ตำนานแห่งคัวราฟา ตอนที่ 1 ป่าเวทมนตร์

    ตำนานแห่งคัวราฟา
    ตอนที่ 1 ป่าเวทมนตร์

    “แกตายแน่”

    นักรบที่อยู่ในชุดเกราะสีดำสนิทหนึ่งในสามคนพูดขึ้นกับหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าพร้อมกับฟันไปที่ผู้หญิงคนนั้นทันที แต่ผู้หญิงคนนั้นหลบได้ทำให้ดาบปะทะกับต้นไม้ไปเต็มๆทำให้ต้นไม้สั่นอย่างรุนแรง นักรบต้องดึงดาบออกมาจากต้นไม้อย่างยากลำบาก

    “หนอย เมื่อกี้โชคดีแต่จะไม่มีอีกแล้ว”

    นักรบคนนั้นเงื้อดาบขึ้นจะลงดาบอีกครั้ง หญิงสาวนั้นไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลยต้องหลับตายอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่วินาที แต่ก่อนที่ดาบจะตัดร่างกายของหญิงสาวเป็นสองส่วนผลไม้ผลหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่มือของนักรบที่ถือดาบอย่างแรงจนดาบหลุดออกจากมือ

    “เฮ้ เดี๋ยวก่อน นี่มาทำอะไรใกล้ๆที่นอนผมอ่ะ เมื้อกี้เกือบตกแล้วมั๊ยล่ะ”

    ทั้งสี่สายตามองขึ้นไปบนต้นไม้ที่ถูกฟันไปเมื่อกี้ก็พบกับชายหนุ่มอายุประมาณ 17 ปีที่มีตาสีน้ำตาลกับผมสีเดียวกันนั่งอยู่บนกิ่งไม้ท่ามกลางแสงจันทร์ในป่าเวทมนตร์ฝั่งใต้ ชายหนุ่มมองด้วยสายตากวนๆไปทางนักรบทั้งสามแล้วก็ส่งรอยยิ้มเล็กน้อยให้กับหญิงสาวที่รอดชีวิตมาได้

    “อ้าว เงียบอีก ขอโทษสักคำก็ไม่มีผมรออยู่นะ”

    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบผลไม้ในกระเป๋ามากินอย่างสบายใจที่ได้กวนอารมณ์ผู้อื่นแต่นักรบทั้งสามคนไม่มีอารมณ์ร่วมในการกวนประสาทของชายหนุ่มผู้ที่มาขัดขวางการทำงานของพวกเขาเลยกลับส่งสายตาอันเย็นยะเยือกมาสู่ผู้ที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้

    “ถ้าแกไม่อยากตายก็หุบปากไปซะ ปากอย่างแกถ้าฆ่าทิ้งข้ากลัวนรกจะวุ่นวาย”

    ผู้ถูกว่าก็นั่งหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดของนักรบที่พูดขึ้นมาพร้อมกับกัดผลไม้เข้าอีกคำหนึ่งก่อนจะตอบกลับมาอย่างสบายอารมณ์

    “ผมกลัวว่าถ้านายตายไปนรกจะต่ำลงไปอีกนะสิ”

    “แก.....”

    ผู้ที่ถูกว่ากลับมาไม่มีความอดทนกับเด็กหนุ่มปากเสียอีกแล้ว เขาหยิบมีดขึ้นมาปาไปที่ชายหนุ่มทันที แต่ชายหนุ่มกลับจับมีดที่ปามาได้อย่างสบายมือพร้อมกับทำหน้าตากวนๆมาที่นักรบคนนั้นทันที ทำให้อารมณ์ของนักรบร้อนซะยิ่งกว่าลาวาเสียอีก ชายหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายโมโหมากแล้วจึงใส่ฟืนเพิ่มทันที

    “โห เล่นเอาถึงตายเลยหรอ แค่ล้อเล่นแค่นี้ แกล้งผู้หญิงผมก็ไม่ว่าอะไร ทำผมเกือบตกผมก็ไม่อยากจะสนใจมาก แต่จะฆ่ากันนี่ไม่สนุกนา”

    เด็กหนุ่มปามีดกลับไปที่นักรบคนนั้นขณะที่ไม่ทันระวังตัวทำให้มีดปักเข้าไปที่แขนซ้ายของนักรบผู้นั้น แต่นักรบดำก็รู้ดีว่าถึงเขาจะตั้งใจมองมีดที่เด็กหนุ่มปามาก็ยากที่เขานั้นจะหลบได้เนื่องจากความเร็วที่มากกว่าครั้งที่เขาปามีดไปหลายเท่า

