ชายหนุ่มชุดขาวไม่แยแสอาวุธซัดที่พุ่งออกมา เลื่อนมือขวามาตบบริเวณเอว กลับกระชากกระบี่เรียวยาวออกมาเล่มหนึ่ง!! โบราณว่ากระบี่ยิ่งบางยิ่งอันตราย หากจะใช้กระบี่บางเช่นนี้ได้ ต้องมีกำลังภายในอันสูงส่ง กระบี่เรียวยาวประสานรวมเป็นหนึ่งเดียว ยามเมื่อบุรุษหนุ่มผู้นี้ใช้ออกมาดุจมีกระบี่เพิ่มอีกหลายร้อยเล่ม กระบี่หลายร้อยเล่มกลับกระแทกถูกอาวุธซัดของนักพรตคิ้วขาวจนหมดสิ้น
นักพรตคิ้วขาวถึงกับหน้าซีดเผือด คนของวังผีเสื้อนอกจากเชี่ยวชาญการใช้อาวุธลับ ยังมีเพลงกระบี่ผีเสื้ออันร้ายกาจ ไม่เคยมีใครทราบถึงกระบวนท่าของเพลงกระบี่ชุดนี้ เพราะพวกมันเมื่อเจอเพลงกระบี่ผีเสื้อล้วนเสียชีวิตจนหมดสิ้น นักพรตหันไปสบสายตากับสามเจ้าสำนักที่เหลือ พลันพยักหน้าคล้ายกับส่งสัญญาณ สี่เจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ๋ดีดตัวขึ้นจากพื้นพร้อมกัน พลางใช้ออกด้วยสุดยอดวิทยายุทธประจำสำนัก!!!
แม่ชีไท่จงชักกระบี่ดำออกจากฝัก ใช้ออกด้วยท่าเริ่มต้นเพลงกระบี่จันทรา ยามเมื่อรัตติกาลมืดมิด จันทราส่องแสงยากนักจะมีใครหลุดรอดแสงจากจันทราไปได้ ประมุขวังจันทราเพ่งมองท่วงท่าเริ่มต้นของเพลงกระบี่จันทราสีหน้ากลับไม่ค่อยสู้ดีนักเพลงกระบี่จันทรามีทั้งสิ้น สี่สิบเก้ากระบวนท่า คราครั้งนี้เพื่อจัดการกับคนของ วังผีเสื้อ ถึงกับใช้กระบวนท่าที่สี่สิบเก้า
แม่ชีง่อไบ๊ประสานพลังกับกระบี่เป็นหนึ่งเดียว สาดเข้าหาชายหนุ่มชุดขาวเห็นพลังกระบี่เป็นทางยาวเจิดจ้ายิ่งนัก นักพรตคิ้วขาวพลันสอดประสาน ควงแส้เงินด้วยท่วงท่าเดิม แต่ความรุนแรงกลับมากกว่าหลายเท่า ไต้ซืออี่ซิมเกร็งลมปราณมารวมที่ปลายนิ้วชี้ซ้ายขวา ใช้ออกด้วยดรรชนีอรหันต์อันเลื่องชื่อ เหลือเพียงเจ้าสำนักคงท้งที่ลอบมองอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
...เราคงไม่ต้องลงมือ ปล่อยให้พวกมันฆ่ากันเอง...
