พอแดดร่มลมตกยายอ่วมก็เริ่มกระวนกระวาย การชะเง้อชะแง้แลถนนอยู่หลุกหลิก ทำให้ป้าสวงที่เคี้ยวหมากอยู่หยับ ๆ ถึงกับแหววออกมาอย่างรำคาญ
เดี๋ยวมันก็มา แกนั่งเฉย ๆ มั่งเหอะ ทำเป็นคนสันนิบาตไปได้
มันเรื่องของชั้นน่าเจ๊ ยังไงวันนี้ถ้าไอ้ห้อยไม่มา แม่ด่าสามวันเจ็ดวันแน่
หมดไปเยอะเหรอะหนก่อน
ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือสองบาท
ป้าสวงพ่นน้ำหมากลงกระโถนดังปรี๊ด
ก็แกนี่น้า รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ห้อยมันเก่ง ยังขืนไปเล่นกะมันอีก การพนันมันดีซะที่ไหน รึว่าไงหมอ?
ท้ายประโยคแกโยนลูกมาให้ผม ที่กำลังนั่งละเลียดเหล้าโรง หูผึ่งกางแผ่ฟังสองหญิงวัยกลางคนคุยกันอย่างใจจดใจจ่อ
ป้าสวงว่าไงนะ ไม่ทันฟัง
ปากแสร้งว่าหลุดออกไปอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ยายสวงค้อนควั่บ จนน้ำหมากกระฉอก
ปู้โธ่! หูตั้งขนาดนั้นยังทำย้อนถามอีก
ฮิ ๆ ป้าสวง หูตั้งน่ะหมาแล้วไม่ใช่หมอ
ลมทุ่งชื่นฉ่ำ รำเพยกลิ่นชนบทลอยมาเป็นระยะ ผมดีดถั่วสองเม็ดเข้าปาก ก่อนเคี้ยวเอื้องอย่างสุขารมณ์กับความมันบนปลายลิ้น สายตาที่มองออกไปยังเบื้องหน้า ยิ้มแฉ่งให้กับเวลา ๑๗ นาฬิกาของหมู่บ้านแห่งนี้
การพนันไม่ดีแน่นอนป้าสวง โบราณเขายังว่าไว้เลย..โจรปล้นสิบครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว ไฟไหม้สิบครั้งยังไม่เท่าเล่นการพนันครั้งเดียว
คราวที่แล้วหมอก็เล่นเหมือนกันไม่ใช่รึ?
ฮื่อ! เล่นมาหลายครั้งแล้ว จะได้ไม่เหมือนโบราณบอก
ชิวหาผมตวัดไปโน่น
เมื่อนกกากลุ่มแรกบินตัดยอดไผ่เพื่อกลับรวงรัง มวลหมู่สมาชิกของบ้านนอกคาสิโนก็เริ่มขยับ
คนแรกลิบ ๆ ที่ปลิวปั่นมาตามโค้งกำแพงวัดทางด้านทิศเหนือ ด้วยท่ากระดกก้นเหนือเบาะเล็กน้อยยามโขยกเจ้าสองล้อคู่ชีพ เขาล่ะ-ยอง จักรยาน หนุ่มฆ้องปากแตก ผู้พิสมัยผมยาว ยีนส์ฟิตและรองเท้าบู้ทเป็นมันปลาบ
แฉลบมาทางกำแพงวัดด้านทิศใต้ สามคนคุ้นเคยในชุดลูกทุ่งลำลอง กางเกงขาก๊วย ไม่สวมเสื้อ พุงคาดผ้าขาวม้า กำลังเดินคุยกันมาอย่างสนุกสนาน สูงกว่าเขาเพื่อนนั้นคือ หลอ สุราริน มือต้มเหล้าฝีมือดีที่ตำรวจและสรรพสามิตถวิลหา ถัดมา เผย พิสดาร สมิงเล้าหมู นักเลงกลอนฝีปากเอกของหมู่ที่สี่ ท้ายและเตี้ยที่สุด ใส กระจ่างเศียร บุรุษไร้ผม นักดำปลาตัวเอ้
ผมตอกเชี่ยงชุนเข้าไปอีกอึกใหญ่ ก่อนเปรยขึ้นว่า
หนึ่ง สอง สาม สี่ ป้าอ่วมห้า ผมหก ลุงห้อยยังไม่มา คงต้องรอกันอีกเดี๋ยว
ยายอ่วมขยับเสื้อคอกระเช้า สะบัดทรวงให้เข้าที่
วันนี้ชั้นจะเอาไอ้ห้อยคืนให้หมดเลยหมอ คอยดูซิ
ใจเย็นน่า ผมหันไปปราม ลุงห้อยเขามือเซียน แค่หอมปากหอมคอพอสนุกสนานดีกว่า จ้องจะเอาของเค้า เค้าก็จ้องจะเอาของเราเหมือนกัน
ไม่รู้ล่ะ แต่วันนี้ไอ้หางแดงต้องหางด้วน
ยายอ่วมคำราม
หนุ่มยองมาถึงก่อนใคร ด้วยลักษณาการเบรคที่พรวด จนท้ายรถปัดกลับหน้าไปหลังพรืดใหญ่ ตะกุยฝุ่นเสียจนฟุ้งตลบ ก่อนจะก้าวเข้ามาในร้านของยายสวง ด้วยท่วงท่าที่เก๋ไก๋เหลือกำลัง
ยายอ่วมกล่าวให้ศีลให้พร ฝ่าม่านฝุ่นที่กระจายเกล็ดเข้ามาในทันที
ไอ้เวรยอง มาทีไรต้องทำยังงี้อยู่เรื่อย พ่อเอ็งเป็นคนกวาดถนนหรือไงวะ
อ้าว! ป้าอ่วม.. ไอ้หนุ่มเอะอะเสียงปานฟ้าผ่า ..แล้วทีป้าด่าฉันทุกครั้งเหมือนกันล่ะ
ก็ต้องด่าซิ ค่อยถีบค่อยจอดก็ได้ หมอเขาก็นั่งอยู่ ไม่เกรงใจกันมั่งเลยหรือไง?
