เรื่องเล่าริมถนนของคนชอบเขียน (ภาคพิศดาร)
ตอน พยาบาทจอมขมังเวทย์ ปะทะ บาบาน่าโบ๊ทมหาประลัย
.....
ณ ปลายฝนต้นหนาว เป็นฤดูที่ดวงดาวเริ่มแข่งแสงทอประกายกันได้สวยที่สุด เพราะเมฆฝนได้จางจากไปแล้วเกือบทั้งสิ้น
คนโสดเจ้าของร้านบุ๊คคอฟฟี่ เหม่อมองดาวดวงหนึ่งจากริมหน้าต่าง ใครจะรู้ว่าเธอกำลังมองหาดาวโจร หรือดาวหมีใหญ่ หรือหมีเล็กอะไรสักอย่างก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คืนนี้เธอเหม่ออยู่เพียงคนเดียว
ภาพฉากทะเลฝันพันดาว ผ่านเข้ามาในสมอง นึกอิจฉาคนที่ได้หลับอุ่นสบายอยู่ใต้ทะเลดาว แสงจากฟ้าย่อมอบอุ่นกระจ่างกว่าแสงเทียมบนดินมากมายนัก
โทรศัพท์รูปหมาเหงายังนอนเงียบอยู่ข้างๆ ก็อย่างที่เคย ไม่มีใครให้เสวนาด้วยหลังจากร้านปิด จนล่วงไปถึงเวลาร้านเปิดอีกครั้งนั่นแล้ว บรรดาสาวเสริฟทั้งหลายจึงมาสร้างสีสันให้แก่ชีวิตสาวใกล้แก่อีกครั้ง
พยาบาลสาวผู้มีวิชาการดองหน้าสูตรลับเฉพาะจนทำให้ตนดูอ่อนกว่าวัยใสสุดๆ ค่อยๆ เอื้อมมือสะกิดเจ้าหมาเหงาเบาๆ ในใจยังหวาดหวั่นว่าคนที่ไม่เคยเจอกัน อาจไม่ยินดีต้อนรับเท่าใด
สวัสดีค่ะ ไร่ทะเลดาวค่ะ ค่ะนัท-เปียร์รุสค่ะ ปลายสายส่งเสียงหวานแวว จนคนโทรแทบจะวางโทรศัพท์ลงเสียเดี๋ยวนั้น
นัทเหรอ พี่หมู-สริงค์นะจ๊ะ
..เป็นไงบ้างงานดอกไม้ เป็นภาพที่น้องยีเอามาให้ดูตอนที่ไปเที่ยวครั้งที่แล้ว แล้วพี่อยากไปบ้างจังเลย
ตอนนี้กำลังเหงาๆ น่ะนัท คนโทรแทบจะกลืนก้อนสะอื้นเอาไว้ไม่ได้ ทำไมหนออารมณ์เหงาจึงช่างทำร้ายอารมณ์กันได้ถึงเพียงนี้
งั้นก็มาเลยสิพี่หมู ช่วงนี้ว่างๆ เหมือนกัน ไม่ต้องตัดดอกไม้ทุกวัน มีเวลาพาเที่ยวเพียบ
มานะพี่หมู
ทางนี้นัทก็เหงาเหมือนกัน
วันๆ ได้คุยอยู่แต่:-)กไม้ เสียงแว่วหวานเจือความแหบพร่าได้ในทันทีเหมือนกัน จนพยาบาลสาวจับได้ว่าความเหงานั้นไม่เคยปรานีใครเลยสักคนเดียว ไม่ว่าคนนั้นจะได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ชวนเพลินสักเท่าใดก็ตาม
ถ้านัทชวนจริง พี่ก็ไปจริงๆ นะนัท
.งั้นไว้มะรืนนี้เจอกันนะ..ไม่แน่ใจว่าจะมีใครไปบ้าง พรุ่งนี้เช้าพี่จะลองถามน้องๆ ดู
จริงๆ ก็ไม่อยากปิดร้าน เผื่อบรรดาลูกหน้าทั้งหลายจะมาชำระบ้างจะได้ไม่มาเก้อ
.พี่ไม่ได้หน้าโลหิตนะนัท..แต่อย่างว่าทำธุรกิจมัวแต่หยวนๆ กันมันก็เจ๊งกันเท่านั้นเอง
..ขอบใจมากนะ ไว้พี่จะโทรไปยืนยันอีกครั้งนะคะ
ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ
เจ้าหมาเหงาไม่ได้มีอาการกระตือรือร้นอะไรเพิ่มขึ้นเลยสักน้อยเมื่อเจ้าของวางสาย ตรงข้ามกับคนโทร ที่ตื่นเต้นจนต้องเหลียวซ้ายหันขวา อยากจะตะโกนบอกใครสักคนว่า
.
