และแล้ว Soft Cloth Thailand ก็ได้มีโอกาสต้อนรับพนักงานเก่าอย่างเหมันต์และสิริสราอีกครั้ง เหมันต์กลับเข้าดำรงตำแหน่งเดิม นั่นคือ Promotion Manager ส่วนสิริสรานั้น เธอกลับต้องมารับหน้าที่ผู้ช่วยของเหมันต์หรือ Assistant to Promotion Manager แทนที่เธอจะได้ทำงานในตำแหน่ง Officer เหมือนเมื่อก่อน
"ทำไมยี่ต้องเป็นผู้ช่วยเหมด้วยล่ะ" สิริสราถามเจ้านายคนใหม่ด้วยความสงสัย
"ยี่อุตส่าห์เรียนจบถึงปริญญาโท แต่จะมานั่งต๊อกต๋อยทำงานแบบเด็กๆ อยู่อย่างนั้นน่ะหรือ ยี่น่าจะมาช่วยแบ่งเบาภาระผมได้แล้วนะ" คำพูดของเหมันต์ฟังดูมีเหตุผลดีมาก แต่ความหมายแฝงของมันก็คือ...มันเป็นหน้าที่ที่เราทั้งสองต้องร่วมกันดูแลต่อไปในอนาคต
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่อะไรบางอย่างในประโยคนั่นทำให้เธอรู้สึกสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ "อืม...เหรอ...มันก็จริงนะ ว่าแต่...ไม่มีอะไรแอบแฝงแน่นะ" สิริสราย้ำถาม
ดวงตาวาววับเอาเรื่องทำให้เหมันต์ขนลุกวาบ ชายหนุ่มรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน
"เปล่านะ ยี่คิดว่ามีอะไรแอบแฝงเหรอ เหมไม่เห็นเข้าใจ" เขาพยายามตีหน้าซื่อสุดฤทธิ์
เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ของแฟนหนุ่มแล้ว หญิงสาวจึงขู่สำทับไว้ว่า "ไม่มีอะไรก็แล้วไป แต่อย่าให้จับได้นะว่าแกล้งตุกติกอะไร ถ้าจับได้ล่ะก็...โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติเลย"
ข่มขู่เสร็จสิริสราก็เดินกลับไปทำงานต่อ
ลับร่างของหญิงสาวแล้ว เหมันต์ถึงกับถอนหายใจออกมาเอือกใหญ่
"เฮ้อ...ขืนบอกความจริงสิ คนที่จะตายเห็นทีจะไม่พ้นเราเป็นแน่"
ความจริงแล้ว เสี่ยลักอยากให้ลูกสาวทำงานในระดับล่างอีกสักพักแล้วค่อยไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของเหมันต์ แต่เขากลับขอร้องว่าที่พ่อตาให้ส่งสิริสรามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของเขาแทน เพราะว่าตำแหน่งนี้เอื้ออำนวยให้เขาได้ทำงานใกล้ชิดกับเธอมากกว่าตำแหน่งพนักงานธรรมดา และเขาจะใช้โอกาสงามๆ นี่แหละขอเธอแต่งงาน
****************************************************************************************
สิริสรารู้ว่าเหมันต์กำลังปกปิดอะไรบางอย่างอยู่ เธอพอจะเดามันได้จากพักหลังๆ ที่เขาชอบพูดเป็นนัยกับเธอและไหนยังจะสายตาที่เขามองมาอีกล่ะ มันทำให้เธอคิดได้อย่างเดียวว่าเขากำลังจะขอเธอแต่งงาน!
...แต่งงาน...
...ให้ตายสิ...แค่คิดก็จะแย่แล้ว...
หญิงสาวบ่นในใจ...ไม่ใช่ว่าเธอต้องการต่อต้านหรือไม่อยากแต่งงานกับเขา แต่สิ่งที่ทำให้ใจของเธอเป็นกังวลก็คือตัวของเหมันต์เอง
แม้ว่าที่ผ่านมาเหมันต์จะรักและแคร์เธอมากมายแค่ไหน สิริสราก็อดที่ระแวงไม่ได้...เธอไม่แน่ใจว่าถ้าเธอและเขาแต่งงานกันไปแล้ว ทุกอย่างยังจะเหมือนเดิมอีกไหม ลายเสือของเหมันต์จะโผล่อีกหรือเปล่า เพราะก่อนหน้าที่จะคบกัน เหมันต์ก็เป็นหนุ่มที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยเสียเท่าไหร่
สรุปคือเธอกลัวว่าจะไม่ได้เป็นคนสุดท้ายในชีวิตของเขานั่นเอง
สิริสรายังงงๆ ไม่หายว่าเขามาหลงรักเธอได้ยังไง ในเมื่อครั้งแรกๆ ที่พบกัน ทั้งเธอและเขาต่างก็ศรศิลป์ไม่กินกันเสียแล้ว แถมยังคอยแต่เอาชนะคะคานมาโดยตลอด...เท่านั้นไม่พอ เธอยังสงสัยตัวเองด้วยว่ารักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเขาเองก็ไม่เคยบอกเธอ ส่วนเธอเองก็ไม่เคยบอกเขาเช่นกัน
...นั่นสินะ..เรารักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่...
หญิงสาวนั่งคิดจนหัวแทบระเบิด แต่เธอก็ไม่พบคำตอบของคำถามนั้น
...หรือว่าเราจะไม่ได้รักเขาจริงๆ...
