บ้านเรือนเคียงกัน ….(ไม่อยาก)แอบมองทุกวันเลยเชียว##ตอนที่4


    อิอิ  คราวนี้คั้นออกมาแล้วปั่นได้แค่ตอนเดียวอ่ะค่ะ  ^_^

    ขอบคุณสปอนเซอร์ก่อง

    -  ทั่น ริเศรษฐ์ -
    ขอบคุณสำหรับกะลังใจค่ะ
    แวะมาอีกนะคะ  ^_^

    - ทั่น  พิจิกา...ต้นหนาว -
    นั่นสินะ  เมื่อไหร่บ้านจะสร้างเสร็จ
    เด๋วข้าพเจ้ารีบไปถามวิดวะตัวจิงดีก่า
    ว่าสร้างบ้านนี่นานแค่ไหน  อิอิ
    (หาข้ออ้างนะนั่น)  ^_^

    - ทั่น   เปียร์รุส –
    55 ที่ยาวได้เพราะแต่งไว้แล้วค่ะ
    แต่ว่าตอนนี้..คั้นมาได้แค่นี้ค่ะ ^_^

    - ทั่น cheese_cake -
    เนอะๆ พระเอกน่ารัก  
    จาน่ารักขึ้นถ้ามาอ่านอีกค่ะ อิอิ  ^_^

    - ทั่น  น้ำลายบูด -
    ก็พล๊อตเรื่องนี้ได้มาจากทั่นน้ำลายบูดไง
    55 แต่ไม่จ่ายลิขสิทธิ์นะ  อิอิ   ยิ้มตอบค่ะ ^_^

    - ทั่น  TSURUGI -
    ไม่ช้าไปหรอก  รอ  ร๊อ  รอ  อยู่  อิอิ

    กลับไปอ่านที่เม้นต์แล้วจ้ะ  คำตอบอยู่ใน
    ตอนที่ 3  นี่จ้ะ  ก้จิงๆก้ยอมรับนะว่าลืมไป
    พอคิดได้เรย  แก้ไขในตอนที่ 3 แล้ว  
    ขอบคุณนะ  แดงว่าตั้งใจอ่าน (รึว่าตั้งใจจับผิดเนี่ย
    55  ล้อเล่นนะ ) …  งี้พี่เอ๋รักเรย  ^_^


    - ทั่น  หนูยี -
    รับทราบค่าาาา    พี่จารอ  ตั้งใจสอบนะ
    get A ทั้งครอสเลยนะ  สาธุๆ  

    อิอิ  แอบเยาะเย้ยคนไม่ได้ปิดเทอม หุหุ
    แต่จะว่าไป  พี่ก็เหมือนไม่ปิด
    ต้องไปทำงานที่มอตลอดเรยอ่ะ  แง…^_^

    - ทั่น  รียา -
    อุ๊ย..ชื่อใกล้กะนางเอกเรย…อิอิ

    อืม…นั่นสินะ  พระเอกนี่เงียบเรย
    ก้ไม่รู้ว่าเป็น spy รึเป่า … ^_^

    (spy อีกแระ  หนูยีเอามาหลอกหลอน)
    55  นอกเรื่องละนั่น

    - ทั่น  วีรดา -
    ขอบคุณที่ชมชื่อเรื่อง  อิอิ  
    พอดีได้มาจากม๊า  ชอบร้องบ่อยๆ

    ตอนที่ 1 มีคนลิงค์ให้แระนะ  แต่ต้องขอโทษ
    ที่ข้าพเจ้าทำไม่เป็นน่ะค่ะ  (แอนทาเรส
    ทำหน้าสำนึกผิดค่ะ)  ^_^

    - ทั่น  ณัฐกร -
    ขอบคุณกั๊บที่ทำลิงค์ให้  
    ข้าพเจ้านี่ . .แหะๆ  ม่ะหวายๆ

    เอาไว้มาอ่านอีกนะเจ้าคะ  ^_^

    - ทั่น scottie  -
    อิอิ  โลกกลมเว่อร์เนอะ แต่ว่า
    ข้าพเจ้าก้ยังอยากให้กลม :D

    ตอบกระทู้ภาษาวัยรุ่น…หุหุ
    ก้ข้าพเจ้ายางม่ะแก่นี่นา  
    เอ..รึว่าแก่แร้นเนี่ย..เหอๆ  งง   ^_^