ผมยิ้มอย่างรู้ทัน
ไม่เป็นไรหรอกป้าอ่วม ยองมันถีบเก่ง ดีเสียอีกได้มีอะไรผาดโผน มาให้ดูเป็นขวัญตา ว่าแต่ครบเจ็ดวันแล้วอย่าลืมมาตัดไหมนายอง คราวก่อนหน้าแตกไม่ใช่รึ? คราวนี้แตกตรงไหนบอกแล้วกันจะเย็บให้อีก
ไอ้ยองยิ้มแหย ๆ
คราวที่แล้วหมาบ้านครูมันวิ่งตัดหน้าครับ ถ้าปกติถนนไม่ได้แอ้มหน้าผมหรอก
ไม่นานต่อจากนั้น สามลายครามก็เดินทางมาถึง ต่างพากันยกมือไหว้ผม จนรับแทบไม่ทัน
ตาเผยยกหลังมือป้ายปาก ก่อนพูดขึ้นว่า
ยังไม่ออกพรรษาเลยนี่หมอ กินเหล้าช่วงเข้าพรรษามันบาปนา
หลอ สุรารินขมวดคิ้ว
บาปเบิบอะไรวะ เหล้ามันก็กินกันได้ทุกวันน่ะแหละ เอ็งอย่าทำเป็นดัดจริตดีดดิ้นลิ้นกระดก ตามทีวีไปหน่อยเลย
อ้าว! พูดงี้ได้ไงไอ้หลอ ไหนลองบอกข้ามาซิว่าศีลข้อห้าเขาว่าไง?
สุราเมาระยะ มัจฉะโอชา อร่อยนา
ศีลวัดไหนวะไอ้สมีหลอ ใสหัวร่อพรืด ข้าจะได้ไปคอยดักรับเสียทุกวัน
วัดไหนช่างข้าเหอะ.. แล้วหลอก็หันไปทางยายอ่วม อ่วมจ๋าขอแก้วให้พี่หลอใบซิ หมอเขาเหงา จะนั่งกินเป็นเพื่อนแกหน่อย
สามใบเลยน้องอ่วม เผยชูสามนิ้ว
สี่ป้า ไอ้ยองผสมโรงชูสี่นิ้วขึ้นอีกคน
บรรยากาศของเราเริ่มคึกคัก ผมมองไปยังสถานีอนามัย ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามคนละฟากถนน ซึ่งยังคงเปิดประตูโร่อยู่ ทั้งที่หมดเวลาทางราชการไปแล้ว เย็นนี้ค่อนข้างแปลก ที่ไม่ยักมีชาวบ้านชาวช่อง มาใช้บริการกันสักเท่าไร
ก็อย่าได้แปลกใจไปเลยครับ ว่าเหตุใดไยผมจึงไม่ยังปิดที่ทำการเสียที อนามัยปิดไม่ได้! หน่วยงานที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้คนปิดไม่ได้ ค่ำมืดดึกดื่นเพียงใด ประตูที่ทำงานของเรา ต้องพร้อมเปิดให้บริการอยู่เสมอ มันเป็นวิถีชีวิตของชาวเรา ข้าราชการประเภท หมออนามัย ที่ไม่โก้ไม่เก๋ไม่เท่แต่จริงใจ การคลุกคลีตีโมงร่วมหัวจมท้ายกับชุมชนถือเป็นภารกิจหลักที่เราไม่อาจปฏิเสธ การผสานตัวเองจนเป็นหนึ่งเดียวกับท้องถิ่นถือเป็นหัวใจของการทำงาน
ชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียว เชี่ยงชุนขวดแรกก็หมดไป ผมหันไปบอกป้าสวงเจ้าของร้านให้ยกมาใหม่อีกหนึ่งขวด
รสชาติไม่สู้ดีเท่าไหร่นะหมอ หลอมือเหล้าว่า ก่อนกระดกพรวดเข้าไปอีกครึ่งแก้ว
ใสยกมือเขกหัวสหายดังโป้ก
ถุย! รสชาติไม่สู้ดี เอ็งน่ะกินมากกว่าใครเขาเพื่อนไอ้หลอ ว่าแต่หมอเถอะ วันไหนว่างบ้างล่ะ ผมจะมาชวนไปกรึ๊บกันที่บ้านผมสักหน่อย จะได้เตรียมหาปูหาปลาสด ๆ ไว้คอยท่า
