จ้าวสมุทร ตอนที่ 5 -ผู้บุกรุก-
ใต้ท้องทะเลลึก ในบริเวณทางตอนใต้ของอ่าวไทย ที่เงียบสงัดและมืดมิด ถ้าใครก็ตามที่ดำน้ำลึกลงมาขนาดนี้ และสังเกตให้ดีอาจจะได้พบกับหินหลาย ๆ ก้อนปกปิดโพรงขนาดใหญ่นั้นอยู่ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากไม่ต่างอะไรกับการหาเข็มที่จมอยู่ใต้ทะเลแห่งนี้เลย
สถานที่ดังกล่าวจึงปลอดภัยจากผู้สอดรู้สอดเห็นและนักสำรวจ ..
ลึกเข้าไปในโพรงเล็ก ๆ จะเห็นเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่ไม่มีน้ำสักหยด เพราะน้ำทะเลถูกเยื่อบาง ๆ สกัดกั้นเอาไว้ ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงไม่ต่างอะไรกับถ้ำบนพื้นดิน
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อมันมีอยู่ว่า ถ้ำขนาดใหญ่ ใหญ่จนไม่น่าเชื่อว่าทางเข้ามันเป็นโพรงเล็ก ๆ ที่หินสามารถปิดบังได้.. ที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่นับได้เป็นจำนวนหลายร้อย มีการสร้างบ้านเรือนด้วยเพรียงหินที่แข็งแรง เพียงแค่ทุบซากเพรียงหินให้แตกละเอียดเป็นผงบดผสมกับหิน น้ำทะเล และกาวแมงกระพรุนให้เข้ากันด้วยอัตราส่วนที่พอเหมาะ ก็จะได้สิ่งก่อสร้างที่แข็งแรงไม่แพ้ปูนซีเมนท์เลย.. บ้านแทบจะทุกบ้านประดับประดาด้วยดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ทั้งชนิด ฝูงงูสีเขียว ที่มีสีเขียวสด หรือดอกไม้ทะเลสีม่วงอมแดงที่มีชื่อเรียกว่า ฝูงงูสีม่วง และอีกหลายชนิดหลายพันธุ์ถูกปักใส่กระถางเล็ก ๆ แขวนห้อยไว้หน้าบ้าน พวกผู้คนที่นี่มักจะใช้เวลาว่างของทุกวันในการให้อาหารและดูแลตัดตกแต่งดอกไม้ทะเลที่พวกเขาปลูก
แต่ไม่ใช่วันนี้
ที่นี่มีช่องว่างเป็นถนนเล็ก ๆ ในการสัญจร ทุกทีจะมีผู้คนเดินพลุกพล่าน เกือบตลอดเวลา
แต่ไม่ใช่วันนี้
บริเวณลานกว้างทุกครั้งจะเป็นที่ที่ดีที่สุดในการชุมนุมของผู้คน ทั้งเรื่องการค้าขาย บางคนพร้อมใจกันมาขายของที่นี่ เยอะพอ ๆ กับบางคนมาเดินช็อปปิ้ง ที่นี่มีคนมากพอที่จะใช้สถานที่ในการพปปะพูดคุย ยาวไปถึงการซุบซิบนินทาคนอื่น ๆ
แต่ไม่ใช่วันนี้
บ้านหลังหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุด สร้างจากเพรียงหินเหมือนกับหลังอื่น ๆ ห้อยกระถางดอกไม้ทะเลไว้ที่หน้าบ้าน ไม่เหมือนกับบ้านหลังอื่น ๆ ตรงที่ดอกไม้ทะเลที่นี่ถูกตัดแต่งอย่างสวยงามจนบ้านหลังอื่น ๆ สู้ไม่ได้
บริเวณหน้าบ้าน มีป้ายบ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของเขียนว่า หัวหน้าหมู่บ้าน
ใช่แล้วที่นี่คือหมู่บ้าน หมู่บ้านมนุษย์เงือก เนรัญชลา เป็นป้ายที่ปักอยู่ตรงทางเข้าสถานที่แห่งนี้หลังจากพ้นโพรงแคบ ๆ มาแล้ว
หมู่บ้านมนุษย์เงือกเนรัญชลา ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอ่าวไทย อยู่ในเขตการปกครองของจ้าวสมุทรวาสุกรี
บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ทุก ๆ วันจะเงียบสงัด
แต่ไม่ใช่วันนี้
ผู้คนเนืองแน่นกันอยู่บริเวณหน้าบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผู้ชาย ในถือสิ่งของบางอย่างที่พอจะเดาได้ว่าเป็นอาวุธของพวกเขา ซึ่งแต่ละคนถือในสิ่งที่แตกต่างกัน มีตั้งแต่แท่งไม้ธรรมดาจนถึงดาบยาวถึงเมตรกว่า ๆ สีหน้าของแต่ละคนส่อแววถึงความวิตกกังวลในเรื่องบางอย่าง
ส่วนเด็กและผู้หญิงต่างก็อาศัยอยู่ในบ้านของตนปิดบ้านมิดชิด ทำตัวให้เงียบที่สุด
กัมพล หัวหน้าหมู่บ้านซึ่งเป็นชายล่วงเข้าวัยชรา ออกมาที่หน้าบ้านของเขา
ทุกคนส่งสายตาไปที่เขา..
