. . . ~. . .~. . .มีหัวใจ ใช่ไร้ความรู้สึก ( รัก) . . .~. . .~. . .

    เธอสวย  ทุกนาทีที่เคยสัมผัส รู้ทันทีว่าเธอคือคนพิเศษ ที่ฉันนั้นรอมานาน  ที่ฟ้าให้มาเจอะกัน…

    ให้ตายสิ  ตั้งแต่ผมเกิดมายังไม่เคยเห็นใครสวยเท่าเธอเลยจริงๆนะ  และครั้งแรกที่ผมพบกับเธอ

    ก็รู้สึกเหมือนตกหลุมรักเธอให้แล้ว

    เธอย้ายมาอยู่ที่ข้างบ้านผมเมื่อปีก่อน  ชื่อขอเธอฟังดู อาจจะออกฝรั่งจ๋าไปหน่อย

    แต่ผมคิดว่าก็เหมาะกับเธอแล้ว เพราะเธอเป็นลูกครึ่ง  ชื่อ พริตตี้  เธอน่ารักเหมือนกับชื่อเธอนั่นแหละ

    นัยตาโตสีน้ำตาล  แต่เธอค่อนข้างจะตัวเล็กไปซักนิด ผิดจากผม ซึ่งตัวโตกว่าเธอมาก และเป็นไทยแท้

    นายแม่ของเธอ ชอบให้แต่งตัวสวยๆ และต้องสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ  ผิดจากผมอีกนั่นแหละ

    ที่ไม่พิถีพิถันในการแต่งตัวซักเท่าไหร่  ตามประสาลูกผู้ชาย  ที่กำลังอยู่ในวัยรุ่น ที่ยังติดเพื่อน เที่ยวเตร่ เหล่สาว

    พอเจอพริตตี้ นิสัยเหล่สาวของผมก็เปลี่ยนไป เพราะผมไม่สามารถมองสาวคนไหนได้อีกแล้วนอกจากเธอ


    ความรักของผมกับพริตตี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเหตุการณ์ที่ผมช่วยพริตตี้จากการถูกรถชน

    วันนั้นพริตตี้เดินเล่นที่หน้าปากซอย  แต่ก็โชคร้าย เจอบิ๊ก นักเลงประจำซอย กำลังจะรังแก

    ทำให้เธอต้องวิ่งหนีบิ๊ก  แต่โชคร้ายยิ่งกว่านั้น ที่เธอวิ่งไปบนถนน หวิดโดนรถชน

    หากผมไม่ช่วยเธอเอาไว้  บิ๊กตกใจอยู่เเหมือนกัน ที่เธอเกือบจะโดนรถชน

    และหนีไป เพราะเป็นต้นเหตุ ที่อาจจะทำให้พริตตี้โดนรถชนในครั้งนี้

    แม้บิ๊กจะชอบใช้กำลัง  เป็นนักเลงขนาดไหน  แต่ก็ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยแม้แต่น้อย

    ทำผิดกลับไม่กล้ายอมรับ  จะหายไปซักพัก แต่ไม่นานนักก็กลับมาทำตัวซ่าส์ตามเดิม

    โดยเฉพาะกับพริตตี้ เพราะบิ๊กเองก็ชอบพริตตี้ จึงชอบตอแยพริตตี้บ่อยๆ

    นอกจากจะมีบิ๊กที่เป็นอุปสรรคของความรักเราทั้งสองแล้ว ยังมีนายแม่ ที่กีดกันไม่ให้เราพบกัน

    และมิก  ซึ่งเป็นลูกพี่ลุกน้องของพริตตี้ คอยกันท่าผมตลอดเวลา

    แต่ก็ใช่จะมีแต่อุปสรรคเสมอไป เพราะบางครั้งที่นายแม่ไปธุระต่างจังหวัดหลายๆวัน

    ส่วนมิกก็กำลังจีบสาวอยู่ จึงต้องไปมาหาสู่ เช้า เที่ยง เย็นก็ว่าได้และนี่ก็เป็นโอกาสที่ผมจะพบพริตตี้  อย่างเช่นในวันนี้

    “พริตตี้ วันนี้ เราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านกันดีกว่านะ”

    พริตตี้พยักหน้าเห็นด้วย  เราเดินไปคุยกันไป  เหนื่อยก็นั่งพักใต้ร่มไม้

    เรารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยกัน ได้เจอหน้ากัน  แต่เวลาของความสุขมักไม่นาน

    เผลอแป๊บเดียว ก็เย็นซะแล้ว พริตตี้ต้องกลับบ้าน ก่อนที่นายมิกจะมา  ส่วนนายแม่คงจะกลับพรุ่งนี้

    ระหว่างทางที่ผมเดินมาส่งพริตตี้  ไอ้บิ๊ก ก็มาดักรออยู่แล้ว

    พริตตี้คงรู้สึกกลัว ถึงเกาะแขนผมซะแน่นเชียว  ไม่เป็นไรนะพริตตี้  อยู่กับผมแล้ว

    ไม่มีใครรังแกคุณได้เด็ดขาด  และผมก็จะไม่ยอมให้ใครมารังแกคุณได้เหมือนกัน

    “หลีกไปไอ้บิ๊ก ข้าจะพาน้องพริตตี้กลับบ้าน” ผมเองถึงจะไม่ใช่นักเลง แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาข่มขู่ก่อน

