ลมหนาวเริ่มปริ่มขอบฟ้า นาน ๆ ครั้งจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของมัน บางทีสายลมที่โชยพริ้วก็มีคลื่นความเย็นปะปนมาด้วย ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นเหม็นไหม้ของบ้องข้าวหลาม ที่ทำจากต้นไผ่สด ๆ บรรจุไว้ด้วยข้าวเหนียวผสมน้ำกระทิ อุดแทนฝาด้วยใบตองมัดเป็นก้อน ซึ่งผมเคยนั่งมองพ่อเผาข้าวหลามเมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้วมา
แดดจ้ายามบ่ายของต้นหนาวปลายฝน จ้าเหลือทนจนต้องยิบหยีตา รอยย่นรอยขมวดทั้งหน้าผากและหัวคิ้วฝากริ้วรอยความชราไว้ให้เห็นเพิ่มขึ้นทีละเส้น ๆ ขณะที่ผมนั่งดื่มโอเลี้ยงอยู่ข้างถนนที่ลมโกรกผ่าน สายตาก็เหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ถูกขึงพืดโชว์อยู่ที่หน้าร้านฝั่งตรงข้าม พาดหัวของมันใหญ่โตที่ผมพอจะมองเห็นและอ่านออก ภาพหญิงสาวสวยงามตาแดงกำลังป้ายน้ำตาโชว์หราขึ้นหน้าหนึ่ง นั่นคงเป็นเหตุให้ผมเดินข้ามถนนไปซื้อมานั่งอ่าน
อ่านและก็รู้สึกจุกอยู่ที่อก อึกอักขัดข้องอย่างบอกไม่ถูก ว่าโลกนี้หนอเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ แค่เพียงการผ่านการมีสามีแล้วของผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เป็นตราบาปตามซ้ำย่ำยีศักดิ์ศรีของความเป็นคนได้เพียงนี้
ละไว้ซึ่งการผิดศีลข้อมุสา หญิงสาวผู้นี้ผิดใดไปอีกเล่า จากเล็กจนเติบใหญ่ในวัยกำดัดรุ่น ความสวยงามอร่ามตาของเธอคงเป็นที่หมายปองจ้องเป็นมันจากชายหนุ่มทุกผู้ เธอถูกปลุกเร้าความมั่นใจด้วยตำแหน่งสูงสุดของเวทีประกวดแถวบ้าน แล้วเธอก็ต้องเห็นดีเห็นงามไปกับผู้ใหญ่ที่รายล้อมรอบตัว ด้วยการตัดสินใจแต่งงานกับชายฉกรรจ์ผู้มีอิทธิพลและมั่งคั่งในสายตาของคนแถวนั้น นั่นคงเป็นสิ่งที่เธอทำได้ถูกที่สุดแล้ว ณ เวลานั้น
วันเวลาผันผ่านไปตามกฎกติกาของจักรวาล ทุกชีวิตผันผ่านไปตามกงกรรมและกงเวร การครองชีวิตคู่ของเธอกับเขาคงไม่ราบรื่น หากความสวยของเธอยังเป็นที่หมายปองจ้องตาจากบริวารรอบข้าง ธุรกิจนางงามจู่เข้าจับเธออย่างไม่รู้ตัว การปิดบังซ่อนเร้นสิ่งที่ไม่ใช่ความลับของคนอื่นแต่เป็นความลับที่สำคัญยิ่งของธุรกิจนางงาม จึงเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ
จากข่าวสารที่ได้รับจากหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งทุกวันนี้คงมีความจริงเพียงครึ่งเสริมแต่งด้วยอารมณ์:-)ดันของนักข่าวอีกครึ่งนั้น ทำให้ผมตระหนักได้ดีถึงวิถีแห่งชีวิตของเธอผู้นั้นได้ คุณอาจจะเห็นว่าผมมองไปเองและคิดไปเอง แต่คุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็อาจจะเป็นดังเช่นที่ผมกล่าวมาข้างต้นนั้นได้ ซึ่งหากมันเป็นอย่างนั้นจริงแล้ว ผมถามว่าเธอผิดหรือไรที่เธอมีสามีแล้วบังเอิญได้ตำแหน่งรองนางงาม???
การประกวดนางงามมีไว้เพื่ออะไร เพื่อเปิดโอกาสให้หญิงสาวผู้ไร้สามีเท่านั้นจึงจะครองตำแหน่งได้?? หญิงสาวผู้ไร้สามีมีประโยชน์อย่างไร?? แสดงถึงความเป็นไทยได้แค่ไหน?? หรือแสดงถึงความเป็น คนดี ของสังคมได้อย่างไร?? เราจะใช้บรรทัดฐานใดมาวัดได้??
หรือจะมองอีกด้าน ผู้หญิงมีสามีแล้วไม่ดีอย่างไร?? ร่างกายทรุดโทรมบกพร่องลงตรงไหน?? เหตุใดเธอยังรักษาร่างกายและรูปร่างให้ดูดีจนได้รับการตัดสินให้ได้ตำแหน่งมาจนได้?? หรือผู้หญิงมีสามีแล้วนิสัยจะเสีย ไม่สามารถดูแลรักษาประเพณีและวัฒนะธรรมไทยอันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อคนอื่นได้??? หรือผู้หญิงที่มีสามีแล้วไม่มีสิทธิจะเป็นนางงาม มีสิทธิเพียงเป็นแม่ครัวล้างชามอยู่หลังบ้านเท่านั้น??
เหล่านี้เป็นคำถาม คำถามที่เกิดจากโอเลี้ยงเพียงแก้วเดียวที่ผมนั่งดูดดื่มอยู่ริมถนน ท่ามกลางแดดจ้าและความคับคั่งของการจราจร และสายลมผสมลมหนาวต้นฤดู ยามบ่ายของวันที่ผ่านมา กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ต้องใช้เงินเกือบสิบบาทซื้อมันมาอ่าน
ให้ตายเถอะ พลันที่ผมละสายตาจากหนังสือพิมพ์ สิ่งที่ผมเห็นอยู่ทั่วไปนั้นคือผู้หญิงหลายร้อยคนที่กำลังเร่งรีบเธอเดินปะปนอยู่กับผู้ชายซึ่งสังคมหรือระเบียบใดไม่เคยห้ามการจะมีภรรยามาแล้วหรือไม่อย่างไร บ้างก็เดินอยู่ข้างถนน บ้างก็ต้องเหงื่อแตกเบียดเสียดเท่าเทียมกับผู้ชายบนรถเมล์ คำถามที่ซ้อนขึ้นมาในทันทีนั้นก็เกิดขึ้น อันเป็นต้นเหตุของการอึกอักขัดข้องใจจนต้องมาเขียนรำพัน ณ ที่แห่งนี้
นั่นคือ..
สมัยนี้ จะมีผู้หญิงสักกี่คน ที่ยังไม่เคยมีผัว?????
..
จากคุณ :
แทนเองครับ
- [
30 ต.ค. 46 16:51:22
A:202.5.92.222 X:
]