The mystery of the blue mines เรื่องลึกลับของเหมืองบูล บทที่4+5

    บทที่4 การไปเยือนเหมืองบูล

    ทางเข้าของเหมืองบูลเป็นถนนแคบๆ แยกออกจากถนนพิมบูล่าที่จะไปยังอาร์รารูมา
    ที่ดินของเหมืองบูลล้อมรอบด้วยรั้วเหล็ก สตีฟคิดว่า บางทีอาจจะมีกระแสไฟฟ้าที่รั้วเหล่านั้น
    ที่นั่นมีประตูแคบๆ ถัดจากประตูใหญ่ด้านหน้า หลังประตูแคบๆ นั้นๆ มีอาคารไม้เล็กๆ สำหรับยาม
    มันมีหน้าต่างรอบด้าน สตีฟพยามยามที่จะผ่านประตูเหล็กแคบๆ บานนั้น

    “เฮ้ ! คุณต้องการอะไร ?” ยามในอาคารหลังนั้นมีผมสั้น และหน้าสีแดงใหญ่ สตีฟจำเขาได้
    เขาเป็น 1 ในเพื่อนของบิ๊กแม็ค สตีฟแน่ใจว่าชายคนนั้นก็จำเขาได้เช่นกัน

    “ผม คือ สตีฟ คาร์เตอร์” สตีฟพยายามจะเป็นมิตร “ผมกำลังจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอาร์รารูมา และเหมือง
    ผมอยากจะคุยกับผู้จัดการของคุณน่ะ”
    “อย่าได้หวังเลย!ผู้จัดการของเราไม่ต้องการจะคุยกับคนเช่นคุณ” ตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียด
    “คุณรู้ได้อย่างไร ?” สตีฟถามขึ้น “ทำไมคุณไม่ถามเขาก่อนล่ะ ?”
    “ถามเขาไม่ได้หรอก”ชายคนนั้นหัวเราะดังลั่น “เขาไม่อยู่ และที่นี่ไม่ต้อนรับคุณทุกเวลา คุณเข้าใจไหม”
    “ทำไมล่ะ ?” สตีฟถาม
    “เพราะฉันไม่ชอบคุณ” ชายคนนั้นตะโกนใส่หน้าของเขา “นั่นคือเหตุผล และบิ๊กแม๊คก็ไม่ชอบคุณเช่นกัน
    เพราะฉะนั้นออกไปจากที่ของเราเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นคุณจะเสียใจ ฉันจะสอนบทเรียนที่คุณไม่มีวันลืม ออกไป”
    เขาดึงปืนออกจากกระเป๋า สตีฟยิ้มให้เขา
    “ผมก็ไม่ชอบคุณเหมือนกัน” เขาพูดช้าๆ พร้อมทั้งหันหลังกลับ และเดินออกประตูแคบนั้นไป
    เขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกอิสระเมื่อถึงรถของเขา เขาไม่ชอบที่เดินพร้อมด้วยปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังของเขา
    แต่คนของเหมืองบูลคงจะไม่ต้องการฆาตกรรมด้วยมือของพวกเขาอีกครั้ง – ไม่ใช่ตอนนี้

    เขามองข้ามรั้วไปยังตัวอาคารหลัก มันมีทั้งหมด 4 หลัง 2 หลังนั้นดูเหมือนจะเป็นที่พักของผู้จัดการ
    และเพื่อนของเขา หลังที่ 3 เป็นอาคารที่ค่อนข้างใหญ่ บางทีอาจจะเป็นที่พักของคนงานเหมือง
    ส่วนหลังที่ 4 นั้น อยู่ห่างออกไปจากอาคารหลังอื่น มันทำจากไม้ ดูสูง และแคบ
    สตีฟเดาว่า มันคงจะเป็นทางลงไปสู่เหมือง

    “ทำไมพวกเขาสร้างอาคารบนเหมืองด้วยนะ” เขาคิด เหมืองโอปอลส่วนมากไม่สร้างอาคารทับบน
    ทางลงไปเหมือง เขาอยากจะเข้าไปดูในนั้น แต่มันโง่ที่จะพยายามทำในตอนนี้ ในตอนกลางคืน
    “ฉันคงจะสามารถตัดรั้วเหล็กนั้นได้” เขาคิด “หรือบางทีด้านล่างของรั้ว ฉันอาจจะสามารถรอดใต้รั้วนั้นได้”
    เขามองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นที่ที่ซ้ายมือของประตู ตรงนั้นคงเป็นไปได้ มันอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าเหมืองนัก”