ความคิดในสมองเริ่มสับสน เพราะจะว่าไปแล้วเธอก็ไม่เคยหลงรักใครมาก่อน แต่เธอรู้เพียงอย่างเดียวว่าเวลาที่เขาอยู่ใกล้ๆ ใจของเธอก็มักจะเต้นแรงทุกครั้งไป
...โอ๊ย...คิดแล้วปวดหัว...ไม่คิดแล้วดีกว่า...
...อีตาเหมบ้า...ชอบทำให้เราคิดหนักอยู่เรื่อยเลย...
สิริสราบ่นอุบในใจพร้อมทั้งค้อนรูปถ่ายของชายหนุ่มอย่างแสนงอน
****************************************************************************************
ช่วงปลายปีอย่างนี้ ห้างสรรพสินค้าทั้งหลายในกรุงเทพฯ ต่างจัดรายการลดราคาประจำปีพร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่ทำให้เหล่านักช้อปทั้งหลายตาโตกันไปแถบๆ เลยทำให้ผู้คนมากมายเลือกที่จะมาเดินห้างเพื่อซื้อของขวัญมอบให้แก่คนที่ตัวเองรักหรือไม่ก็เติมรางวัลชีวิตที่นานๆ จะเวียนผ่านมาสักที
สิริสราก็เช่นกัน ขาช้อปอย่างเธอพอเห็นป้ายโฆษณาลดราคาที่ไหนเป็นอดไม่ได้ต้องแวะเวียนเข้าไปดูทุกที วันนี้หญิงสาวตั้งใจมาเลือกชื้อของขวัญคริสมาสให้คนในครอบครัวและอาจจะมีของขวัญสำหรับคนรู้ใจพ่วงเข้าไปด้วยถ้าเหมันต์ไม่ออดอ้อนขอตามติดมาด้วยอีกคน
...แน่ล่ะ...จะซื้อของขวัญให้ทั้งที รู้ก่อนมันก็ไม่ตื่นเต้นน่ะสิ...อย่างนี้ก็รอไปก่อนแล้วกันนะ...อีตาเหมจอมตื้อ...
"ยี่ คริสมาสปีนี้เราไปฉลองกันสองคนเหมือนเดิมนะ"
สองปีมาแล้วที่เขาและสิริสรามีคริสมาสร่วมกัน ดินเน่อร์เล็กๆ สองต่อสองในซานดิเอโก้ มันเป็นงานคริสมาสต์เงียบๆ แต่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสุข
"อื้อ ก็เอาสิ แต่เหมต้องให้ยี่เป็นคนเลือกสถานที่นะ"
ทุกปีสิริสราจะเป็นคนเลือกสถานที่ดินเน่อร์ ปีนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวเตรียมเรื่องเซอร์ไพร้ซ์ชายหนุ่มไว้เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากวันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อนของคนทั้งคู่ อาหารมื้อกลางวันจึงเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ กินข้าวเสร็จก็ถึงเวลาทำธุระสำคัญนั่นคือเลือกซื้อของขวัญคริสมาส
สิริสราลิสรายการของต้องซื้อใส่ไว้ในสมุดโน๊ตของตน รายการสิ่งของที่เธอเขียนยาวเหยียดเป็นหน้าๆ และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อของเหมันต์รวมอยู่ด้วย
"ได้ของขวัญของเจ้าลมกับเจ้าฝนแล้ว" หญิงสาวว่าพลางใช้ปากกาขีดฆ่าชื่อทั้งสองออกจากรายการ
'เจ้าลม' กับ 'เจ้าฝน' ที่สิริสรากล่าวถึงคือหลานสาวของเธอ...ลูกสาวทั้งสองของคิมหันต์และอุรสานั่นเองนั่นเอง ยัยลม...เด็กหญิงพระพาย หลานสาวคนโตวัยขวบกว่าของเธอผู้ซนมหาซน และเจ้าฝน...เด็กหญิงพิรุณ หลานคนล่าสุดที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่ถึงเดือน
"แล้วเหมไม่ซื้ออะไรเหรอ" เธอหันไปถามแฟนหนุ่มผู้ทำหน้าที่ผู้ติดตามได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
"ไม่ล่ะยี่ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี เดี๋ยวเล็งๆ ไว้ก่อน แล้วใกล้ๆ ค่อยมาซื้อทีเดียว" เหมันต์ตอบพร้อมทั้งวินโดว์ช้อปปิ้งไปเรื่อยเปื่อย
"ทีนี่ก็เหลือแต่ของ..." เสียงลากยาวของหญิงสาวเรียกให้เหมันต์หันไปมองหน้าเธอลุ้นๆ
...ของผมไง...
เขาพูดต่อในใจ
เมื่อนึกไม่ออกว่าขาดอะไร สิริสราจึงก้มมองลิสรายการในมือก่อนที่จะร้องอ๋อเสียงดังว่า "อ้อ ใช่แล้ว การ์ดอวยพรของเพื่อนๆ น่ะเอง ไปเหม เราไปแผนกกิ๊ฟช้อปกันเถอะ" เธอว่าพลางลากมือใหญ่ของชายหนุ่มตรงไปยังซุ้มบัตรอวยพรที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้สังเกตเลยว่าใบหน้ายิ้มๆ เมื่อครู่ของเหมันต์ได้แปรเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
*****************************
มีต่อค่ะ
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 47 00:47:54
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 13:32:13
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 13:31:02
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 13:30:46
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 13:30:21
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 13:11:21
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 46 13:04:55