ภายในป่าสน ที่ขาวโพลน และเยือกเย็นด้วยหิมะ แต่ศึกในป่าสน กลับเริ่มดุเดือดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ศึกครั้งนี้คงต้องมีหิมะแดงที่ย้อมด้วยเลือด
ตัดฉากกลับมาที่เมมวาร์ ซึ่งบาดเจ็บอย่างหนัก จากมีดที่ปักลึกที่หลัง
เพลงดาบ ร้อยสิงห์ สยบ!!!!!
เงาประกายดาบ แผ่ออกโดยรอบ ทำให้ แวริเออร์ และชายร่างยักษ์ ต้องกระโดดหนีออกห่าง
เมมวาร์กัดฟัน อย่างแรง หลังจากทุ่มกำลังสะบัดเพลงดาบ เลือดก็ไหลจากมีดที่ปักกลางหลังอย่างต่อเนื่อง
แกไม่ใช่แวริเออร์ พวกแกเป็นใคร!!! แวริเออร์ ตัวปลอมไม่ตอบสิ่งใดแต่ร่างกายค่อย ๆ เปลี่ยน ๆ จาก
แวริเออร์ค่อย ๆ กลายเป็นชายรูปร่างผอมราวโครงกระดูก และกล่าวอย่างเฉื่อยชา
ฉันจะไปหลอก พวกมันคนอื่นอีก แค่คนบาดเจ็บ จนยืนขาสั่นแกคงกำจัดมันได้นะชายรูปร่างผอมราวกระดูกค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็น ไวท์ และเดินหายไปในพุ่มไม้
ไม่ผิดนัก เมมวาร์ ตอนนี้ยืนขาสั่นและค่อย ๆ ล้มลงนั่ง กับพื้น หมดสิ้นเรี่ยวแรง ชายร่างยักษ์ยิ้มอย่างน่ากลัวพร้อมเดินกำหมัดเข้าหาเมมวาร์
ปัง!!!! เมมวาร์ ยังไม่หมดเขี้ยวเล็บ พลันชักปืนลูกโม่แบบโบราณ ในขากางเกงออกมายิงอย่างแม่นยำเข้ากลางหน้าผากชายร่างยักษ์
แต่สิ่งไม่น่าเชื่อก็พลันปรากฏ ชายร่างยักษ์ไม่มีแม้นแต่เลือดซักหยด แผลที่หน้าผากก็ค่อย ๆ ปิดอย่างรวดเร็ว และดันกระสุนออกมาข้างนอกได้เอง อย่างน่าอัศจรรย์ ขณะที่เมมวาร์ตื่นกลัวนั้นก็ชักปืนยิงซ้ำไม่นับอีกหลายนัด เสียงดังกึกก้อง
ตัดฉากมาที่ชายชุดทหารที่ถือปืนไรเฟิล ซุ่มอยู่บนกิ่งไม้อย่างร้อนรน เหงื่อไหลอย่างหนัก และคอยสอดส่องดูพื้นล่างอย่างบ้าคลั่ง ฉับพลัน ชายชุดทหารก็เห็นพุ่มไม้หนึ่งสั่นไหว เค้าจึงเล็ง ปืนเข้าหาอย่ารวดเร็วแต่ในใจพลันคิดได้ กับดักแน่ ๆ ถ้าเรายิงเข้าไป เจ้าหัวแดงมันจะต้องรู้ตำแหน่งเราแน่
ว่าแล้วชายชุดทหารก็ ถอนหายใจอย่างแรง และเสียวสันหลังวาบ ที่เกือบพลาดท่าหลงกล ตอนนี้จิตใจของเค้าไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว พริบตานั่นเอง เสียงปืนก็ดังขึ้น ชายผู้ถือไรเฟิล พลันตกใจสุดขีดเพราะไม่ได้มาจากปืนของเค้า พลันตวัดปลายปืนส่ายไปทั่ว จนเกี่ยวใบไม้ ร่วงหล่น ที่แท้เสียงปืนนั่นดังมาจากที่อื่น ปืนของเมมวาร์!!!!
ชายในชุดทหารรีบรวบรวมสติ อย่างรวดเร็ว จ้องมองกลับไปในกล้องส่องทางไกลที่ปืน แต่ก็รู้สึกมีอะไรเย็น ๆ ตกลงบนหัว
เลือด!!!! เลือดนั่นเอง เลือดหยดลงบนศีรษะของเค้า แต่เลือดนี้มาจากไหน?
