กรกาจตัดสินใจโทรศัพท์หาภาวินีในวันหนึ่ง มีเสียงสัญญาณดังอยู่นานกว่าเธอจะรับสาย
สวัสดีครับ รับช้าอย่างนี้แสดงว่าไม่ว่างล่ะสิ?
เปล่าค่ะ..แต่กำลังตะลึงที่พี่กรโทรหานีเป็นครั้งแรก คาดว่าวันนี้ฝนคงตก..
เขาหัวเราะ
ฝนตกหน้าหนาวเนี่ยนะ..
อ้าว..มันก็เป็นไปได้พอ ๆ กับที่พี่กรเป็นฝ่ายโทรหานี ปกตินีต้องเป็นฝ่ายโทรหา และก็จะได้ยินคำว่าไม่มีเสียงตอบรับจากเรียกหมายที่ท่านเรียกเสมอ..ว่าแต่ว่า..พี่กรมีอะไรหรือเปล่าคะ?
เขาอึกอัก แต่ในที่สุดก็บอกเธอไป
อยากทานข้าวด้วย นีว่างหรือเปล่า?
วาว.. เสียงน่ารักทางโน้นอุทานออกมา พี่กรหลอกนีเล่นอีกแล้วใช่ไหม..พอใกล้ ๆ ก็โทร.มาแคนเซิลทุกที..
คราวนี้ไม่แล้วครับ พี่ว่างแล้ว..วันศุกร์นี้เป็นไง?
ได้ค่ะ.. เสียงตอบรับมาทันทีอย่างเต็มใจ กี่โมงดี และที่ไหนคะ?
ก่อนวางหูเขายังได้ยินเสียงตอกย้ำจากเธอ
พี่กรสัญญาแล้วนะคะ..ว่าจะไม่แคนเซิล..ฉะนั้นนีจะไม่รับสายพี่อีกแล้ว จนกว่าจะได้เจอกัน..
สัญญาสิครับ..
ดีใจจัง..
ตกค่ำวันศุกร์..เขาขับรถออกจากที่ทำงานด้วยจิตใจที่ถ่วงหนักพิกล
ภาวินีเป็นเด็กสาวน่ารัก ดวงตาแจ่มใส แก้มแดงเป็นนิจ ผมสีดับขลับมักจะถูกเปลี่ยนทรงอยู่เสมอ คราวที่ได้เจอกันครั้งสุดท้าย..เกือบสองเดือนมาแล้ว..เขาจำได้ว่าเธอไว้ผมยาว เขาเองยังชมเธอเลยว่าผมเธอสวย
โอย..สวยอะไรกัน ขี้เกียจสระจะตาย นี่ว่าจะไปซอยให้สั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย..
งั้นก็น่าเสียดาย..
อย่ามาพูดเลย..พี่กรเคยสนใจเหรอว่าผมนีจะยาวจะสั้นจะสวยหรือไม่สวย..
ก็สนใจอยู่นี่ไง..
เธอหัวเราะ ใช้มือจับปอยผมอย่างเขินอาย
ด้วยวัยเพียงยี่สิบกว่าปี ทำให้รอยยิ้มและความคิดอ่านของเธอยังคงใสบริสุทธิ์ เขาเองก็ประทับใจในความใสของเธอนั้น แต่สิ่งที่เขาทำได้ ก็ได้แต่เก็บความประทับใจไว้เงียบ ๆ
เขาได้รู้จักเธอจากการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานเปิดตัวบริษัทฯ ที่เธอเป็นพนักงานพีอาร์อยู่
เขาเป็นครีเอทีฟบริษัทโปรดักชั่นเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ด้วยเพราะงานเกี่ยวข้องกัน ความสนิทสนมคุ้นเคยจึงเกิดขึ้นโดยปริยาย
เขาเป็นคนพูดเก่ง ยิ้มสวย บุคลิกดี จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีสาวสวยเคียงข้างมากกว่า 1 คน
ทุกวันนี้เขาก็ลำบากใจในเรื่องนี้ แม้เขาจะไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเอง แต่การแสดงออกของภาวินี บุรุษอย่างเขาย่อมอ่านออก
เธอกำลังมีใจให้เขาไม่มากก็น้อย
ระหว่างการได้พบกันในวันหนึ่ง ภาวินีถึงกับเล่าเรื่องความรักของเธอในอดีตให้เขาฟัง
เราคบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย..เราเรียนอยู่ที่เดียวกัน..
