ซากุระในสายลมร้อน
พ.ไทยยืนวงษ์
ตอนที่11
อุณหภูมิในห้องนั้นร้อนขึ้นทันทีที่สิ้นเสียงประกาศรายชื่อเพลงของโจ้ แทบทุกคนรู้ว่าผมจะเล่นเพลงนี้ เรามักให้เกียรติกันเสมอโดยมารยาท ไม่มีใครเล่นเพลงซ้ำกันหากรู้แน่ชัดว่าคนหนึ่งคนใดเล่นอยู่ก่อนแล้ว เราอาจหยิบมาเล่นในภายหลังได้โดยไม่มีความขัดแย้ง แต่นี่..คนๆนี้ เขารู้มาก่อนว่าผมจะใช้เพลงอะไร รู้มาหลายวันแล้วด้วย เขาหลอกถามผมโดยไม่บอกว่าเขาก็จะเล่นเพลงนี้เหมือนกัน ผมมองหน้าโจ้ เขาทำไม่สนใจด้วยการพลิกโน้ตดูทีละหน้าและหยิบหนังสือจากชั้นวางมาอ่าน
แล้วเธอล่ะ พงศกร อาจารย์สุวิทย์ถามผมเป็นคนสุดท้าย หูอื้อและรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาถึงกระบอกตา ผมควรจะโกรธดีไหม อารมณ์ในยามนี้แน่นอนว่าผมอาจชกหน้าคนๆนี้ได้อย่างสะใจที่สุด แต่ควรหรือไม่ ในใจลึกๆกลับบอกว่าอย่า ผมคิดถึงโนริโกะ คิดถึงการฝึกซ้อมที่เธอทุ่มเทสอนผม คำพูดอธิบายถึงความเป็นดนตรีจากปากของเธอไม่เคยซักครั้งที่จะมีแม้เศษเสี้ยวแห่งความหมายของคำว่าการแข่งขัน ดนตรีของเธอพิสุทธิ์ ครั้งที่เธอเพียรพยายามสื่อกับผมถึงความเป็นดนตรี เธอใช้มือซ้ายทาบอกบริเวณหัวใจ มือขวากุมทับมือซ้าย ใบหน้าน้อมต่ำหลับตาพริ้ม รอยยิ้มบางๆทว่าอ่อนหวาน เป็นยิ้มแห่งการคารวะในความความงามบริสุทธิ์ของคีตรส ภาพนั้นติดตรึงฝังอยู่กลางใจผมตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา
พงศกร เธอจะใช้เพลงอะไร? ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ดังขึ้นข้างตัว ผมมองหน้าทุกคนในห้อง หลายคนไม่สบตาผม พวกเขาเกรงใจศิษย์ผู้พี่ผู้ที่นับได้ว่าเก่งที่สุดในบรรดาพวกเขา โจ้ทำเป็นอ่านหนังสือ ผมเห็นรอยยิ้มที่มุมปากเขาชัดเจน สูดหายใจให้เต็มปอดก่อนพูดออกไปดังๆ ครับอาจารย์ ผมจะใช้เพลงชุด พลีลูดฟิวก์แอนด์อัลเลโกร ครับ เสียงปิดหนังสือหนักๆดังขึ้นทันที ผมไม่ต้องมองก็รู้ว่าสีหน้าของโจ้เปลี่ยนเป็นดำคล้ำและเคร่งเครียดเพียงใด
ผมถูกอาจารย์สุวิทย์เรียกไปพบในเย็นวันที่ประกาศรายชื่อเพลง ถามเรื่องความขัดแย้งระหว่างผมกับโจ้ ผมไม่พูดอะไรมากทว่าอาจารย์ดูเหมือนเดาอะไรได้ออก เรื่องโนริโกะใช่มั๊ย? ผมก้มหน้า เริ่มเล่าเรื่องของโนริโกะกับผมและผมกับโจ้ให้ฟังอย่างละเอียด อาจารย์ถอนหายใจเมื่อฟังจบ รอเดี๋ยวนะ เขาเดินออกจากห้องไป ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมวารสารกีตาร์คลาสสิกในมือ