    “ไอ้บ้าเอ๊ย แกตายแน่ พวกเราจัดการไอ้บ้านั่นก่อนแล้วค่อยจัดการผู้หญิง”

    นักรบผู้นั้นดึงมีดออกจากแขนทำให้เลือดไหลออกมาจากแขนมากขึ้น ในขณะนี้ผู้หญิงที่จะถูกฆ่าหลบไปอยู่หลังต้นไม้ใกล้ๆแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มต่อสู้กับทั้งนักรบสามคนเพียงคนเดียว

    “เอาเหอะ สู้ให้สนุกหน่อยละกันถ้าน่าเบื่อผมก็ขี้เกียจสู้”

    แล้วชายหนุ่มโยนผลไม้ขึ้นไปสูงพอสมควรก่อนจะชักมีดที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมาแล้วก็หายไปจากกิ่งไม้ในพริบตาพร้อมกับเลือดอุ่นๆที่พุ่งออกมาจากร่างไร้วิญญาณของนักรบคนหนึ่งทำให้นักรบอีกสองคนถึงกับตะลึงในความเร็วของเด็กหนุ่ม แต่ก่อนที่นักรบทั้งสองจะได้ตั้งตัวทันนักรบอีกคนหนึ่งก็ล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมรอยมีดที่คอจากฝีมือของชายหนุ่ม ชายหนุ่มหยุดยืนรับผลไม้ที่เขาโยนขึ้นไปอย่างสบายมือพร้อมกัดผลไม้ไปอีกคำหนึ่งก่อนจะหันมาหานักรบคนสุดท้ายที่เหลืออยู่พร้อมกับใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

    “เฮ้ นายน่ะจะหนีไปตอนนี้ก็ได้นะผมชักเบื่อแล้วสู้กันไม่ได้เรื่องเลย”

    “แกจะทำปากเก่งไม่ได้อีกแล้ว”

    นักรบคนนั้นฟันดาบไปที่ชายหนุ่มทันทีแต่ดาบนั้นก็สัมผัสได้แค่ผลไม้ที่ปล่อยจากมือชายหนุ่มเท่านั้นเอง ตรงกันข้ามมีดของชายหนุ่มกลับปักไปที่อกของนักรบคนนั้นทันที แต่ก่อนที่นักรบคนนั้นจะตายเขาก็ใช้อุปกรณ์ย้ายสถานที่หนีไปทันทีก่อนที่ชายหนุ่มจะทำอะไรไปมากกว่านั้น

    “เฮ้อ ไม่รีบหนีไปตั้งแต่แรกต้องให้เราออกแรงเพิ่มอีกเสียเวลานอนชะมัดเลย”

    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับชักมีดออกมาเช็ดเลือดก่อนเหน็บไว้ข้างตัวแล้วมองไปที่หลังต้นไม้ที่มีบุคคลผู้ยืนดูการต่อสู้อยู่

    “เธอออกมาได้แล้ว”

    หญิงสาวที่มีอายุประมาณ 16 ปีที่มีตาสีฟ้ากับผมสีน้ำตาลหน้าตาสะสวยอยู่ในชุดเดินทางสีดำเดินออกมาจากหลังต้นไม้ตามคำบอกของชายหนุ่ม

    “เธอไปได้แล้วตอนนี้คงปลอดภัยแล้ว”

    แล้วชายหนุ่มก็เดินไปนอนที่ต้นไม้ต้นที่ห่างจากที่เดิมไปประมาณ 10 เมตรทิ้งให้หญิงสาวยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางแสงจันทร์ในป่าเวทมนตร์

    + + + + + + + + + +

    หญิงสาวตื่นขึ้นในตอนเช้าด้วยกลิ่นของเนื้อย่างที่กำลังย่างอยู่ที่กองไฟใกล้ๆตัว เธอขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ทำให้ทำให้บุคคลที่นั่งหันหลังให้กับเธอหันกลับมาซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่มีความเร็วและความรู้สึกดีเป็นเลิศ

    “ตื่นแล้วหรอ เอ้านี่เนื้อย่าง เธอชื่ออะไรล่ะ ผมชื่อฟิเรส แล้วทำไมมานอนแถวๆนี้ล่ะ”

    ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาวที่เดินมานั่งใกล้ๆเขาพร้อมกับส่งเนื้อย่างชิ้นหนึ่งพร้อมกับน้ำให้กับเธอ ซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่เขานอนเมื่อคืนนี้เอง

    “ฉันชื่อเลนาท คือเมื่อคืนฉันไม่รู้จะไปไหนเลยคิดว่านอนใกล้ๆเธอน่าจะปลอดภัยกว่า”

    เลนาทตอบกลับมาพร้อมกับรับสิ่งที่ฟิเรสส่งมาให้

    “มั่นใจหรอว่าปลอดภัย”

    ฟิเรสพูดพร้อมกับทำหน้าตาให้ไม่ค่อยหน้าไว้ใจใส่เลนาทที่ทำให้เลนาทถอยห่างฟิเรสมากขึ้นเล็กน้อยแต่ถึงจะหนีก็คงไม่พ้นเพราะความเร็วที่เธอเห็นเมื่อคืนนั้นไม่ธรรมดาเลย

    “ล้อเล่นน่า แล้วทำไมเธอมาอยู่ในป่าเวทมนตร์ล่ะ แล้วไอ้พวกเมื่อคืนเป็นใคร”

    เลนาทนิ่งสักครู่หนึ่งกับคำถามของฟิเรสก่อนจะก้มหน้าตอบฟิเรสอย่างไม่กล้าสบตา

    “พวกมันตามฆ่าฉันแต่ก็ไม่รู้เพราะอะไรฉันหนีจนหลงมาอยู่ที่นี่”

    “ไม่รู้จริงอ่ะ”

    ฟิเรสมองไปที่เลนาทอย่างสงสัยในท่าทางของเธอก่อนจะพูดขึ้นอีก

    “แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เธอจะไปไหนต่อล่ะ”

    “ไม่รู้สิ พ่อแม่ฉันถูกพวกมันฆ่าตายจนหมดฉันเลยไม่รู้จะไปไหน เอ่อ ไปกับเธอก่อนได้มั๊ย อย่างน้อยก็ให้พ้นจากป่านี่ไปก่อน”

    เลนาทส่งสายตาขอร้องไปทางฟิเรส แต่ฟิเรสรีบยกมือปฏิเสธทันที

    “ไปกับผมนี่นะ พูดเป็นเล่น ผมเป็นผู้ชายนะจะให้อยู่กับผู้หญิงในป่าอย่างนี้ แล้วเธอไม่กลัวหรอ”

    “ก็ลองเธอทำอะไรฉันดูสิ”

    เลนาทพูดพร้อมทำท่าจะชกฟิเรส ฟิเรสเห็นว่าถึงห้ามก็คงไม่มีประโยชน์ยังไงเธอก็ต้องตามไปจึงต้องปล่อยให้เลนาทไปด้วย

    “เฮ้อ เธออยากไปก็ตามใจ แต่ฉันจะไปที่หมู่บ้านลิมนะ”

    “เธอไปไหนก็ไปฉันยังไม่มีที่ไปอยู่แล้ว

    เลนาทตอบฟิเรสก่อนที่จะส่งยิ้มไปให้กับฟิเรส ฟิเรสถึงกับใจสั่นที่เห็นรอยยิ้มอันแสนน่ารักของเลนาทฟิเรสจึงรีบตัดบทเสียก่อนที่เขาจะห้ามใจไม่ไหว

    “งั้นก็กินเสร็จเราไปกันเลย”

    “จ้า”

    เลนาททำท่าล้อเลียนฟิเรสที่ออกคำสั่งมาตลอด

    “อย่างนี้น่าให้ไปมั๊ยนี่ เอ้า เอานี่ติดตัวไว้ด้วยเพื่อเอาไว้ก่อน”

    ฟิเรสโยนมีดไปให้กับเลนาทเล่มหนึ่งก่อนจะหันมาหลบรอยยิ้มแสนน่ารักที่เลนาทส่งมาที่ทำให้เขาแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่อีกครั้ง

    หลังจากนั้นประมาณ 15 นาทีฟิเรสกับเลนาทก็เริ่มเดินทางไปหมู่บ้านลิมที่อยู่ทางใต้ของป่าเวทมนตร์

    + + + + + + + + + +

    จากคุณ : nattan - [ 7 ธ.ค. 46 16:30:22 A:202.57.171.5 X: ]