ฝากทวงตังค์ลูกค้าให้พี่ด้วยนะน้องๆ
.พี่จะไปหอลิเด่
ขา
พี่หมูว่าอะไรยีนะคะ
ยีขอโทษค่ะ
ยีไม่ได้ตั้งใจแอบฟังว่าพี่แอบโทรเรียกเด็กหนุ่มๆ ร้านจารย์จีมาช่วยเขี่ยหลังด้วยน้ำแข็งหลอด
ยีขอโทษค่ะ
ยีขอโทษจริงๆ นะคะ
สาวน้อยสีสดผู้มั่นคงในบุคลิกใสซื่อ คงไม่รู้ว่าตนพูดอะไรออกมา พอกับคนที่นั่งอยู่ก่อนที่คงหูอื้อตาลายจนไม่ได้ฟังว่าน้องสาวขึ้นมาพูดอะไร หลังจากที่จู่ๆ ก็เปิดประตูห้องเข้ามา
ไปเที่ยวสวนเจ้านัทกันไหมยี
ไปนอนดูทะเลดาวกันสักคืน
สวนพี่นัทเหรอคะ
ไปค่ะไป
.เอ๊ะ
ค้างคืนเหรอคะ งั้นยีคงไปไม่ได้หรอกค่ะ หม่าม้าคงไม่ยอมให้ยีไปค้างอ้างแรมที่ไหน
งั้นเฝ้าร้านให้พี่ด้วยนะจ๊ะ เจ้าของร้านไม่ได้เซ้าซี้อะไรเลยสักนิด จนคนถูกชวนอดรู้สึกไม่ได้ว่าไม่ได้ตั้งใจจริงจังจะชวนอะไร
หนูยีจะลองถามหม่าม้าดูนะคะ ถึงไม่ตั้งใจชวนก็จะเป็นไร?
ถ้าลำบากก็ไม่ต้องนะยี
อยู่ร้านให้พี่นี่แหละ
นะคะ เจ๊หมูยังย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจจะชักชวนอยู่นั่นเอง
@@@@@@@@@@@@@@@@@
สวัสดีค่ะพี่หมู สาวไฮ-โซ นามจ๊ะ-นางสาวซาว์ดเอฟเฟก(โอเลี้ยงแก่ๆ) เอ่ยทักอย่างแจ่มใส
นี่น้องผึ้งระรวย(รวยระรินกลิ่นชา)-กะพี่พลีสพลั่ก(ปีเตอร์ ปลั๊ก)ค่ะ
.ที่จ๊ะบอกว่าจะขอไปทริปนี้ด้วยคนน่ะค่ะ สาวเสียงแปดหลอดยังแนะนำเพื่อนร่วมทางซึ่งไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลยในชีวิต
ค่ะสวัสดีค่ะ
พี่พลีส
เอ่อ
เราไม่เคยติดหนี้ติดสินกันใช่ไหมคะที่ร้านน่ะคะ
.แต่คุ้นๆ กะน้องระรวยนะคะว่าน่าจะติดค่าชาอูล่งอยู่หลายหมื่น พี่หมูยิ้มรับการทักทาย มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทวงตังค์ เพี่ยงแค่ถามถึงเฉยๆ
.จริงๆนะ
อ้อ..ผมเคลียร์ให้เรียบร้อยแล้วครับทั้งของ จ๊ะ กับของผึ้ง ทั้งหมดก็ แปดหมื่นสี่ ฝากไว้ที่เจนตาแล้วครับผม ผู้มาในชุดยีนส์จิ้งเหลนไฟ เสื้อเข้ารูปรัดรึงเอาส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อฟิตเปรี๊ยะแสดงมาดสมชายชัด บอกเจ้าของร้านด้วยเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังจนคงฟังแอบคิดในใจ
.คราวนี้อาจได้สละโสด
เหอ..เหอ..เหอ
ก็เพื่อความสบายใจในการไปค้างอ้างแรมกันน่ะค่ะคุณพลีส
คนพูดก้มหน้าก้มตาหลบต่างหูเงินสองข้างที่หนุ่มมาดแมนใส่อยู่ รู้สึกว่าหน้าดองยาของตนเองแดงซ่านขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
พี่หมู
พี่หมู
พี่หมูค้า!!!!!!!!!!!! เสียงเล็กแหลมตะโกนมาจนทุกคนต้องหันมอง สาวน้อยในชุดเอี้ยมสีแดงแปร๊ด วิ่งกระเสือกกระสนเข้ามาราวกับถูกใครไล่ล่า
