเลย ขอดูหน่อยสิ เธอตาโตราวกับเจอสิ่งอัศจรรย์ของโลกแย่งไปจากมือของแฟนหนุ่มอย่างตื่นเต้น เจ้าของยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจ ถ่ายรูปได้ด้วยใช่ไหมชาย เจ้าของไม่ตอบเพราะคิดว่าเธอคงเห็นภาพเขาบนหน้าจอแล้ว เธอพลิกกลับไปมาอย่างไม่รู้เบื่อ สวยจัง อยากได้สักเครื่องจัง ขอเมย์เครื่องหนึ่งได้ป๊ะชาย สายตาเธอออดอ้อนปนวิงวอนรอคำตอบ และมักจะได้ผลเสมอกับชายคนนี้
เดือนหน้าพี่จะซื้อให้เมย์ เอาเป็นว่าเป็นของขวัญวันเกิดดีไหม ชายบอก เธอตาโต ยิ้มอย่างลิงโลด กระโดดตัวลอย ตะโกน ไชโยเสียงดังเป็นเด็ก เพราะกลั้นดีใจไม่อยู่ ชายมองดูด้วยความเอ็นดู ส่ายหน้าเหมือนระอาเต็มประดา แต่ความจริงแล้วยิ้มในใจ และภูมิใจเป็นหนักหนา รู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นเธอมีความสุข บ้างครั้งอาจดูเป็นเด็กไปหน่อยแต่ก็ทำให้เขายิ้มได้เสมอ
ชายเป็นหนุ่มหล่อ ผิวขาว หน้าตาดี จบวิศวะคอม ฯ จากพระจอมเกล้าลาดกระบัง ทำงานอยู่ที่มาบตาพุดเงินเดือนเกือบสามหมื่น ส่วนเมย์เป็นแม่ค้าลูกคนจีนในจังหวัดนครปฐม ถึงจะอยู่ไม่ไกลกันมากนักแต่ก็ดูห่างเหินกัน เหตุผลจากงานที่ทำ
เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะ นานแล้วที่ไม่ได้ทานข้าวกับชายหนะ ทิ้งเมย์ให้อยู่คนเดียวนานแล้วนะ ชายใจดำมากรู้ไหม เธออ้อนอีกรอบ และก็ได้ผลอีกเช่นกัน เย็นวันนั้นเมย์กับชายก็ออกไปทานข้าวด้วยกันอย่างง่าย ๆ แถวองค์พระปฐมเจดีย์ หรือองค์พระของคนครฐม ดูหนังรอบหนึ่ง และจบลงด้วยการค้างคืนที่บ้านของเมย์เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
ต้นเดือนของเดือนต่อมา เมย์เฝ้ารอบุรุษไปรษณีย์ด้วยใจจดจ่อ เห็นแค่ผ่านส่งบ้านนั้นบ้านนี้ใกล้กับร้านอาหารของหล่อน แต่ไม่เห็นของหล่อนเสียที เกือบครึ่งเดือนที่หล่อนเฝ้ารอด้วยความกังวล แล้ววันหนึ่งไปรษณีย์ก็มาจอดมอเตอร์ไซค์หน้าร้านหล่อน
รับพัสดุด้วยครับ คุณเมธินีหรือเปล่าครับ เซ็นต์รับตรงนี้ด้วยครับ เขาบอกอย่างสุภาพ หล่อนรีบเซ็นต์ในช่องรับจนแทบไม่เป็นตัวอักษร ลับหลังไปรษณีย์ไปแล้วหล่อนรีบวิ่งเข้าบ้านแกะกล่องออกดูด้วยความร้อนรน กล่องโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ สีสันบนกล่องสวยงาม หล่อนได้รับมันแล้ว โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่หล่อนต้องการเป็นหนักหนา เป็นของขวัญวันเกิดจากแฟนหนุ่มที่หล่อนรัก คำพูดสั้น ๆ เขียนด้วยลายมือว่า สุขสันต์วันเกิดจ๊ะที่รัก และบรรทัดสุดท้ายลงชื่อ รักเสมอ จากชาย คิดอีกทีเขาก็คงรักหล่อนมากเหมือนกันนะ ที่ยอมซื้อของราคาแพงให้หล่อนด้วยความเต็มใจ ทั้งที่ราคาโทรศัพท์เกือบเป็นเงินเดือนเขาทั้งเดือน หล่อนกุมโทรศัพท์เข้ากับอกซาบซึ้งในน้ำใจของเขาอย่างเหลือล้น สัญญากับตัวเองว่าจะรักเขาเพียงคนเดียว เขาคือความหวัง ความฝัน และความจริงของหล่อน
