นาวี...ที่รัก (ตอนที่1)

    “นี่ยัยดา วันนี้มีงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนนะจ๊ะ ตอน 1 ทุ่ม ที่ราชนาวีสโมสร หล่อนต้องไปด้วยล่ะ งานนี้เจ้านายสั่งเน้อ” เสียงตามสายแจ้งงานอย่างอารมณ์ดีมาทางโทรศัพท์พร้อมพาดพิงถึงเจ้าของคำสั่งเป็นนัยว่าบังคับไปในตัว
    “พี่เก๋ขา ลืมไปหรือเปล่าค่ะ ว่าวันนี้วันหยุดของ ดา นะพี่ ให้คนอื่นไปแทนไม่ได้หรือค่ะ” เสียงนักข่าวสาวที่อยู่อีกด้านอิดออดกลับมาตามสาย
    “เฮ้ย แต่นายสั่งว่าต้องเป็นหล่อนนะ อีกอย่างข่าวของทหารเรือนี่ มีแต่หล่อนคนเดียวเท่านั้นแหละที่ไปทำข่าวบ่อยที่สุด หยวนๆ วันหนึ่งนะ ดา แค่งานเลี้ยงเองอีกอย่างถ้าเป็น ทหารบก พี่ก็ต้องจัดให้ โบว์ ไป หรือ ถ้าเป็นงานของ ทหารอากาศ ก็ต้องเป็น พี่เจษ ไปทำ แต่นี่เราทำข่าวทหารเรือเป็นประอยู่แล้วก็ตามต่อทุกงานสิจ๊ะ สาวน้อย” เสียงอีกสายรีบแจงอย่างมีเหตุผล
    “โอเค ค่ะพี่ ดา รับทราบแล้ว ดีนะที่เป็นงานเลี้ยงเฉยๆ ไม่มีรายงานข่าวใช่ไหมพี่ เอาแต่ประเด็นซุบซิบนะแล้ว ต้องแต่งตัวยังไงล่ะพี่ ใส่กางเกงได้ป่ะ” ผู้ถูกสั่งรับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้
    “งานนี้ต้องใส่กระโปรงนะจ๊ะ เพราะมีผู้ใหญ่เยอะ ห้ามผ้าใบเด็ดขาดล่ะหนู อ้อที่สำคัญ...เกี่ยวนายเรือมาฝากพี่สักคนด้วยนะ”
    “โอย..พี่ แค่ใส่กระโปรงก็อึดอัดจะตายอยู่แล้ว ยังจะให้เกี่ยวนายเรือมาฝากอีก บ้าหรือเปล่า รู้อยู่ว่าไม่ชอบทหารเรือ ที่ทำข่าวด้วยบ่อยๆ ก็เพราะงานนะพี่”
    “ระวังนะยัยดา ไม่ชอบอะไรก็จะได้อย่างนั้นนะ ระวังจะรักนายเรือไม่รู้ตัวล่ะ” เสียงตามสายรีบหยอกทันทีเมื่อมีโอกาส
    “ไม่มีทางพี่ ไม่คุยด้วยแล้ว แค่นี้นะ” ฉันรีบตัดสายทันทีก่อนที่จะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้
    เฮ้อ..นี่มันโชคร้ายอะไรของฉันนี่ ทั้งที่เป็นวันหยุดของฉันนะเนี่ยอาทิตย์นึงก็มีแค่วันเดียว โธ่…เป็นเพราะงานเลี้ยงของทหารเรือนี่เชียวมาขโมยวันหยุดของฉันไปเสียได้ เฮ้อ…ก็อย่างว่าล่ะ งาน คือ งาน จะขัดก็ไม่ได้เซ็งจริงๆ แล้วนี่ฉันจะรู้จักใครไหมนี่ไม่รู้ว่านักข่าวเล่มอื่นจะมีใครไปบ้างไหมนะ
    “สวัสดีค่ะ ลงทะเบียนสื่อมวลชนทางนี้ค่ะ” เสียงประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรือเสียงหวานเรียกให้ลงทะเบียน
    “ค่ะ เอ..มีนักข่าวมาเท่านี้เองเหรอค่ะ” ฉันสอบถามถึงนักข่าวเล่มอื่นๆ เมื่อเหลือบมองดูชื่อที่ลงทะเบียนที่มีผู้ลงชื่อน้อยเหลือเกิน
    “ค่ะ วันนี้นักข่าวสายทหารค่อนข้างจะเยอะเสียหน่อยค่ะ แล้วไม่ทราบว่าคุณอยู่สายไหนล่ะคะ” เสียงหวานรีบตอบคำถามอย่างคล่องแคล่ว
    “สายกีฬาค่ะ“ สิ้นเสียงตอบฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีฟุตบอลนัดพิเศษที่ทีมชาติไทยลงเตะกับสโมสรฟุตบอลจากอังกฤษนี่น่า แล้วใครเขาจะมางานนี้กันเล่า
    ตายแน่ๆ แล้วนี่ฉันต้องมาอยู่กับพวกทหารเรือเยอะๆ อย่างนี้คนเดียวหรือนี่ ไม่ใช่ว่าฉันเกลียดพวกลูกทะเลนี่หรอกนะ และก็ไม่ได้มีความหลังอะไรกับเขาเสียด้วย แต่ก็ไม่รู้เป็นอะไรพูดถึงทหารเรือทีไรอยากจะไปให้ไกลๆ เสียทุกทีสิน่า และไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์แกล้งฉันกลับถูกได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลข่าวคราวในวงการกีฬาของกองทัพเรือทั้งหมดในหน้าที่การงานเสียนี่
    อีกด้านหนึ่งของงานเลี้ยงเมื่อนายธงหนุ่มในเครื่องแบบของทหารเรือเต็มยศ ถูกเพื่อนทหารร่วมโต๊ะด้วยกันสะกิดเรียกให้ดูหญิงสาวผู้หนึ่งที่เดินเข้ามาในงาน เธอผู้นี้ท่าทางคล่องแคล่ว รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก และที่สำคัญ เขารู้สึกคุ้นหน้าเธอเหลือเกิน เหล่าทหารหนุ่มทุกนายต่างพากันสงสัยว่าเธอเป็นใครกันและมากับใครหนอ แต่ทุกนายก็รับทราบในทันใดเมื่อหญิงสาวผู้นั้นนั่งลงที่โต๊ะของสื่อมวลชน ยิ่งทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอผู้นี้เป็นนักข่าวสำนักไหนกันทำไมเขาถึงไม่เคยพบเธอมาก่อน
    “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณมาคนเดียวหรือครับ แล้วคุณเป็นนักข่าวที่ไหนครับ ทำไมผมไม่เคยพบคุณมาก่อนเลย” เสียงนุ่มของนายทหารหนุ่มทักขึ้นพร้อมท่าทางที่แสนสุภาพ และคำถามที่คาใจของเขา
    “สวัสดีค่ะ ดิฉันมาคนเดียว และก็ไม่เคยพบคุณมาก่อนเช่นกัน ดิฉันเป็นนักข่าวกีฬาจาก…..ค่ะ” เป็นไงล่ะ งงใช่ไหมที่ฉันเป็นนักข่าวกีฬาไม่ใช่สายทหาร พ่อหนุ่มทหารเรือ