ไปกันหรือยังคะ..ไปกันเถอะค่ะ
หม่าม้าหนูยีนั่งรถไฟฟ้าขบวนต่อไปตามมาแล้วหละค่ะ
ไปค่ะไปกันเร้ว น้องยีกระหืดกระหอบ
ต้องรอหมิง(น๋อนหนังสือ)อีกคน พี่โทรไปตามแล้วบอกว่ากำลังเบ่งอยู่
คงอีกสักพักเพราะเค้าอยู่แค่ตรงนี้เอง
แต่ว่าไหนบอกกว่าคุณแม่ไม่ให้ไปค้างที่ไหนไงจ๊ะ เจ๊หมูถามอย่างอารมณ์ดี เพราะกระสอบแห่งความรักกำลังครอบคลุมเธออยู่ทั้งตัว
ก็ไม่ให้ค้างน่ะสิคะพี่..หนูยีเลยออกมาก่อน..หนูยีไม่ได้บอกเลยนะคะว่าจะไปค้าง..แค่
แค่ถามว่า..บทสวดขอพรพระเจ้าก่อนนอนเวลาที่ต้องไปนอนที่อื่นเค้าจะขอพระอะไร..แค่นี้เองค่ะ
หม่าม้าก็ไม่อนุญาตให้หนูยีมา
จนต้องรีบกระโดดขึ้นรถไฟฟ้าทั้งๆ ที่ไม่ยังฉุดแขนไว้อยู่เลยค่ะ หนูยีเล่าอย่างตื่นเต้นเต็มที่
แล้วแม่หนูยีรู้เหรอว่าหนูยีลงสถานีไหน
. สาวระรวยถามบ้าง
หม่าม้าต้องรู้แน่คะ
เพราะหนูยีลงที่สุดทางทุกครั้ง..แล้วค่อยนั่งกลับไป
หนูยีอ่านป้ายสถานีไม่ค่อยทัน..กะฟังเสียงของพี่ชายคนขับไม่ชัดน่ะค่ะ
คนตอบยังใสซื่อเอ๋อซะขนาด
แล้วจะเบียดกันไปยังไงล่ะคะเนี่ยพี่หมู
โตโยต้าแอนทิกของพี่พลีสก็
อะนะคะ.. สาวจ๊ะปรายตามองทางรถรุ่นล้าสุดๆ
ทุกคนมองตามอย่างเข้าใน แต่แล้วก็ปรากฏฮอนด้าซิตี้โฟร์วิลสีแดงเถือกเลี้ยวเข้ามาปาดหน้าจนเจ้าของแอนทิกต้องกระโดดหลบ
ว้าย!!!
ทุกคนมองหาต้นเสียงกันเลิ่กลั่ก เพราะต่างแน่ใจว่ามาดแมนของคุณพลีสต้องไม่เปล่งเสียงเช่นนั้นออกมาเป็นแน่
ไปไหนกันจ๊ะสาว สาว สาว สาว สาว
บ๊ะ
ทำไมมารวมกลุ่มกันเฉพาะสาวๆ หละครับเนี่ย ลุงสรอง(song982) โผล่หัวเล็กๆ ออกมาถามอย่างอารมณ์ดี ทั้งที่หน้าตาระบุเพศซอมบี้ชัด
เอ่อ
ต่างคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่กล้าตอบอะไร
ไปสิ
เดี๋ยวผมไปส่ง
คนเสนอตัวอย่างไม่ใส่ใจอาการโทรมสุดๆ ของตนเอง
พี่หมูคร้าบบบบ
.น๋อนมาแล้วคร้าบ
หนอนขี้ควายตะโกนมาแต่ไกล แต่ทันทีที่เห็นซิตี้โฟร์วิลก็ชะงักค้าง
พี่หมูอย่าบอกนะคะ..เอ้ย..ครับ..ว่าลุงสรองจะไปเขาใหญ่กับเราด้วย เจ้าหนอนคงยังสยองกับพฤติกรรมประหลาดๆ ของลุงสรองในตอนที่ผ่านๆ มา
พวกชั้นทุกคนยังไม่ได้บอกอะไรเลยสักคำ
แต่นายน่ะบอกเค้าไปแล้ว
สาวซาว์ดเอฟเฟกหันมาทำตาเขียวใส่หนอนเซอะ
ไปด้วยครับ
ขึ้นมาเลย
เดี๋ยวผมไปส่ง
.เดี๋ยวไปนอนที่นั่นก็ได้
นี่ยังไม่ได้นอนมาแค่สามสี่คืน
ไปครับ..ขึ้นรถขึ้นรถ เจ้าของซิตี้สีแดงเถือกรีบลงมากุลีกุจอ นำกระเป๋าสาวๆ ยัดๆ ลงในกระโปรงท้าย
