เรือนจำ # 10
และแล้วก็ได้เวลามาว่ากันที่คดีเกี่ยวกับทรัพย์กันเสียที คดีเกี่ยวกับทรัพย์นั้นมีตั้งแต่ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ ยักยอก กรรโชกทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ ว่ากันเท่าที่จำได้นะครับ อาจมีมากกว่านี้ ไว้นึกได้แล้วค่อยมาต่อกัน
ทีนี้มาดูแต่ละอย่างว่าต่างกันอย่างไร เริ่มกันที่ ฉ้อโกง กับ โกงเจ้าหนี้ ผมเองก็แยกไม่ถูกว่า 2 อย่างนี้ต่างกันอย่างไร เพราะไม่ค่อยมีใครโดนคดีโกงเจ้าหนี้กัน อาจหมายถึงยืมไปแล้วไม่ให้คืนหรือไงก็ไม่ทราบ ส่วนใหญ่นักโทษที่นี่จะโดนคดีฉ้อโกงกันครับ และมักเป็นนักโทษหญิง อย่างเป็นลูกจ้างเขา แล้วดูแลเรื่องบัญชงบัญชี แอบเอาเงินเข้ากระเป๋าเองอะไรอย่างนี้ อย่างล่าสุดนี่ดูแลร้านอาหารให้เขา เห็นว่าเก็บวันละ 1000 กว่าเจ้าของร้านจะรู้ก็ปีครึ่งแล้ว คิดเป็นมูลค่าหลายตังค์เหมือนกัน หรืออีกคนผู้หญิงเหมือนกัน รับจำนองจำนำ แต่พอเจ้าทรัพย์มาทวงคืนกลับไม่มีให้เขา เพราะเอาทรัพย์ส่วนนั้นไปจำนองต่อในราคาสูง จนสุดท้ายหลุดกรรมสิทธิ์ไปอะไรอย่างนี้ ผู้ชายก็มีครับที่โดนคดีฉ้อโกง แต่ที่นี่มีอยู่รายเดียว รายนี้ติดคุกมา 30 รอบได้แล้วมั้ง เพราะเพื่อนเขาติดคุกมานี่ ต้องได้เห็นแกเข้าออกอยู่ 3 รอบ 5 รอบ เพราะแกมักติดไม่นาน ครั้งละ 45 วัน อะไรอย่างนี้ และโดนคดีเดิมตลอด คือคดีกินไม่จ่าย
ยักยอกทรัพย์ อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าต่างจากฉ้อโกงอย่างไร แต่ที่โดนคดียักยอกนั้น มักเป็นพวกที่ซื้อสินค้าเงินผ่อนแล้วไม่ยอมผ่อนนั่นละครับ ตัวท่านเองก็ระวังเถอะ ไม่ผ่อนค่างวดหลายๆเดือน แต่พอเขามายึดของคืน แล้วไม่ยอมให้เขา ท่านจะติดคุกได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป
ทำให้เสียทรัพย์ อันนี้ก็คือทำลายข้าวของละครับ ที่นี่มีไม่กี่คน แต่ก็มีมาบ่อยนั่นแหละ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ ที่น้อยใจพ่อแม่แล้วทุบรถอะไรทำนองนี้ละครับ
กรรโชกทรัพย์ กลุ่มนี้ก็ไม่ค่อยมีครับ 2 รายที่ผมรู้จักนั้น รายนึงให้ลูกน้องไปจับเขาเรียกค่าไถ่ ส่วนอีกราย(ต้องบอกว่าอีกกลุ่มสิ เพราะกลุ่มนี้มากัน 3 คน) ไปไถเงินจากบริษัทก่อสร้าง พอเขาไม่ให้แล้วอยู่ๆ เครื่องมือเขาเกิดชำรุด 3 คนนั้นก็เลยโดนจับ แต่ทั้ง 2 รายนั้นก็ไม่ยอมสารภาพหรอกครับ ทุกวันนี้ยังสู้คดีกันอยู่เลย