    “ถึงว่านะสิคุณเป็นนักข่าวกีฬานี่เองผมถึงไม่เคยเห็นมาก่อน ผมชื่อ พาสุกรี ยินดีรับใช้ครับ” เสียงชายหนุ่มแสดงความตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยแนะนำตัว
    ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าท่าทางอรชรอ้อนแอ้นอย่างนี้ดูยังไงคุณเธอน่าจะเป็นนักข่าวบันเทิงมากกว่า เหมือนอย่างที่เพื่อนทหารร่วมโต๊ะคาดกันก่อนที่เขาจะเดินมาทักทายเธอ นึกไปนึกมาเขาเริ่มจำเธอขึ้นมาได้แล้ว เขาจำได้ว่าเมื่อหลายเดินก่อนกองทัพเรือจัดแข่งขันเรือใบนานาชาติขึ้น และเขาก็เห็นสาวสวยท่าทางทะมัดทะแมงคนหนึ่ง แต่ตอนนั้นเขาคิดว่าเธอน่าจะเป็นดาราที่มาร่วมเข้าแข่งขัน ที่แท้หญิงสาวคนนั้นก็เป็นนักข่าวหรือนี่
    “ผมนึกได้แล้วครับว่า ผมเคยเจอคุณที่ไหน เมื่อ 2-3 เดือนก่อนคุณได้ไปทำข่าวการแข่งขันเรือใบที่หัวหินหรือเปล่าครับ” เสียงชายหนุ่มถามอย่างกระตือรือร้น เพราะอยากได้คำตอบอย่างที่คิด
    “ใช่ค่ะ แต่ว่าดิฉันไม่เคยพบคุณนี่ค่ะ ขอโทษที่ลืมแนะนำตัว ดิฉัน จอมญาดา ค่ะ” เสียงหญิงสาวเรียบเฉยทำให้ชายหนุ่มรู้ตัวว่า เธอคงไม่อยากคุยด้วยเสียเท่าไหร่ เขาคงต้องถอยออกมาก่อนที่จะทำให้เธออารมณ์เสียดีกว่า
    “ผมขอตัวก่อนไปทักทายคนอื่นๆ ก่อนนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
    “ตามสบายค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” หญิงสาวตอบเสียงเรียบเช่นเดิม
    ด้วยหน้าที่แล้วหนุ่มทหารเรือคนนี้ต้องดูแลผู้สื่อข่าวทุกคนอย่างทั่วถึง จึงไม่มีโอกาสกลับไปพูดคุยกับนักข่าวสาวเจ้าของดวงตากลมโตอีกครั้ง และน่าเสียดายว่าเธอคงไม่อยากจะคุยกับเขาเสียเท่าใด เขาสรุปจากท่าทางของเธอที่แสดงออกมาแม้ว่าทั้งคู่จะสนทนากันไม่เพียงกี่นาที

    จากคุณ : ของขวัญ - [ 26 ต.ค. 46 01:24:52 A:203.149.7.157 X: ]