@@~หยาดฝน...ที่ปลายฟ้า~@@

    ท้องฟ้าที่มัวหม่นฝนกำลังตั้งเค้า…ใบไม้ปลิดตัวหล่นลงมาช้า ๆ ... ทีละใบ... ทีละใบ  
    พริ้วตามสายลมเอื่อยๆ  ปะทะบนใบหน้าของหญิงสาวที่นองไปด้วยน้ำตา...

    ขวัญธิดา  ก้มลงมองสมุดบันทึกสีน้ำเงินในมือ  แว่วมาซึ่งเสียงสะอื้นเบาๆ  …

    ............................................

    “คุณแม่คะ  วันนี้ขวัญขอขึ้นรถเมล์ไปมหาวิทยาลัยนะคะ”  
    ขวัญธิดาออดอ้อน  พร้อมยื่นมือไปกอดเอวขวัญตาผู้เป็นแม่  ที่กำลังยื่นมือมาลูบหัวด้วยความเอ็นดู  

    ปกติเป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่เธอจะได้ขึ้นรถประจำทางเฉกเช่นเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ  
    จนตัวเธอนึกไปเองว่านี่เธอคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดหรืออย่างไร  
    ... ช้อนเงินช้อนทองที่ว่า  ประกอบไปด้วยรูปทรัพย์และทรัพย์สมบัติ  ทำให้บุพการีหวงเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน

    หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย   ขวัญธิดาสอบเอ็นทรานต์เข้าเรียนได้ในมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง  
    นำความปลื้มอกปลื้มใจมาให้ครอบครัว   ภัทรพลให้รางวัลลูกสาวสุดที่รักเป็นรถเก๋งป้ายแดงคันโก้  
    ซึ่งถ้าใครได้เห็นโลดแล่นบนถนนจะต้องเหลียวมองไปตามๆ กัน

    “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ  แต่ทำไมจู่ๆ คุณพ่อถึงให้รถขวัญล่ะคะ เมื่อก่อนเห็นห่วงนักห่วงหนา”
    “ลูกโตแล้วนะ   พ่อคิดว่าพ่อคงไม่ต้องไปรับไปส่งเหมือนสมัยเรียน ม.ปลาย แล้วมั้งจ้ะ  
    ลูกสาวพ่อเก่งขนาดเอ็นติดอันดับ 1 ที่เลือกไว้แบบนี้  พ่อว่าลูกมีความรับผิดชอบพอแล้วล่ะ  พ่อให้เป็นของขวัญจ้ะ”

    “ถ้าคุณพ่อดีใจกับขวัญจริงๆ  ขวัญขอรางวัลอะไรอย่างหนึ่งได้มั้ยคะ”
    “.......”

    “ขวัญขอขึ้นรถเมล์ไปเรียนเหมือนเพื่อนๆ นะคะ คุณพ่อ นะคะ”
    “นึกยังไงหล่ะเนี่ยยายขวัญ  มีรถให้ขับดีดี  ไม่เอา อยากจะไปนั่งรถเมล์  เฮ้อ... ลูกฉัน”

    “คือขวัญอยากไปเรียนพร้อมเพื่อนๆ น่ะค่ะคุณพ่อ  ขวัญไม่อยากทำตัวให้แตกต่างจากคนอื่นมากนัก
    คุณพ่อสอนขวัญเองไม่ใช่หรือคะว่าเราไม่ควรอวดมั่งอวดมีกับใครๆ “
    “จ้ะๆ เอาเถอะพ่อยอมแพ้ ถึงยังไงลูกก็โตแล้ว  ยังงี้รถพ่อก็เป็นหม้ายแล้วสิเนี่ย”

    “แหม! ไม่หรอกค่ะ  ขวัญก็เอาไว้ขับให้คุณพ่อคุณแม่นั่งไงคะ”

    ...................................................

    “สามย่านเท่าไหร่คะ”  
    “สิบห้าบาท”  กระเป๋ารถเมล์ตอบเสียงแข็งหน้าตาบอกบุญไม่รับ  มิทันที่ขวัญธิดาจะหยิบธนบัตรใบละ 500 บาทส่งให้
    ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวกับเจ้าของเสียงเดิม

    “นี่จะบ้าหรอ  แบงค์ห้าร้อยใครจะมีทอนเธอล่ะ  จะขึ้นมาทำไมไม่รู้จักเตรียมเศษตังค์ ห๊า !”
    “คือหนูไม่รู้  ขอโทษจริงๆ ค่ะ…”  

    เธอยังขอโทษขอโพยไม่ทันจบ ก็มีคนใจดีควักเงิน 15 บาทจ่ายแทนจากด้านหลัง…
    “ขอบคุณนะคะ ที่จ่ายแทนให้”
    “ขึ้นรถเมล์ยังไง ไม่รู้จักพกสตางค์  เดี๋ยวกระเป๋าด่าตาย…”  ชายหนุ่มพูดแทรก

    ขวัญธิดามองหน้าชายหนุ่มคนนั้นเงียบๆ  ดูเขาอายุไม่ต่างจากเธอเท่าไรนัก  ตัดผมสั้นมีไรหนวดอ่อนๆ
    สวมเสื้อช็อปสีเทา  ขณะที่เธอกำลังพยายามจะอ่านชื่อสถาบันของเขา  ชายหนุ่มก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้...

    “จะไปไหนเนี่ย  ลงถูกรึเปล่า  ดูท่าทางเฟอะฟะนะเธอหน่ะ”
    เด็กหนุ่มพูดกับเธอราวกับว่ารู้จักกันมานาน  สีหน้าไม่ยินดียินร้ายกับเธอที่กำลังยืนงงอยู่สักเท่าไร

    “จะไปเรียนแถวๆ สามย่านค่ะ วันนี้เปิดเรียนวันแรก”
    ขวัญธิดาตอบกลับไปทั้งๆ ที่รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน ว่าทำไมเธอถึงตอบไปหน้าตาเฉยเช่นเดียวกับเขา  
    อาจเป็นเพราะสัญชาติญาณบอกเธอว่า เขาไม่ใช่คนเลว  อย่างน้อยที่สุดเค้าก็ยอมที่จะจ่ายเงินค่ารถเมล์ให้เธอที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก...

    (รออ่านต่อตอนหน้านะจ๊ะ)

    จากคุณ : LoVe~WonBiN` - [ 12 ธ.ค. 46 19:16:05 A:203.170.250.98 X: ]