    - ทั่น  paoji -
    ขอบคุณกะลังใจเจ้าค่ะเพ่เปา
    อุตส่าห์มาอ่าน ทั้งๆที่ม่ะชอบ
    เรื่องแนวนี้  …จึ๊ง…. ^_^

    - ทั่น  เอ่อ่อ่ะนะคะ -
    ยิ้มมาเชียวนะ  มายิ้มแบบนี้ทุกตอนนะ
    (เปงหน้าแมวให้หน่อย) เด๋วพี่พาไปหม่ำๆ
    ไอกะติมน้อยหน่า  สนป่าวๆ  ^_^

    - ทั่น  aecey -
    อิอิ  ข้าพเจ้าก้สงกะสัยอยู่
    ว่านี่มันเรื่องสั้นแน่รึป่าว  ^_^

    - ทั่น  กั๊ดจัง -
    อิอิ  น่ารักเจงๆป่าว  …เขิล
    ถ้าน่ารักก้มาอ่านอีกนะเจ้าคะ  ^_^

    - ทั่น syringe  -
    ขอบคุณค่าาาา  พี่หมู
    ว่าแต่เก็บไปไหนอ่ะคะ  ^_^


    ตอนที่ 4  แกล้งซะ  …  แต่ไม่ยอมเข็ด

    from: แพรว  < yaipraew@antaresmail.com >
    To: nay_korn@antaresmail.com
    Subject:  แกล้งซะ  …  แต่ไม่ยอมเข็ด
    Date:Thu,30 Oct 2003  19 : 35 : 21

    พี่กรขา  คิดถึงจัง  ไม่ได้ส่งมาหาซะหลายวัน  ก็น้องคอมล่ะสิ  อู้งาน  พี่กรเลยตกข่าวไปเลย  55  แต่นะ  ว่ากันไม่ได้หรอก  ทีพี่กรยังไม่เห็นส่งมาเล่าให้แพรวฟังซักเรื่องนึง  ทำไมเงียบไปอย่างงี้  อ้อ..รึหวังจะให้โทรไป  ไม่มีทางอ่ะ  เปลืองๆๆๆๆ  

    หลายวันมานี่ตาพี่ติมาบ้านเราทุกวัน  มีของมาฝากทุกวัน  ส่วนใหญ่ก็ขนม  เค้าบอกว่าป้ามาฝากมาให้แพรว  เห็นว่าจากป้ามานะคะถึงรับ  ถ้าเป็นของเค้า  แพรวไม่รับเด็ดขาด

    แม่ก็ต้อนรับอย่างดีตามเคย  แต่แพรวกับพ่อสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ  แพรวน่ะตั้งใจจะห่างนะ  แต่ดันมีเรื่องให้ต้องไปสังเกตการณ์ใกล้ๆ  แต่ว่าใกล้ก็ดีใช่ป่ะ  เพราะว่าจะได้รู้ความเคลื่อนไหว  55

    “ผมมาคุมงานก่อสร้างครับ” นี่คือเหตุผลที่เค้าต้องโผล่หน้ามาทุกๆวัน  แม่ก็ปลื้มใจไปใหญ่ ชมว่าขยัน เอาการเอางาน

    “อยู่ถึงกลางวันมั้ย  ถ้าอยู่มาทานข้าวด้วยกันสิ”  แม่ชวนเค้ามาทานข้าวด้วยเฉยเลย  ไม่รู้ตาพี่ติไปหว่านเสน่ห์อะไร  แม่ถึงได้เอ็นดูขนาดนั้น  น่าหมั่นไส้

    “ครับ”  แน่ะ  ..  ไม่มีปฏิเสธเลย  คนอะไรไม่มีมารยาท  :P

    แล้วไม่แค่นั้น  แม่ยังให้แพรวเอาน้ำ  ไม่ก็ขนมขนม  บางทีก็ผลไม้  ไปให้ตาพี่ตินั่นทุกวัน  ทำไมต้องเป็นแพรวด้วยนะ  ไม่เข้าใจ  รู้ก็รู้ว่าแพรวไม่อยากญาติดีกะพี่ตินั่น  

    วันแรก

    “น้ำ”  แพรวยื่นแก้วไปตรงหน้าเค้าแล้วพูดสั้นๆแค่นี้แหละ  (แต่น้ำนั่นน่ะ.. น้องๆ Death Sea เลยล่ะค่ะ  55)

