ฤดูกาลดอกรักบาน (ตอนที่ 4)

    ฤดูกาลดอกรักบาน (บทที่ 4)

    เสียงเครื่องยนต์ดังตามมาด้านหลังทำให้สองสาวต่างวัยหันกลับไปมองพร้อมกัน
    กุลวราหันกลับเมื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถเป็นชายหนุ่มตัวโต ผิวคล้ำ
    คนที่เธอไม่อยากยุ่งด้วยแต่ต้องมีอันเจอะเจอกันทุกวันจนได้นั้นล่ะ

    “บรรมาทำไม”  สุชาดาถามขึ้นมา เธอได้แต่ส่ายหน้ายักไหล่ไปตามเรื่อง
    เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าญาติผู้น้องของสุชาดาตามมาทำไม

    คนขับที่โผล่หน้าออกมาเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งที่คุยและเข้ากับเธอได้เป็นอย่างดี

    “บัวเอาตัวจำเลยมาให้ลงโทษแล้วนะกุล”  
    ว่าแล้วเจ้าตัวก็หักพวงมาลัยเลี้ยวกลับออกไป ปล่อยคนตัวโตยืนเกาะหัว
    หน้าละห้อยอยู่ข้าง ๆ เธอนั่นเอง

    สุชาดามองหน้าบรรพธรสลับกับกุลวรา
    พอนึกออกถึงกิริยาของรุ่นน้องที่วันนี้เลี่ยงห่างจากญาติผู้น้องของเธออย่างน่าสงสัย
    บัวคงพอรู้อะไรเลา ๆ เหมือนกับเธอเลยหาโอกาสให้เจ้าตัวเขามาคุยกันเอง

    “งั้นพี่ขึ้นบ้านก่อนนะ”  

    “พี่สุ”

    “กุล”

    กุลวราสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หันกลับไปเผชิญหน้าคนตัวโตกว่า
    เมื่อสุชาดาเดินลับหายขึ้นบ้านไปแล้ว

    “มีอะไรก็พูดมา พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้า”  เธอเริ่มบทสนทนาอย่างห้วน ๆ

    บรรพธรมองหน้าคนพูด ผายมือไปที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านที่สุชาดาเปิดไฟไว้สว่างจ้า
    หญิงสาวเดินไปทรุดตัวลงนั่ง เขาเดินตามไปนั่งฝั่งตรงข้าม
    รู้สึกใจกระตุกวูบชอบกลเมื่อเห็นสายตาออกจะเย็นชาจากกุลวรา
    ยังท่าทีห่างเหินเหมือนกับคนไม่รู้จักกันแบบนี้อีก

    “วันนี้กุลหลบหน้าผมทำไม”  เขาถามอย่างคาดคั้น
    วันนี้เจ้าหล่อนหลบหน้าเขาตั้งแต่เจอกันที่วัดแล้ว
    เขาเดินเข้าไปหาทีไรเจ้าตัวต้องหลีกหรือหลบเขาทุกทีสิน่า…จนเพื่อนเขาจับสังเกตได้
    แถมยังเจ้ากี้เจ้าการจับเขาใส่รถมาหาเธออีก

    “เราโกรธอะไรกันเหรอ”  คำถามต่อมามีแววละห้อย

    กุลวราส่ายหน้าน้อย ๆ   “ไม่นี่”  
    เธอตอบได้แค่นั้นแล้วก็ก้มหน้ามองตารางสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็ก ๆ ที่เรียงต่อกันเป็นกระดานกลางโต๊ะ

    “งั้นทำไมวันนี้กุลถึงไม่คุยกับผมล่ะ ผมเดินไปหากุล กุลก็เลี่ยงไปคุยกับบัว กับคนอื่น
    ทำเหมือนเราโกรธกันจนบัวสงสัยต้องลากผมมาคุยกับกุลให้รู้เรื่องนี่ล่ะ”  
    บรรพธรรู้ว่าเธอไม่โกรธเขา แต่มันต้องมีอะไรแน่ ๆ ที่ทำให้เธอเลี่ยงห่างจากเขา
    หน้าเธอเริ่มเผือดสีเมื่อเธอสบตามองเขา

    กุลวรากำมือแน่นสบตาดำคมคู่นั้น ฟังสิ! ทำให้พี่บัวหอม
    คนน่ารักขนาดนั้นสงสัยและระแวงขึ้นมา พวกเจ้าชู้ไก่แจ้…จะมาเคลียร์เหรอ…ได้เลย