สาวๆ ขึ้นรถเลยครับผม น้องยี กะ พี่หมู ไปกะผม
ลุงสรองคงเลือกเองเสร็จสรรพว่าจะให้ใครไปกับใคร..แน่นอนว่าผู้ชายอีกสองคนในกลุ่มต้องไปรถอีกคันหนึ่ง แล้วก็นึกถึงคู่อริเก่าได้จึงหันมาถาม หัวหน้าทริป
แล้วยายพยาบาทจอมขมังเวทไม่ได้ไปด้วยหรือครับพี่
อ้อ
พี่จุดธูปเรียกแล้วจ๊ะ..สักพักแกได้กลิ่นธูปแล้วก็คงจะตามไปเจอกันที่ไร่ทะเลดาวเลย
สรองไม่ต้องเป็นห่วง
@@@@@@@@@@@@@
ไหนๆ ยีก็มาแล้ว พี่ว่ารำปอปผีฟ้าแก้บนเสียเลยเป็นไงจ๊ะ พยาบาลหน้าเด็กดองเอ่ยขึ้น หลังจากลงซื้อลาบก้อยส้มตำซกเล้กประดามีเพื่อเป็นมื้อกลางวันในไร่ทะเลดาวเรียบร้อย
เจ๊ๆ ลืมลาบเลือด กะก้อยดีควายอะ
.ขาที่มาตามกลิ่นธูปเค้าชอบนะ นายสรองสะกิดยิก เจ้าตัวยืนเล็มผักปลอดสารของแม่ค้าส้มตำ ร้านสามพี่น้อง หมดไปแล้วครึ่งถาด
อ้อ..ใช่
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
พี่ขา
เอาอย่างที่น้องมันสั่งอีกสองถุงนะคะ..เนื้อไม่เน้น..เน้นไส้อ่อนนะคะ
เธอสั่งทันที
แต่หนูยียังมะได้ซ้อมอีกเลยนะคะพี่หมู สาวเอี้ยมแดงออกอาการไม่มั่นใจใจความสามารถ
ไม่เป็นไรหรอกหนูยี
ไอ้ที่รำน่ะก็ตามที่เราบนไว้ไง
ยายพยาบาทจอมขมังเวทแกคงสนแต่ลาบเลือดกะก้อยดีควายนั่นแหละ..หลับหูหลับตารำๆ แป๊บๆ ก็รำเสร็จแล้วหละ
แต่..แต่หนูยียังไม่ได้บอกหม่าม้าเลยนะคะ
แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันหยุดพูดอะไรใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อจบประโยคของหนูยี
.เฮ้อ
@@@@@@@@@@@@
ค่ะ
พี่พลีสเหรอคะ..ถึงไหนแล้วคะ
.รถเสีย
.ค่ะ
ค่ะ
เมื่อรู้ว่าใครโทรเข้ามาเจ้าของร้านบุคคอฟฟี่ก็เสียงอ่อนเสียงหวานได้ทันที
ค่ะ
งั้นน้องหมูไม่รอนะคะ
.ค่ะ
ใช่ค่ะ..ไม่เปลืองค่ะ..แล้วเจอกันนะคะ
เธอวางสายเสร็จก็หันมาเลียริมฝีปากให้คนในรถดู ส่งสัญญาณว่าให้รีบบึ่งเข้าไปในบ้านเพราะตัวหารอาหารจะลดลงไปสี่คน
ซึ่งลุงสรองก็รู้ทัน กระทืบคันเร่งเร็วกว่า160 กม/ชม ขึ้นเขาลงห้วยกระแทกกระทั้นถึงที่หมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
สาวนัท-เปียร์รุส เจ้าของไร่ทะเลดาว จัดปี่กลองฆ้องระฆังออกมาประโคมต้อนรับการมาของชาวกรุง จนทุกคนแหยงๆ ที่จะก้าวลงจากรถ ความตั้งจะที่บอกเจ้าของว่า
มา..มา..มา..รีบกินกันก่อนเถอะ..แล้วค่อยไปดูรถอีกคันว่าเสียอยู่ตรงไหน
ก็เป็นอันว่าต้องล้มเลิก
เพราะขบวนเกียรติยศและเจ้าของไร่พากันแห่หายไปตามรถแอนทิกอีกคันหนึ่งทันที
แทนที่เจ้าของร้านสาวจะเป็นห่วง เธอกลับออกคำสั่งทันที
หนูยีไปเอาจานมาเลยนะคะ