ผัลวะ!!!!!! หมัดขวาอย่างแรง ในพริบตาส่งชายในชุดทหารตกไปแน่นิ่งกับพื้น โดยผู้ที่ไปยืนแทนบนกิ่งไม้กลับเป็น แวริเออร์ ที่เลือดนองแขนขวาจากกระสุนปืนในตอนแรก พร้อมกล่าวว่า
ขอคืนที่แกยิงฉันก็แล้วกัน
ตัดฉากมาที่เมมวาร์ผู้บาดเจ็บ แม้นเค้าจะชักปืนยิงใส่ชายร่างยักษ์เกือบสิบนัดแต่ ก็ทำอะไรชายร่างยักษ์ไม่ได้ แผลที่ถูกปืนยิงค่อย ๆ สมานรักษาตัวอย่ารวดเร็วและดันกระสุนตกกระจายตามพื้น
แกเป็นปีศาจเหรอไงฟะ!!!! กระสุนเลยทำอะไรไม่ได้
พลังพิเศษของฉัน คือพลังการพื้นตัวที่ดุจดังอมตะ ต่อให้โดนระเบิดก็ไม่ตาย พอกล่าวจบชายร่างยักษ์ก็เดินเข้าหาเมมวาร์ที่ตะเกียดตะกายพยายามหนี
อมตะจริงเหรอขอฉันพิสูจน์หน่อยได้ไหม มิม เดินเข้ามาพร้อมถือดาบอัศวินในมือขวาด้วยท่าทีที่สวยงาม
เข้ามาพิสูจน์เลยสิ ไอ้ผู้ดีอังกฤษ ชายร่างยักษ์ ท้าทายพร้อมเดิมเข้าไปหา มิม อย่างไม่กลัว
ทั้งสองต่างเดินเข้าหากัน อย่างไม่เกรง เมื่ออยู่ในระยะห่างเพียง 4 ก้าว ทั้งคู่ต่างนึกในใจพร้อมกันว่า ได้ระยะแล้ว พริบตานั้น ชายร่างยักษ์พุ่งหมัดขวาแบบไม่ออมแรง ฝ่าย มิม เอี้ยวตัวไปด้านหลังหนึ่งก้าว วินาทีนั้นเหมือน หมัดถูกเหวี่ยงเป็นวงค่อย ๆ เข้าหาหน้า มิม ที่ค่อยถอยฉากหลบ ผัลวะ!!!!! โดนจมูก มิม จนดั้งหักเบี้ยวไปด้านขวา แต่พริบตาเมื่อหมัดผ่านใบหน้าไป มิม ก็กวักแกว่งดาบ เป็นวงคล้ายเสี้ยวจันทร์นับสิบ
COOL MOON!!!!! เพลงดาบที่วาดโค้งดุจจันทร์เสี้ยว ฟาดผ่านร่างมนุษย์ยักษ์ นับสิบดาบ แต่ล่ะดาบเข้าลึกและเข้าจุดสำคัญ แต่ยักษ์ใหญ่ ก็ไม่แม้นแต่จะผงะ ไปด้านหลัง จน มิม ต้องคิด มันไม่เจ็บเลยเหรอไง ซ้ำชายร่างยักษ์ยังโถมเข้าหาอย่างรวดเร็ว จน มิม คาดไม่ถึง หมัดที่สอง ปราดมาอย่างรวดเร็ว จน มิม ถอย อย่างไม่เป็นท่า ซ้ำยักษ์ใหญ่ ยังไม่บ่อยโอกาสดีรีบ บุกบี้เข้าติดตามมา
มิม ปราดสวนแทงดาบ ตรงตำแหน่งหัวใจ พลันคิดในใจ ดูสิว่าจะถอยไหม? ผิดคาด เจ้ายักษ์ ที่ไม่รู้เจ็บแทนที่จะถอยกลับพุ่งเข้าหาเร็วกว่าเดิมจน ปลายดาบทะลุหลัง
หนีไม่ได้แล้วนะ ไอ้หนู ชายร่างยักษ์หยุดการเคลื่อนไหวของดาบด้วยร่างกาย มิม ได้แต่ตะลึงงัน ไม่ทันตั้งตัวหมัดขวาก็เข้ากลางท้อง มิม อย่างแรงจนตัวลอยจากพื้น กร๊อบ!!!!! ซี่โครงซ้ายหักแล้ว ส่วนแผลหลายสิบชายร่างยักษ์ กลับสมานหายดีอย่างไม่น่าเชื่อ