    “ฉันถามจริง  ๆ นะ คุณมีพี่บัวอยู่แล้วยังจะตามมาตอแยอะไรกับฉันอีก
    ถ้าไม่เห็นแก่ฉันก็เห็นแก่หน้าพี่บัวบ้างสิ ผู้หญิงเขาไม่ชอบหรอกนะที่แฟนตัวเองจะไปยุ่งกับคนอื่นอีก
    ถ้าเขายังอยู่ทั้งคน อีกอย่างฉันไม่อยากเป็นมือที่สามเข้าไปยุ่งเรื่องของใคร”

    “เฮ้ย!” ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินจากปากบางของหญิงสาวตรงหน้า
    เฮ้อ…แม่เจ้าประคุณคิดว่าเขากับบัวเป็นแฟนกันหรือนี่…

    “เดี๋ยวครับ!”  เขาร้องเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะลุกขึ้น  
    “ผมว่าวันนี้เราคงต้องคุยกันยาว เอางี้นะ กุลนั่งลงก่อนนะแล้วฟังผมนะ นะครับ”  เขาร้องขอ

    เมื่อเห็นเธอกลับลงมานั่งตามเดิมค่อยเริ่มเล่าเรื่องเขากับบัวให้ฟังอย่างช้า ๆ
    เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันที่ต้องมานั่งมาอธิบายถึงความสัมพันธ์ของเขาให้เธอรู้
    ตอนนี้แค่อยากให้เธอรู้เพียงแค่ว่า ‘เขาไม่มีพันธะกับใคร’ ก็เท่านั้นเอง

    บรรพธรเดินช้า ๆ มาตามถนนสายเล็กอย่างเงียบ ๆ
    บ้านเรือนตามสองข้างทางปิดกันหมดแล้ว สายลมพัดมาทายทักอย่างช้า ๆ ยังไม่หนาว
    แต่ก็ทำให้แขนภายใต้เชิ้ตแขนสั้นรู้สึกเย็นขึ้นมานิด ๆ ดวงจันทร์สีเหลืองนวลอยู่สูงเกือบกลางฟ้า
    เขาแหงนหน้ามองยิ้มให้กับจันทร์ดวงโต ดาวพราวเต็มฟ้ากระพริบเจิดจ้าแข่งกับแสงนวลเย็น
    นึกถึงหน้าคนที่เพิ่งจากมาอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าแดงเรื่อเมื่อฟังเขาเล่าจบ
    พร้อมท่ายกมือไหว้เขาอย่างขอโทษขอโพยนั่นอีก…


    “พี่บรรอยู่ไหนอ่ะ”  
    เสียงแจ๋ว ๆ ของน้องสาวดังออกมาจากโทรศัพท์เครื่องเล็กเมื่อเขายกหูขึ้นรับสาย

    “น้ำค้างตกแล้วยังไม่ถึงบ้านอีก ทำไรอยู่ ตีโทรเข้าเครื่องพี่ตั้งหลายครั้งแล้วทำไมไม่รับล่ะ”

    “ไม่ได้ยิน”  เขาตอบกลับไป  “มีอะไร”

    “ห๊า! ไม่ได้ยินได้ไง อ๋อ…ตีรู้ล่ะว่าพี่บรรเป็นไร”  

    “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรนี่”  พี่ชายตอบน้องสาว  “ไปนอนได้แล้วเรา พี่ถึงบ้านแล้ว”

    “เปล่าได้ไงตีว่า พี่ต้องตกหลุมแน่ ๆ เลย“  เสียงใสพูดอย่างหมายมั่น

    “หลุมอะไร”  คนฟังถามอย่างสงสัยจริง ๆ

    “เก๊าะตกหลุมรักไง ไม่เคยดูโฆษณาเหรอ
    พี่ท่าจะตกหลุมของคนที่พี่บัวพาไปหาเมื่อตอนค่ำนี่แน่ ๆ เลย
    พี่ถึงเดินกลับมามองฟ้าก็ยิ้ม มองจันทร์ก็ยิ้มอย่างนี้ไง ฮ่า ฮ่า”  

    น้องสาวตัวแสบวางสายไปแล้ว เขามองขึ้นไปเห็นเพียงม่านไหว ๆ พร้อมไฟหัวเตียงดับลงจากห้องของบรรพตี  

    ++++++++++++++++++++

    จากคุณ : ฺBeetRoot - [ 24 พ.ย. 46 11:25:16 ]