ตั้งแต่มีโทรศัพท์ หล่อนเรียนรู้การใช้โทรศัพท์ วินัยในการใช้เพื่อจำกัดค่าใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ และเทคนิคลูกเล่นต่าง ๆ ในการสื่อความหมายและส่งแมสเสส เบอร์เดียวที่หล่อนจำได้แม่นยำคือเบอร์ของชาย แฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปที่เห็นคนเก็บกดอย่างหล่อนจะเปลี่ยนพฤติกรรมจากเหงามาเป็นร่าเริง พูดโทรศัพท์ไปยิ้มไปหัวเราะไป จนในที่สุดการพูดกันทางโทรศัพท์กลายเป็นกิจวัตรหนึ่งในการสื่อสารภาษาหัวใจระหว่างกัน เพลงลูกทุ่งดังมาเป็นระยะจากร้านขายเทปซีดีข้าง ๆ ทำให้หล่อนหยุดฟังอย่างไม่ตั้งใจ
โทรหาแหน่เด้อ จำเบอร์โทรน้องได้บ่..... ไม่รู้ว่าเพลงของใคร แต่ความหมายกินใจเหลือเกิน อีกเพลงก็เป็น บ่มีธุระแต่โทรหาเพราะว่าคิดฮอด แลกเหรียญมาหยอดตู้โทรศัพท์ริมทาง... และอีกหลายเพลงที่มีเนื้อหาทำนองเดียวกัน ฟังคำอีสานออกบ้างไม่ออกบ้างก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกรักแท้ ห่วงหาอาทรในน้ำเสียงนั้น
ระวังนะเมย์ มัวแต่พูดโทรศัพท์ คนอื่นคาบไปกินไม่รู้ด้วยนะ เพื่อนแม่ค้าด้วยกันเย้า เธอก็ได้แต่หัวเราะ
จริงนะเมย์ อีติ๋มมันพูดถูกนะ นี่นะ:-)เอ๋ยดูอย่างอีอุ้มสิมันคุยกับผัวมันทุกวันยังไม่รู้เลยว่าผัวมีคนอื่น ก้อมันโทรไปทีไรก็รับสายทุกที ไม่มีพิรุธเลยอ่ะ
นั่นแหละ:-)ผู้ชายหละ มันไม่เคยพอหรอก ยิ่งทั้งหล่อทั้งรวย การงานดีอย่างแฟน:-)นี่ดูให้ดีเถอะ น้ำตาจะเช็ดหัวเข่าเข้าสักวันอีเมย์ :-)แค่แม่ค้าปอสี่นะ:-)
หลายคำพูดทำให้หล่อนเริ่มกังวลกับสัมพันธภาพระหว่างกัน ความกังวลนี้เกาะกุมจิตใจของหล่อนทำให้ความสุขที่เคยมีกลับกลายเป็นหวาดระแวง บางครั้งหล่อนแอบขับรถไปมาบตาพุดเงียบ ๆ ไม่ให้ชายรู้ อยากรู้ว่าสิ่งที่หล่อนคิดไม่ได้เป็นความจริง แต่แล้วก็ไม่มีอะไรให้เห็น นอกจากเป็นการเซอร์ไพร์ซเล็ก ๆ สำหรับแฟนหนุ่มที่เห็นเธอไป
คิดถึงเมย์มากเหลือเกิน นั่นคือคำพูดของเขาขณะอุ้มเธอร่อนอย่างมีความสุข รอยยิ้ม ความสุข เสียงหัวเราะของแฟนหนุ่มทำให้เธอยิ้มออก และมีความสุขเวลาอยู่ด้วยกันจนลืมไปว่าหล่อนมาเพื่ออะไร ความเยือกเย็นของเขาทำให้หล่อนสงบ เขาสุภาพและอ่อนโยนเกินกว่าหล่อนจะกล้าถามว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นนอกจากหล่อนไหม ตอนกลับเขามาส่งพร้อมกับจูบลาอย่างนุ่มนวลและอบอุ่น เฮ้อ ช่างเถอะ เราคงคิดมากไปเอง หล่อนคิด แล้วขับรถกลับครฐม ของหล่อน
