เฟเดอริก ไลล์ เจ้าแคว้นผู้สูงวัย แม้ว่าปีนี้จะมีอายุถึง ๕๗ ปี แต่ก็ยังมีแววตาเข้มแข็ง รูปร่างสูงใหญ่ ปลายจมูกงองุ้ม และสงวนคำพูด
ถ้าจะว่ากันจริงๆแล้ว ในบรรดาเจ้าแคว้นทั้งเจ็ด ถ้าไม่ใช่เพราะความอ่อนแอจากสงคราม เฟเดอริก ไลล์สมควรที่สุดที่จะได้รับตำแหน่งจักรพรรดิคนหนึ่ง นอกจากนี้บุคลิกของเฟเดอริกนั้นยังมีความหนักแน่นไม่หวั่นไหว แม้แต่ช่วงที่ไลล์เผชิญวิกฤตที่ย่ำแย่ที่สุด เนื่องจากต้องเผชิญทั้งศึกนอกและใน
ยังโชคดีที่ทัพคนเถื่อนนอกมิดแลนด์ระงับการโจมตีไลล์ชั่วคราว นัยว่าเพื่อรอดูสถานการณ์ และปล่อยให้ไลล์ล่มสลายจากภายใน แล้วจึงฉวยประโยชน์จากสถานการณ์ที่สุกงอม
ไลล์ขอความช่วยเหลือจากสองแคว้นที่มีเขตแดนติดต่อถึงกัน คือแคว้นคาร์ล และแคว้นไฮฟา
มีเพียงแคว้นคาร์ลที่ส่งวาลัวร์นักปราชญ์เพียงคนเดียว มาแทนกองกำลังทหาร ในขณะที่ไฮฟาไม่ได้ส่งความช่วยเหลือใดมาเลย
การกระทำเช่นนี้ของทั้งสองแคว้น ขุนนางไลล์ถือว่าเป็นการดูถูกกันอย่างมาก ในการประชุมสภาขุนนางของไลล์ เหล่าขุนนางไลล์พยายามกีดกันวาลัวร์ห้ามร่วมประชุม แต่ทว่าเฟเดอริกอนุญาตให้นักปราชญ์ผู้นี้เข้าร่วมประชุมสภาขุนนางด้วย
แล้วในการประชุม นักปราชญ์วาลัวร์ให้คำแนะนำที่ไลล์ไม่สามารถมองข้ามได้
"นี่เป็นโอกาสดีที่ไลล์จะจัดการความสงบในแคว้น" ปราชญ์วาลัวร์ชี้ "กบฏชาวนาไม่ได้มีความน่ากลัวอะไร ที่พวกมันกล้าก่อการได้ ก็เพราะเชื่อว่า เฟอร์กัสยังมีชีวิตอยู่"
"เราแค่ประกาศว่า เฟอร์กัส ตายแล้วก็พอ นี่เป็นสงครามของความเชื่อ ถ้าคนเชื่อว่าเฟอร์กัสตาย กบฏก็ไม่มีสัญลักษณ์อีกต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมกลับเป็นเหมือนเดิม"
มีเสียงดังเซ็งแซ่ขึ้นในที่ประชุม ทั้งคัดค้านและเห็นด้วย แต่ในที่สุดเฟเดอริกก็สั่งเห็นชอบกับความคิดของวาลัวร์
ไม่ช้าก็มีศพที่ถูกตัดศีรษะเสียบประจานกลางเมืองหลวงของแคว้นไลล์ พร้อมประกาศแจ้งนามเฟอร์กัสและความผิดฐานกบฏ
แน่นอนว่านี่คือศพตัวปลอม จัดทำขึ้นมาเพื่อทำลายขวัญของกบฏชาวนา
เหตุเพราะไม่เคยมีใครรู้จักตัวจริงของเฟอร์กัส ดังนั้นการอยู่หรือตายของคนผู้นี้จึงมีความหมายไม่แตกต่างกัน ฝ่ายกบฏหวังว่าเฟอร์กัสมีชีวิตอยู่ เครื่องมือการสร้างความเชื่อถือคือข่าวที่แอบแพร่งพรายกันปากต่อปาก ในขณะที่ฝ่ายขุนนางไลล์อ้างหลักฐานว่าเฟอร์กัสตาย และเผยแพร่ข่าวอย่างเปิดเผย
แผนการณ์ครั้งนี้ของไลล์ไม่ได้หวังว่าจะมีคนเชื่อว่าเฟอร์กัสตายแล้วทั้งหมด แต่ทำไปเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นของชาวนา เมื่อคนไม่แน่ใจว่าเฟอร์กัสอยู่หรือตาย ความมั่นใจก็หายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ความวุ่นวายที่มีอยู่ตลอดนับตั้งแต่กองทัพไลล์ตีกบฏชาวนาแตกพ่าย ก็เริ่มลดลงอย่างน่าประหลาดใจ
คืนนั้นเอง ผู้บุตรของเฟเดอริก ถูกสังหารในห้องนอน
ปราชญ์วาลัวร์หายตัวไปอย่างลึกลับ
เฟเดอริกผู้สุขุมลุ่มลึก ก็ไม่สุขุมอีกต่อไป เขากล่าวหาว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคาร์ล ซึ่งวางแผนส่งวาลัวร์เข้ามาสังหารทายาทแห่งไลล์
คาร์ลตอบปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และว่าหากไลล์จับตัววาลัวร์ได้ พวกเขายินดีให้ไลล์สอบสวนและพิพากษาโทษวาลัวร์นักปราชญ์ได้ตามที่เห็นควร
=====
ปราชญ์วาลัวร์ถูกพาตัวมายังหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาได้รับคำบอกเล่าจากผู้คุมตัวมาว่า เขาจะได้พบกับ "เฟอร์กัส"
เมื่อถูกพาตัวเข้าไป เฟอร์กัส ยืนรอเขาอยู่แล้ว
สิ่งที่ทำให้นักปราชญ์ตกใจ คือ เฟอร์กัสกลับกลายเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นอายุไม่เกินยี่สิบปี แต่เป็นเด็กที่มีใบหน้าสง่างาม ท่าทางโดดเด่นแตกต่างจากชาวนาทั่วไป
"ท่านคือเฟอร์กัส?" ปราชญ์วาลัวร์ถาม "มีคนบอกว่าท่านเป็นผู้นำกบฏ ข้าคิดว่าท่านจะเป็นชายชรา มีอายุเสียอีก"
เด็กหนุ่มยิ้มอย่างบริสุทธิ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า "ข้านี่แหละเฟอร์กัส... ท่านคือวาลัวร์?"
