ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆหมอก ลมหนาว หิมะโปรยปรายแต่บางเบา แต่พื้นกลับขาว ราวโลกหิมะ หากแม้นเพียงแค่มองผ่าน ยังคงรู้สึกหนาวจับใจได้ทันตา พิจารณาโดยรอบ จะเห็นกองหิมะ กองใหญ่มหึมา ผิดสังเกตอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อหิมะกองนั่นเริ่มสั่นไหว และแตกออก ก็ปรากฏชายสามคนเดินออกจากหิมะกองใหญ่
เมมวาร์ ค่อย ๆ เดินออกจากกองหิมะด้วยสภาพอิดโรย แวริเออร์ ก็เดินติดตามออกมา และผมสีแดงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เช่นเดียวกับ สีตา แวริเออร์ เปลี่ยนเป็น ไคด์ แล้ว ส่วนชายคนสุดท้าย ไวท์ ซึ่งเดินอย่างสง่างามเพียงแต่อกด้านซ้ายแดงเถือก ไปด้วยเลือด แผลที่โดนดาบญี่ปุ่นได้เปิดออก
เป็นเพราะคุณบาดเจ็บก่อนสู้กับ นายพลเฒ่า คุณเลยสู้ได้ไม่เต็มที่สินะ เสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังของชายทั้งสาม ย่อมไม่ใช่ใครนอกจาก มิม THE MAGICIAN
แผลที่อกซ้ายย่อมทำให้ผมไม่สามารถทุ่มกำลังได้เต็มที่ แต่ต่อให้สภาพผมเต็มร้อย ก็คิดว่าคงไม่ชนะ
แวนนิช หรอก ไวท์ตอบเสียงเรียบ ๆ
คงใช่ เพราะตอนนี้คุณไม่สามารถหยุดเวลาได้เหมือนก่อน คุณทำได้เพียงแค่ทำให้เวลาช้าลง มิม กล่าว
อย่างเปิดเผย และเมื่อ ไวท์ ได้ฟังก็ทำได้เพียงแค่นิ่ง และก้มหน้า เหมือนมีความในใจที่ไม่อาจกล่าว สิ่งใด
คุณพาพวกเราออกมาได้ยังไง เมมวาร์พูดแทรก พูดเร็ว แบบวัยรุ่นใจร้อน
มายากล ไงล่ะ มิม กล่าวและยิ้มอย่างเปิดเผย
เรามีเวลาแค่ 7 วันเพื่อจัดการกับ เวอรูเลินท์ ก่อนที่เรือของกองทัพ NR จะมารับมัน ไวท์กล่าว
ใช่!!! เวอรูเลินท์ คือบุคคล ที่อันตรายต่อโลกใบนี้ ยังไงก็ต้องกำจัดมันให้ได้ เพียงแต่ แค่กำลังพวกเราจะทำได้เหรอ เมมวาร์ สงสัยได้ถูกจุด
เราต้องติดต่อกลับทาง ESP ให้ส่งผู้มีพลังพิเศษมาช่วยเราอีก เพราะศัตรูมีพวกมากเหลือเกิน ไวท์ กล่าวอย่างเรียบ ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นว่า ไคด์ เงียบอยู่นานจึงหันไปมอง แต่คนที่เห็นกลับเป็น แวริเออร์ ที่นิ่ง และดูเยือกเย็น อย่างน่ากลัว
ศัตรูมาแล้ว แวริเออร์พูดสั้น แต่ทำให้เย็นวาบไปทั้งหลัง และเมื่อมองไปรอบ ๆ ตัวก็พบหมาป่าเป็นจำนวนมาก เพียงแต่หมาป่าเหล่านั้นกลับทำจากหิมะ
หมาป่าหิมะ หลายสิบตัวต่างล้อมชายทั้งสี่ไว้ แม้นมันจะทำมาจากหิมะ แต่มันดูมีชีวิต และแสดงความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน และกระโจนเข้าหาชายทั้งสี่อย่างพร้อมเพรียง
เพลงดาบ สิบเสือ สังหาร!!!!!
