1. ลมหนาวลอยมาปะทะใบหน้าของผมอย่างแรงทันทีที่ผมเปิดประตูห้องออกไปยืนที่ระเบียง
เขาว่ากันว่า สายฝนจะทำให้คนเรารู้สึกเหงาได้มากกว่าลมหนาว แต่ผมว่าไม่ว่าจะ หนาว ร้อน หรือ เปียกปอน ผมก็เหงาได้ตลอด เพราะผมเหงาที่ใจต่างหากล่ะ
ผมยืนตากลมหนาวตรงระเบียงสักพัก ก็เดินกลับเข้ามาในห้องพัก เดินไปหยิบรูปรูปหนึ่งขึ้นมาดู ผมยิ้มให้กับรูปนั้น เวลาในขณะนี้ยังเช้าอยู่มาก คนในรูปคงยังไม่ตื่นละมั้ง ผมว่าอย่างนั้นนะ แล้วยิ่งวันนี้เป็นวันที่เธอไม่ต้องไปทำงานด้วยแล้ว เธอคงนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนอันอบอุ่นของเธอ เธอกำลังฝันอะไรอยู่นะ จะมีผมเป็นส่วนร่วมในนั้นรึเปล่า แล้วเธอจะรู้สึกไหมว่า มีใครคนหนึ่งกำลังคิดถึงเธออยู่
อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว แต่สำหรับผมแล้ว มันก็วันทั่วๆไปนะแหละ ผมยังคงต้องไปทำงานในวันปีใหม่เหมือนกับปีที่แล้ว งานบริการก็อย่างนี้แหละ ไม่มีวันหยุดหรอก ปีใหม่นี้คนในรูปคงจะไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง หรืออย่างน้อยเธอก็ได้หยุดงานและพักผ่อนอยู่กับบ้าน
นี่ผมยังวนเวียนคิดถึงแต่เธออยู่อีกหรือนี่
ผมจัดการธุระส่วนตัว แล้วออกไปทำงาน เมื่อถึงที่ทำงาน ผมเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ผมรีบดูชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เผื่ออาจจะเป็นคนในรูปโทรมา
ผมมองดูมันอยู่สักพัก จึงกดรับสาย
ว่าไงว่ะ
เฮ้ย หวัดดีเว้ย วันเสาร์นี้เอ็งไปงานเลี้ยงรุ่นเปล่าว่ะ แล้วมันนัดกันยังไงที่ไหนว่ะ
.
.
เออ แล้วเจอกันวันเสาร์นี้ ผมจบการสนทนา
ไอ้เพื่อนห่า เสือกมาทำให้กูดีใจเก้อ พูดเสร็จก็หันมามองดูความว่างเปล่าใน inbox วันนี้ไม่มีใครส่งอีเมล์ให้ผมเลยแฮะ ไม่มีแม้แต่ forward mail รูปโป๊ที่ผมได้รับอยู่เป็นประจำจากบรรดาใครต่อใครก็ไม่รู้ที่ดันไป add อีเมล์ผมไว้ใน contact list ของเขา
..........
ฉันรู้ดีว่าควรรักเธอให้น้อยลง เพราะฝืนไปก็คงเสียใจอยู่อย่างนี้
มันผ่านไปแล้ว ฉันก็ควรลืมทุกอย่าง อยากจะขอให้มันได้ลบได้เลือนราง จางหายไปยิ่งดี
อยากจะลืม ลืมว่าใจยังคงคิดถึงเธออยู่เสมอ ลืมว่าใจยังคงละเมอถึงเธอคนนี้
ลืมทุกอย่างในหัวใจ ขอเพียงนับจากนี้ไป อย่าได้พบได้เจอ อย่าได้เพ้อถึงเธอก็พอ ..........
เสียงเพลงจากเอ็มพีสาม จากโต๊ะพนักงานคนอื่นที่เปิดขึ้นมาฟังก่อนเริ่มทำงานลอยมาตามลม
..........
ไม่อยากจะทรมาน ไม่อยากรักเธอจนตาย ไม่อยากเสียเวลา ไม่อยากรักแล้วเสียน้ำตา ..........