เขาเป็นคนหล่อ ใครเห็นใครก็ชอบ แม้แต่นีเองก็ชอบเขาที่เขาหล่อและดูดีเวลาเดินด้วย..
ไม่ใช่ว่านิสัยเขาไม่ดี..เขาก็ดีกับนีนะ..ดูแลเทคแคร์ดี..
อันนั้นไม่แน่ใจ..เขาคงมีนีคนเดียวมั้ง..อย่างน้อยก็เท่าที่นีรู้..
นีก็อยู่เฉย ๆ ..อยู่ ๆ เขาก็มาขอเลิก..
ใช่..เขาขอเลิกก่อน เหตุผลก็คือเราไปด้วยกันไม่ได้..
จะให้นีทำไง..ก็ผู้ชายขอเลิก นีก็ต้องยอมสิ..
เสียใจไหม..พี่ถามตลก..
นีร้องไห้เป็นอาทิตย์..กว่าจะดีขึ้น..นึกว่าจะเรียนไม่จบเพราะเขาซะแล้ว..
เข็ดเลย..นีเข็ดผู้ชายหล่อเลย..ไม่เอาอีกแล้ว ขอใครก็ได้ที่ใจดี ดูแลเราได้..จะหล่อหรือไม่ไม่สำคัญแล้ว..
ตอนหลังมารู้ว่าเหตุที่เขาขอเลิกกับนี..เพราะแม่ของเขาไม่ให้คบผู้หญิง..
น้ำเน่ามากเลยพี่..แม่เขาจะให้เขาแต่งงานกับลูกสาวเจ้าหนี้รายใหญ่ของครอบครัว..นีงี้ต้องปิดจมูกฟัง..
เลิกเสียใจแล้วล่ะ..เสียใจก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา..
ก็ยังมีโทร.หากันบ้าง..เป็นเหมือนเพื่อนมากกว่า เพื่อนที่ไม่ค่อยจะสนิทเท่าไหร่..
แล้วพี่ล่ะ..มีเมียมาแล้วกี่คน?..
กรกาจสะอึก เมื่อถูกยิงด้วยคำถามอย่างนี้
แม้เขาจะไม่เคยแต่งงาน แต่เขาก็ผ่านผู้หญิงมาแล้วถึงสามคน และทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่อีกหนึ่งคน
แต่เรื่องอย่างนี้ เขาคิดว่าไม่ควรจะเปิดเผยออกไป อย่างน้อย ก็เพื่อให้เขาดูดีในสายตาของผู้หญิงคนหนึ่งตลอดเวลา
เขาจึงแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน
โอย..อย่างพี่ใครเขาจะมาคบเป็นแฟน..
ภาวินีส่ายหน้าจนผมกระจาย
อย่ามาโกหกเลย..พี่ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า..นีไม่เห็นอยากรู้..
..
กรกาจเป็นชายหนุ่มที่มีสังคมกว้างขวาง
เขาคบคนทุกระดับ โดยเฉพาะเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันนั้นเขาจะเป็นเสมือนตัวแทนของรุ่นในการจัดกิจกรรมพบปะกันต่าง ๆ
วันหนึ่งวรวุฒิ เพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมโทร.หาเขา ชวนไปดื่มด้วยกันที่ลานเบียร์แห่งหนึ่ง
เพื่อนของเขาคนนี้เป็นคนหน้าตาธรรมดา บุคลิกก็ธรรมดา
แต่ด้วยความขยันขันแข็งและมุ่งมั่น รวมทั้งการใช้สอยอย่างตระหนี่ ทำให้เพื่อนคนนี้ของเขาสร้างฐานะมั่นคงขึ้นอย่างรวดเร็ว
และทำให้เขายังคงไม่มีผู้หญิงคู่ใจ ครองชีวิตโสดมาจนกระทั่งทุกวันนี้
ตอนหนึ่งของการสนทนา วรวุฒิถึงกับปลงชีวิตออกมา
สายไปแล้วล่ะสำหรับเรื่องนั้น รถด่วนขบวนสุดท้ายของฉันออกไปตั้งนานแล้ว..