ฟังนะ..โนริโกะ คาวาชิม่า สาวน้อยนักกีตาร์ผู้มีพรสวรรค์และเป็นเด็กหญิงคนแรกของญีปุ่นที่ฝ่าด่านอรหันต์ของโลกแห่งกีตาร์คลาสสิกที่ถูกจับจองโดยผู้ชายมานานหลายทศวรรษ..เธอเริ่มเล่นกีตาร์เมื่ออายุหกขวบและได้ขึ้นแสดงบนเวทีครั้งแรกเมื่ออายุแปดขวบ อัลบัมชุดแรกของเธอออกสู่สายตานักฟังเพลงทั่วโลกเมื่ออายุเพียงสิบห้าปี.. อาจารย์แปลบทสัมภาษณ์จากวารสารและสรุปย่อๆให้ผมฟัง ทำให้ผมได้รู้เรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับตัวเธอที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของศาสตราจารย์ทางดนตรีแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูล เป็นเชื้อหน่อแห่งเกียรติศักดิ์ที่ต้องยืนหยัดเพื่อศักดิ์ศรีของบรรพบุรุษ เธอไม่เคยเป็นเด็ก อาจพูดได้ว่าเธอเกิดปุ๊บเธอก็โตเลย ตลอดชีวิตของเธอมีเพียงเสียงดนตรีและการฝึกซ้อม การแข่งขันกีตาร์รีไซทัลที่ประเทศสวิสเมื่อห้าปีก่อนทำให้วงการกีตาร์คลาสสิกตื่นตะลึงเมื่อเด็กหญิงวัยสิบสองปีสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศไปครองจากบทเพลงชาร์โคนเน่ของโยฮันน์ เซบาสเตียน บาค ที่แม้ปรมาจารย์หลายท่านยังยอมรับว่าเล่นยากที่สุด
ความใฝ่ฝันของเธอ..ขอให้ได้เล่นดนตรีตราบจนวันตาย สัตว์เลี้ยงที่ชอบ..ปลาคาร์พ นักกีตาร์ในดวงใจ..อังเดรส์ เซโกเวีย ชายหนุ่มในดวงใจ..ไม่มี
ไม่มี! อ้ายโจ้! อ้ายโกหก มันต้องการทำร้ายจิตใจเราตั้งแต่แรกหรือนี่ มันอิจฉาที่นางในฝันของมันกลับมาสนิทชิดเชื้อกับมือกีตาร์สัปรังเคอย่างผม ผมถามอาจารย์สุวิทย์เรื่องนักกีตาร์หนุ่มชาวสเปน ใคร? ไม่เห็นมีเขียนไว้ ผมกำหมัดแน่นและขณะเดียวกันหัวใจก็พองโต อาจารย์ถามทันทีว่าผมเป็นอะไร ทำไมอยู่ๆก็ดีอกดีใจขึ้นมา ผมรีบบอกว่าเปล่า เขาวางวารสารลงทั้งที่ผมยังอยากฟังต่อ เนื้อหาสำคัญไม่มีอะไรแล้ว อาจารย์บอกก่อนเปลี่ยนเรื่องพูด มาว่ากันเรื่องเพลงแข่งของเธอดีกว่า เธอบอกว่าจะเล่นพลีลูดฟิวก์แอนด์อัลเลโกร ใช่มั๊ย? ผมพยักหน้าอีกครั้ง เขาหยิบกระดาษสามแผ่นที่เก่าจนเป็นสีน้ำตาลออกมาจากแฟ้มเล่มหนา วางลงบนโต๊ะ เลื่อนให้ผมอย่างทะนุถนอม เอ้านี่ ท่อนสุดท้าย อัลเลโกร เดี๋ยวออกไปหาถ่ายสำเนา ห้ามทำยับเป็นอันขาด ผมแทบกระโดดตัวลอยด้วยความตื่นเต้น ที่พูดออกไปตอนประกาศชื่อเพลงนั้นผมยังคิดไม่ออกว่าจะไปหาท่อนสุดท้ายนี้จากไหน ประคองสกอร์อัลเลโกรสามแผ่นไว้ในมือ มันเป็นของแท้ที่อาจารย์สุวิทย์เรียบเรียงทางนิ้วเองตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ชิคาโก มีลายเซ็นและคำชมของสตีเฟน ดอดจ์สัน ปรมาจารย์กีตาร์คอนเทมโพลารีผู้เป็นอาจารย์ของอาจารย์สุวิทย์อีกที มันแทบจะขาดเป็นริ้วๆเมื่อต้องลม ผมเอามันเหน็บใส่หนังสือเรียนแล้วรีบออกไปร้านถ่ายเอกสารปากซอย
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
12 พ.ย. 46 02:54:24
]