.เดี๋ยวพวกเราชิมก่อนเผื่อมันไม่สะอาดเราจะได้บอกเค้าว่าอย่ากิน
.หนูยีรู้ไหมว่าเราต้องหัดเป็นคนเสียสละ
รู้ไหมคะ
ค่ะ
อุ๊ย
สวัสดีค่ะ..คุณแม่พี่นัท
นี่พี่หมูค่ะ
.เจ้าของร้าน
ส่วนนี่จำได้ไหมคะ
พี่สรองที่เรียบร้อยๆ ที่มาครั้งที่แล้วน่ะค่ะ
หนูยีแนะนำตัวคนมาใหม่แล้วก็เลี่ยงไปในครัวทันที
บ้านหลังนี้เกือบจะเป็นทรงทิวดร์อ เพราะมีหลังคาสูงแหลมขึ้นไปขณะที่ชายคาลงมาต่ำมากถึงกลับคลุมชั้นสองไว้เป็นห้องใต้หลังคาได้ทั้งหมด แม้จะยังตบแต่งไม่สมบูรณ์แต่ด้วยไม้ดอกไม้ใบรายรอบ มีแปลงดอกหน้าวัวอยู่ข้างบ้าน มีโครงดอกเบญจมาศญี่ปุ่น เรียงเป็นแถวแนวอยู่ด้านหน้า ทั้งหมดสวยรับกันเหมือนภาพวาดบ้านน้อยในป่าใหญ่ อย่างที่หลายคนเคยฝันไว้ว่าจะได้ไปสัมผัส
อาหารมื้อนี้พี่หมูไม่ได้แกล้งลืมชวนคุณแม่ให้ร่วมวงรับประทานด้วย แต่หนูยียังทันเห็นรอยยิ้มจากริมฝีปากแดงเพราะพิษพริกส้มตำปลาร้านั้นได้ ว่าเธอดีใจเพียงไรที่ได้ฟาดเรียบคนเดียว เพราะคุณแม่ขอตัวไปดูแลแปลงดอกไม้ โดยใช้มือข้างหนึ่งของเจ๊หมูคอยตีมือ พวกที่ตักถี่ๆ เกินหน้าเกินตาตัวเองเป็นระยะๆ
เสร็จจากมื้ออาหารหนูยีต้องซ้อมรำปอบผีฟ้าเป็นรอบสุดท้ายก่อนจะลงสนามจริงตอนโพล้เพล้ หนูยีรำได้สวยซื่ออย่างที่เธอเห็นอยู่ประจำ
จนเจ๊หมูพอใจ
..
เอ๊ะ
ทำไมสาวเต่างอยถึงไม่มาสักทีนะเนี่ย เธอรำพึงเบาๆ กับตัวเอง
..นายสรองจึงออกความคิดบ้าง
งั้นเจ๊ลองจุดธูปเลยดีไหมครับ เอาลาบ-ก้อยใส่จาน แล้วก็ให้หนูยีรำเสียพร้อมกัน
แกคงโผล่มาแน่นอน
.
เราจะไม่รอพวกพี่พลีสเหรอสรอง พี่หมูไม่แน่ใจ
อย่ารอเลยครับ
.เรื่องงมงายอย่างนี้ หนุ่มในดวงใจของพี่เค้าคงจะเห็นเป็นเรื่องตลกผมว่า
เรารีบๆ แก้บนให้เสร็จๆ ไปก่อนที่คณะนั้นเค้าจะมาดีกว่านะครับ นายสรองเอาเรื่องหลุมรักของเจ้าของร้านเข้าล่อจนเจ้าตัวยอมตั้งประรำพิธี
@@@@@@@@@@@
ผีฟ้าเอย
. เสียงเอื้อนอ้อยสร้อยของคนบนบานเริ่มดังขึ้น ขณะที่หนูยีทำท่าเหมือนโดนน้ำร้อนลวก รำกะย้อกกะแย้กอยู่รอบๆ จานลาบเลือด-ก้อยดีควาย และเหล้าขาวสามขวด
ครู่เดียว ควันตลบอบอวลก็บังเกิดขึ้นท่ามกลางแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ กลุ่มควันนั้นคลุ้งขึ้นเป็นแนวมาจากหลังเนินเขา จนทุกคนขนลุกเกรียว มีเสียงครืนๆ ดังมาจากทางนั้นด้วย
ช้า
..นาน
.กว่าร่างทั้งหมดจะปรากฏขึ้นท่ามกลางกลุ่มควันสีส้มอมแดง
คุณพลีส น้องระรวย น้องซาว์ดเอฟเฟก นายหนอนขี้ควาย และสาวเปียร์รุส ช่วยกันเข็นเจ้าโตโยต้าแอนทิกขึ้นเนินมาพร้อมฝุ่นตลบ
..