    “ขอบใจนะ”  หันมายิ้มให้อีก  ใครใช้ให้ยิ้มสวยไม่ทราบ  พี่กรรู้ป่ะว่าแพรวเกือบเผลอทำฟอร์มหลุดกระจาย  เพราะรอยิ้มเค้านี่ล่ะ   …  แต่ก็นึกได้  รีบเตือนตัวเอง..ไม่ได้ๆ  ไม่เห็นน่ารักเลย  

    “กลับแล้วนะ”  แพรวต้องรีบๆไปซะก่อนที่จะตาพี่ติจะดื่มน้ำ  แหม..แต่ก็อยากเห็นหน้าอยู่เหมือนกันว่าจะทำหน้ายังไง

    “เดี๋ยวแพรว”  ต๊าย….  นี่เรียกแพรวเหรอ  ไม่อยากจะเชื่อ

    แพรวหันไปทำตาเครื่องหมายคำถาม  ..  ไม่รู้รึไงนะว่าคนเค้าไม่อยากพูดด้วย

    “มีธุระเหรอ”  เค้าถามสั้นๆ

    “ป่าว  ทำไมคะ”  แพรวก็ไม่รู้ว่าทำไมไม่บอกว่ามีธุระ  จะได้รีบๆไป

    “งั้นอยู่คุยกันก่อนสิ”  คราวนี้พูดแล้วก็หันมายิ้มอีกแล้ว  แพรวเลยลืมตัวไปอยู่คุยกับเค้าเฉยเลย  

    และเมื่อพี่ติก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม  …   คนหน้าตาดีถึงกับเก๊กไม่ออกไปครึ่งวินาที แล้วรีบเก๊กหน้าหล่อตามเดิม  … แต่แพรวก็ทันเห็น 55  ขำในใจ  ..  ดี  ถ้าเข็ดวันหลังได้ไม่ต้องไปแวะที่บ้านเราอีก  

    ..  แต่ว่า..  หน้าหล่อๆก็ยิ้มออกมาเฉยๆ  ยิ้มที่ทำเอาแพรวทำหน้าไม่ถูกเลย  แถมยังดื่มน้ำจนหมดแก้วอีกต่างหาก  แพรวต้องแอบกลืนน้ำลาย  ..อี๋  เค็มจะตาย  บ้ารึเปล่านะ  รึว่าอยากเอาชนะกัน

    แล้วก็ร้ายมากนะตาพี่ติเนี่ย  ไปฟ้องแม่เฉยเลย  ตอนที่ไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน

    “น้ำแตงโมปั่นอร่อยมั้ยติ  ยัยแพรวอาสาทำเองเลยนะ”  แพรวแทบสำลัก เมื่อแม่พูดมางี้

    “ครับ  แต่กระปุกน้ำตาลกับเกลือคงสลับกัน”  ตาพี่ติบอกแม่  แล้วหันมายิ้มให้แพรว  ยิ้มนี่ไม่สวยเลย  กลับดูกวนที่สุดเท่าที่เคยเห็น  

    แพรวก็เหงื่อตกรอฟังคำพิพากษา

    “อ้าว..แพรว  ทำไมอย่างนั้นล่ะ”  แม่ทำเสียงรู้ทันอีกแล้ว  แง…  ทำไงดี

    “ก็เค้าบอกว่าผู้ชายไม่ชอบของรสหวานนี่นา  แพรวหวังดีหรอก”  ถูๆไถๆไปก่อนละกัน

    “มีอะไรกันเรอะ”  55  ระฆังช่วยชีวิต  พ่อกลับมาจากข้างนอกพอดี  ยังไงๆพ่อก็เข้าข้างแพรวอยู่แล้วล่ะ  แล้วแม่ก็เล่าให้พ่อฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

    “เข้าใจล้อเล่นนะเรา”  55  บอกแล้วว่าพ่อเข้าข้างแพรวอยู่แล้ว

    แต่แม่ก็ยังไม่วายดุอีกสองสามคำ  ก็รู้นะคะว่าผิด  แต่มันอยากแกล้งนี่นา

    ไม่แค่นั้นค่ะ  พ่อ..ที่เหมือนจะเข้าข้างแพรว  ก็มาดุแพรวอีกเหมือนกันว่าไม่ควรทำอย่างนั้น  ไม่ชอบก็ไม่ควรไปยุ่งกับเขาจะดีกว่า  พี่กรล่ะ  ว่าไง

