จากWhen Everybody Wore a Hat ของ
William Steig
( อนุสนธิจากกระทู้
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2496220/W2496220.html )
------------------------------------------------------------------------------------
ในปีค .ศ.1916 เมื่อผมอายุได้แปดขวบ
ยังไม่มีไฟฟ้า
รถยนต์
หรือโทรศัพท์ใช้แพร่หลาย
และโดยเฉพาะไม่มีทีวี
แม้แต่ รถดับเพลิง ยังใช้ม้าลาก
เด็ก ๆ ไปห้องสมุดหาหนังสือ
มีพวกคนอพยพมากมาย
ภาพนี้คือผมไต่ต้นไม้แถวย่านบรองซ์ ถิ่นที่ผมใช้ชีวิตตลอดช่วงวัยเด็ก
พ่อกับแม่จากประเทศเก่าแก่อพยพมาอเมริกา
นี่คือคอบครัวผมที่โต๊ะอาหารเย็น ผมเป็นคนที่สองอายุที่อ่อนสุด
เราอาศัยในอพาร์ทเม้นท์เล็ก ๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้อยู่ตามลำพัง
บางครั้งพ่อแม่ก็ทะเลาะกัน
พวกท่านพูดได้ถึงสี่ภาษาทั้งเยอรมัน โปลิช ยิดดิช(ยิว)และอังกฤษ
ท่านพูดภาษาโปลิชกันเสียมาก
ใครจะรู้เล่าว่าท่านพูดอะไรกัน?
แต่เราก็ได้เรียนรู้คำสำคัญ ๆ กัน
เมื่ออุณหภูมิอุ่นไม่พอ พ่อถึงกับต้องลงไม้ลงมือกับเจ้าเครื่องทำความร้อน
พ่อแม่ของผมไปชมโอเปร่ากันค่อนข้างบ่อย
คารุโซ่เป็นนักร้องคนโปรดของพ่อ
พ่อจะฟังแผ่นเสียงของเขาจากเครื่องเล่น ที่คุณต้องไขลานด้วยมือจับ
พ่อชอบเล่นหมากรุกกับคุณฮอฟแมน
พ่อชมว่าคุณฮอฟแมนเป็นคนฉลาดหนักหนาเท่าที่พ่อเคยพบปะมา
คนนี้เป็นเพื่อนรักของแม่
สมัยนั้นผู้หญิงนุ่งกระโปรงสุ่มไก่กันและสวมหมวก บางทีก็มีผลไม้(บนหมวก)
ไม่มีหรอกมนุษย์ประเภทไร้หมวก
ตำรวจสวมหมวก
ผู้ร้ายใส่หมวก
แม้แต่ลิงก็เถอะ
มีข่าวร้ายหลายครั้งที่มาจากประเทศเก่าแก่
เรากลัวจังที่เห็นแม่ร้องไห้
พ่อเป็นคนผู้ชำนาญด้านพายเรือ
สาวสวยที่สุดแถวบ้านชื่อ มาเรียน แมกค์
สมัยโน้นเด็กผู้ชายไม่เล่นกับพวกผู้หญิงกันหรอก
แม่บอกเอสเธอร์ แฮบเบอร์แมนชอบปากโป้ง
แค่สตางค์หนึ่งคุณก็ซื้อของได้มากมายแซนวิชฮอทดอกจากแผงเอย ผลไม้สัก
ปอนด์ หนังสักเรื่อง และเป็นสองเรื่องถ้ายังนั่งที่เดิม แม้แต่หนังยังเรียกว่านิกเล็ต
(nickelette)
นิกเกิล(=1สตางค์) เป็นหน่วยเงิน
ในวันเกิดคุณ อาจได้เงินสักสตางค์หนึ่ง
แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 46 22:26:11
แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 46 22:22:06