หญิงใบ้

    ๑.

    ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพยายามจะบอกเลยสักอย่าง

    แต่กลับเข้าใจถึงบางอย่างที่เธอแสดงออกทางภาษากาย
    แววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก รอยยิ้มและเสียงฮึมฮัมอ่อนโยน ..ปลอบประโลม
    ยามก้มลงมองร่างเล็กกระจ้อยร่อยที่เธอประคองกอดไว้
    เธอเป็นหญิงสาวร่างผอม ดูซูบซีด  
    แต่ฉันเชื่อเหลือเกินว่าวงแขนนั้นสามารถกางกั้นทุกโพยภัย
    มิให้แผ้วพานคนในอ้อมกอดนั้นได้

     'เด็กเป็นอะไรคะ ?'
     'เข้าใจไหมคะเนี่ย ?'
     'ทำไมพาลูกมาหาหมอคนเดียว?'

    เหล่านี้คือคำถามจากปากฉัน แต่ก็อาจเป็นคำถามที่ดังอยู่ในใจเธอด้วยเช่นกัน

     'ลูกฉันมีไข้ เขาเป็นอะไร?'
     'หมอเข้าใจสิ่งที่ฉันพยายามจะบอกไหม?'

    และคำถามสุดท้าย ที่สำหรับฉันอาจถามเพียงเพราะหงุดหงิดและสงสัย
    แต่สำหรับเธอ..ใครจะรู้ ? เบื้องหลังคำถามนั้น อาจเต็มไปด้วยความขมขื่นและร้าวรานใจ

     'ทำไมพาลูกมาหาหมอคนเดียว?'

    ๒.

    "ที่บ้านเขามีแต่พ่อแม่แก่ๆ มาด้วยไม่ไหวหรอกหมอ"
    นั่นคือคำบอกเล่าของพยาบาลที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับหญิงใบ้คนนั้น
    เมื่อฉันแสดงความจำนงให้มีการติดตามตรวจเยี่ยมอาการเด็กที่บ้าน
    หลังจากพิจารณาแล้วว่ากรณีนี้น่าจะมีปัญหา

    มิใช่เพียงการรักษาโรคให้หาย หน้าที่ของฉันยังรวมถึงการดูแลความเจ็บป่วย
    ทั้งในด้านจิตใจและสังคมของคนไข้ด้วย  และกรณีนี้ฉันมองว่ามันเกิดจาก 'สังคมป่วย'

    "แล้วพ่อของเด็กล่ะพี่"
    ใจจริงฉันไม่อยากถามคำถามนี้  ..บางทีฉันคงยังไม่พร้อมจะฟังเรื่องเศร้า

    "ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าพ่อของเด็กเป็นใคร"

    ๓.

    ฉันนึกถึงเค้าหน้าของหญิงใบ้
    ปาก คอ คิ้ว คาง ถ้าไม่นับรวมความซูบซีดที่เห็นนั้น ก็เรียกได้ว่าเธอเป็นคนหน้าตาคมคาย
    ดวงตากลมโตที่มีแววหมองหม่น ในยามที่เจ้าตัวตกอยู่ในเวทมนตร์ของความรัก
    มันคงเป็นประกายสดใส..บางทีมันอาจใช้บอกรักแทนคำพูดได้

    แน่นอนว่าหญิงใบ้ย่อมมีหัวใจ

    และหากครั้งหนึ่งมันเคยถูกทำให้แหลกสลายไป
    มันก็คงถูกทำให้ฟื้นคืนมาใหม่ด้วยร่างจ้อยในอ้อมกอดนั้น
    ร่างจ้อยที่สำหรับหญิงใบ้แล้ว คงเป็นตัวแทนของชีวิต ความรัก และความฝัน
    ไม่ใช่ตราบาปที่ประจานให้เห็นถึงชีวิตที่ผิดพลั้ง บกพร่อง เว้าแหว่ง ..และพิการ
    ในสายตาของคนทั่วไป

    ๔.

    เธอเองก็คงไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพยายามบอกเลยสักคำ

    แต่ก็ยังยิ้มรับรอยยิ้มปลอบใจที่ฉันส่งไปให้  ก่อนก้มลงยิ้มกับร่างในอ้อมกอดอย่างดีใจ
    'เป็นหวัดธรรมดานะ ..ไม่เป็นไรๆ ..ดูแลลูกให้ดีๆนะ'
    จำได้ว่าฉันลงเสียงหนักแน่นในประโยคสุดท้าย
    เอาเถอะ ถึงหญิงใบ้จะฟังไม่เข้าใจ หรืออาจไม่ได้ยินเสียงของฉันเลยก็ได้

    แต่อย่างน้อยโลกคงได้ยินคำภาวนาของฉันแล้ว.

    แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 46 16:27:40

    จากคุณ : เ จ้ า ห ญิ งน้ อ ย - [ 17 พ.ย. 46 16:26:12 ]