    วันต่อมา

    แพรวเอาไอศครีมชาเขียวไปให้  ของโปรดแพรวนะเนี่ย  ทำไมต้องแบ่งให้เค้าด้วยนะ  แต่ว่าคราวนี้ไม่เค็มอย่างแน่นอนค่ะ

    “เค็มอีกรึเปล่า”  แพรวแกล้งถามประชดเมื่อเค้าตักไอติมเข้าปาก

    คราวนี้หน้าหล่อเก็บอาการได้อย่างมิดชิด  ..  :P

    “อืม..ไม่เค็ม  แล้วก็ไม่หวานด้วย  เพราะพี่ไม่ชอบรสหวานนี่เนอะ” ไม่พูดกวนอย่างเดียว ยังมาทำหน้ากวนอีกต่างหาก  แต่แล้วก็ทานจนหมดอีกตามเคย

    อี๋…  แพรวบีบมะนาวใส่ลงไปในนั้นล่ะค่ะ   ทานเข้าไปได้ไง  งานนี้เป็นอะไรก็ช่วยไม่ได้นะ  เพราะอยากทานเข้าไปเอง  ไม่ได้บังคับ

    แล้วแพรวก็ลืมตัวอยู่คุยกับเค้าไปจนแม่ต้องมาตามไปทานข้าว  แต่วันนี้ไม่ฟ้องแฮะ ..  

    วันต่อมาอีก

    วันนี้แพรวเห็นเค้ามา  แล้วก็รีบกลับไป  แอบเห็นว่ามีสาวๆนั่งอยู่ในรถด้วย  คงเป็นแฟน  ..  เอ..  แล้วแฟนตาพี่ตินี่เป็นผู้หญิงเหรอเนี่ย  …  ไม่น่าเชื่อแฮะ  55

    วันนี้เลยรอดตัวไป

    วันต่อๆมา

    แพรวแกล้งพี่เค้าซะจนไม่อยากแกล้งแล้วล่ะ  แกล้งก็ไม่รู้จักเข็ด  กลับเป็นแพรวซะเองที่เบื่อ  ต้องหาเรื่องใหม่

    เมลฉบับนี้ยาวเลย  เพราะอัดอั้น  ไม่ได้ระบายมาหลายวัน  พี่กรก็อ่านตาแฉะไปนะ 55  โทษฐานที่ไม่ตอบมา   ถ้ายุ่งอยู่ก็ไม่ว่ากัน  แต่ถ้าจับได้ว่าขี้เกียจนี่นะ  เป็นเรื่อง   คิดถึงพี่กรนะ

    ….แพรว….

    ----------****----------

    หลังจากที่รอมาหลายวัน  E-mail ฉบับนี้ก็มาถึง  ฐิติกรนั่งอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นึกเขินอยู่เหมือนกันที่ถูกชมอย่างนี้  

    แต่คนชมก็คงไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอก็ทำเอาเขาเก็บมาคิดถึงเหมือนกัน  

    นึกแล้วก็ขำเรื่องที่แกล้งกัน ….หน้าใสถึงกับสลดเมื่อถูกคนเป็นแม่ถาม  แถมยังเหลือบมองเขาอย่างแค้นๆ  คล้ายจะบอกว่า  ฝากไว้ก่อนเถอะ…แล้วปากเล็กนั่นก็แก้ตัวออกมาได้น้ำขุ่นๆ …

    ร้ายเหมือนกันนะ  ทีแรกก็นึกว่า  การไม่ญาติดีกันนี่จะไม่พูดไม่จา  เขายังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริงๆ  จะไปตามตื๊อพูดด้วยยังไง  เพราะเขาเองก็ไม่ใช่คนที่คุยเก่งอะไรนักหนา  คงไม่กล้าไปชวนเธอคุยเป็นแน่

    แล้วก็นึกถึงที่คุยกัน  บ่อยครั้งที่เธอเหมือนลืมตัว  ได้โอกาสก็พูดซะยาว  

    “พี่ติไม่ไปทำงานรึไง  ถึงมาได้ทุกวัน”

    “นี่ก็งานพี่”  เขาตอบไปแค่นั้น  ก็เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดนี่นะ  

    “อ้าว..”  เธอทำตาโตอย่างสงสัย  หรือว่าอย่างที่เจ้าตัวเรียกว่าทำเครื่องหมายคำถามนั่นล่ะ

    “พี่จบวิศวะ  แล้วบ้านนี้ก็เป็นความรับผิดชอบของบริษัทที่พี่ทำงาน  เลยขอมาดูแลเอง”  คราวนี้เขาตอบได้ยาวๆแฮะ

