~~~~~~~~เพลงรักจากสายลม ตอนที่ 1~~~~~~~~

    คืนนี้พระจันทร์แสนเศร้า
    คืนที่ความฝันเก่าเก่าถูกเพรียกหา
    คนบางคนพยายามข้ามผ่านกาลเวลา
    อยากย้อนคืนไปไขว่คว้าหาความรัก
    บนเส้นทางห่างไกลกัน
    คุณอาจจะมีใครให้รู้จัก
    ไหวหวามกับความรัก
    หรือมีคนนอนหนุนตักนับดาว
    แต่กับใครคนหนึ่งนั้น
    เพียงนั่งมองแสงจันทร์ในคืนเหงา
    ด้วยหยดน้ำตาพร่าพราว
    คิดถึงเรื่องราวของหัวใจ
       -unknown-

    กลางดึกของคืนวันเสาร์  คืนที่ว่านไม่ต้องรีบนอนเพื่อที่จะตื่นไปทำงาน...  ท่ามกลางความเงียบสงบของค่ำคืน  พระจันทร์ดวงกลมโตฉายแสงนวลเด่นชัดอยู่นอกหน้าต่างบานกว้าง  ภาพของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นในความคำนึง…  ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าในทุกเวลาที่เหงาและไม่มีใคร  ว่านเป็นต้องนึกถึงเขาทุกครั้ง  “พี่ตั้ม”  ชายแปลกหน้าที่ผ่านเข้ามาในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต  แล้วก็พัดจากไปเหมือนสายลมว่านเจอพี่ตั้มตอนที่ว่านเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง  ในขณะที่เขามาเรียนต่อทางด้านวิศวะของคณะครุศาสตร์ หลักสูตร 2 ปี  ซึ่งถ้าเทียบแล้วก็เท่ากับปีสาม  แก่กว่าว่านหนึ่งปี... คณะครุศาสตร์อยู่ติดกับคณะที่ว่านเรียน   เราจึงได้พบหน้าค่าตากันบ่อยครั้ง  ที่ตึกเรียนบ้าง  ที่โรงอาหารของคณะบ้าง
    พี่ตั้มเป็นผู้ชายหน้าตาเรียบๆ  รูปร่างสูงโปร่ง  ผิวสองสี  หากที่ว่านสะดุดก็คือ  สายตานิ่งๆ ที่มองมายังว่านทุกครั้งที่พบเจอกัน  ครั้นพอว่านสบตาเข้า  เขาก็เมินไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจ  ไม่เคยมีแม้รอยยิ้มหรือคำทักทายจากเขาจนว่านแปลกใจและนึกสนใจขึ้นมา…  ก็นี่แหละผู้ชายในสเปคของว่าน  บุคลิกดี  มาดนิ่งขรึม  แต่ถ้าจะพูดถึงนิสัยใจคอ  ว่านเองก็ไม่รู้  เพราะไม่เคยได้พูดคุยกันสักครั้ง  ตอนนั้นว่านยังไม่รู้จักชื่อของเขาด้วยซ้ำ  มารู้จักชื่อก็จากคนใกล้ตัวของว่าน  ซึ่งเรียนคณะเดียวกับพี่ตั้ม  ในเวลาที่ว่านไม่ได้เจอพี่ตั้มอีกแล้ว
    เคยได้ยินเพื่อนๆ ของเขาเรียกเขาในเชิงแซวว่า “นายช่าง”   ว่านก็เลยเรียกพี่ตั้มในตอนนั้นว่า “พี่นายช่างครุ” จนติดปาก

    ความสัมพันธ์ของเรายังคงดำเนินต่อไปในลักษณะของ “คนแปลกหน้า”
    “ว่าน  พี่คนที่ใส่เหล็กดัดฟันคนนั้นมองเธออีกแล้วละ”  เพื่อนคนสนิทกระซิบในวันที่ว่านนั่งรอเวลาเรียนภาษาญี่ปุ่น  ในขณะที่พี่ตั้มรอเรียนภาษาอังกฤษห้องข้างๆ ณ อาคารเรียนรวม
    ว่านเหลือบตาไปยังที่พี่ตั้มยืนอยู่  ตาสบตาชั่วครู่  ก่อนที่เขาจะเสหันไปคุยกับเพื่อนเช่นเคย  ว่านจึงได้แต่เฉย ...  ถ้าเขาจะยังยึดที่มั่นของเขา  ไม่ก้าวออกมาหา  ว่านก็ไม่มีวันจะก้าวเข้าไปหาเหมือนกัน  ทั้งๆ ที่แอบประทับใจเขาเสียเหลือเกินนี่แหละ
    บอกฉันได้ไหม...
    ว่าดวงตาเธอซ่อนความนัยอะไรอยู่
    อยากจะรู้ ...
    ยามดอกไม้ร่วงพรูตามสายลม
    บอกฉันได้ไหม...
