ฤาฟ้าลิขิตให้เป็นไป

    วันเกิดพ่อ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2298254/W2298254.html
    ดอกปอบาน http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2463254/W2463254.html
    กาลเริ่มมิตรภาพ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2500749/W2500749.html
    ตราบสิ้นแสงตะวันทอ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2504518/W2504518.html
    รอยยิ้มใสที่รอพบ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2536118/W2536118.html
    ประสบการณ์ใหม่ฯ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2571178/W2571178.html

    **** ฤาฟ้าลิขิตให้เป็นไป ****

             ก่อนการเดินทางเริ่มต้นเฮียใช้ ถูกที่บ้านโทรมาตามเรื่องธุรกิจในครอบครัวมีปัญหาด่วน จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางด้วย จึงแยกตัวกลับก่อน เขาฝากฝังน้องสาวกับน้ำไว้ และน้ำก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ

             การเดินทางเริ่มต้น โดยแบ่งครูอาสาฯ เป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มที่ 1 ตั้งชื่อกลุ่มว่า สีน้ำฟ้าออกนำไปก่อน  กฤช, อ้อน, เรน, อ้อย, แอน, น้ำ  หกคนร่วมกันรับผิดชอบชีวิตเด็ก 6 คน เด็กซึ่งเป็นคนพื้นที่จะนำพี่ ๆ ครูอาสาเดินไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยมีพี่โจ้เป็นคนชี้แนวทางและแจกแผนที่ให้ไปทำกิจกรรมในแต่ละจุด  จุดแรกเรียกว่า.. ศึกษาต้นน้ำ  เป็นการเดินข้ามภูเขาลูกเล็ก ๆ ไปยังต้นกำเนิดห้วยแม่ต๋าแหล่งน้ำที่สำคัญซึ่งห่างจากจุดเริ่มต้นไปประมาณ 3 กิโลเมตร โดยกลุ่มสีน้ำฟ้าซึ่งไปศึกษาเชิงนิเวศนั้น เป็นกลุ่มที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้คิดค้นการแสดงละคร 1 เรื่องให้ชาวบ้านได้ชมด้วย

    "ข้าเจ้าเป๋นสาวเจียงใหม่  แถมบ่เต้าใด ก็จะเป๋นสาวแล้ว ตึงวันมีบ่าวมาแอ่ว
    มาอู้มาแซวเป็นคนละปูน  ... "  เสียงเพลงสาวเชียงใหม่ดังแว่วมาจากหัวแถว ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงวัยสิบกว่าขวบ ที่ถูกเพื่อน ๆ คะยั้น คะยอ ให้ร้องเพลงให้ครูอาสาฟังระหว่างเดินทาง  ทุกคนปรบมือเป็นจังหวะให้

    "ตี้นี่เป๋นหมู่บ้านเก่าของหนู  ตะก่อนป้อ-แม่ อยู่นี่ ปลูกไฮ่ฝิ่นเป๋นอาชีพหลัก ต่อมาเมื่อตางก๋ารเปิ้นเค้ามาสอดส่อง ดูแล มีโครงก๋ารแม่ฟ้าหลวง สวนฝิ่นถูกทำลายก็เลยย้ายไปอยู่ตี้หมู่บ้าน ตี้เฮาพักกั๋นตะคืน"   เด็กน้อยที่จูงมือครูเรนชวนคุย และชี้ชวนให้ดูหมู่บ้านร้าง ที่ยังเหลือซากบ้านเรือนที่ทำจากไม้ไผ่ และหลังคามุงด้วยหญ้าคาบางหลังที่ผุพังด้วยแรงลมฝนเนื่องจากไม่มีคนอยู่ทำนุบำรุง  แล้วย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านที่พักกันที่ผ่านมาเมื่อคืน

    "จ้ะ.."

    "ฮั่นนอ..คุณครูมีดอกมั้ยสีแดงตี้คุณครูชอบ  กำเดียวหนูจะไปเก็บมาฮื้อ"  ฮั่นนอ
    แปลว่า นั่นไง.. มีดอกกุหลาบสีแดง สีที่ครูเรนชอบแล้ว.. เธอยิ้มสดใส ชี้ไปยังกุหลาบคงจะเป็นของชาวเขาที่ปลูกไว้เมื่อครั้งยังอาศัยอยู่ที่นี่ ต้นมันสูงใหญ่  คงจะได้รับอิทธิพลมาจากฝนที่ตกมาตามฤดูกาล มีดอกสีแดงบานสะพรั่งเต็มต้น  คราบน้ำค้างเปื้อนฝุ่นเกาะที่ใบมันจนกลายเป็นสีเขียวขุ่น ๆ  เด็กน้อยทำท่าจะเด็ดดอกกุหลาบ  เรนรีบห้าม

    "ไม่ต้องหรอก แค่พาครูมาดูก็พอแล้ว แค่นั้นก็ชื่นใจ ดอกไม้จะงามแค่ไหน
    ต่อเมื่อไปอยู่ในมือครู ไม่นานเท่าไหร่มันก็เหี่ยวเฉา ให้มันงามกับต้นน่ะดีแล้ว"

