โรงเรียนสอนพล็อต

    ชีวิตนักเขียนไส้แห้งอย่างผม กลับกลายมามีปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานหาเลี้ยงชีพเสียแล้ว

    เนื่องจากว่าทุกครั้งที่ผมพยายามเขียนนิยาย หรือเรื่องสั้น ผมมักจะเป็นโรคขาดแคลนพล็อตเรื่อง เพราะหลังๆนี่พอผมพยายามหาพล็อตเรื่องใหม่ๆ มาสร้างงานเขียน ก็พบว่าถ้าพล็อตเรื่องนี้ถ้าไม่ซ้ำกับชาวบ้าน ก็ไปซ้ำกับนิยาย เรื่องสั้น หรือกับภาพยนตร์

    อาการของผมเริ่มเป็นหนักข้อขึ้นทุกวัน แถมยังค่อนข้างสร้างความลำบากให้ผม เพราะถ้าคิดพล็อตไม่ได้ก็จบกันไม่ต้องเขียนนิยาย เขียนเรื่องสั้นหาเลี้ยงชีพอีก หนักเข้าผมก็ใช้มุข ลอกพล็อตของชาวบ้านมาใช้หากินประทังชีวิตไปก่อน คนอ่านเขาไม่รู้หรอกว่าผมไปลอกพล็อตใครมา เพราะผมเป็นคนอ่านหนังสือมาก พล็อตบางเรื่องผมก็ยืมมาจากหนังสือฝรั่ง

    ผมมักจะนั่งใช้เวลาในการเขียนงานราวๆสักช่วงเที่ยงคืน เพราะช่วงนั้นผมจะเริ่มมีสมาธิ เสียงรบกวนรอบข้างเริ่มลดลง อากาศก็ไม่ร้อนมากเย็นสบาย

    เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อคืนนี้ครับ ผมชักเริ่มละอายใจ ไม่อยากใช้วิธีการเดิมหากินอีก เลยพยายามนั่งนึกพล็อตเรื่องไปเรื่อยๆ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก

    จนกระทั่ง….

    ผมเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่ทราบ

    ผมฝันว่าผมกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง ผิดแต่ว่าคราวนี้เป็นโรงเรียนสอนพล็อตนิยาย

    “โรงเรียนสอนพล็อตนิยาย?”

    “เอาวะ บ้าก็บ้าวะ”

    แหมครูผู้สอนเป็นผู้หญิงครับ หน้าตาท่าทางของแก ดูลักษณะเหมือนคนโบราณเลย

    ผมจำเนื้อหาที่แกสอนได้ไม่ชัดหรอกครับ แต่ว่าเป็นเทคนิคในการคิดพล็อตนิยาย

    เออ แต่ว่าเนื้อหาที่แกสอนตอนหนึ่งผมจำได้ถนัดใจเลย แกบอกว่าถ้าถึงตาจนจริงๆ ห้ามเอาพล็อตเรื่องของคนอื่นมาใช้ ให้คิดให้ออก เพราะถึงแม้จะเป็นพล็อตที่ดูแล้วไม่ได้เรื่องแต่มันก็เป็นพล็อตเรื่องของเราเอง การที่เราลอกพล็อตคนอื่นมาใช้ แม้จะเป็นส่วนเล็กน้อย แต่จะเริ่มสร้างนิสัยเสียให้เรา ทำให้เราเริ่มชิน และในที่สุดจากแค่ลอกพล็อตเรื่อง ก็กลายเป็นลอกมาทั้งดุ้นในที่สุด

    “เอาล่ะสิ วิชาการน่าดู” ผมค้านอยู่ในใจ “ขีวิตจริงคนเรามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆแบบนี้เสมอไปซักหน่อย ก็คนมันคิดไม่ออกนี่หว่า จะให้ทำยังไงวะ”

    ชั่วโมงการเรียนการสอนผ่านไปเร็วมาก

    จนกระทั่ง…

    “เอาล่ะ นักเรียน” ครูว่า “ต่อไปนี้จะเป็นการทดสอบนะคะ”

    “ให้นักเรียนเขียนเรื่องสั้นขึ้นมาหนึ่งเรื่อง โดยใช้คีย์เวิร์ดที่ครูจะเขียนลงบนกระดานนี้เป็นวัตถุดิบในการเดินเรื่อง จะเขียนเรื่องอะไรก็ได้ แต่ห้ามลอกกัน แล้วก็ห้ามลอกพล็อตจากเรื่องสั้น หรือนิยายเรื่องไหนมา” แล้วคุณครูก็เอาชอล็กขีดลงไปบนกระดานดำ

    ผีเสื้อ เด็ก พิการ ขาเทียม โรงพยาบาล  มนุษย์ต่างดาว บันได ถนน ภูเขา ทุ่งหญ้า ฯลฯ

    “ให้เวลาสามสิบนาที ต้องเขียนออกมาเป็นเรื่องสั้นให้ได้ อย่าลืมนะคะ ห้ามลอกพล็อตเรื่องของใครมาเด็ดขาด”

    “เวร เอาล่ะสิ” ผมคราง “มีทดสอบด้วยเหรอเนี่ย”

    ผมพยายามนั่งนึกพล็อตเรื่องอยู่นาน แต่ผมก็นึกไม่ออก อ้าว ก็ช่วงนี้ผมตันพล็อตนี่ครับ

    แล้วจู่ๆ ความคิดมันก็แว่บเข้ามาในหัว ถึงแม้ว่ามันจะมีความขัดแย้งอยู่บ้างในใจเล็กน้อย (ผมคิดไม่ออกว่ามันเป็นอะไร) แต่ก็ช่างเถอะ ผมค่อยๆเขียนความคิดของผมลงในกระดาษข้อสอบ

