AMERICA and INDIA....ในค่ำคืนหนึ่ง

           คืนหนึ่งกับผู้ค้นพบ


    ทางเดินของผองชนร่วมสมัยเดียวกันค่อนข้างธรรมดา   ยิ่งสามัญควรยิ่งสร้างอาการเบื่อหน่าย  ยังดีสมัยนี้มีแนวปรัชญาชีวิตที่พอเพียงมาคอยหล่อเลี้ยงลมหายใจ  มิเช่นนั้นแล้ว อัตราการฆ่าตัวตายบนพื้นโลกคงเกินครึ่งของจำนวนประชากรมนุษย์  เนื่องจากข้อจำกัดพื้นฐานมากมายที่ค่อยๆบัญญัติขึ้นพร้อมวันเวลาที่ล่วงพ้น  ศาสนา  หลักธรรม  กฎหมาย  ขนบธรรมเนียม ประเพณีและเงินตรา    ผมเกิดมาบนโลกด้วยความปลาบปลื้มปรีดาของบิดามารดา  ตลอดช่วงอายุผมยอมรับและมีความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา  มีความทะยานอยากตามวิสัยลูกผู้ชาย  เชื่อว่าถ้าต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี  ผมก็ต้องเป็นได้  แต่น่าเสียดายผมก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ก๊าซออกซิเจน  ปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีพ  ขาดมันไป   เรามอดม้วยมรณะ