กรกาจหัวเราะ
ไม่ขนาดนั้นมั้ง..นายไม่จริงจังเองต่างหาก ก็เห็นควงใครอยู่แว่บ ๆ ไม่ใช่รึ ตอนนี้ไปไหนแล้ว?
เธอไปแล้ว..ฉันผิดเองไม่รู้จักง้อคน..คิดแล้วยังเสียดายเธอเป็นคนดีและสวยซะด้วย..
เกิดอะไรขึ้นล่ะ?..
เจ้ากี้เจ้าการเกินไป ฉันไม่ชอบคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของฉันมาก ๆ ขนาดนั้น..
ยกตัวอย่างซิ?
ก็ที่เลิกกันไป ก็เพราะเธอไม่เห็นด้วยที่ฉันไม่ยอมซื้อรถ เธอบอกมันเป็นเรื่องจำเป็น แต่ฉันไม่เห็นจำเป็น..
กรกาจแทบสำลักเบียร์
เรื่องแค่นั้นเอง?
ไม่แค่นั้น..นายคิดดู ทุกวันนี้บ้านของฉันกับที่ทำงานฉันก็นั่งรถไฟฟ้าไปได้สิบนาทีก็ถึง แล้วจะให้ฉันมีรถทำไมไม่ทราบ ไหนจะต้องหาที่จอดรถ ไหนจะค่าน้ำมันค่าดูแลรักษา และรถสมัยนี้ราคาต่ำกว่าล้านมีอยู่สักกี่รุ่นกันวะ เงินทองหายากจะตาย..
นายก็พูดถูก แล้วนายทำไมไม่อธิบายให้เธอเข้าใจ..
ฉันอธิบายจนปากเปียกปากแฉะ เธอบอกว่าแต่เพียงว่าการมีรถน่ะมันดีอย่างโง้นอย่างงี้ จะไปเที่ยวไหนก็ไม่ต้องเช่าไม่ต้องตีตั๋ว และจะทำให้ฉันกับเธอสามารถเจอกันได้บ่อย ๆ ..
เหตุผลของเธอก็ไม่แปลกนี่..
ที่ทนไม่ได้ก็เพราะเธอควักเงินของเธอเองไปจองรถให้ฉันนี่แหละ มันไม่ใช่เรื่องของเธอ และถ้าฉันจะซื้อ ฉันก็จะใช้เงินของฉันเอง..
แล้วไง.?
ฉันก็ว่าไปคำ งอนหายไปเลย..
ว่า ๆ ไง?
คราวหลังอย่ามายุ่งกับชีวิตของฉัน.!!
..
แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ะ การอยู่ตัวคนเดียวมันทรมานจริง ๆ
ชีวิตเหมือนไม่มีค่า เงินทองที่ได้มาก็แค่ช่วยให้หายเหงาเป็นคราว ๆ ไปเท่านั้น..
ฉันอยากจะมีใครซักคน..ขอแค่คนเดียว ไม่ต้องสวย ไม่ต้องดีมาก ฉันจะทุ่มเทให้กับเขาอย่างเต็มที่
ฉันจะทำทุกอย่างอย่างที่คนอื่นเขาทำกัน ฉันจะลดลาเรื่องกฎระเบียบในชีวิตของฉันลงให้หมด ฉันอยากจะเป็นคนธรรมดา ๆ ที่มีครอบครัว มีลูก และมีความสุขเหมือนคนอื่นเขา..
ตอนท้าย..เขายกเบียร์ขึ้นดื่ม กรกาจมองเห็นดวงตาของเขาแล้วสงสารจับใจ
ฉันบอกตรง ๆ ฉันเหงาเหลือเกิน..
.
ภาวิณีชูมือขึ้นโบกให้เขาเห็นหยอย ๆ ดวงหน้าเธอยิ้มร่า ผิวขาวสะอาดมองเห็นได้แต่ไกล
ดีใจจัง..ที่วันนี้พี่กรไม่เบี้ยว..
โถ่..จะต่อว่าพี่ไปถึงไหนกัน ไอ้ที่เบี้ยวนั่นก็ไม่ได้เจตนา..ติดธุระจริง ๆ ทั้งนั้น..