ทุกคนที่ต่างเกร็งกันไปเป็นแถบจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลงได้ ทั้งทางฝ่ายเจ๊หมูซึ่งเริ่มเรอเป็นระยะๆ ด้วยฤทธิ์ข้าวเหนียวสามปั้น ทั้งทางฝ่ายที่เข็นรถขึ้นมาซึ่งบ่นหิวๆ ไปตามๆ กัน
เมื่อคนที่มาทั้งหมดเห็นจานอาหารอันวางอยู่กลางลานเสื่อ ที่มีหนูยีเต้นกระย่องกระแย่งอยู่นั้นทุกคนก็ ถลาเข้าหาจานทั้งสองจานนั้นทันที่
ต๊าย
..ยังไม่เสร็จพิธีนะคะ
. หนูยีหวีดร้องสุดเสียงแล้วฟุบลงไปทันที
แต่อนิจจาก็ยังไม่มีใครเห็นใจสงสารหนูยีเลยสักคนเมื่อลาบเลือดเข้าบังตา จนร่างของหนูยีต้องค่อยขยับขึ้นมานั่งเองอีกครั้ง
หยุด!!! เสียงสั่งสั้น
ไม่ใช่เสียงหนูยีแน่นอน
ลบหลู่..ลบหลู่มาก เสียงเดิมยังเข้มขลัง จนทุกคนชะงักหันไปมองตามต้นเสียง ซึ่งเป็นหนูยีกำลังนั่งท่าขัดสมาธิหลังตรงสองมือวางพาดไว้ที่เข่าทั้งสองข้าง
ลาบเลือดข้าใครอย่าแตะ
หมอบ
ข้าบอกให้หมอบลง
ทุกคนทำตาม ด้วยไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านั้น สายตาจดอยู่กับพื้นเสื่อ ได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบจิ๊บจั๊บ กับเสียงอั้กๆๆๆของการดื่มอะไรสักอย่าง จนเจ๊สริงค์รู้สึกตัวว่ามีใครสักคนมาสะกิดที่หัวไหล่ จึงหันไปมอง
อ้าว
โอเล่มาได้ไงเนี่ย
.แหมวิธีของนายสรองนี่ได้ผลดีจริงนะ สาวหมูดีใจเต็มที่เมื่อสาวโอจอมขมังเวทย์เพื่อซี้มาถึงพร้อมด้วยตัวเป็นๆ แต่ฝ่ายสะกิดกลับไม่ตอบอะไร แววตาเหม่อลอยอย่างประหลาด
โอ
โอ
เป็นอะไร
. เจ๊หมูเอะจะใจเขย่าแขนแรงๆ
อ๊อกๆๆ ร่างของน้องยีส่งเสียงออกมา คล้ายสำลักอาหารแล้วก็หงายหลังผึ่งลงไปทันที ทันใดกับที่ร่างของสาวโอเล่ก็มีอาการสั่นน้อยๆ แล้วค่อยมีปฏิกิริยาตอบสนองแรงเขย่าของเพื่อนสนิท
พอ
พอ
อย่าเขย่า..เดี๋ยวกระดูกหลุดกันพอดี
มาแล้ว..มาแล้ว
เมื่อกี้ต้องส่งกายทิพย์มาก่อน
ไม่ได้เห็นแก่กินนะคะ..แต่ไม่อยากเสียสิทธิ์ที่ดิฉันควรจะได้รับ
.แหม
.หวานไปหน่อยนะหมู
ความหน้าคราวหลังลาบเลือดน่ะไม่ต้องใส่น้ำตาล ผู้มาใหม่พูดพร้อมเลียริมฝีปากดังแผล็บ
เออ
มาก็ดีแล้วจะได้นอนดูทะเลดาวด้วยกันคืนนี้
แล้วก็ชม้ายชายตาไปทางพี่พลีสสุดล่ำที่เริ่มกรีดนิ้วคีบไส้อ่อนขึ้นมาดูดดื่มกับเลือดที่เล็ดอยู่ข้างใน พี่พลีส
ปีเตอร์ที่
ที่เราบอกไปตอนจุดธูปไงล่ะ
ส่วนที่ปากเขรอะเลือดแต่ยังพูดไม่หยุดนั่นชื่อจ๊ะ-โอเลี้ยงแก่ๆ กับคนที่ฟังโดยไม่หยุดปากเคี้ยวก็คือน้องผึ้งระรวย
หัวหน้าทริปแนะนำสาวจากเต่างอยอีกครั้ง ทุกคนยิ้มรับกันด้วยดี ด้วยอาการที่มีเลือดกลบปากด้วยกันทุกคน เว้นแต่หนูยีที่ยังแน่นิ่งไปด้วยฤทธิ์เหล้าขาวที่หมดไปถึงสองในสามขวด
เจ๊ๆ ทำไงดีล่ะสงสัยหนูยีจะเมาพับไปแล้ว นายสรองขอความเห็นโดยไม่กล้าสบตาอีกคนที่ทำให้เข้าโรงพยาบาลเมื่อเรื่องเล่าตอนที่แล้วๆ มา
ก็พาไปนอนไม่ต้องปลุกให้ฟื้นหรอก
.นี่พี่เป็นห่วงนะ..ไม่ได้กลัวว่ามื้อค่ำที่เป็นหมูจุ่มจะมีตัวหารลดลงไปอีก เจ๊หมูยืนยันเพราะเธอแอบไปซื้อมาเรียบร้อยแล้วตอนที่ตัดสลับฉากนี่แหละ