    “จริงเหรอ  พี่ติเนี่ยนะจบวิดวะ  แพรวนึกว่าจบนิเทศน์รึว่าบัญชีซะอีก  ดูไม่เหมือนเป็นเด็กวิดวะเลย”  เอาอีกละ  ..  ไม่เหมือนตรงไหน  นี่กำลังจะว่าอะไรกันนะ

    “ยังไง”  เขาก็รีบถาม

    “ก็พี่ติดูสำอางค์ๆ  แต่งตัวเลี่ยมๆ  ไม่เห็นเซอร์ๆเหมือนพวกวิดวะเลย”  เขามองเธอลอยหน้าลอยตาตอบ  อย่างที่เจ้าตัวคิดเอาเอง  แล้วนึกขำ

    ก็นั่นมันตอนเรียน..  นี่จบแล้ว  ทำงานแล้ว  จะให้มาแต่งตัวเซอร์ๆ  ทำตัวเถื่อนๆแบบนั้นได้ซะที่ไหน  ใครเค้าจะเชื่อถือ

    สาวน้อยตรงหน้าเห็นเขาขำออกมา  ถึงกับหน้าแดง  .. ทีแรกแอบคิดว่าเธอเป็นปลิ้มกับหน้าตายามหัวเราะของเขาอีก (แต่ก็ดูจะหลงตัวเองมากไป)    แต่ก็ได้รู้ว่าเป็นเพราะโกรธเขามากกว่า  เพราะตาโตนั้นจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง   และถามเสียงเขียว

    “ขำอะไรไม่ทราบ”

    “….”  เขาตั้งใจมองหน้าเธออย่างกวนๆ  โดยที่ไม่ตอบอะไร  ปล่อยให้หน้าใสแดงเรื่อเพราะว่าโกรธไปอย่างนั้นแหละ    

    ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากลายเป็นคนชอบแกล้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่  รู้แต่ว่ากับคนคนนี้อยากแกล้งเล่นนัก  ก็เวลาทำท่าโกรธ   ดูน่ารักเชียว

    “ทำไมต้องรีบมาปลูกบ้านด้วยล่ะ”  เธอรีบเปลียนเรื่อง  ถ้าเขาเดาไม่ผิด  คงเริ่มเขินๆขึ้นมาบ้างที่ถูกเขามองแล้วยิ้มอยู่อย่างนั้น  เพราะว่าแก้มใสแดงขึ้นกว่าเมื่อกี้อีก

    “แม่พี่อยากมาอยู่เร็วๆ  เราได้เป็นเพื่อนบ้านกัน”  เขานึกอยากตีปากตัวเองเหมือนกัน  ไม่น่าพูดอย่างนี้เลย  เพราะเหมือนช่วยเตือนให้เธอนึกได้  ว่าจะไม่ญาติดีกับเพื่อนบ้าน  จึงรีบตัดบทแล้ววิ่งกลับบ้านไปซะเฉยๆ

    และตอนนี้เธอคงคิดว่าเขามีแฟนแล้วแน่ๆ  แถมยังมาหาว่าเป็นเรื่องตลกที่เขามีแฟนเป็นผู้หญิง  ไม่เข้าใจว่าเขาดู ab  ตรงไหนเนี่ย  ..

    แต่ว่า  ดูเหมือนเธอจะไม่ใส่ใจนี่นะกับเรื่องที่เขามีแฟนหรือไม่มี  คิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความน้อยใจที่แว๊บเข้ามาแต่ก็เพียงนิดเดียว  ก็เธอเพิ่งจะรู้จักเขา  จะคาดหวังอะไรนักหนา  เขาต่างหาก  ที่ได้รู้จักเธอมานานแล้ว

    ฐิติกรรีบสลัดความคิดนั้นออกจากหัว    แล้วคิดถึงเรื่องที่จะบอกความจริงกับเธอยังไง  เพราะยิ่งปล่อยไว้นาน  เรื่องอาจจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น  

    โดยเฉพาะ  ..  เมื่อเขารู้สึกว่า  เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขาไปแล้ว   จึงอยากรีบบอกความจริง  แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง  จะพูดยังไง  ให้ความรู้สึกเธอที่มีต่อเขาไม่แย่ไปมากกว่านี้  …

    จากคุณ : Antares - [ 31 ต.ค. 46 19:40:51 A:202.44.135.35 X:unknown ]