ประกายดาบนับสิบ จากสองมือ จากเมมวาร์ ฟาดผ่านฝูงหมาป่าดุจ เสือตะครุบเหยื่อ
แวริเออร์ มองหมาป่าหิมะสามตัวที่กระโจนมาทางขวาด้วยหางตา ก่อนจะยิงกระสุนหนึ่งนัด เพียงพอหรือ? พริบตาก่อนกระสุนจะโดนหมาป่าหิมะตัวแรก กระสุนได้แตกกระจาย เป็นลูกเล็ก ๆ นับสิบ ทะลวงหมาป่าทั้งสาม นั้นย่อมเป็นความสามารถของปืนกลที่ถูกย้ายมาใส่ในลูกแม๊กนั่ม
ไวท์ ที่เจ็บอกซ้ายจึง ตวัดขาเตะต่ำซ้าย ขวา ใส่หมาป่าทั้งสองก่อนจะกระโดดหมุนตัวเตะหมาป่าที่กระโจนมาทางด้านบน
มิม ค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปในหมวก เพียงแต่ล้วงเข้าไปจนสุดแขนเหมือน ล้วงไปในกระเป๋าวิเศษ ก็จะดึงเอาดาบอัศวิน ออกมาร่ายรำเพลงดาบ แบบอังกฤษ แท้ ๆ อย่างสวยงาม จนหมาป่ากลายเป็นกองหิมะไปหมดสิ้น
ไม่ยากเท่าไรนี้ เมมวาร์ กล่าวอย่างสบายอารมณ์ เมื่อหมาป่าหิมะแตกสลายเป็นกองหิมะธรรมดาไป แต่พอกล่าวจบได้ไม่นานกองหิมะใหญ่น้อยก็กลายร่างเป็นหมาป่าหิมะขึ้นมาอีกครั้ง จบเมมวาร์ก็ปากอ้าตาค้างกล่าวว่า
ชักจะยากแล้วสิ เมมวาร์จึงมองไปทางรุ่นพี่อย่างไวท์ เหมือนขอความเห็น ไวท์ก็กล่าวว่า
หนี!!!!! มิม ตวัดดาบฟันขวาง เปิดทาง ก่อนที่เมมวาร์ จะสะบัด ดาบเข้าสมทบ แหวกแนวป้องกันของหมาป่าหิมะออก
ชายทั้งสี่วิ่งหนีฝูงหมาป่าหิมะ อย่างรวดเร็ว และหมาป่าก็ไล่ติดตามอย่างไม่ลดละ ชายทั้งสี่ค่อย ๆ วิ่งเข้าไปในป่าสนที่อยู่ด้านหน้า อย่างรวดเร็ว จนเห็นว่าห่างจากหมาป่าจึงหยุดหอบหายใจ
รู้สึกว่ามันจะไม่ตามมาแล้วนะ ว่าแต่ทำไมพวกเราต้องหนีด้วยล่ะ? เมมวาร์พูดไปหอบไป
ฉันสังเกต เท่าไรก็มองไม่เห็นร่างต้นของคนใช้หมาป่าหิมะ นะสิ ยิ่งสู้ไปก็มีแต่ยิ่งเหนื่อย ไวท์อธิบาย
แต่แปลกดีนะที่ พอเข้าป่าสน แล้วพวกหมาป่าก็ไม่ตามมาแล้ว ไม่งั้นเราคงต้องปีนต้นไม้หนีแน่ ๆ เมมวาร์ยังคงดูเหนื่อย จึงยืนพิงต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะรู้สึกวูบขึ้นมาและกล่าวอย่างเร่งรีบ
แย่แล้ว!!!! ฉันอ่านความทรงจำจากต้นสนนี้ได้ว่า มีศัตรูซุ่มอยู่ในป่าสนนี้
พริบตาที่ เมมวาร์ กล่าวจบเสียงปืนไรเฟิลเก็บเสียงก็ดัง ฟิ้ว!!!! ขึ้น
เวลาจงช้าลง!!!!!!!!!