    แล้วจะเก็บดอกไม้ให้แซมผม
    เพราะอยากเข้าใจในอารมณ์
    ของผู้ชายตาคม...ผมยาว
         -unknown-

    ตอนแรกว่านก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่ตั้มแอบสนใจว่าน  หรือเป็นเพราะความบังเอิญ  แล้ววันหนึ่งโอกาสที่จะพิสูจน์ก็ลอยผ่านมาอย่างไม่ตั้งใจ
    วันนั้นพี่ตั้มกับกลุ่มเพื่อนเดินผ่านโรงอาหารของคณะที่ว่านเรียนเพื่อยังยังอาคารเรียนของคณะครุศาสตร์   ทุกครั้งที่เดินผ่าน  พี่ตั้มก็จะเหลือบมามองยังบริเวณโต๊ะประจำของกลุ่มว่าน  บังเอิญว่าวันนั้นว่านมาช้า  ทันเห็นแค่หลังพี่ตั้มเดินผ่านไป
    “พี่นายช่างครุฯ มองเก้อว่ะ”  เพื่อนสนิทเอ่ยปากแซวเมื่อว่านเดินไปถึงโต๊ะ  ความคิดบางอย่างแวบขึ้นมาในสมอง  ว่านยิ้มกับตัวเองก่อนบอกเพื่อน
    “เดี๋ยวมานะ”  ว่าแล้วก็เดินแกมวิ่งตามร่างสูงที่เห็นหลังอยู่ไวๆ  แล้วก็ไปทันก่อนถึงห้องคอมพิวเตอร์ประจำภาควิชาที่ว่านเรียน  ว่านแกล้งเดินแซงหน้ากลุ่มของพี่ตั้ม  กะว่าพอให้พี่ตั้มได้เห็นว่าน  แล้วก็ผลุบหายเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์  ไปยืนแอบอยู่ข้างหน้าต่าง
    แล้วก็เป็นไปอย่างที่ว่านคิด  พี่ตั้มทำทีเป็นเดินผ่านห้องคอมพิวเตอร์ช้าๆ  แล้วชะโงกหน้ากวาดสายตาไปทั่วห้อง  แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อสบตาเข้าอย่างจังกับดวงตาที่จ้องมองอยู่แล้วของว่าน  สีหน้าเขาเก้อราวกับเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้  ก่อนผละจากไปโดยเร็ว
    “เขามองหาเราจริงๆ ด้วยแฮะ”  ว่านบอกกับตัวเองพลางยิ้มอย่างพออกพอใจ

    หากหลังจากวันนั้น  ความสัมพันธ์ของว่านกับพี่ตั้มก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า  เคยเงียบเฉยอย่างไร ก็ยังคงเงียบเฉยอยู่อย่างนั้น  เพื่อนในกลุ่มพี่ตั้มซะอีกที่ยังกล้าเอ่ยคำ “สวัสดีครับ” พร้อมรอยยิ้มกึ่งแซวให้ยามเดินสวนกัน
    “เฮ้อ! หนุ่มครุนี่มีอะไรดีน้อ  เพื่อนฉันถึงได้พากันปลื้มกันไปซะหมด”  ต่าย...รูมเมทว่านเปรยขึ้นมา  เมื่อได้ฟังเรื่องราวของมน..รูมเมทอีกคนที่แอบไปหลงรักหนุ่มคณะครุศาสตร์  หลังจากรับรู้เรื่องราวของว่านกับพี่ตั้มได้ไม่นาน
    “ยายว่านก็อีกคน  ไหนจะหนุ่มวิศวะ  หนุ่มวิดยา  ที่ตามจีบเธออยู่ตั้งกี่คนก็ไม่ชอบ  ดันไปชอบอีตาหนุ่มครุฟอร์มจัดนั่น”
    “ก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมายนักหรอกนะ  ก็แค่รู้สึกประทับใจ  เธอก็รู้ว่าฉันชอบผู้ชายสไตล์นี้  รูปร่างสูง  บุคลิกดี  มาดขรึมๆ แบบนี้แหละ  สบตาทีใจแทบละลาย”  ยิ้มตาพราวระยับ  “ท่าทางพี่เขาไม่เจ้าชู้ด้วย  ใครได้เป็นแฟนคงสบายใจ”
    “แล้วจะได้เป็นแฟนพี่เขามั้ยล่ะจ๊ะ  ในเมื่อพี่แกเฉยขนาดนั้น”  ต่ายประชดเล็กๆ
    “ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นแฟนพี่เขาซะหน่อย  เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว  ตื่นเต้นดี”  ว่านบอกพลางยักคิ้ว... นี่ถ้าพี่นายช่างครุมาได้ยินเข้าจะว่ายังไงน้อ  ในเมื่อภาพพจน์ว่านออกจะเรียบร้อยปานนั้น ...


    จากคุณ : amp - [ 4 ธ.ค. 46 11:40:40 A:203.130.128.158 X:192.168.1.28 ]