เวลายิ่งผ่านไปหล่อนก็ยิ่งคิดถึงเขามากขึ้น หล่อนฝันอยากแต่งงานกับชาย แต่ชายก็ไม่เคยพูดถึงมันเลยสักครั้ง บางวันเดินผ่านร้านเวดดิ้งสตูดิโอแล้วก็อดแอบมองชุดเจ้าสาวไม่ได้ สีขาวบริสุทธิ์ของชุดช่างดูสง่างามแลดูมีคุณค่ามากเหลือเกินในใจหล่อน ยืนมองจากหน้าร้านด้านนอก ครุ่นคิดเนิ่นนานแล้วเดินจากไปเงียบ ๆ หล่อนก็ฝันอยากแต่งงานกับคนที่ตัวรักเหมือนชายหญิงคู่อื่น แต่ก็มีหลายคู่มิใช่หรือที่ไม่มีโอกาสได้สวมมัน สิ่งที่ทำได้คือรอ และรอ รออย่างไม่มีกำหนด เฮ้อ ทรมานเหมือนกันนะ
โทรศัพท์จากชายเริ่มห่างหายไป หล่อนเริ่มหงุดหงิดเสียงตอบกลับอัตโนมัติ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้..... จึงโทรย้ำเป็นยี่สิบสามสิบครั้ง หวังจะให้ชายรู้ว่าเธอหงุดหงิดแค่ไหนที่ไม่ได้ยินเสียงเขา ใจเย็นขึ้นมาหน่อยหนึ่งก็มากดตัวหนังสือทีละตัวส่งเมสเสส ฝากข้อความเสียง ทุกอย่างหล่อนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อติดต่อกับชายให้ได้
ไปไหนวะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ หล่อนฉุนและกราดเกรี้ยว มองอะไรขวางหูขวางตาไปหมด พออารมณ์กราดเกรี้ยวหายไปความวิตกกังวลกลัวเสียชายไปก็เข้ามาแทนที่ ความหวังในการสวมชุดวิวาห์เลือนหายไปจากความฝันทีละนิด ๆ จนเหลือเพียงซากแห่งความฝันตกค้างอยู่ เพื่อนแม่ค้าต้องประณามที่หล่อนใจง่ายและสมน้ำหน้าหล่อนที่ไม่ฟังคำเตือนของพวกเขา เรื่องของหล่อนคงถูกเม้าท์แตกกันอีกหลายเดือนซึ่งหล่อนรับมันไม่ได้หรอก ทำไมนะถึงเป็นอย่างนี้ไปได้
และแล้วเย็นวันหนึ่งโทรศัพท์จอสีและถ่ายรูปได้ของเธอก็ดังขึ้น เสียงที่เธอรอมานาน นานจนไม่อยากรับ หล่อนเอื้อมมือขึ้นดูหน้าจอ ชาย เมมโมรี่บอกต้นสาย หล่อนปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้นอีกหลายกริ๊งเป็นการลงโทษ
โหล เมย์ เมย์ สบายดีไหม ชายพูดเร็วปรื๋อ แต่ก็เงียบจากเมย์ ผมขอโทษเมย์ด้วยที่ไม่รับโทรศัพท์ มีความจำเป็นมากที่ต้องปิดเครื่อง ขอโทษอีกครั้ง กลับไปผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง ผมต้องไปแล้ว ไว้เจอกันนะ ผมรักคุณนะ อยู่ที่นี่ยิ่งคิดถึงคุณมาก หล่อนยังไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็วางสายไปแล้ว สีหน้าที่กำลังงอนกลับกลายเป็นเกรี้ยวกราดอีกครั้ง
โว้ย ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยวะ ทำไม.... หล่อนตะโกนก้องเต็มเสียงอย่างสุดจะกลั้นได้อีกต่อไปแล้ว ขว้างข้าวของทิ้งแตกหักกระจายอย่างบ้าคลั่ง
จากคุณ :
น้ำบ่อทราย (babybabe)
- [
24 ต.ค. 46 19:13:49
]