ฉับพลัน ที่ ไวท์ แสดงพลัง ใบไม้ กิ่งสน ที่ร่วงหล่น ก็เชื่องช้าลงอย่างมาก หิมะ ก็แทบจะค้างกลางอากาศ ไวท์กวาดตาอย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ เห็น หัวกระสุนพุ่งตรงไปทางศีรษะ ของแวริเออร์ อย่างรวดเร็ว
ไกล!!! ตัวแวริเออร์ ยังคงไกล เกินกว่าที่ไวท์จะสามารถกระโจนไปช่วยได้ทัน กระสุนพุ่งตรงเป้าหมาย
แวริเออร์ เอียงศีรษะไปทางขวาเร็ว!!!! ด้วยสันชาติญาณ ที่ว่องไว แวริเออร์ แม้นจะมองไม่ทันกระสุนแต่ก็เอียงคอตามเสียงได้ทัน ภายในโลกที่เวลาช้าลง ไวท์เห็น แวริเออร์ หันหลบทิศทางกระสุนได้ทัน แต่พริบตานั่นเอง กระสุน กลับค่อย ๆ โค้งขวา เข้าหาหัวของแวริเออร์ต่อไป พลังพิเศษ!!!!! ของศัตรู
เอาแขนกันศีรษะไว้ แวริเออร์ พริบตาเดียว เลือดก็กระจายย้อมพื้นขาวให้เป็นสีแดง แวริเออร์ล้มลงกองพื้น อย่างรวดเร็ว
กระจายกับไป ระวังการซุ่มยิงด้วย ไวท์ ตวาดเสียงก้อง พริบตาเดียว พลพรรค ของไวท์ ก็กระจายตัวหายไปอย่างรวดเร็วไม่เหลือสิ่งใด ยกเว้นกองเลือดบนพื้น
บนกิ่งต้นสน ใหญ่ปรากฏเงาชายในชุดทหาร 4 คน หนึ่งในนั่น ผมชายรุงรัง แก้มตอบ ดวงตาเรียวเล็ก ถือปืนไรเฟิลไว้อย่างทะมัดทะแมง
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะรอดจากกระสุนสังหารของฉัน
ไปตามล่าพวกมันใหัท่านเวอรูเลินท์ กันเถอะ ชายในชุดทหาร ที่ดูเข้มแข็ง ตัดผมเกรียน ดูเป็นหัวหน้า กล่าวพร้อมร้อยยิ้มที่น่ารังเกียจ
เงาร่าง ชายผู้หนึ่งกระโดด พลิ้วไหว ตามกิ่งไม้ ไร้สุ่มเสียง ไม่ใช่ใคร ชายชุดทหารผู้ถือปืนไรเฟิลนั่นเอง
ไอ้โง่ เอ๊ย เลือดไหลเป็นทางแบบนี้ หาตัวได้สบาย คราวนี้แกไม่รอดแน่ไอ้หัวแดง ชายในชุดทหารกระโจนบนกิ่งไม้ ไล่ตามหยดเลือดตามพื้นไปอย่างเงียบงัน
รอยเลือดไหลเป็นทางจนติดตามได้ไม่ยาก ชายชุดทหารไล่ตามไปจนเจอต้นตอเลือดเหล่านั้น
กระต่ายป่า!!!! เสร็จกัน เราหลงกลแล้ว ที่แท้เลือดที่ไหลเป็นทางนั่นมาจากกระต่ายป่า ชายในชุดทหารถึงกับหน้าถอดสี รีบส่องกล้องส่องทางไกล ที่ปืน พร้อมซุ่มอยู่บนกิ่งไม้สูง มองโดยรอบอย่างระวัง เหงื่อไหลเป็นทางอย่างกับเพิ่งตกน้ำมา
ตัดฉากไปที่อื่น เมมวาร์ ค่อย ๆ แหวกพุ่มไม้ออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อมองไปข้างหน้าสิ่งที่เค้าเห็นก็คือ แวริเออร์ กำลังล้มกลิ้งไม่เป็น และมีชายร่างยักษ์ในชุดทหาร เตรียมซ้ำแวริเออร์ให้ตาย เมื่อเห็นเช่นนี้เมมวาร์จึงพุ่งตัวเข้าขวางไม่ให้ ชายร่างยักษ์จู่โจมซ้ำ และเมมวาร์ตวัดดาบเข้าแทงชายร่างยักษ์อย่างรวดเร็ว
จึก!!!!!!!! เลือดกระเซ่นออกมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับเป็นเลือดเมมวาร์ ที่ถูก แวริเออร์ แทงมีดกลางหลัง
ตัดฉากมาที่ ไวท์ ซึ่งยืนเด่นเป็นสง่า อยู่กลางป่าสน
แกเป็นใคร!!!!!! ไวท์ตวาดก้องใส่ ชายชุดทหาร ผู้ดูเป็นหัวหน้าทีม
ข้าคือ 1 ใน 6 ผู้ใกล้ชิดท่านเวอรูเลินท์ ผู้เรืองอำนาจ และข้ามาเพื่อกำจัดเจ้า!!!! พริบตาที่ชายชุดทหารพูดจบร่างก็ค่อย ๆ เลือนหายไป ราวกับอากาศธาตุ
ไวท์ยืนนิ่ง และสอดส่ายสายตามองโดยรอบแต่ก็ไม่เห็นสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ฉับพลัน ไวท์ รู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายที่แผ่มาด้านหลัง พลันพลิกตัวกลับก็เห็น ชายชุดทหารและประกายมีดฟาดผ่าน ไวท์ดีดตัวถอยอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เร็วพอ ต้นแขนขวาจึงต้องสังเวยหนึ่งแผลจากมีดยาว และวินาทีนั่นเอง ชายชุดทหารก็ค่อย ๆ เลือนหายไปดังอากาศเช่นเดิม
จากคุณ :
Bluejade
- [
30 พ.ย. 46 02:37:12
]