สำหรับลุง ผมว่างทุกวันแหละ
ปากหวาน ๆ ยังงี้ ทำไมยังไม่เห็นมีเมียสักทีล่ะ
ลิ้นไก่ผมสะดุดแอลกอฮอลล์พรวด ตาเผยหัวร่อร่า
หมอเขาคงอกแอ่นโดนแควนเตะ
หัวใจเละปานขี้มีแต่หนอน
กินเชี่ยงชุนแก้เหงาเมาก็นอน
อ่วมจ๋าอ่วมช่วยป้อนให้เผยที
สุนทรเผยเอ่ยกวีอีกแล้ว ยายอ่วมถลกผ้าถุง ยกเท้าทำท่าทำทางว่าป้อนด้วยไอ้นี่เอาไหม ขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็ก้าวพ้นหัวสะพานข้ามคลองออกมา ผมรีบชี้นิ้วบอก
ลุงห้อยมาแล้ว
ห้อย หางแดง ชายวัยกลางคนร่างเล็ก ผอมเกร็ง ในชุดกางเกงขาสั้นเก่าคร่ำคร่า เสื้อแขนสั้นสีกรมท่าราคาถูก และผ้าขาวม้าโพกหัว เขาก้าวเนิบนาบเข้ามายังอาณาบริเวณที่พวกเราสิงสถิตกันอยู่ อย่างแช่มช้า มีจังหวะจะโคน นี่คือผู้ที่ขึ้นชื่อลือชาหนักหนา ว่าเชี่ยวชาญยิ่งนักในการพนันทุกประเภท ทั้งนี้โดยมีท่านสารวัตรโรงพักประจำอำเภอเป็นผู้รับประกันคุณภาพ
ยายอ่วมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างงุ่นง่าน จนป้าสวงเจ้าของร้านชักรำคาญลูกตาขึ้นมาอีก
เป็นอะไรของแกอีกวะ อีอ่วม อรทัย
อ้าว! ขึ้นอีเลยเรอะ อีสวง แสบสันต์
ตาหลอที่คอยฟังอยู่หัวร่อเอิ้กอ้าก
เอ้า! เอาเข้าไป! อ่วมเอยใจเย็น ๆ ก็ได้ วันนี้ได้เสียอีกแน่ ๆ จะรีบร้อนไปไหน เสียดายนักขอมันคืนก็ได้นี่ แฟนเก่ากันไม่ใช่เหรอ
ไอ้หลอ ไอ้อหิวาต์ลงปาก ร้องเท้าแตะยายอ่วมกระเด็นหวือ
เมื่อตาห้อยมาถึง การสนทนาปราศรัยของเรา ก็ยิ่งออกรสออกชาติ มือเซียนปฏิเสธสุรา ว่าท้องไส้ไม่ค่อยดี สายตาฉ่ำเชื่อมพยายามจ้องสบสายตายายอ่วมอยู่มิได้ขาด
ไอ้ห้อย.. ใสถามขึ้น ..ถามจริง ๆ เหอะเพื่อน ในชีวิตเอ็งเคยคิดจะเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามบ้างหรือไม่ ข้ามาตรองดูว่าการห้อยอยู่ตลอดศก มันไม่เป็นมงคลแก่ชีวิตเลยนะ
ตาเผยแหย่ขึ้นบ้างว่า
ข้าก็สงสัยเหมือนกัน ธรรมดาหางแดงเนี่ย มันต้องไปเข้าคู่กับตะกวดไม่ใช่รึวะ แล้วเอ็งนึกยังไงถึงไปแย่งเอาของมันมา
พวกเอ็งก็ช่างกระแนะกระแหน ตาห้อยพูดหน้าตาย เดี๋ยวข้าเตะยกล้อทั้งโต๊ะหรอก
ผมสะดุ้งโหยง ทั้งวงเฮครืน
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 46 03:14:10
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 46 02:57:15
จากคุณ :
ราม ลิขิต
- [
20 พ.ย. 46 02:54:11
]