จ้า..เชื่อแล้วจ้า..ติดธุระกับสาว ๆ ทั้งนั้นล่ะสิ..
เขาหัวเราะ..ถามเธอว่าทานอะไรหรือยัง เธอส่ายหน้า
รอพี่มาสั่งนี่แหละ..หิวจะตาย..
เขาโบกมือเรียกบ๋อย..สั่งอาหารสองสามอย่าง แล้วหันมาคุยกับหญิงสาวตรงหน้า
งานเป็นอย่างไรบ้าง ตั้งแต่เสร็จงานวันนั้น พี่ไม่ได้ข่าวอีกเลย..
ก็ดีค่ะพี่ ลูกค้าตึม..นีแทบไม่ได้หยุดพัก..นี่ต้องยกให้เป็นความสามารถของพี่ งานแกรนด์โอเพนนิ่งพี่ทำได้ดีมาก คนรู้จักบริษัทไปทั่วประเทศ
ไม่จริงหรอก..เพราะพีอาร์สาวอย่างนีต่างหาก ที่ช่วยดึงลูกค้ามาได้เยอะขนาดนั้น..
ทั้งสองหัวเราะให้กัน ว่าแต่พี่คงไม่อยากจะคุยกับนีแค่เรื่องนี้แน่..มีอะไรให้นีช่วยเหรอคะ?
อะไรกัน น่าน้อยใจชะมัด แค่อยากจะเจอเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ ทำไมพี่ต้องมีธุระด้วยเหรอถึงจะเจอได้
ปล่าวหรอกค่ะ เพียงแต่นีแปลกใจนิดหน่อย..ปกติพี่ไม่เคยโทรนัดนีก่อน..
จังหวะนั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เครื่องดื่มยกมาวาง
เขาคุยโทรศัพท์สองสามคำ
แล้วเชิญให้หญิงสาวทานอาหาร
.
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้น
ไม่รู้ว่านีจะโกรธรึเปล่า พอดีเพื่อนพี่โทร.มา เขาอยู่แถวนี้ พอเขารู้ว่าพี่อยู่ที่นี่เขาก็เลยอยากเจอ พี่ชวนเขาร่วมโต๊ะด้วยได้ไหม?..
หญิงสาวทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย แล้วยิ้มหวาน
ได้สิคะ..ดีเสียอีก นีจะได้รู้จักเพื่อนของพี่เอาไว้ เผื่อวันไหนหาตัวพี่ไม่เจอ จะได้ถามเขาได้..
ไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินตรงเข้ามา
เพื่อนพี่ครับ เขาชื่อวรวุฒิ ส่วนน้องคนนี้ชื่อภาวินี รู้จักกันไว้..
วรวุฒิรับไหว้ภาวินี พร้อมกับสำรวจไปทั่วร่าง
ภาวินีรู้สึกหน้าชานิด ๆ
แล้วการสนทนาก็พาไปสู่เรื่องอื่น ๆ จนทั้งสามแยกจากกัน
เฮ่ย..น้องเขาสวยดีว่ะ..
วันรุ่งขึ้น วรวุฒิก็โทรศัพท์มาคุยกับเขา
ถามนายจริง ๆ เหอะ ทำไมนายไม่สนใจวะ?
ฉันพอแล้วว่ะ แค่นี้ฉันก็ปวดหัวจะตายแล้ว.. กรกาจตอบเสียงเนือย ๆ
นายแน่ใจนะ ที่จะยกให้ฉัน..
ไอ้บ้า..ยกเยิกอะไรกัน มันแล้วแต่นายกับเธอโว้ย ฉันแค่เปิดโอกาสให้นายพบกันเท่านั้น จากนี้ไปก็แล้วแต่ว่านายกับเธอจะไปสานต่อกันอย่างไร ขออย่างเดียวเท่านั้น..
อะไร?
นายต้องจริงจังกับเธอ อย่าให้เธอต้องเสียใจเพราะนายเป็นอันขาด
ได้เลยเพื่อน เรื่องนั้นฉันรับปากเต็มที่..