งั้นเราไปกันเลยนะครับ
คืนนี้พี่พลีสจะร้องทะเลดาวให้ทุกคนได้ฟังกันด้วย เสียงทุ้มนุ่มชักชวนทุกคน
.ที่เริ่มเช็ดคราบเลือดออกจากปาก
งั้นไปกันก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวนัทกับแม่จะจัดของตามไป
ครับ/ค่ะ ไม่มีสักคนที่จะออกปากอยู่ช่วยจัดของ เพราะดาวตกหางยาวดวงแรกเริ่มพาดสายจากขอบฟ้าทิศเหนือแล้ว
@@@@@@@@@@
ฟ้ากว้างของคืนแรม ช่วยให้ดาวทุกดวงแข่งแสงกันได้อย่างสวยที่สุด ฟ้าทั้งผืนเหมือนม่านกำมะหยีสีดำที่โรยด้วยเกร็ดเพชรพราวไปทั้งผืน ใครเลยจะเคยคิดว่าคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนจะได้มานอนชมดาว ร้องเพลงคลอเสียงเพลงไพเราะของหนุ่มรูปงาม แน่นอนบรรยากาศเช่นนี้ทำให้สาวบางคนแอบขยับค่าตัวของตนขึ้นไปอีก จากเจ็ดแสน เป็นเก้าแสน เป็นล้านสอง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครคิดจะเฉียดกรายเข้ามาใกล้
ฉันเจอคนที่ใช่แล้วหละโอเล่ เจ๊หมูรำพึงรำพันขณะที่หัวของทุกคนชนกันเป็นรูปดาวแห่งมิตรภาพดวงใหญ่บนพื้นหญ้านุ่ม หงายหน้าชี้ชวนกันชมหมู่ดาวและทางช้างเผือก
ใครเหรอหมู สาวเต่างอย กระซิบถาม
ก็
.ก็
หากมีไฟส่องสว่างกว่านี้คงเห็นหน้าแดงซ่านของเพื่อนรักได้ชัดเจน
อย่านะเธ้อ
ชั้นจอง
.
พี่ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ พี่พลีสพักช่วงการเล่นเพลงสารพัด เอ่ยขออนุญาตทุกคนอย่างเกรงอกเกรงใจเป็นที่สุด ไม่มีใครสักคนสังเกตเห็นชายหนุ่มที่ยืนมองตรงมาจากต้นไม้ใหญ่ด้านหลังนั่นสักคนเดียว แล้วพี่พลีสก็ลุกตรงไปทางนั้น โดยไม่กลับมาอีกเลยจนกระทั้งพวกเราเก็บของกลับไปนอนที่บ้านของสาวนัท
@@@@@@@@@@
ไม่ค่ะไม่
.ไม่ยอมนะคะ
.ตอนตกลงกันบอกสี่รอบ นี่อะไรคะรอบเดียวเท่านั้นเองหรือ
ไม่ได้ค่ะ
.เหมาเลยดีกว่า ชั่วโมงละเท่าไหร่บอกมาดีกว่านะคะ สาวเต่างอยออกอาการโวยวายเพื่อเพิ่งขึ้นไปขย่มบาบานาโบ๊ทได้เพียงรอบเดียวกับการพลัดตกลงน้ำไปสองครั้ง ซึ่งไม่คุ้มเลยจริงๆ เมื่อเทียบกับเม็ดเกลือในสายเลือดของเธอ
การต่อรองเป็นไปอย่างเผ็ดร้อนจนหลายคนเข้ามามุง บางคนคงหวังจะได้ลองต่อรองอย่างกลุ่มนี้บ้างกระมัง แต่ก็คงยากมากหากไม่มีใครเค็มเท่าสาวเมืองสกลคนนี้
กำไรเป็นของกลุ่มบ้านมิตรภาพ เพราะจะได้เล่นโดยเฉลี่ยเป็นสิบรอบอย่างคุ้มค่าสุดๆ เมื่อเทียบกับราคาต่อหัวทั้งยังสามารถผลัดกันเล่นได้ด้วย
รอบแรกๆ แต่ละคนยังเพลิดเพลินกับภาพทิวทัศน์ของเขื่อนลำมูลบนที่มีชายหาดยาวเหมือนทะเลสาบที่มีนักท่องเทียวจากภาคอิสานมาพักผ่อนหย่อนใจกันคึกคัก
ไม่มีใครสะกิดใจเลยสักคนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป
การหักวงตีโค้งกลับมาในรอบนี้ ทั้งสี่คนที่ขย่มกันอยู่อย่างเมามันโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำได้ครบ
แต่ครบแค่สี่
คือนายสรอง น้องระรวย น้องจ๊ะ และนายน๋อน
.อีกคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทุกคนพยายามมองหาจนอีกอึดใจหนึ่ง ที่ใต้บาบาน่าโบ๊ทนี่นั่นเองหัวของใครคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในลักษณะแหยงหน้าจูบอยู่กับเรือยางนั้น แล้วก็มีท่าตะเกียกตะกายกะแด้กๆ อย่างหาคนช่วยเหลือ ทุกคนจึงได้รู้ว่าสาวเต่างอยของบ้านมิตรภาพว่ายน้ำไม่เป็น ความลับเรื่องการสอบเป็นนางฟ้าปีกอ่อนของการบินไทยที่ไม่ผ่านจึงเปิดเผยขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง
ในครั้งต่อๆ มา แม้เธอจะว่ายน้ำไม่เป็น และมั่นใจว่าจะได้เป็นภาระให้คนอื่นคอยเป็นห่วงแน่นอน เธอจึงไม่มีการลงเปลี่ยนกับใครโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคลื่นจะซัดสาดให้เธอตกลงไปคนเดียวเมื่อนั่งรั้งท้าย หรือจะโดนนายสรองขโยกขย่มจนทั้งลำกระดอนสูงขึ้นเหนือผิวน้ำจนทุกคนที่ชายหาดมองมาเป็นตาเดียวกัน
ในรอบสุดท้าย แรงเหวียงแรงเป็นพิเศษ ทุกคนหวังว่าสาวเต่างอยยายพยาบาทจอมขมังเวทย์จะยังคงยึดมันอยู่ใต้ลำเรือแต่กลับไม่ใช่ เธอไปโผล่ไกลจากกลุ่มหลายเมตร แล้วก็ลอยนิ่งกับเสื้อชูชีพอยู่อย่างนั้น ใครเรียกก็ไม่ทักไม่ขานและไม่ขยับใดๆ ทั้งสิ้น
เจ๊ๆๆ
มาขึ้นสิคะ..ทำเวลาหน่อยสิคะ สาวระรวยร้องเรียกขณะที่คืนอื่นๆ กำลังตะเกียกตะกายขึ้นเรือยางรูปกล้วยหอมอีกครั้ง
แต่คนถูกเรียกก็ยังคงลอยอึ้ดทึ่ดอยู่อย่างนั้น มีปากพะงาบๆ พร้อมเสียงเบาๆ
ช่วยด้วยๆ
.ไม่มีแรงว่าย
.ช่วยด้
.ว
.ย นายสรองจับความได้แค่นี้ก็กระโจนลงน้ำดังตูมแล้วก็ลากเรือยางเข้าไปใกล้ จนคนไม่เจียมสังขารสามารถไต่ขึ้นมาประคองตัวได้อีกครั้งหนึ่ง
การล่มเรือครั้งสุดท้ายจึงผ่านไปอย่างทุลักทุเลเพราะต้องช่วยกันลุ้นว่าคราวนี้เจ๊โอเล่เธอจะไปโผล่ที่ใด
เพราะเธอตะโกนบอกคนขับสกูทเตอร์ข้างหน้าแจ้วๆ ว่า หล่อๆนะคะ
ขอหล่อๆ นะคะ อยู่เพียงแค่นั้น
@@@@@@@@@
การร่ำลาเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างทุกคนกลั้นฝืนความรู้สึกไว้เต็มที่ เวลาของการเยี่ยมเยื่อนจบลงแล้ว แต่ทุกคนมั่นใจว่าความสุขความทรงจำไม่มีวันสิ้นสุด ตอนจบของเรื่องเล่าภาคพิเศษตอนนี้อาจจะสั้นห้วนไปสักนิด
เพราะอยากจะให้มันจบลงอย่างมีความสุข
..เพราะคนเขียนก็ต้องกล้ำกลืนความรู้สึกสุดสุขไว้เต็มที่ ไม่ยอมให้มันไหลออกมาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อท้นขึ้นมา
แน่นอน
.การพบย่อมมีการจากลา
แต่มิตรภาพไม่ได้มีการสูญหายไปไหน
.เราทุกคนจะกลับไปพบกันที่บ้านอีกหลัง
.บ้านที่ในหัวใจของทุกคนเฝ้าคิดถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีแบ่งปันให้กันอย่างไม่รู้หมดสิ้น..ตราบนานเท่านาน
จบดีกว่า...เนอะ....
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 46 18:37:25
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 46 18:17:40
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 46 16:31:26
จากคุณ :
SONG982
- [
25 ต.ค. 46 16:12:32
]