เอาล่ะ.. ทุกคน.. หัวหน้าหมู่บ้านกัมพลพูด หนวดของเขาสั่น
ข้าไม่ประสงค์ให้ใครต้องมาสังเวยให้กับเหตุการณ์นี้อย่างไม่เต็มใจ
เขาพูดต่อพลางกวาดตาไปยังผู้คนนับครึ่งพันที่มายืนออที่หน้าบ้านของเขา
ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป.. ถ้าจะก้าวถอยหลังไปหลบอยู่ที่บ้าน.. เขาพูดต่อ
เกิดความนิ่งเงียบขึ้น นานกว่าสามนาที
ทุก ๆ คนยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่มีใครก้าวออกไป
พวกเราทุกคนจะไม่หนี.. พวกเราจะร่วมกันปกป้องคัมภีร์ จากเขา.. และจะปกป้องนักรบรัชทายาทให้ปลอดภัย ใช่มั๊ยพวกเรา.. เสียงหนึ่งดังขึ้น..
ใช่ เราจะปกป้องคัมภีร์
ปกป้องนักรบรัชทายาท
ปกป้อง.. เสียงดังเซ็งแซ่
ขอบใจ.. ขอบใจ.. หัวหน้าหมู่บ้านพูดด้วยความปลื้มปิติ
เอาล่ะ.. หัวหน้าหมู่บ้านเปลี่ยนเสียงตัวเองให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อใช้ในการสั่งการ
หนึ่งร้อยคนไปเฝ้าที่โพรงทางเข้า
สองร้อยคนไปเฝ้าที่โพรงทางลัด
ห้าสิบคนอยู่ที่นี่.. ส่วนที่เหลือไปคุ้มครองหมู่บ้านแต่ละหมู่แบ่งให้เท่า ๆ กัน
หัวหน้าหมู่บ้านสั่ง.. ผู้คนเริ่มเคลื่อนทัพในการปฏิบัติภารกิจ
หัวหน้าหมู่บ้านกัมพลกลับเข้าไปในบ้านของตน ซึ่งภายในบ้านมีคนสามคนยืนรออยู่
คนแรกเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ห้อยดาบด้ามยาวไว้ที่สะโพก คนที่สองเป็นหญิงสาววัยเบญจเพส รูปร่างปานกลาง หน้าตาของเธอเรียกได้ว่าสวยงามเลยทีเดียว.. และคนที่สามก็คือเด็กทารกที่อยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาว
เอาล่ะ.. นที , สิรินญา พวกเจ้ารีบหนีไปจากที่นี่โดยเร็วเถิด หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวกับคนทั้งสอง
พาเขาหนีไปให้ไกล.. หัวหน้าหมู่บ้านพูดพลางมองมาที่ทารกในอ้อมอกของ สิรินญา
ไม่ ! ข้าไม่สามารถทอดทิ้งทุกคนไปได้.. นทีกล่าวแย้ง
แต่ทุกคนเต็มใจ ยอมพลีชีวิตเพื่อปกป้องคัมภีร์.. เจ้าจงรีบหนีไปจะดีที่สุด.. หัวหน้าหมู่บ้านยังคงพูดต่อ
แต่คัมภีร์อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว.. ทำไมข้าถึงต้องหนีด้วยเล่า.. นทีเถียง
ใช่ ! เราฝากคัมภีร์ไว้กับเขา.. แต่ ไซโซ ยังไม่รู้
ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าของคัมภีร์ที่แท้จริง ไซโซ จะต้องมาตามล่าคัมภีร์กับเจ้า.. ถ้าเจ้าหนีไปซะ.. หนีไปให้ไกลจนไซโซไม่สามารถตามหาเจ้าเจอ ไซโซก็จะยังคิดว่าคัมภีร์ยังอยู่กับเจ้าอยู่
แต่ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ.. พอไซโซฆ่าเจ้าได้เขาก็จะรู้ทันทีว่าคัมภีร์ไม่ได้อยู่กับเจ้า.. แล้วเจ้าคิดว่าไซโซจะไม่รู้หรือ.. ว่าเราได้ฝากคัมภีร์ไว้กับเขา.. หัวหน้าหมู่บ้านพูดอย่างเร็ว และดูเหมือนนทีจะเถียงไม่ออก
ยังไงคัมภีร์ก็สำคัญที่สุด.. เจ้าจะต้องแสดงละครตบตาไซโซว่าคัมภีร์อยู่กับเจ้า.. ซึ่งนั่นก็คือเจ้าจะต้องหนีไป
ไปให้ไกล
อย่าให้ไซโซฆ่าเจ้าได้เด็ดขาดมิอย่างนั้น ความลับแตก.. จนไซโซรู้ที่อยู่ของคัมภีร์
ใครก็ช่วยเราไม่ได้.. และโลกจะถึงกาลวิบัติ.. หัวหน้าหมู่บ้านพูดเสียงสั่น
แต่ไซโซเป็นถึงอาชญากรที่เก่งกาจ.. ต่อให้เราหนีไปที่ไหน.. เขาก็ต้องตามหาเราพบ.. สิริณญาพูดแย้งขึ้น พลางมองหน้าเด็กทารกในอ้อมกอดของตน
โธ่ ! ลูกแม่.. ทำไมจะต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ด้วย สิริณญาร้องไห้ออกมา
อย่าร้องไห้ให้เขาเห็นสิริณญา !!! เขาเป็นถึงนักรบรัชทายาทแห่งอ่าวไทย เขาจะต้องเข้มแข็ง เขาจะซึมซับความอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด
ส่วนเรื่องการหนี
จริงอยู่ไซโซเป็นถึงอาชญากรที่เก่งกาจ.. เขาสามารถค้นหาพวกเจ้าพบแน่นอนในโลกใต้น้ำ
แต่ในโลกบนพื้นดินแล้ว
เขาแทบจะไม่มีฤทธิ์เดชอะไรเลย
ก็เขาไม่เคยเหยียบขึ้นไปบนนั้นเลยนี่นะ.. หัวหน้าหมู่บ้านพูด
หมายความว่า.. สิริณญาสงสัย..
ใช่
พวกเจ้าจงหนีไปที่โลกบนพื้น.. โดยเร็วที่สุด.. หัวหน้าหมู่บ้านพูดอย่างเด็ดเดี่ยว..
นทีนิ่งเงียบไม่เถียงหัวหน้าหมู่บ้านแม้แต่น้อย.. เขาอาจจะทราบเหตุผลแล้วก็ได้.. เขามองไปที่สิริณญาภรรยาของเขาแล้วพยักหน้าบ่งบอกสัญาณบางอย่างให้กับเธอ..
สิริณญารับรู้ความประสงค์ของสามีแล้ว.. เธอพยายามกลั้นน้ำตาซึ่งดูเหมือนจะทำได้ไม่ดีนัก.. เธอวางเด็กทารกไว้ในลังไม้ข้าง ๆ กายของเธอ ภายในลังเต็มไปด้วยเพชรพลอย เพชรสีครามส่องประกายเจิดจ้ากลบความสวยงามของเพชรชนิดอื่นจนหมดสิ้น..
สิริณญาเตรียมการไว้แล้ว.. เธอไม่แน่ใจ.. ในชีวิตของเธอและสามี.. แต่เธอมั่นใจ.. ลูกชายของเธอ.. นักรบรัชทายาทคนนี้จะต้องปลอดภัย.. เธอเตรียมการไว้แล้ว..
จากคุณ :
Waasuthep
- [
10 พ.ย. 46 19:39:52
A:202.5.88.130 X:
]