ทันใดนั้น เงาร่างอันอ้อนแอ้น กระโจนขึ้นบนเวทีดุจนางแอ่นโผบิน ตรงเข้าสกัดกั้นสี่เจ้าสำนัก ที่แท้เป็นเซี่ยวปอ กับ เซี่ยวอั๊ง หญิงรับใช้ทั้งสองของคุณชายนิรนาม
"พวกท่าน โปรดยั้งมือ" เซี่ยวปอพูดพลางตบฝ่ามือทั้งสองเข้าหากัน แล้วกางแยกออก ปรากฎขุมพลังไร้สภาพขุมหนึ่ง พลังสายกระบี่อันเจิดจ้า พลังแส้เงินอันรุนแรง กลับถูกขุมพลังนี้สลายไปจนหมดสิ้น นิ้วเรียวงามทั้งสิบของเซี่ยวปอรวบจับกระบี่วิเศษของแม่ชีไท่จง และแส้เงินของนักพรตคิ้วขาวเอาไว้
ส่วนเซี่ยวอั๊ง หมุนซ้ายหมุนขวาท่วงท่าเหมือนคนจะหกล้ม นางทำท่าซวนเซเข้าหาเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ไต้ซืออี่ซิมผู้ถือศีลเคร่งครัดกลับลนลานจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ถอยร่างกลับ และสลายกำลังภายใน แต่ดรรชนีอรหันต์ อย่างไรก็เป็นดรรชนีอรหันต์
พลังแม้สลายไปแล้ว แต่ยังบังเกิดสายลมอันแหลมคมฉีกกระชากเสื้อผ้าเซี่ยวอั๊งออกเป็นทาง
เซี่ยวอั๊งอับอายจนหน้าแดง กระชากเสียงใส่หลวงจีนเส้าหลินอย่างดุดัน
"ไต้ซือผู้ทรงศีล กลับมีจิตใจชั่วช้ายิ่งนัก"
คุณชายนิรนามถอดเสื้อคลุมออกจากบ่า ยื่นให้แก่สาวใช้ กระบวนท่าของหญิงรับใช้ทั้งสอง เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนักแม้ไม่สามารถทำร้ายผู้คน กลับสะกดเจ้าสำนักคงท้งจนไม่กล้าลงมือ คุณชายนิรนามค่อยๆก้าวเท้าขึ้นบนเวทีอย่างเชื่องช้า พลางประสานมือให้กับเจ้าสำนักทั้งสี่
"เซี่ยวปอ เซี่ยวอั๊ง พวกเจ้าอย่าเสียมารยาท"
"จงบอก ชื่อเสียงของเจ้าออกมา" เจ้าสำนักคงท้งตวาดถาม
ชายหนุ่มนิรนามแม้เพิ่งจะออกท่องยุทธภพ แต่กฎระเบียบของชาวยุทธกลับจดจำจนขึ้นใจ อยู่ต่อหน้าคนแปลกหน้าแม้ไม่อยากเปิดเผยตัวตน บุคคลทั้งสี่เป็นถึงเจ้าสำนักใหญ่ อย่างไรยังคงให้ความเคารพอยู่บ้าง
"ผู้น้อย แซ่เฮ้ง ชื่อเกาจง พวกนางเป็นสาวใช้ของข้า ชื่อเซียวปอ กับ เซี่ยวอั๊ง" พูดจบก็หันมาทางสาวใช้พยักหน้าให้พวกนางหนึ่งครั้ง คาดไม่ถึงเฮ้งเกาจงกลับสั่งให้สาวใช้ทั้งสองขอขมาเจ้าสำนักทั้งหลาย
เซี่ยวอั๊ง เซี่ยวปอ งงงันจนพูดไม่ออก ในใจไม่ยอมรับแต่ไม่กล้าขัดคำสั่งคุณชาย
"ผู้น้อยขอขมา" พวกนางประสานมือคารวะแบบไม่เต็มใจ
เจ้าสำนักทั้งสี่คลั่งแค้นใจอย่างใหญ่หลวง ทั่วยุทธภพไม่เคยมีจอมยุทธใดกล้าใช้มือเปล่าเข้าต่อกรกับพวกท่านมาวันนี้กลับถูกหญิงรับใช้ทั้งสอง ใช้มือเปล่าออกต้านทานเสาหลักของยุทธภพ แม้นางทั้งสองเข้ามาขอขมาในใจบังเกิดความกังวล หากเรื่องราวในวันนี้แพร่งพรายออกไป พวกท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
คิดไม่ถึงทั้งสี่กลับผนึกพลังลมปราณขั้นสุดยอดใส่ฝ่ามือทั้งสองข้าง ตวัดฟาดออกมาอย่างพร้อมเพรียง เซี่ยวอั๊ง เซี่ยวปอ คิดไม่ถึงว่าจะถูกลอบทำร้าย เสียงฝ่ามือทั้งแปดฟาดกระทบร่างคนดังสนั่นหวั่นไหว ร่างที่กระเด็นออกมาไม่ใช่หญิงรับใช้ กลับเป็นคุณชายของพวกนางที่เสนอตัวเข้ารับฝ่ามือทั้งแปดแทน และที่เหนือความคาดคิด ของคนทั้งหลาย คุณชายเฮ้งกลับไม่มีวิทยายุทธเลยแม้แต่น้อย
"คุณชายไม่น่าทำเช่นนี้เลย"
เซี่ยวอั๊งโผเข้าหาคุณชาย นางประคองร่างอันแน่นิ่งเอาไว้ในอ้อมแขน ส่วนเซี่ยวปอถ่ายเทพลังภายในเข้ารักษาอาการบอบช้ำ สีหน้าบังเกิดแววประหวั่นพรั่นพรึง
"พวกท่านกลับลงมือเหี้ยมโหดนัก"
ไซมึ้งคิ้มเดินเข้าหาคุณชายเฮ้ง หยิบยื่นยาเม็ดรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่หญิงรับใช้
"ให้คุณชายของเจ้ารับประทานเสียก่อน" เซี่ยวอั๊งหันมาขอบคุณอย่างตื้นตัน
ประมุขวังจันทราสาวเท้าเข้าหาสี่เจ้าสำนักอย่างช้าๆ
"ซือไท่ รบกวนท่านลงมือ"
ไซมึ้งคิ้มผายมือให้เจ้าสำนักง่อไบ๊ เป็นเชิงขอคำชี้แนะ เจ้าสำนักที่เหลือพลันล่าถอยไปยืนด้านหลัง แม่ชีไท่จงตวัดกระบี่ในท่วงท่าเริ่มต้นของเพลงกระบี่จันทรา
"ท่าเริ่มต้นข้ารับทราบแล้ว รบกวนท่านใช้กระบวนท่าที่สี่สิบเก้า ...ป่นหยกทลายศิลา..."