    โลกได้ผ่านสายตาของผมมาสิบเก้าปี    ขอบเขตขึ้นอยู่กับสิ่งที่ชีวิตหยิบยื่นให้  สุดท้ายคงไม่ทั่วทุกหลืบมุม  คนเราควรท่องโลกกว้างให้ครบ
    “  จริงหรือ ? ”
    ถ้ามีบุญความฝันของผมคงเป็นจริง  มหานครลอนดอนคงร่วงหล่นลงมาให้ได้ย่ำเหยียบสักวัน  
    “ แต่ประเด็นสำคัญคือ  ค่าตั๋วเครื่องบิน ”
    ถูกต้อง  ดังนั้นเมืองหลวงของอังกฤษจึงล่มสลายไปพร้อมๆกับเศษสตางค์ติดก้นกระเป๋า  
    ผมอยากพึ่งพาสองเท้าก้าวข้ามทวีปเอเชีย ล่องเรือทะลุผ่านคาบสมุทร เคาะประตูสู่ดินแดนในฝัน
    “  จะเอาพื้นที่ไหนนอน จะเอาที่ไหนกิน  พูดภาษาต่างด้าวเป็นสักคำรึเปล่า ?
    ยุคสมัยแบบนั้นปิดตัวลงไปหมดแล้ว  การผจญภัยแบบไปตายเอาดาบหน้าจบสิ้นลงตั้งแต่เราเริ่มสรรเสริญบรรดานักปราชญ์และเหล่านักประดิษฐ์  ”
    ผมพูดคุยกับชายชื่อ โคลัมบัส( นามแฝงของคนในโลกไซเบอร์คนหนึ่ง )มาเกือบชั่วโมงหนึ่ง  ข้อความนอกเครื่องหมายคำพูดคือถ้อยคำของเขา   ส่วนนอกเหนือจากนั้นล้วนมาจากความเห็นของผม   ลืมบอกไป  ผมมีชื่อว่า คานธี (Khanthi)  เราทั้งสองคนต่างจารึกชื่อไว้ในหนังสือประวัติบุคคลสำคัญ  
    นามแฝงของผมคือคานธี  ชื่อนี้เรียกง่าย  ฟังดูดี  น่านับถือและน่ารัก   เพราะถ้าอ่านตามภาษาอังกฤษพออ่านได้ว่า ขันที    ชื่อขำๆแบบนี้เชื้อเชิญสาวๆชงัดนัก   แต่น่าเสียดายสาวๆกลับคลั่งไคล้ชายหนุ่มผู้บรรเลงสีบนผืนผ้าใบจนโด่งดังอย่างนาย ลีโอนาโด  มากกว่า   หรือผมจะเข้าใจผิด   ดังนั้นคานธีจำใจต้องคุยกับโคลัมบัสจนได้   เขาพากเพียรทักผมเกือบห้าสิบรอบ  เล่นเอาต้องยอมใจอ่อน
    นามแฝงของโคลัมบัสแปลกหูดี  คนยุคกระสวยอวกาศจดจำความสำคัญของชายคนนี้ได้ไม่เยอะนัก  เขาควรเป็นคนระดับศาสตราจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หรือนักศึกษาผู้ใฝ่รู้   ผมชอบพูดคุยกับบัณฑิต  แต่ปรากฏว่าสามชั่วโมง ของการสนทนาผ่านแป้มพิมพ์ในงานปาร์ตี้สวมหน้ากาก ณ ห้องแชทรูม  เขาเป็นเพียงบุรุษช่างฝันระดับจักรวาลและชายขี้โม้อันดับหนึ่ง   ไม่น่าแปลกใจเลยที่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครคุยกับเขาได้นาน…เท่าผม
    “ เอางี้ เรายุติการคุยเรื่องเครียดเอาไว้ก่อน มาเล่นเกมถามตอบกันดีกว่า ? ”
    ผมอยากลองภูมิโคลัมบัสดูบ้าง
    “ OK . ”
    โคลัมบัสพิมพ์ตอบกลับมา   ผมคิดในใจว่าเขารู้ภาษาอังกฤษสักกี่คำ
    “ ใคร เป็น ผู้ ค้น พบ ทวีป อเมริกา ? ”
    ผมพิมพ์คำถามคำเว้นคำ  ให้แน่ใจว่าเห็นชัดอ่านง่าย  
    “ ผมไม่แน่ใจนักนะ ….เรื่องมันก็นานแล้ว ผมเดาเอาว่า  จอร์จ วอร์ชิงตัน ”
    โคลัมบัส ตอบมาเรียบๆ ผมยังคิดว่าเขาเล่นมุขกลับ ก็เลยถามซ้ำอีกหนด้วยขนาดอักษรใหญ่กว่าเก่า
    “ใคร เป็น ผู้ ค้น พบ ทวีป อเมริกา ?”
    “ อ้าวผิดเหรอ  ถ้าอย่านั้นผมขอตอบใหม่  ไมเคิล จอร์แดน ”
    โคลัมบัสตอบกลับมาเรียบๆอีกหน ผมฉงนสงสัยว่ากำลังคุยกับเด็กชั้นอนุบาลอยู่ใช่ไหม
    “ โอเค ผมเฉลยให้คุณฟังก็ได้  ผู้ค้นพบคือคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ”
    “ อืม…ชื่อเดียวกับผมเลยนะ น่าดีใจจริงที่บังเอิญชื่อไปพ้องกับบุคคลสำคัญ ”
    โคลัมบัสตอบกลับมาอย่างใสซื่อกว่าเก่า  แถมยังเป็นพวกถือลัทธิมองโลกในแง่ดีเสียด้วย