ลักทรัพย์ อันนี้คงไม่ต้องอธิบายละครับ และมีมากเป็นอันดับ 2 ของคุก รองจากคดียาเสพติด พวกหยิบของเขาไปเฉยๆนี่มักโดนจำคุกกันคนละ ปีหก ซึ่งผมรู้สึกไม่ดีเลยกับศาลยุติธรรมของเมืองนี้ ไม่รู้ว่าคนร่างกฏหมายเขาคิดอย่างไร ลักลำโพงวิทยุข้างนึงโดน ปีหก ลักรถยนต์คันหนึ่งก็ 1 ปี 6 เดือน เหมือนกัน คิดดูเอาเองเถอะครับ สร้างรถคันหนึ่งต้องผ่อนกันกี่ปี แต่คนขโมยนี่โดนแค่ปีหก มันยุติธรรมไหม
แต่พวกที่โดนคดีลักทรัพย์บางรายนี่ก็น่าสงสารครับ เพื่อนผมโดน 1 ปี 6 เดือน เพราะขโมยเงิน 170 บาท รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น อยากรู้ไหมครับว่าน่าสงสารตรงไหน แกกับเจ้าทรัพย์นั้นก็กินเหล้าอยู่ด้วยกันประจำ เห็นว่าซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปร้านอาหารกันอยู่ประจำ จ่ายกันพัน 2พัน ไม่เคยว่าอะไร แต่พอมีเรื่องชกต่อยกันเท่านั้น เพื่อนบอกกระเป๋าตังค์หาย ในนั้นมีเงิน 170 บาท แจ้งความขึ้นมาก็ติดคุกสิครับ คดีอาญานี่ แจ้งความแล้วจะกลับคำทีหลังก็ไม่ได้เพราะกลัวจะโดนคดีแจ้งความเท็จ ก็ตอนแรกบอกว่าเห็นหยิบกระเป๋าตังค์ไปแล้ว
วิ่งราวทรัพย์ อันนี้ก็ขโมยเหมือนกันครับ แต่เป็นลักษณะของการหยิบไปต่อหน้าต่อตาเจ้าของทรัพย์ เช่นว่าวิ่งราวสร้อยคอ แบบที่เห็นในหนังอยู่บ่อยๆ ของจริงก็บ่อยครับ ไม่รู้ทำไมโจรมันถึงได้กล้าทำ เมื่อก่อนผมเห้นประจำ เพราะบ้านนอกอย่างผมนี่เขาขี่มอเตอร์ไซค์กัน แล้วผู้หญิงมักจะวางกระเป๋าสะพายไว้ในตะกร้าหน้ารถ โจรมันขับมาเทียบ แล้วก็ฉกกระเป๋าไปดื้อๆ ต่อหน้าคนนับสิบ แต่ไล่ตามมันไม่ทันหรอกครับ ไม่รู้ว่าคุณตำรวจไปดักอยู่ที่ไฟแดงไหน ถึงไม่เคยเจอโจร บางครั้งนะครับแก็งค์รถซิ่งกวนเมือง 10 กว่าคัน วิ่งไปทางป้อมตำรวจนี่ เชื่อไหม พวกเขายัง ว.6 กันเฉยเลยว่าเหตุการณ์ปกติ คิดเอาเองแล้วกัน แต่พอสาวสวย ๆ ขี่จักรยานยนต์ไม่ใส่หมวกกันน็อค ละก็ โบกให้จอดคุยกันได้เป็นนานสองนาน
ท่านผู้อ่านครับ คิดว่าเขาวิ่งราวอะไรได้บ้าง มันน่าจะของเล็กของน้อย จริงไหม แต่ท่านครับ ที่นี่มีรายหนึ่งตำรวจบอกว่า วิ่งราวทรัพย์ (จักรยานยนต์) ก็ไม่รู้ว่าวิ่งราวอีท่าไหนเหมือนกัน แต่มีจริงๆ ครับ