    “ไม่หลีก มีไรมะ” คำตอบของบิ๊กไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจกับนิสัยของเขาเลย

    “หลีกไปนะโว่ย ข้าจะพาพริตตี้กลับบ้าน” ผมเริ่มจะผลักนายบิ๊กบ้างแล้ว

    “ไม่ให้กลับว่อย  น้องพริตตี้คนนี้ ข้าชอบของข้า ถ้าเอ็งไม่เลิกยุ่งกับน้องพริตตี้นะ เจ็บตัวแน่”

    หน่อย ทำเป็นขู่ คิดเหรอว่า แค่นี้ผมจะกลัว  บอกไว้นะไอ้บิ๊ก  ไม่มีทาง

    “แกชอบน้องพริตตี้ แต่น้องพริตตี้ไม่ได้ชอบแก จริงไหมครับ น้องพริตตี้”

    ท้ายประโยค ผมถามน้องพริตตี้ เพื่อให้ไอ้บิ๊กได้ยินชัดๆ

    “ค่ะ พริตตี้ไม่ได้ชอบบิ๊ก”  แต่คนอย่างไอ้บิ๊ก แค่นี้ ไม่ทำให้มันจ๋อยลงไปได้หรอก

    “ดี งั้น วันนี้แกก็ต้องเจ็บตัวหละ ถ้าน้องพริตตี้ไม่รักฉัน ก็อย่าคิดว่าจะรักแกได้เหมือนกัน”

    นิสัยพาลหาเรื่อง ของบิ๊กเริ่มชายแววแล้ว  แต่ถึงขั้นนี้แล้ว เป็นไงเป็นกันสิ ผมพร้อมที่จะสู้เหมือน

    บิ๊กเริ่มต่อยหมัดอันหนักหน่วงของมันเข้าที่หน้าผม  ซึ่งผม ไม่ทันระวังตัวดี ทำให้เซไปเล็กน้อย

    แต่แค่นี้ นับว่ายังไกลหัวใจเยอะ คราวนี้หมัดที่สอง ผมหลบได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว

    พริตตี้ก็ได้แต่ตะโกนห้าม และขอให้ไอ้บิ๊กหยุดต่อยผม

    อย่างนี้ต้องหมัดแลกหมัด  ผมสวนหมัดหนึ่งเข้าที่เบ้าตาไอ้บิ๊กเต็มๆ ยิ่งทำให้อารมณ์เดือดดาลของบิ๊กเพิ่มขึ้น

    บิ๊ก ทั้งเตะทั้งต่อยอย่างแคล่วคล่อง ตามประสานักเลง  แต่ผมมีหรือจะยอม มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน

    เราทั้งสองคน เริ่มได้แผลกัน และเริ่มเจ็บตัวมาก  พริตตี้ะโกนร้อง ผมสงสารเธอนะ เหมือนเธอจะร้องไห้

    “หยุดนะ  อย่าต่อยกันอีกเลยนะ พริตตี้ขอร้อง” เสียงตะโกนของพริตตี้เหมือนเป็นกำลังใจให้ผมฮึดสู้
    .
    ..
    ...
    “หยุดนะ! พวกหมาบ้า  ไปกัดกันไกลๆไป๊” แย่แล้ว เสียงนายแม่นี่นา  ทำไมบอกจะกลับพรุ่งนี้หละ

    “ไม่ยอมหยุดกันใช่ไหม  นี่แหนะ!” นายแม่พูดพร้อมกับปาก้อนหินใส่เราสองคน

    แต่บิ๊กเป็นคนรับเคราะห์ไป ได้แต่ร้องจนเสียงหลง

    “เอ็งๆ ๆ เอ๊งๆๆ” บิ๊กร้องพร้อมกับวิ่งหนี  ไปกับผม

    “โธ่! พริตตี้ของแม่  เจ็บไหมลูก  ดีนะ ที่แม่มาเห็นเข้าก่อน ไม่งั้นคงเดินหมาบ้าสองตัวนั้นกัดเข้าแน่ๆเลย”

    ผมเห็นนายแม่อุ้มพริตตี้ขึ้นอย่างรักใคร่ ส่วนผมก็ได้แต่มองพริตตี้ตาละห้อย

    “คราวหน้า แม่จะไม่ปล่อยให้หนูไปนอกบ้านอีกแล้ว  นังแจ๋วก็อีกคน ปล่อยลูกพริตตี้ของฉันไปได้ยังไง”

    โธ่! พริตตี้โดนห้ามไม่ให้ออกจาบ้านแล้ว  อย่างนี้ ผมจะทำยังไงดี

    นายแม่นะนายแม่  หมาอย่างเราก็มีหัวใจ  มีความรักเหมือนกันนะ ทำไมต้องกีดกันเราด้วย  ผมไม่เข้าใจเลย

    ผมได้แต่เดินหัวเสียกลับบ้านไป  ทั้งอารมณ์โกรธไอ้บิ๊ก ที่เป็นตัวต้นเหตุก่อเรื่องนี้ขึ้น  


    จากคุณ : ต้นอ้อ - [ 25 ต.ค. 46 21:16:46 A:203.185.80.14 X:203.185.75.239 ]