ถึง....คนพิเศษของฉัน
ตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันก็รู้ทันทีว่าคุณคือคนพิเศษของฉัน ฉันเริ่มประทับใจในความพิเศษของคุณก็ในวันที่ได้ไปเที่ยวกับคุณสองคน ตอนนั้นฉันเรียนอยู่ ป.4 เองนะ
วันนั้นคุณซื้อรองเท้าและเสื้อผ้าให้ฉัน คุณรู้มั๊ยคะมันช่างเป็นเสื้อผ้าที่แสนวิเศษจริงๆ(ฉันคิดอย่างนั้น ทั้งๆที่มันแสนจะธรรมดา) คุณเดินจูงมือฉันไว้ตลอดราวกับกลัวว่าฉันจะพลัดหายไป ฉันอายุ 10 ขวบแล้วนะ (ฉันคิดในใจ)
เมื่อฉันเริ่มไปเรียน ม.1 คนพิเศษก็ส่งฉันให้ไปอยู่กับพี่สาวของเขาแทน เราต้องห่างไกลกัน แต่คนพิเศษบอกกับฉันว่า"เพื่ออนาคตของหนู หนูต้องอดทน"ฉันก้มหน้ารับคำเพื่อกลืนหยดน้ำตา ที่มันไหลออกมาเป็นสาย (ก็คนพิเศษของฉันเขาไม่ชอบน้ำตานี่นา)
วันแรกที่ไปส่งฉัน คนพิเศษก็พาฉันไปสมัครเรียนและเป็นธุระจัดหาเสื้อผ้า เครื่องแบบนักเรียน และทุกอย่าง ที่ดีที่สุดให้กับฉัน คนพิเศษ ทำทุกอย่างแทนแม่ฉันหมดเลย เมื่อถึงเวลาที่คนพิเศษต้องกลับไปบ้าน ฉันร้องให้อย่างไม่อายใครเลย ฉันไม่ชอบความห่างไกล ไม่ชอบความอ้างว้าง คนพิเศษลูบหัวฉันเบา
"มัวแต่โอ๋กันอยู่นั่นแหละ ไปได้แล้วเดี๋ยวไม่ทันรถเข้าบ้าน"เสียงพี่สาวของคนพิเศษของฉันดุให้เขา ฉันรีบกลืนน้ำตาหยดสุดท้ายพร้อมกับเสียงสะอื้นให้มันตกไปข้างใน เพื่อให้คนพิเศษของฉันสบายใจ
"ตั้งใจเรียนนะ แล้วจะมาหาทุกเดือนนะ มีอะรัยก็เขียนจดหมายไปละกัน"คนพิเศษสั่งกับฉัน พร้อมกับกอดอีกครั้งก่อนลาจากกัน
ฉันตั้งใจเรียนตามคำบอกของคนพิเศษ และเชื่อฟังคำสั่งสอนของพี่สาวของเขาจนทำให้พี่สาวของเขารักและเอ็นดูฉันไม่น้อย รวมทั้งลูกๆของเธอด้วย ทุกครั้งที่คนพิเศษมาเยี่ยมฉัน เราจะมีเรื่องคุยกันมากมายหลายเรื่อง ฉันชอบนอนหนุนตักเขา และเล่าทุกเรื่องให้เขาฟัง จนพี่สาวของเขาดุให้ว่ามันไม่งาม (ไม่งามตรงไหน ฉันไม่เข้าใจ) เรารักกันแต่เราแสดงออกไม่ได้งั้นหรือ ฉันน้อยใจ(แต่ไม่ร้องให้นะ ฉันเข้มแข็งขึ้น)
จนขึ้น ม.2 เราทนคิดถึงกันไม่ไหว และแม่ก็คงทนคิดถึงฉันไม่ไหว คนพิเศษจึงย้ายฉันไปเรียนใกล้ๆบ้าน โดยซื้อจักรยานไว้ให้ฉันได้ปั่นไปโรงเรียน แต่วันแรกมันก็พังซะแล้ว ด้วยน้ำมือน้องชายของฉัน รถพังน่ะไม่เท่าไหร่ แต่น้องชายฉันเจ็บนี่ซิ ฉันร้องให้(อีกแล้ว)สงสารน้อง