    "ครูใจ๋ดีแต้ว่า ผ่อปุ้นเลาะ ครูคนนั้นเด็ดมาเต๋มก๋ำ"   เด็กหญิงชี้ให้ดูแอนกับ
    อ้อยที่กรี๊ดกร๊าดเสียงดังเมื่อเจอดอกกุหลาบในป่า  ต่างยื้อแย่งกันมาเป็นเจ้าของดอกโน้นดอกนี้กันให้เอ็ดอึง

    "คนเราต่างกันไงอาเปอะ วิถีชีวิตที่ดำเนินมาต้นกำเนิดต่างกัน ก็เหมือนหนูเป็น
    คนดอยกำลังสอนครูให้รู้จักพันธ์ไม้ และครูอยากอธิบายเรื่องความเป็นมาของคนบนพื้นฐานที่ต่างกัน  บางคนที่อยู่ในเมืองไม่ใช่คนดีเสมอไป  แต่ไม่ได้หมายความว่าครูฟางเขาเก็บดอกไม้มาเป็นของตัวเองแล้วเป็นคนไม่ดีนะ  ครูชี้เห็นต่างหาก
    ว่าคนเราได้รับการฝึกและการสอนมาต่างกัน  พ่อครูสอนให้รู้จักทะนุถนอมดอกไม้ พันธุ์ไม้โดยการให้มันงามอยู่กับต้น  แต่ครูแอนอาจจะได้รับการสอนมาอีกแบบหนึ่ง หนูมองเห็นความแตกต่างไหมจ้ะ"

    "เจ้า.. ครูกับครูแอนงมาจากคนละตี้..ป้อ-แม่ คนละคน ความคิดก็เลยแตกต่างกั๋น"

    "ดีมาก..สาวน้อยของครู  นั่นดอกอะไร ครูรู้จักแต่กุหลาบป่าสีแดง  
    แล้วที่อยู่บนต้นไม้นั่นล่ะ"

    "อันนั้นเปิ้นฮ้องดอกเอื้อง  ดอกเอื้องเป๋นกล้วยไม้ชนิดนึ่ง  ดอกสีเหลืองห้อยเป๋นพวง  คล้าย ๆ กับดอกคูน ครูฮู้จักดอกคูนก่อล่ะ"

    "รู้จักจ้ะ"

    "นั่นละ  ต่างกั๋นตั๊ดตี่กลีบดอกเอื้องแข็งกว่าน่อยนึ่ง หอมกว่าโตย"

    "จ้ะ..ดอกกุหลาบสีแดง ดอกเอื้องสีเหลืองมองดูแล้วให้ความรู้สึกที่ต่างกันมาก
    นะว่าไหม"

    "เจ้า..ดอกกุหลาบมีหนามแหลมคม แต่หอมกว่า ลักษณะดอกแข็งแรงกว่า
    หาดูได้ง่าย  ดอกเอื้องดูบอบบางกว่าหาดูได้ยากกว่า"

    "อือออ.. เข้าใจเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง  โตขึ้นคงจะเก่งกว่านี้  ดอกไม้
    ก็ไม่ต่างกันกับผู้หญิงบางคนสวยบอบบาง  บางคนสวยแกร่ง"

    "ครูเรน สวย เข้มแข็ง  แต่ครูแอนสวย บอบบาง"

    "แน่ะ  รู้อีก  อย่าไปพูดให้เธอได้ยินนะ บางคนเขาก็ไม่ชอบให้ไปว่าเค้า  
    คนเราไม่ชอบให้ใครมาดูถูกตัวเอง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ  แต่อย่างหนึ่งที่ครูอยากให้อาเปอะจำไว้อีกอย่างหนึ่งนะนะ คือแม้ไม่ไปทับถมคนอื่น ก็อย่าไปยกยอเขาเกินจริง  เพราะมันจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมา ถ้าบางคนมีวิจารณญานดี
    เข้าใจว่าเขายกยอปอปั้นก็แล้วไป แต่ถ้าคนไหนที่คิดไม่ถึงและหลงตัวเองอยู่แล้วก็ทำให้เขาเหลิงง่าย ๆ  บาปรู้มั้ย..ถ้าทำให้คนอื่นเชื่อแบบผิด ๆ"

    "เจ้า..หนูจะจ๋ำที่ครูเรนสอน แล้วจะเอาไปสอนเปื้อน ๆ "  

    "จ้ะ"     เธอกอดคอเด็กน้อยเดินต่อ  

    "ต๊าย.. ดอกเอื้องหรือ  พี่น้ำ เก็บให้อ้อยหน่อยค่ะ"   อ้อยตะโกนเสียงดัง  
    น้ำหันมายิ้ม

    "อย่าดีกว่ามังน้องอ้อย ให้มันสวยตามธรรมชาติ แบ่งให้คนอื่นดูบ้าง เดี๋ยวยังมี
    คนอื่นที่เดินตามหลังเรามาอีกนะ"    อ้อยกระเง้ากระงอด หันไปอ้อนกฤช

