ค่ายเยาวชน
ชาติต้องการคนที่ซื่อสัตย์ ชาติต้องการคนเสียสละ หากประชาชนเกียจคร้าน คนจะอดอยากยากจน
เสียงเพลงคนสร้างชาติ ของแอ๊ดคาราบาวด์ดังคลอตลอดเวลา ในงานค่ายอบรมเยาวชนคนสร้างชาติ ครั้งที่ 1ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 20-24 ต.ค. 2546 ณ พุทธสถานสันติอโศก ที่ผ่านมา รับเยาวชนอายุ 15-24 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ได้งบสนับสนุนมาจากรัฐบาล
ฉันเดินทางมาถึงเที่ยงกว่า เพราะได้สัญญากับเพื่อนที่แสนดีว่าจะมาช่วยเป็นลูกกระจ๊อก ช่วยพาน้อง ๆ ไปลงทะเบียนในวันแรกของค่าย เพื่อนบอกว่า เริ่มงาน 10 โมงเช้า แต่ฉันมาเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว แฮ่
พอมาถึง เห็นคนเยอะแยะเลย เจ้าหน้าที่รับสมัครก็เยอะ อิอิ เลยไปนั่งสังเกตการณ์ดีกว่า เจอกับพี่ขวัญพอดีเลยไปนั่งข้าง ๆ ใต้โบสถ์ลมเย็นสบายดีจัง เพราะที่นี่ต้นไม้เยอะมาก เหมือนสวนสวรรค์ในเมืองกรุง
มีเยาวชนหนุ่มสาว ประมาณ 50 คนกำลังนั่งอยู่ใต้ศาลาฟังธรรม กำลังฟังใครคนหนึ่งพูดอยู่ เห็นท่านจันทร์ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายกลางคน ๆ นั้น พี่ขวัญบอกฉันว่า คนที่กำลังพูดอยู่นี้เป็นผู้จัดการบริษัทศักดิ์สิทธิ์อัลลอยด์ พาพนักงาน 50 คนมาร่วมอบรมครั้งนี้ด้วย โดยถือว่า การมาอบรมครั้งนี้อยู่ในเวลางาน จ่ายค่าแรงตามปกติ หืม
น่าทึ่งจริง ๆ
ฉันมองเห็นเด็กหนุ่มบางคนมีผมหลายสี ทรงผมแปลก ๆ บางคนใส่ต่างหูที่หางคิ้ว
ท่านจันทร์ได้แจ้งให้ทุกคนทราบว่า มาอยู่ที่นี่จะต้องถือศีล 5 งดอบายมุขทุกชนิด ใครที่มีบุหรี่มาด้วย กรุณานำมาฝากท่านไว้ก่อน และมารับคืนได้เมื่อเลิกค่าย มีคนกล้าหาญยกมือส่งซองบุหรี่ให้ประมาณ 3-4 คน จากนั้น ท่านสิริเตโช ก็มาพูดปฐมนิเทศน์ การปฏิบัติตัวต่าง ๆ ในการเข้าค่าย พาสวดมนต์ และนำปฏิญาณตน
ที่บริษัทของฉันมีหนุ่มน้อยอายุ 16 ปี ผิวสีเข้ม ยิ้มสวยเห็นฟันขาวเรียงตัวเป็นระเบียบตัดกับสีผิว ชื่อ ใหม่ เป็นหลานของพนักงานในบริษัทของฉัน ตอนอยู่ต่างจังหวัดได้ข่าวว่า เขาเป็นนักมวยมาก่อนด้วย เราต่างเห็นว่า เขาอายุยังน้อย จึงส่งเข้าอบรมด้วย แรก ๆ ดูไม่ค่อยอยากไปเข้าค่าย แต่เขาเป็นเด็กว่าง่าย ก็ช่วย ๆ กันพูด จนยิ้มรับไปค่ายอย่างเต็มใจ ขณะที่ฉันนั่งฟังท่านสิริฯ อยู่นั้น สายตาเหลือบไปเห็นน้องใหม่เข้า นั่งอยู่ท้ายแถวเลย เขาก็มองมาพอดี ฉันเลยชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางให้ 2 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์ว่า สู้ตายนะ ^ _ ^ เด็กหนุ่มส่งยิ้มสวยมาให้เหมือนเคย