เมื่อฉันเรียนจบ ม.3 คนพิเศษพยายามหาเงินให้ฉันเรียนต่อ แต่ตอนนั้นเขากำลังแย่มาก ฉันจึงต้องจากเขาไปแสนไกล ออกไปเผชิญโลกกว้างใหญ่เพียงลำพัง ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่ ฉันก็ยังรู้ได้เสมอว่า ยังมีสายตาที่หวังดี และความรักที่ยิ่งใหญ่ติดตามฉันไปทุกๆที่
ฉันเริ่มห่างเหินกับคนพิเศษของฉัน แต่คำสอนของเขายังก้องอยู่ในหัวฉันตลอดเวลา ความรักของเขายังอบอุ่นทุกครั้งที่ฉันนึกถึง ฉันมุมานะ ทำงานและเก็บเงินเพื่อที่จะเรียนต่อจนกระทั่งฉันเรียนจบ ปวส. ฉันส่งข่าวให้คนพิเศษของฉันรู้ เขาดีใจมาก(ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉย)แต่ยิ้มน้อยๆ วันที่ฉันเข้าไปรับใบประกาศฯ คนพิเศษของฉันก็มาหาฉันที่โรงเรียนพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่(รู้ทีหลังว่าเพื่อนฉันเป็นคนไปซื้อ ตามคำสั่งของเขา)ทันทีที่เดินออกจากหอประชุม ก็มีดอกไม้ช่อใหญ่ยื่นมาให้จากมือที่แสนจะคุ้นเคย ฉันดีใจมากที่สุดในโลก แต่ฉันก็เลือกที่จะฉลองความสำเร็จกับเพื่อนฝูง โดยปล่อยให้คนพิเศษกลับไปทานข้าวกับน้องชายของเขาแทน
และอีกครั้งกับความสำเร็จของฉัน ใบปริญญาบัตร คนพิเศษยิ้มกว้างที่สุด สีหน้ามีความสุขที่สุด เขาพูดกับแม่อย่างมีความสุข(ปนความโอ่นิดๆ)ว่าความสำเร็จครั้งนี้ เขามีส่วนร่วมด้วยนะ(นั่นแน๊ ไปแอบสอบช่วยเหรอ)
วันที่ฉันใส่ชุดครุยยืนอยู่กับคนพิเศษ ซึ่งใส่ชุดซาฟารีที่หล่อที่สุดในโลก เขายิ้มกว้างกับทุกคน ในใจคงอยากจะตะโกนแทบแย่ซินะว่า"คนนี้ลูกผมนะครับ คนนี้ลูกผม"
และคำพูดที่ฉันมักได้ยินในทุกครั้งที่ประสบความสำเร็จก็คือ"พ่อรู้ ว่าหนูทำได้ พ่อเชื่อใจหนู"และอีกคำที่ได้ยินทีไรฉันมักจะฝันหวานทุกทีว่าฉันพิเศษกว่าทุกคนในบ้านก็คือ "พ่อรักหนูนะ พ่อรักลูก"
แต่ครั้งนี้ฉันไม่ยอมพลาดที่จะฉลองความสำเร็จกับคนพิเศษของฉันโดยยอมพลาดการฉลองกับเพื่อนๆก็ฉันรักเขานี่นา
พ่อขา..หนูก็อยากบอกพ่อ เหมือนที่เคยบอกมาตลอดนะคะ ถึงแม้เราจะงอนกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่เราก็ไม่เคยงอนกันนานเลยน๊า
"หนูรักพ่อค่ะ รักทุกวันเลย"
จากคุณ :
atitiya_w786@hotmail.com
- [
4 ธ.ค. 46 11:15:24
A:203.146.0.87 X:202.183.235.3
]