ประมุขวังจันทราชักกระบี่ออกจากฝักกลับใช้ท่าเริ่มต้นของเพลงกระบี่จันทราเช่นเดียวกัน
แม่ชีไท่จงคำรามอย่างคลั่งแค้น นึกไม่ถึงว่าเคล็ดวิชาสุดยอดของสำนักที่สูญหายกลับตกในเงื้อมมือประมุขวังจันทรา
"เจ้าโจรเฒ่า บังอาจยิ่งนัก"
ป่นหยกทลายศิลา ร้ายกาจยิ่งนัก เห็นร่างของแม่ชีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ สาดพุ่งเข้าหาประมุขวังจันทราอย่างดุดัน ไซมึ้งคิ้มพลันขยับกายไปทางขวาหนึ่งก้าว ยังไม่สามารถหลบพ้นรังสีกระบี่อันรุนแรงได้ มันเองก็ไม่คิดจะหลบหลีกจากกระบวนท่านี้เช่นกัน
"ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ฝีมือไม่เบา" พูดจบ ก็ทะยานร่างขึ้นจากพื้นลอยละลิ่วสู่ท้องฟ้าดุจเมฆดำกลุ่มใหญ่ แม่ชีไท่จงคิดไม่ถึงว่าจะถูกตอบโต้ด้วยกระบวนท่านี้ รีบรั้งกระบี่กลับมาป้องกันตัวเอง แต่ยังช้ากว่าไซมึ้งคิ้มหนึ่งก้าว มันพลิกกระบี่จากด้านบน ใช้สันกระบี่ฟันข้อมือเจ้าสำนักง่อไบ๊แม้เป็นสันกระบี่ อาณุภาพกลับรุนแรงยิ่งนัก
กระบี่ดำลอยคว้างขึ้นสู่อากาศ แล้วร่วงหล่นสู่พื้นดิน...
แม่ชีไท่จงสีหน้าซีดเผือด นึกไม่ถึงว่าสุดยอดวิชาของสำนักกลับถูกประมุขวังจันทราทำลายภายในกระบวนท่าเดียว
"เจ้าแอบฝึกวิชาของสำนักเรา" แม่ชีไท่จงตวาดออกมาอย่างเดือดดาล
"ท่านว่าเพลงกระบี่จันทรา เป็นวิชาของสำนักท่านหรือ"
"ผู้เฒ่าเดียวดายปรมาจารย์ของสำนักเราเป็นผู้คิดค้นเพลงกระบี่ชุดนี้ เดิมทีเพลงกระบี่จันทรามีทั้งสิ้นสี่สิบเก้ากระบวนท่า แต่ผู้เฒ่าเดียวดายเห็นว่ากระบวนท่าที่สิบเก้ากลับโหดเหี้ยมเหลือคณานับ จึงตัดกระบวนท่าที่สี่สิบเก้าทิ้งไป นึกไม่ถึงหลังจากผู้เฒ่าเดียวดายนัดประลองฝีมือกับปรมาจารย์ของพวกท่าน เคล็ดวิชาชุดนี้กลับสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย"
"ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจ ท่านได้คิดค้นกระบวนท่าที่ห้าสิบ เพื่อนำมาสยบเพลงกระบี่จันทราที่หายสาบสูญไป พร้อมกับสั่งเสียว่า"
"หากพบเห็นผู้ใด ใช้กระบวนท่าที่สี่สิบเก้า มันผู้นั้นคือผู้ที่ขโมยเคล็ดวิชานี้ไป !!!"
จากคุณ :
Wishmaker
- [
17 พ.ย. 46 23:16:33
A:203.155.233.241 X:
]