นายเปี๊ยก พิธีกรหนุ่มร่างสันทัด เต็มไปด้วยอุดมการณ์ และโชกโชนกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ มาอย่างชำนาญ กับอากวี ชายหนุ่มร่างสูง ท่าทางเรียบง่ายมาก แค่เดินออกมาก็ขำแล้ว เขาจบเทคนิคการแพทย์จากมหิดลเป็นครูสอนโรงเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก ก่อนหน้านี้ มีการไปอบรมสุขภาพกัน มีการเจาะเลือดทดสอบ วัดค่าต่าง ๆ มีการวัดค่าความเครียดจากผลเลือด อากวีเป็นคนที่มีความเครียดต่ำที่สุด
นายเปี๊ยกกับอากวีเป็นปฏิบัติกรนำเกมสลายพฤติกรรม ฉันแค่นั่งดูสังเกตการณ์เท่านั้น แต่รู้สึกสนอกสนใจ และสนุกมาก เกมง่าย ๆ แต่สนุกสนาน ได้ใช้สมองด้วย เห็นน้อง ๆ ให้ความสนใจหัวเราะเฮฮามาก แล้วฉันก็ต้องไปทำธุระ เลยไม่ได้อยู่ดูต่อ
มีอยู่วันหนึ่ง พ่อท่าน พระโพธิรักษ์ขิโต เทศน์ก่อนฉัน ในรายการ ตอบเปรี้ยงปัญหาวัยจ๊าบ ฉันได้แต่ฟังเสียงท่านจากเสียงตามสาย พ่อท่านเทศน์ง่าย ๆ เข้าใจง่ายมาก ฟังดีมาก มีเด็ก ๆ ถามคำถามต่าง ๆ มากมาย จนต้องมีการต่อเวลา สนุกมาก ฉันยังชอบเลย อิอิ มีเด็กคนหนึ่งถามว่า คำถามใช้ดินสอเขียน ธรรมะใช้อะไรเขียน นี่
มีการเล่นมุกด้วย ท่านก็เมตตากับทุก ๆ คำถามเลย ^ _ ^
ตัดกลับมาที่วันสุดท้ายของค่ายเลยละกัน อิอิ ว่าจะไปดูคืนที่เขามีแสดงละคร แต่ฝนตก เลยเป็นข้ออ้างให้ขี้เกียจเดินไปดู น้องใหม่บอกว่า ประทับใจคืนนั้นที่สุด วันสุดท้ายมีการเปิดใจของตัวแทนเยาวชนสีต่าง ๆ และตัวแทนของคณะทำงาน
มีเด็กคนหนึ่งเล่าว่า แม่มาบอกเขาให้มาเข้าค่ายนี้ มาบอกอย่างกระชั้นชิดมาก อีก 2-3 วันจะถึงแล้ว เขาเลยอดไปเที่ยวกับเพื่อน และทะเลาะกับแม่หลายครั้ง สุดท้ายแม่ก็เลยจ้างมา หลังจากมาแล้ว เขารู้สึกประทับใจมาก ได้เพื่อนใหม่ อบอุ่นกับการต้อนรับ และได้สาระประโยชน์มากมาย ทุกคนจะชมว่า อาหารอร่อยมาก ทั้งที่เป็นอาหารมังสวิรัติล้วน ๆ เลย ทานกันแค่ 2 มื้อ แต่ตอนเช้าจะมีน้ำเต้าหู้กับขนมปังรองท้อง จริง ๆ มีอีกหลายคำพูดที่ดีดี แต่ต้องขออภัยที่จำได้แค่นี้ แฮ่
ก็ได้แต่หวังว่า เยาวชนของชาติ จะนำสิ่งที่ได้รับรู้ เรียนรู้จากค่ายนี้ไปใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องตรงทางต่อไป หวังไว้อย่างนั้น
^ _ ^
===========
กลับมาแล้วค่า...กลับจากทำบุญ ไว้จะเล่าให้ฟังนะคะ เอาเรื่องนี้ไปอ่านก่อนละกัน สบายดีกันรึเปล่าคะ หวังว่าคงสบายดีน้า.... ู ^ _ ^
จากคุณ :
ริเศรษฐ์
- [
10 พ.ย. 46 22:29:45
]