ชิงทรัพย์ อันนี้ก็เพิ่มจากวิ่งราวขึ้นมาอีกอย่างคือ คนร้ายใช้อาวุธ อาจใช้มีดจี้แล้วปลดทรัพย์อะไรอย่างนี้ (แล้วเขาไม่เรียกปล้นหรือ? - ยังครับปล้นนั้นมีอีก)
ปล้นทรัพย์ ปล้นต่างจากชิงทรัพย์ตรงที่ เมื่อไรที่โจรมีหลายคนขึ้นมา เขาจะเรียกว่าปล้น ซึ่งจัดเป็นคดีอุกฉกรรจ์ โทษจะหนักที่สุดในบรรดาคดีเกี่ยวกับทรัพย์ทั้งหมด แต่โทษจะหนักจะเบา ก็มีส่วนประกอบอื่นอีกหลายอย่างครับ เป็นต้นว่าเหตุเกิดยามวิกาล อะไรทำนองนี้ (ท่านผู้ใด รู้กฎหมาย เข้ามาเริมได้นะครับ)
อีกคดีที่มีมาบ่อยคือคดีเช็ค ความจริงผมจัดเข้ากลุ่มคดีลักษณะอื่นนะครับ แต่มีเรื่องของเงินเงินทองทอง เลยเอามาพูดสักหน่อย คดีเช็คนั้นเป็นคดีแพ่งครับ ไม่ใช่คดีอาญา แต่นักโทษคดีเช็ค ที่ติดคุกเข้ามานั้นกระทำผิด พรบ.การใช้เช็คครับ ซึ่งจะติดนานหรือไม่นั้น รู้สึกว่าเขาดูยอดเงินด้วย เช็คกี่ใบ แยกเป็นกระทงกระทงไป อะไรทำนองนี้ เช่นว่า 4 กระทง กระทงละ 9 เดือน นับโทษต่อกันนี่ ก็ 36 เดือน (ต่างกับ 3 ปี นะครับ ทั้งที่มี 36 เดือน เหมือนกันแต่ไว้มาอธิบายในตอนของการนับโทษ ในคราวอื่นต่อไป) แต่ก็รู้สึกว่า โทษในคดีนี้เขาจะกำหนดไว้ว่า โทษสูงสุดกี่ปี สมมติว่า 3 ปี ต่อให้นับโทษ10 กระทง รวมโทษจำคุก10 ปี แต่ก็ขังได้แค่ 3 ปี ตามโทษสูงสุดครับ
แต่ติดคุกแล้ว ไม่ใช่ว่าเรื่องจะจบ หนี้เจ๊ากันไปนะครับ การชดใช้ค่าเสียหายนั้น โจทก์เขาก็ฟ้องแพ่งได้อีก ซึ่งก็ต้องจ่ายเขาอยู่ดีละครับ ไม่ใช่ว่าฉันไม่จ่าย ฉันยอมติดคุก อย่างที่ผมเคยได้ยิน หลายคนพูด แล้วจะจบกัน เพราะการจำคุก ไม่อาจตีเป็นเงิน เหมือนอย่าง กักขังแทนค่าปรับ ซึ่งขัง 1 วัน เท่ากับ 200 บาท อะไรอย่างนี้ (น่าสนใจละซี แต่ไว้มาอธิบายในตอนของการนับโทษดีกว่านะ)
ชำเลืองทรัพย์ " เอ้
. ชื่อตอนนะนี่ ได้ยินเขาพูดกันมานาน แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไง ว่าแบบไหน ที่เรียกว่าชำเลืองทรัพย์ เพราะยังไม่เจอใครที่ติดคุกมาในข้อหานี้เลยสักคน จริงๆแล้วมันมีในประมวลกฏหมายอาญาหรือเปล่า ?
ไว้ให้ผมเขียนจดหมายไปถามทนายวันชัย คดีแดง เสียก่อน แล้วค่อยมาอธิบายให้ฟังนะครับ
วันนี้ สวัสดีครับ.
**********************************************
ตอนที่ผ่านมา
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2525100/W2525100.html
จากคุณ :
Old Man Jailer
- [
20 พ.ย. 46 09:58:45
]