    ทันใดนั้น สตีฟได้ยินเสียงรถ รถเบ็นซ์สีเทาคันใหญ่ขับมาตามถนนที่เป็นทราย แล้วหยุดที่ประตู
    มีคน 2 คนนั่งอยู่ในรถ คนขับมีค่อนข้างดูดีทีเดียว เขามีผมสีดำ อายุราวๆ 40 ได้ ยามเข้าไปในอาคารของเขา
    และเปิดประตู ดังนั้นพวกเขาคงไม่ใช่แขก พวกเขาทำงานอยู่ที่เหมืองนี้

    สตีฟเดินตรงไปที่รถคันนั้น
    “คุณ ดูเวอฟ์ใช่ไหม ?” เขาถาม
    “ใช่” ชายคนนั้นมองเขาอย่างประหลาดใจ
    “ผมคือ สตีฟ คาร์เตอร์ ผมกำลังจะเขียนบทความเกี่ยวกับอาร์รารูมาลงในนิตยสาร ผมอยากจะคุยกับคุณ
    เกี่ยวกับเหมืองของคุณ เหมืองของคุณเป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถวนี้ คุณพอจะคุยกับผมเกี่ยวกับมันได้ไหม ?”

    ดูเวอฟ์ยิ้มให้เขา ยิ้มของเขาดูไม่ค่อยเป็นมิตรนัก “ขอโทษด้วยนะคุณคาร์เตอร์  ผมน่ะยุ่งมาก
    ผมไม่ค่อยมีเวลาหรอกนะ”
    “มันใช้เวลาไม่มากหรอก คุณดูเวอฟ์ ถ้าวันนี้คุณยุ่งมาก พรุ่งนี้ผมจะกลับมาใหม่”
    ดูเวอฟ์ยิ้มไม่เป็นมิตรอีกครั้ง “ขอโทษด้วยนะคุณคาร์เตอร์ ผมยุ่งมาก คุณไปคุยกับเจ้าของเหมืองเล็กๆสิ
    พวกนั้นชอบที่จะพูดคุยกับคนอื่นเสมอ”

    สตีฟมองไปที่ชายอีกคนบนรถ เขาดูแก่กว่าดูเวอฟ์ และมีผมสีขาวโพรน แต่หน้าของเขาดูแปลก
    มันซีดจนใกล้จะขาว ตาของเขาเป็นสีชมพู และมันดูแข็งเหมือนเหล็ก
    “เขาดูเหมือนผี” สตีฟคิด

    ประตูเปิดเรียบร้อยแล้ว ชายผมขาวคนนั้นหันมาดูเวอฟ์ “ไปเถอะ !” เขาสั่ง
    ดูเวอฟ์ทำตามที่เขาบอก รถเบ็นซ์สีเทาเคลื่อนที่เข้าไปยังกลุ่มควันของทราย

    “ใครเป็นคนออกคำสั่งที่เหมืองนะ ?” สตีฟถามตัวเอง “คุณดูเวอฟ์ หรือ ชายแปลกคนนั้น ?”
    “เขาคือ ด็อกเตอร์ แฟรงค์ นักวิทยาศาสตร์ หรือเปล่านะ ? ทำไมเหมืองโอปอลถึงต้องมีนักวิทยาศาตร์ด้วยนะ ?”

    สตีฟนึกถึงสนามบินลับนั้น มันไม่ได้ใช้เพื่อส่งโอปอล โอปอลมีขนาดเล็ก รถบรรทุกขนาดเล็กสามารถ
    นำมันไปยังพิมบูล่า และจากที่นั่นพวกเขาสามารถส่งมันไปยังแอดดิเลด ใช่ สตีฟแน่ใจว่าเหมืองบูล
    ทำอะไรบางอย่าง ที่หนักและใหญ่กว่าโอปอล และพวกเขาส่งมันลับๆ โดยเครื่องบิน แต่ อะไร ?
    “ฉันต้องศึกษาแผนที่ของบริเวณนี้แล้ว” สตีฟคิด “ฉันคุยกับนักวิทยาศาสตร์บางคนก่อนที่จะมายังอาร์รารูมา
    แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบฉันได้”

    เขาส่ายหัวและไปยังรถ เขาไม่สามารถทำอะไรก่อนค่ำ

    ใกล้ๆ กับถนนพิมบูล่า สตีฟสังเกตเห็นมีคนตามเขามา รถคันใหญ่เคลื่อนใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง
    เขาสามรถมองเห็นคนขับ เขาคือบิ๊คแม๊ค พร้อมด้วยชาย 2 คนนั่งถัดจากเขา
    บางทีอาจจะมีมากกว่านั้นทางด้านหลังของรถ
    สตีฟรู้สึกหนาวยะเยือกในใจ เขาไม่สามารถเห็นหน้าพวกมันได้อย่างชัดเจน
    แต่เขาได้ยินเสียงร้องตะโกนของพวกมัน เขาพยามจะขับให้เร็วที่สุด แต่ล้อของเขาติดอยู่บนพื้นทราย

