อาศรมชาวโคลง ภาค ๗๖ “พักยกอติพจน์” ooo พรากจันทร์จากฟากฟ้า ooo

    สวัสดีครับ ทุกท่าน ..
    ด้วยกระทู้ที่แล้วมา ได้แสดงโวหาร เชิงเปรียบเทียบในแบบ อุปมา แล นามนัย (สัญลักษณ์)
    ((ซึ่งหลากหลายท่านได้ได้สำแดง เปลือย เสียสิ้น ไปแล้ว แหะๆ ))
    ยังมีอีกโวหารประเภทหนึ่ง เรียกว่า “อติพจน์”

    อติ    หมายถึง  ความยิ่งใหญ่ อลังการ พิเศษ
    พจน์ หมายถึง  ถ้อยคำ


    ในคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง”อติพจน์”จะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง ไม่เพ่งเล็งข้อเท็จจริง
    เพื่อสร้างจินตนาสื่อความหมายคลุมกว้างขวางออกไปยิ่งกว่าที่กล่าวไว้นั้น ดั่งนี้ “อติพจน์”
    จึงเป็น ถ้อยคำที่ชวนให้อลังการ หรือ การกล่าวเกินจริงในบริบท

    ดั่งจะยกบางบทกวี ของ ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์  ใน “ปณิธานของกวี”  มาดั่งนี้

    “ o ฉันเอาฟ้าห่มให้.... หายหนาว
    ดึกดื่นกินแสงดาว........... ต่างข้าว
    น้ำค้างพร่างกลางหาว...... หาดื่ม
    ไหลหลั่งกวีไว้เช้า........... ชั่วฟ้าดินสมัย ”


    แลกระผมได้ถูกบังคับแกมขู่เข็ญ จากผู้เฒ่าชาวอาศรมฯ
    จึงขอวางโคลง “ลูกทุ่ง” ไว้สักบท

    ….
    พรากจันทร์จากฟากฟ้า ……………. เมื่อใด
    สูรย์เสื่อมแสงไสว ………………… สาดหล้า
    ดาวนับหมื่นสิ้นขัย ……………….. ราวสาป
    โลกมืดมิดปิดฟ้า ………………….. รักข้าสว่างเสมอ

    ….

    นี่จึงเป็นที่มาของ “พักยกอติพจน์” ในอาศรมชาวโคลง ภาคนี้ จึ่งขอเชิญเสกสรรจินตนาโวหารเชิง”อติพจน์”
    ด้วยความสำราญ นะบัดนี้ ครับ ….

    Link กระทู้เดิม
    อาศรมชาวโคลง ภาค ๗๕ พักยกอัศจรรย์ ๐เปลือย-เปลี่ยว-เปล่า-เปื้อน๐ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2504013/W2504013.html

    ++++++++++++++++

    แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 46 00:07:30

    แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 46 02:59:48

    แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 46 02:58:35

    แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 46 02:57:34

    แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 46 02:47:59

    จากคุณ : วลี.. - [ 29 ต.ค. 46 02:43:29 ]