"ใช่! ข้าชื่อวาลัวร์" นักปราชญ์ว่า "ท่านพาตัวข้ามาทำไม?"
"มาช่วยกันสิวาลัวร์" เฟอร์กัสหัวเราะ แล้วชี้นิ้วออกไปข้างหน้า "ข้าว่า...มันน่าสนุกดีออก"
"ท่านทำทุกอย่างขึ้นมาเพราะแค่ว่ามันน่าสนุก?" วาลัวร์ตาเหลือก ในใจของเขาครุ่นคิด 'กบฏชาวนาของไลล์ เกิดขึ้นมาเพราะเด็กหนุ่มฟันไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แถมยังนึกว่าตัวเองเล่นสนุก นี่มันเรื่องตลกอะไรกันนี่'
ราวกับเฟอร์กัสรู้ว่าวาลัวร์กำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดขึ้นว่า "นี่แน่ะวาลัวร์!! ท่านว่าถ้าพระเจ้าไม่ได้มาจากเทพเจ้าเจ็ดองค์ ท่านจะว่ายังไง?"
ตามความเชื่อของมิดแลนด์โบราณ เทพเจ้าประจำวันทั้งเจ็ด จะมาชุมนุมกันเพื่อเลือกเทพเจ้าที่เชื่อว่ามีบารมีสูงที่สุดองค์หนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้า เทพองค์นั้นจะกลายเป็นพระเจ้า เมื่อเวลาผ่านไปนานแสนนาน จนเมื่อครบกำหนดพระเจ้าองค์เดิมก็จะหายไป เกิดเทพเจ้าองค์ใหม่ขึ้นมาครบเจ็ดองค์ใหม่ ครั้นแล้วก็จะมีการเลือกพระเจ้าครั้งใหม่อีกวนเวียนเช่นนี้ไม่จบสิ้น
คำพูดของเฟอร์กัสจึงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับชาวมิดแลนด์ทั่วไปอย่างวาลัวร์ เขาได้แต่อ้าปากค้าง
และตกตะลึงยิ่งขึ้น เมื่อได้ยินเฟอร์กัสว่า "พระเจ้ามีองค์เดียว มีอยู่มานานแล้ว และพระองค์ชี้ทางให้กับข้านะวาลัวร์"
"นี่มันไม่น่าเชื่อ" วาลัวร์ร้อง
"เสียงในหัว...พระเจ้าบอกข้าน่ะ" เฟอร์กัสจิ้มนิ้วมายังศีรษะตนเอง "แถมยังบอกให้ข้าจัดตั้งกบฏชาวนา ปลุกปั่นความวุ่นวายในเมือง แล้วยังแนะให้พาตัวท่านวาลัวร์มาหาข้า เขาบอกว่าท่านจะช่วยข้า"
"ทำไม?" วาลัวร์ได้แต่อ้าปากค้าง
"ท่านกลับไปอยู่กับคาร์ล ก็ไม่มีที่ให้ท่านแสดงฝีมืออะไร... ชีวิตวันๆก็คงเป็นเพียงขุนนางชั้นผู้น้อย คาร์ลส่งท่านมานี่ก็ไม่ได้หวังอะไรมากไม่ใช่หรือ" เฟอร์กัสพูดยิ้มๆ "ถ้ามาเข้าร่วมกับเราแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง ข้าว่าท่านคงชอบ"
"ที่สำคัญ" เฟอร์กัสยิ้มกว้างขึ้นอีก "ตอนนี้ท่านจะไปไหนก็ไม่ได้แล้วล่ะ จะกลับคาร์ลเขาก็ไม่ต้อนรับ จะอยู่ไลล์ท่านก็คงโดนลงโทษ ใครจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้เป็นฝีมือของกบฏชาวนา หือ?"
นี่เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ และฉวยโอกาสลงมืออันไร้ที่ติ เด็กทั่วไปไม่มีทางคิดได้แบบนี้ อย่าว่าแต่เป็นชาวนาด้วยเลย นักปราชญ์ได้แต่นิ่งอึ้ง 'แล้วที่ไอ้เจ้าเด็กคนนี้พูดเรื่องของเรา..."
"มันจริงซะด้วยสิ!'
============
แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 46 16:43:03
แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 46 16:35:43
จากคุณ :
bucky_m
- [
28 ต.ค. 46 01:35:49
]