    รถสตีฟเริ่มช้าลงอีกครั้ง รถคันนั้นจึงค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ด้านหลังรถสตีฟ และไม่ช้ามันก็อยู่ด้านข้างของเขา
    บิ๊กแม็คหักซ้ายและเบียดรถของสตีฟตกข้างทาง ทำให้เกิดเสียงเหล็กกระทบกันดังลั่น

    สตีฟหยุดรถทันที และกระโจนตัวไปยังด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว เขาได้ยินเสียงกระสุนผ่านเหนือศีรษะของเขา
    เขาดึงปืนออกจากระเป๋า “อย่ายิงนะ แม๊ค!” เขาได้ยินเสียงร้องตะโกน
    “เอามันออกมาจากรถ พวกเราต้องการความสนุก สอนบทเรียนให้มัน”

    สตีฟผลักประตูด้านซ้ายออก และกระโดดออกจากรถอย่างรวดเร็ว แม็คเปิดประตูด้านขวามืออก
    และร้องตะโกนออกด้วยความโกรธ สตีฟกระโจนไปด้านหน้ารถ และยกปืนขึ้นเล็งบิ๊กแม๊ค
    “นายเสร็จฉันล่ะ บิ๊กแม๊ค” เสียงเขาแข็งกร้าว “นายหรือเพื่อนๆ นายขยับ นายตาย !”

    พวกมันมีกัน 4 คน – บิ๊กแม๊ค และเพื่อนๆ ทั้ง 3 ของเขา ยืนห่างจากสตีฟไม่กี่เมตร
    จ้องมองสตีฟด้วยสายตาอาฆาต เขาไม่แน่ใจว่าจะสามารถให้พวกมันยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นได้ถึงเมื่อไร
    พวกมันดูเหมือนสัตว์ป่าตัวใหญ่ พร้อมที่จะต่อสู้กับเขา

    ทันใดนั้นก็มีรถเข้ามาจอดด้านหลังของพวกมัน – รถตำรวจ
    “มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ ?” ผู้ชายสูง พร้อมหนวดสีเข้ม ออกมาจากรถ
    บิ๊กแม็คหันไปหาเขา  “ก็แค่เล่นสนุกๆ นิดหน่อยกับเพื่อนฉันน่ะ จ่า”
    “สนุก !” นายตำรวจมองอย่างโกรธที่รถทั้ง 2 คัน
    “นายเรียกนี่ว่าสนุกเหรอ ผลักรถตกข้างทางเนี้ยะนะ ? เอารถของนายออกไปให้พ้นทางของฉัน แม๊ค!
    แล้วคุณล่ะ” เขาหันไปพูดกับสตีฟ

    “คุณจะทำอะไรกับปืน ? คุณมีใบอนุญาตหรือเปล่า ?”
    “มีครับ” สตีฟบอก พร้อมเก็บปืนที่กระเป๋าด้านหลัง
    “ถ้างั้น ผมต้องขอดูมัน” เขาตะโกนบอกสตีฟ “ไม่ใช่ที่นี่  แต่เป็นที่สถานีตำรวจ คุณคือใคร ?
    เราไม่ชอบให้มีคนแปลกหน้าอยู่รอบๆ ที่นี่ แล้วยิ่งพวกเขาโบกปืนไปมาด้วย ใช่ไหม ?”
    เขามองไปยังคนจากเหมืองบูล “ถูกเลยจ่า ” 1ในเพื่อนแม๊คร้องบอก พร้อมด้วยเสียงหัวเราะดังลั่น
    “คุณรออะไรล่ะ ?” นายตำรวจหันกลับมายังสตีฟ “ผมไม่ได้มีเวลาทั้งวันมารอคุณหรอกนะ ขึ้นไปบนรถ
    ขับตามผมมา แล้วเอาปืนนั่นมาให้ผมด้วย” นายตำรวจยื่นมือออกมา

    สตีฟส่งปืนให้เขา และขับรถตามนายตำรวจไปยังสถานีตำรวจอาร์รารูมา สตีฟโกรธตัวเอง
    ทำไมเขาถึงไม่คิดว่าคนของดูเวอฟ์จะตามมา ? แล้วตอนนี้ เขาจะต้องอธิบายให้ตำรวจคนนั้นฟัง
    ว่าแท้จริงแล้วเขามาทำอะไรที่นี่ นั่นเป็นสิที่เขาไม่ต้องการจะทำเป็นที่สุด !”

    จบ บทที่4 การไปเยือนเหมืองบูล

    จากคุณ : yingu - [ 25 ต.ค. 46 01:44:37 A:168.120.26.91 X: ]