    “ ช่วยบอกชื่อบุคคลสำคัญของประเทศอินเดียมาสักชื่อสิ ? ”
    ผมเคาะแป้นส่งคำถามต่อไป  ถ้าหากคำถามหมูๆแบบนี้ ยังตอบผิด  คงต้องถือว่าโง่เอาการ
    “ มหาตมะ คานธี ”
    คราวนี้เขากลับตอบถูก และส่งข้อความต่ออย่างรวดเร็ว
    “ ก็แค่บุคคลผู้พยายามประพฤติตนเป็นศาสดาอีกราย เท่านั้น  ”
    ผมแปลกใจกับความเห็นของเขา  เนื่องเพราะคานธีคือผู้สมานรอยร้าวระหว่างเพื่อนร่วมชาติแต่ต่างศาสนาจนสำเร็จ  ปลดปล่อยอินเดียจากการเป็นเมืองเชลยของสหราชอาณาจักรบริเทน  คานธีคือบุคคลผู้ยิ่งใหญ่  อย่างน้อยผมก็นับถือ  
    “ คานธี ไม่สมควรเป็นบุคคลสำคัญหรือ ? ”
    ผมถามกลับ
    “ เขาก็เป็นเพียงชายชราผู้มอบอิสระภาพแก่ประเทศหนึ่งเท่านั้น  ในประวัติศาสตร์มีบุคคลหลายคนทำแบบนี้ได้  ตัวอย่างเช่น พระเจ้าตากสินมหาราช ”
    “………”
    ผมตอบกลับได้แค่นั้น
    “ ลองคิดดูนะคานธี สุดท้ายคุณก็จบชีวิตลงด้วยลูกตะกั่ว มีสิ่งใดตอบแทนคุณบ้างนอกจากคำยกย่องสดุดีที่คุณไม่มีโอกาสรับรู้   กระดาษเพียงไม่กี่แผ่นในหนังสือบุคคลสำคัญของโลก ”
    ความคิดเห็นดูแคลนชายชราร่างกายผ่ายผอมผู้ยิ่งใหญ่ เริ่มก่อความหงุดหงิดแก่ผม
    “ ถ้างั้นคุณคิดว่าสิ่งใดยิ่งใหญ่สำหรับคุณ ?  โคลัมบัส ผู้ไม่เคยรู้ว่าตัวเองค้นพบอเมริกา”
    “ สำหรับผมเหรอ  ?  เด็กสักคนที่เกิดมาหัวขาดและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นั่นคือผู้ยิ่งใหญ่แล้ว   ”
    “ ตลกน่า จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ? ช่วยตอบอะไรที่มันเป็นไปได้ในยุคนี้มาหน่อยเถิดน่า ”
    ผมเริ่มใช้ภาษาแรงขึ้นตามอารมณ์
    “ OK .  สร้างกระสวยอวกาศสักลำ   ทะยานตัดผ่านชั้นบรรยากาศ   วิ่งให้ไกลกว่าระบบสุริยะ  เกินกว่าทางช้างเผือก  ค้นหาดาวสักดวง และตั้งชื่อดาวดวงนั้นตามชื่อตนเอง ”
    “ นี่ก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดี  คุณมันเพ้อเจ้อจริงๆ”
    “ คานธี ลองคิดดูสิ  ถ้าคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสมาเกิดในยุคสมัยเดียวกับพวกเรา  ณ ปัจจุบันนี้  อาจมีดวงดาวชื่ออเมริกาหมายเลข001 แล้วก็ได้  ”
    “ เปล่าประโยชน์ที่จะคุยกับคุณแล้ว ผมขอตัวไปนอนดีกว่า ”
    ผมตัดบท แล้วลบชื่อคานธีออกจากห้องแชททันที ไม่สนใจว่าโคลัมบัสจะพูดสิ่งใดต่อมา   ผมรู้สึกเพียงคุยกับชายฝันบ้าคนหนึ่ง   เราคงไม่พบกันอีกตลอดชีวิต  ความสัมพันธ์ในอินเตอร์เนทล้วนฉาบฉวย ไร้ความจริงใดๆ
    “ ลาก่อน โคลัมบัส ”
    คานธีอาจถูกยิงตาย  อับราฮัมลินคอร์นถูกยิงตาย   และจอห์น เอฟ เคเนดี้ถูกยิงตาย  ทุกคนล้วนเดินเส้นทางสายเดียวกัน  
    โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกา  เอดิสันประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า  พี่น้องสกุลไรท์ผลิตเครื่องบิน และนีล อามสตรองเหยียบดวงจันทร์   ทุกคนล้วนเดินเส้นทางสายเดียวกัน  มีใครบ้างจบชีวิตด้วยลูกตะกั่ว
    ทั้งหมดเก็บไว้ใน “ ชีวประวัติบุคคลสำคัญ ”   และถ้าเป็นฉบับย่อคงมีพื้นที่ให้คนละสองสามบรรทัดเท่านั้นเอง
     
        -------จบ---------------
       
     
     

    จากคุณ : กาแฟสอง/bombay2520@yahoo.com - [ 4 พ.ย. 46 19:07:08 A:203.152.18.90 X:192.168.0.98 ]