    เรื่องมันมีอยู่ว่า…

    มีเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งอยู่ในโรงพยาบาล เป็นเด็กพิการต้องสวมใส่ขาเทียม แกอยากวิ่งเล่นออกไปนอกโรงพยาบาล แต่แกก็เดินไม่ใคร่ถนัด

    แล้ววันหนึ่ง ก็มีผีเสื้อปีกสีเหลืองขลิบดำอยู่สองตัวบินเข้ามาในโรงพยาบาลได้อย่างไรไม่ทราบ

    เด็กน้อยเห็นเขาก็ดีใจ พยายามเคลื่อนไหวร่างกายของตัวเองไปไล่ตามผีเสื้ออย่างอยากลำบาก

    ผีเสื้อสองตัวก็บินนำหน้าเด็กชายคนนี้มาที่บันได แล้วก็บินลงไปด้านล่าง

    เด็กชายก็พยายามใช้ราวบันไดค้ำยันตัวเองไล่ตามผีเสื้อไปเรื่อยๆ

    แล้วผีเสื้อก็นำเด็กชายคนนี้ออกมาจากนอกโรงพยาบาล

    เด็กชายเริ่มวิ่งได้อย่างเป็นอิสระอีกครั้งตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ

    เขาวิ่งไล่ตามผีเสื้อตัดผ่านถนน ผ่านทุ่งหญ้า เขามองเห็นภูเขาสูงอยู่ข้างหน้าแต่ไกล

    จนกระทั่งเด็กน้อยหมดแรงแล้วสะดุดล้มลง แล้วนอนพักอยู่ตรงนั้น

    ผีเสื้อสองตัวนั้นก็มาบินวนรอบๆร่างของเด็กน้อย

    ผีเสื้อค่อยๆสลายกลายเป็นแสงสว่างสีขาว จนกระทั่งแสงนั้นแรงจ้าแสบตา

    ท่ามกลางแสงสีขาวนั้น มองเห็นภาพเงาร่างของคนเดินเข้ามาหาเด็กน้อย

    ผิดแต่ว่าใบหน้านั้นไม่ใช่ใบหน้าของมนุษย์ ดวงตากลมรียาวและเป็นสีดำสนิท คล้ายกับใบหน้าของมนุษย์ต่างดาว

    นิ้วเรียวยาวยื่นมาแตะร่างกายของเขา…

    เด็กน้อยตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และพบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล

    ร่างกายกลับเป็นปกติ

    เขาวิ่งเล่นได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป

    เรื่องน่าจะจบลงแค่นี้

    แต่ทว่าเด็กคนนี้ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในอีกไม่กี่วันถัดมา

    หลังจากที่มีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ว่า พบร่องรอยวัตถุบินประหลาดในท้องฟ้า รูปร่างคล้ายจานบิน…

    #####

    ผมนั่งขีดๆเขียนๆ เรื่องนี้เสร็จ ก็นึกในใจว่า “เอาล่ะวะ ก็พอใช้ได้ ให้เวลาสามสิบนาที จะให้เขียนอะไรให้หรูหรากว่านี้ล่ะ” แล้วผมก็ส่งข้อสอบ

    ……

    และแล้วก็มีผลสอบยื่นมาให้ผม พร้อมกับคำวิพากษ์วิจารณ์

    “คุณไปลอกพล็อตเรื่องของคนอื่นมา เป็นพล็อตเรื่องเกี่ยวกับการลักพาตัวของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งมีคนเขียนกันเยอะแล้ว และมีมากมาย ในภาพยนตร์เรื่องดิ เอ็กซ์ไฟล์ก็มี ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเรื่องสั้นของคุณมาใหม่ โดยใช้พล็อตเรื่องของคุณเอง….ไม่อย่างนั้นครูจะให้เกรด F กับเธอ”

    “เอาล่ะสิ ภาพยนตร์เรื่อง ดิ เอ็กซ์ไฟล์นี่นะ” ผมคราง “จะให้เขียนใหม่ แล้วผมจะหาพล็อตเรื่องจากไหน แถมยังมีตัวบังคับอีก ว้า…โว้ย….”


    และแล้วผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเช้าตรู่ พร้อมกับเหงื่อแตกพลั่ก

    แล้วผมก็มานั่งเขียนเรื่องสั้นนี้ให้คุณๆ อ่านกันนี่แหละครับ

    รับรองผมว่าคราวนี้มันคงไม่ซ้ำพล็อตกับใครแน่นอน

    มันน่าจะเป็นแค่ความฝันธรรมดานะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะเผอิญที่ผมจำได้ว่า ผมเคยฝันแบบนี้มาแล้วรอบหนึ่ง เมื่อคืนก่อน

    เรื่องราวในความฝันเป็นแบบนี้เปี๊ยบ

    ผมนั่งคิดก็ชักขนหัวลุก

    แล้วอีแบบนี้ ผมจะต้องกลับไปเรียน แล้วไปได้เกรด F อีกกี่ครั้งกันล่ะเนี่ย

    อย่าไปลอกพล็อตใครเข้านะครับ

    แล้วที่สำคัญ….

    อย่าเขียนนิยายตอนช่วงเที่ยงคืนนะครับ

    อิอิ

    แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 46 06:53:19

    แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 46 06:45:18

    จากคุณ : bucky_m - [ 9 พ.ย. 46 05:42:11 ]