มิม กระเด็นไปกระแทกต้นสนใหญ่ อย่างจัง ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนแบบขา สั่น ๆ และถอนหายใจอย่างแรง บิดจมูกที่ดั้งหักจนเบี้ยวให้กลับมาตรงเหมือนเดิมดัง ป๊อก ก่อนจะกล่าวว่า
รู้แล้วว่าจะเอาอะไรมาจัดการแก มิม พูดพร้อมทำหน้าทะเล้น ก่อนเอามือล้วงเข้าไปในหมวกใบเก๋ของตน
เมื่อเห็นหน้าอันยียวนกวนประสาท ชายร่างยักษ์ จึงพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง และปล่อยหมัดขวาที่ทั้งเร็วและแรง พริบตานั่นเอง มิม ใช้ฝ่ามือซ้าย ประทับบนแขนขวาที่พุ่งมา ก่อนใช้แรงแขนซ้ายดีดตัวกระโดด ข้ามยักษ์ใหญ่ไปด้านหลัง
ชายร่างยักษ์ ตะลึงในความเร็วของ มิม ก่อนสังเกตว่า อะไรคล้องคอเราอยู่ พอเหลียวหลังกลับไป ก็เห็น
มิม กระโดดฟาดผ่านกิ่งไม้ยักษ์ พริบตานั้น ยักษ์ใหญ่ก็ ถูกเชือกที่คล้องคอดึงลอยขึ้นกลางอากาศ โดยใช้กิ่งไม้ยักษ์เป็นคาน
ถึงจะรักษาแผลอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังเป็นคน ก็ต้องการอากาศเหมือนกันสินะ ยักษ์ใหญ่ ดิ้นอย่างแรง หน้าแดง ตัวแดง จนหมดสติไป มิม จึงปล่อยเชือกลง
ตัดฉากกลับมาที่ ไวท์ซึ่งมีบาดแผล รอยมีด ไปทั่วตัว และศัตรูล่ะ อยู่ตรงไหน? สักพัก ประกายมีดก็แวบขึ้นมาจากทางด้านหลัง
เวลาจงช้าลง!!!!!!!
วินาทีนั้น ไวท์ เห็นศัตรูอย่างชัดเจน เห็นมีดยาวของศัตรูค่อย ๆ วาดผ่านชัดเจน แต่ใกล้เกินไป แม้นไวท์จะหลบอย่างสุดก็กำลังก็ยากจะทัน เร็วร้ายกาจ มีดที่ร้ายกาจ!!!!
เมื่อรับไปอีกหนึ่งแผล ก็ยากจะที่จะไม่อยากตอบโต้ แต่เพียงแค่ง้าง หมัด ศัตรู ก็ค่อย ๆ จางหายไปอากาศ
ไวท์มองไปรอบ ๆ พร้อมคิดในใจ เรารับมือมันมานานแล้ว แต่ดูหิมะโดยรอบกลับไม่มีรอยเท้ามัน แสดงว่า มันไม่ได้หายตัวธรรมดา แต่หายไปในอีกมิติหนึ่ง ก่อนจะเข้าโจมตีเรา และทุกครั้งที่จะโจมตีมันจะเลิกหายตัว และถ้าเราไม่รู้ล่วงหน้า ก็ไม่มีทางทันความเร็วของมีดมัน
ขณะที่ไวท์ คิดพร้อมกับ บ่นพึมพำ ประกายมีดก็เรียกแผลจากไวท์ ได้อีกครั้ง ก่อนที่ผู้กระทำจะหายตัวไปอีก เมื่อถึงตอนนี้ ไวท์ ก็เต็มไปด้วยแผล แต่แววตาของเค้ายังมีพลัง เค้ายังคงบ่น พึมพำอะไรซักอย่าง
ฉึก!!!! อีกแผลก็ปรากฏที่แขนขวา ไวท์ทำได้แค่เห็นศัตรูจางหายไปโดยหมดสิทธ์ ตอบโต้ แต่ไวท์ก็ยังคงนิ่งและยังคงบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง
ไวท์ ยังคงขยับปากเหมือนบ่นอยู่ 5
6
7
8
9
10
11
12 พริบตาที่เค้านับในใจถึง สิบสอง
เวลาจงช้าลง!!!!!! อะไรกัน !!!! เค้าทำให้เวลาช้าลงทั้ง ๆ ศัตรูยังไม่ปรากฏ แต่เพียงแค่อึดใจเดียวศัตรูก็ค่อย ๆ โผล่ออกมาอย่างช้า ๆ คราวนี้เป็นฝ่ายศัตรูที่ตะลึงงัน เพราะ ขนาดยังไม่ได้ขยับมีดยาวในมือ หมัดของไวท์ก็พุ่งเข้าหาหน้าของมันก่อนที่ร่างศัตรูจะโผล่ออกมาทั้งตัวซะอีก
ผัลวะ!!!! แรงหมัดซัดทำเอาหน้าชายในชุดทหารสะบัดอย่างแรง แต่ศัตรูก็รีบตั้งสติ เตรียมหายตัว แต่ครั้งนี้ไม่ง่ายแล้ว
เวลาจงช้าลง!!!!!!!!! ผัละ !!!!! (หมัดที่ 2) เวลาจงช้าลง!!!!!!! ผัลวะ !!!!! (หมัดที่ 3) ช้าลง!!!!!!!! ผัลวะ!!! (หมัดที่ 4) ช้าลง!!!!! ผัลวะ !!! (หมัดที่ 5)
ไวท์ใช้พลังให้เวลาช้าลงพร้อมกลับซัดห้าหมัดก่อนมันตัวจะหายไปอีก การจู่โจมครั้งนี้แทบทุ่มกำลังทั้งหมดออกไป
ไอ้บ้าเอ้ย นิสัย การโผล่ออกมาทุก 12 วินาที นะ มันโง่มาก
หลังจากอัดชายในชุดทหารจนสลบเหมือด ไวท์ก็หอบสังขารที่เต็มไปด้วยแผลเดินผ่านต้นสนใหญ่น้อยจนพบกับพวกเพื่อน เมมวาร์ ที่นั่งเอาไหล่พิงต้นสน โดยเอาผ้าพันรอบตัวห้ามเลือด ส่วน มิม ก็นั่งเอนหลังพิงต้นสนใกล้ ๆ กัน แต่แปลกที่การมาของไวท์ไม่ทำให้ชายทั้งสองมีสีหน้าดีใจ เพราะ ขณะที่ไวท์ โผล่ออกมา ก็มีอีกคนโผล่ออกมาเช่นกัน คนนั่นก็คือ
.ไวท์ นั่นเอง
ใครตัวจริง ใครตัวปลอม ขณะกำลังตะลึงงันทั้งหมด แวริเออร์ ก็ค่อย ๆ เดินแหวกพุ่มไม้เข้ามาเช่นกัน พร้อมกับอุทาน อะไรกันนี้?
มี ไวท์ คนหนึ่งที่เป็นตัวปลอมสินะ แวริเออร์ กล่าวเรียบ ๆ
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าคนไหนตัวจริง มิม กล่าวอย่างสงสัย
ง่ายมาก พริบตานั่น แวริเออร์ชักปืนชิงเข้าที่ต้นขาของไวท์คนหนึ่งทันที ปัง!!!! ฉับพลัน ไวท์คนนั่นก็ร้องโอดโอยและร่างก็เปลี่ยนกลับเป็นชายผอมราวกระดูก ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมากจนไวท์ต้องถาม
ทำไมนายรู้ล่ะว่าไอ้หมอนั่นเป็นตัวปลอม?
ฉันไม่รู้หรอกว่าคนไหนตัวจริงตัวปลอม จริง ๆ แล้วฉันก็กะจะยิงขา ไวท์ทั้งสองคนแหละ อย่างน้อยผู้ร้ายจะได้หนีไม่ได้
ไวท์ได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดในใจว่า โชคดีจริง ๆ ที่มันไม่ยิงเราก่อน
จากคุณ :
Bluejade
- [
4 ธ.ค. 46 22:24:26
]