    "กฤช  เก็บให้อ้อยหน่อยค่ะ"

    "อย่าดีกว่าอ้อย  เหมือนที่พี่น้ำบอกนั่นแหละ แบ่งให้คนอื่นดูบ้าง"   อ้อยกระทืบเท้าจนฝุ่นคลุ้ง

    "อ้อน"

    "จ๋า ว่าไงจ้ะ"

    "ตัวสูง ๆ เด็ดให้เค้าหน่อยซี"   อ้อนยิ้ม..แล้วส่ายศรีษะเร่งฝีเท้าตามเด็ก ๆ ที่
    นำหน้าไปแล้ว เหลือแต่แอนกับอ้อย

    "แหม... มีตั้งหลายช่อ ทำเป็นหวง.. แอนให้อ้อยขี่หลังนะเดี๋ยวจะเก็บดอกเอื้อง
    ให้"    หันมาทางเพื่อนที่พึ่งซี้กันหมาด ๆ

    "ได้ ๆ เดี๋ยว ๆ เราวางกุหลาบก่อนนะ"   เพื่อนย่อมเข้าใจในเพื่อนเสมอ  แอน
    วางดอกไม้แล้วไปยืนใต้ต้นไม้  อ้อยกระโดดคร่อมหลังแต่แรงโถมน้ำหนักทำให้แอนเซโงกเงก ๆ หัวไปโขกต้นไม้ เธอร้องกรี๊ด  ปล่อยมือที่รับน้ำหนักอ้อย  อ้อยหล่นลงพื้นดังพลั่ก ร้องโอดโอย เดือดร้อนหนุ่ม ๆ วิ่งกลับมาดู

    "โอ๊ย ๆๆๆ ช่วยหน่อยซี..ยืนเป็นบื้ออยู่ได้"   อ้อยส่งมือให้ กฤชยื่นมือไปฉุด กลั้นยิ้มเต็มที่  แอนเดินคลำศรีษะป้อย ๆ มาขอโทษขอโพย

    "ขอโทษ ๆ อ้อย เราตกใจหัวโขกต้นไม้ เลยปล่อยเธอ"  อ้อยสะบัดหน้า ไม่พูด

    "ผมว่าเราไปกันเถอะฮะ.. คนอื่น ๆ ล่วงหน้าไปไกลแล้ว"   น้ำเอ่ยปากและ
    ออกนำเมื่อเห็นว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง

             ในที่สุดกว่ายี่สิบชีวิตที่ผลัดกันเป็นครู-นักเรียน ก็มาถึงต้นน้ำ เป็นเพียงลำธารเล็ก ๆ ที่มีน้ำไหลรินมาจากภูเขาสูง  จนกลายเป็นน้ำตก หลายคนรีบเข้าไปล้างหน้า ล้างตา เด็ก ๆ ถอดเสื้อผ้ากระโดดน้ำกันตูมตามอากาศยามเช้าของฤดูหนาว ซึ่งไม่ร้อนนักทำให้หลายคนปฏิเสธที่จะเล่นน้ำไปมากกว่านั้น  มองจากจุดไกลออกไปจะเห็นสีสันของเสื้อกันหนาวเดินไปสำรวจนั่นนี่กันทั่วบริเวณ           มอสและตะไคร่น้ำที่จับเกาะก้อนหินจนเขียวนุ่มคล้ายผืนพรมกำมะหยี่ถูกลูบไล้เล่นอย่างเบามือ ทุกคนให้เรนเป็นผู้บันทึกสิ่งที่พบเห็น เพื่อจะได้ไปแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้เหมือนการรายงานหน้าชั้น ในกิจกรรมรวมคืนนี้  เสียงน้ำตกดังซ่า ๆ  ซาบซ่านจับใจ น้ำดื่มจากกระเป๋าเป้ที่หนุ่มกฤชบรรจุมาถูกแบ่งแจกจ่ายไปจนครบทุกคนน้ำเริ่มนำข้าวห่อที่เตรียมมาแจกจ่ายตามเมื่อทุกคนอิ่มหนำ น้ำถูกเติมให้เต็มขวดอีกครั้งจากบ่อน้ำกินที่ชาวเขากั้นเป็นอาณาบริเวณไว้  น้ำที่มีรสชาดหวานผิดไปจากที่เคยได้ลิ้มรสกันในเมืองทำให้ทุกคนชื่นใจกันถ้วนทั่ว  น้ำแบ่งขวดบรรจุน้ำมาจากกฤชเพื่อเตรียมไว้ในระหว่างการเดินทางกลับ ซึ่งต้องอ้อมไปอีกทางหนึ่งของขุนเขาลูกเล็ก ๆ นี้ เด็ก ๆ จะเป็นครูพาเดินลัดเลาะไป ครูอาสาชวนเด็ก ๆ พูดคุยถึงวิถีชีวิตคนเมือง เป็นการแลกเปลี่ยนที่ลงตัวเหลือเกิน

    แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 22:27:43

    แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 22:24:08

    จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 8 ธ.ค. 46 00:50:55 ]