คืนนี้เขานั่งดื่มเบียร์เพียงคนเดียวในร้านชานกรุงแห่งหนึ่ง
บรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงเปียนโนดังกล่อมอยู่แผ่วเบา
มุมที่เขานั่งเป็นโต๊ะลึกสุด อยู่ใต้ต้นโมกปลอมใบเขียวชะอุ่ม
ตรงหน้ามีถ้วยแชมเปญขนาดใหญ่ หล่อน้ำสีฟ้าไว้เพียงครึ่งแก้ว และจุดเทียนที่ลอยอยู่ให้ส่องแสงวับแวม
ช่วงเวลาเช่นนี้..ความรู้สึกชนิดนี้ เป็นสิ่งที่เขาชอบ
นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่เคยได้อยู่คนเดียว..
บางครั้งคนอย่างเขา ก็อยากรู้จักความเหงาบ้างเหมือนกัน
..
ดนตรีกล่อมด้วยบทเพลงคุ้นหู ถ่วงอารมณ์เขาให้ลึกไปถึงอดีต
อดีตที่เขาทำลายความรู้สึกดี ๆ ของผู้หญิงหลาย ๆ คนที่มอบให้แก่เขา
สิ่งที่เขาทำได้คือแค่เอ่ยคำว่าเสียใจ จากนั้นเขาก็ทิ้งเธอเหล่านั้นไปอย่างไม่แยแส
และคนที่คบกันอยู่ในปัจจุบัน เขาก็เริ่มที่จะตีจาก
เขาเป็นคนเบื่อง่าย ซึ่งมาพร้อมกับความรักง่าย หลงง่าย
บางครั้งเขาก็มีความสุขดี กับการได้ด่าตัวเองอย่างนี้
.
ภาวินีโทรมาหาเขาหลังจากวันนั้นสองครั้ง แต่เขาจงใจไม่รับสาย
ส่วนวรวุฒิโทร.มาเล่าความคืบหน้าอย่างละเอียดยิบให้เขาฟังจนเขาแทบจะรำคาญ
เธอรับนัดฉันแล้วโว้ย..เฮ้ย..ฉันต้องทำไงบ้างวะ?
ฉันไม่สบายใจเลยว่ะ ดูเธอไม่ค่อยคุยค่อยพูดกับฉันเลย..
วันนี้เธอโทร.มาเองเลยว่าโว้ย..ถามว่าฉันสบายดีไหม..โหย..ดีใจแทบตาย เธอถามถึงนายด้วยนะ..
ฯลฯ
.
เช้านี้เขาเข้าไปเช็คเมล์ของตัวเอง พบข้อความของภาวินีทิ้งไว้
พี่กรหายเงียบไปอีกแล้วนะ..
พี่รู้ไหมเพื่อนพี่โทรหานีวันละเป็นสิบครั้ง..
นีก็เกรงใจ เลยต้องไปทานข้าวกับเขาครั้งหนึ่ง..
พี่ ถามจริงเหอะ เพื่อนพี่คนนี้เต็มหรือเปล่า?
พูดมากเป็นลิงเคี้ยวรำ ไม่เห็นเหมือนพี่เลย..
พี่สบายดีใช่ไหม? ว่างแล้วโทรหานีบ้างนะ..
ไม่ต้องนัดทานข้าวก็ได้..แค่ได้ยินเสียงก็ดีใจแล้วล่ะ
คิดถึงนะ..
..
เพราะเรื่องนี้หรือเปล่าทำให้เขาต้องมานั่งด่าตัวเองอยู่อย่างนี้?
เขาปฏิเสธ
เขาไม่ได้รักภาวินี เพราะเขาบอกตัวเองเสมอว่าเขาไม่ควรรักเธอ
ผู้ชายอย่างเขามีคุณค่าไม่พอ เด็กสาวใส ๆ อนาคตไกล ๆ เยี่ยงเธอ ย่อมหาชายคนที่ดีกว่าเขาได้
อย่างวรวุฒิ แม้เขาจะเป็นคนค่อนข้างจะจุกจิกจู้จี้ แต่เขาก็เป็นคนดี
เขาเชื่อว่าถ้าเธอเลือกเขา เขาจะทำให้เธอมีความสุขได้
เขาได้แต่หวังว่าวรวุฒิจะทำได้สำเร็จ
.
จากคุณ :
harvester
- [
8 ธ.ค. 46 16:43:50
A:202.57.168.24 X:
]