นั่นสินะ จะทรมานตัวเองอยู่ทำไม
ผมนั่งมองชื่อหนึ่งที่บนจอคอมพิวเตอร์ มันเป็นชื่อของคนที่อยู่ในรูป กี่วันแล้วนะที่เธอไม่ส่งอีเมล์ถึงผม เก้าวัน เก้าวันแล้วสินะ และพรุ่งนี้ก็จะครบสิบวันตามคำสัญญาที่เธอขอให้ผมทำให้กับเธอ
" สิบวันนะ เรากับเธอจะไม่พูดกันสิบวัน เธอจะได้ทำใจลืมเราได้ "
ผมนั่งนิ่ง ยิ้มแหยๆให้กับเธอ ยังไงๆ ผมก็ต้องยิ้มให้เธอคนนี้
" ทำใจลืมให้ได้ซะในตอนนี้ ถ้าเกิดปล่อยให้มันเป็นยังงี้ต่อไป ในวันหลังเธอคงจะต้องเจ็บปวดมากกว่านี้ "
เธอยื่นมือทั้งสองข้างออกมา
" อะ เราให้เธอกอดเรา เพื่อที่จะลา "
ผมปฏิเสธไป ผมกลัว กลัวว่าผมกอดเธอแล้วจะไม่ยอมปล่อยให้เธอไป
" แล้วจะทำยังไงดีล่ะ "
" นั่นสิ ทำไงดี " ผมตอบเธอไปตามความจริง
นอกจากจะไม่พูดกับผมแล้ว ยังตัดการติดต่อทุกอย่างกับผมโดยสิ้นเชิง ทำไมไม่ฆ่าผมให้ตายไปซะเลยนะ ผมเจอกับเธอสองครั้งในช่วงเก้าวันที่ผ่านมา แต่มันก็มีเพียงแต่ความเย็นชาที่มอบให้แก่กันและกัน เธอไม่สนทนา ไม่มอง ไม่สนใจผม ผมก็ทำกลับอย่างเดียวกันให้กับเธอ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องทำยังงี้ด้วย ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ไปรับปากเลยว่าจะทำตามไอ้สัญญาบ้าๆนี่
แต่คราวนี้เธอเอาจริง และผมก็เอาจริงเหมือนกัน ผมทนไม่ไหวแล้ว มันทรมานเกินไป
2. เสียงจากปลายสาย
พี่กลุ้มใจจริงๆนะ เนี่ยว่าจะรีบกลับไปขวางไว้ก่อน น้ำเสียงพี่สาวผมบอกถึงความเป็นกังวล ความกังวลต่อลูกสาวคนเดียวของเธอ ลูกสาวของพี่สาวผมกำลังมีความรัก เป็นความรักครั้งแรกซะด้วยสิ
แล้วน้องแก้ว เธอมีใจหรือมีท่าทีให้กับฝ่ายโน้นไหมละพี่ เธอเงียบ ไม่ตอบ แค่นี้ผมก็รู้คำตอบแล้ว
น้องแก้วยังเด็ก แล้วก็ยังเรียนไม่จบด้วย พี่จะห้ามลูกสาวพี่ยังไงดี เธอว่าไงบ้างล่ะ
พี่ห้ามไม่ได้หรอก น้องแก้วไม่ฟังพี่หรอก ผมรู้ดี ผมเคยสัมผัสความรู้สึกนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ห้ามไม่ได้
ความรักทำให้คนตาบอดน่ะพี่ มันเป็นจริงๆนะ ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ใช่ ตาบอด บอดสนิทซะด้วยสิ
แล้วเธอจะให้ปล่อยไปเลยหรือไง พี่ทำไม่ได้หรอก พี่มีลูกคนเดียวนะ
พี่ไม่ต้องห้ามหรอก แต่คอยดูแล ให้คำปรึกษาดีกว่าพี่ อย่าไปห้ามความรักเลยพี่ สอนให้เขา รักเป็น ดีกว่า ใช่ รักให้เป็น รู้เท่าทันในความรัก
รักเป็น เนี่ยนะ นี่พี่ได้ยินคำคำนี้จากปากของเธอแล้วดูสภาพคนที่ รักเป็น สิ เป็นไงมั่ง
ผมหัวเราะ นั่นสิ ผมพูดคำนี้ไปได้ยังไง ในเมื่อผมเองก็ยัง รักไม่เป็น เลย
. พี่สาวผมเธอพอรู้เรื่องราวของผมอยู่บ้าง ตามที่ผมเล่าให้เธอฟังก่อนหน้านี้คร่าวๆ
อีกไม่กี่วัน พี่ก็ต้องกลับแล้ว พรุ่งนี้ไปกินข้าวกับพี่นะ เราจะได้คุยกันได้มากกว่านี้ จะได้คุยเรื่องของเธอด้วย
พรุ่งนี้ผมไม่ว่างครับพี่ ผมมีเรื่องต้องไปคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ใช่ ผมอยากให้ทุกอย่างจบในวันพรุ่งนี้ สัญญาที่ผมไม่ได้รับปากจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้แล้ว
วันมะรืนละกันนะพี่ แล้วเตรียมกระดาษมาเช็ดน้ำตาผมด้วยละกัน แล้วผมก็หัวเราะออกมา ผมไม่ต้องการให้พี่ผมไม่สบายใจกับผมไปอีกคน
เออ แล้วมะรืนมาดูผลงานของคนที่ รักเป็น ละกันว่าจะเป็นไงมั่ง โทรมานัดพี่อีกทีละกัน
แต่ก่อนที่เธอจะวางสาย
อย่าลืมนะ มะรืนต้องไปกินข้าวกับพี่ ไม่ใช่พรุ่งนี้แกไปโดดสะพานฆ่าตัวตายซะก่อนละ
3. เธอเก่งจังเลย บอกว่าจะไม่พูดกับเรา ก็ไม่พูดจริงๆด้วย
นี่เป็นข้อความที่ผมส่งเมล์ไปให้เธอในวันแรกของคำสัญญา หลังจากผมพยายามโทรศัพท์คุยกับเธอ รวมทั้งส่งข้อความเข้า msn messenger ของเธอด้วย
เงียบ ไม่มีการตอบรับอันใดทั้งสิ้น นั่นคือสิ่งที่ผมได้รับกลับคืนมา
เห็นไหม ผมง้อเธอแล้ว ผมยังทำใจไม่ได้เลย ผมยังทนการสูญเสียเธอไปไม่ได้
เธอหวังให้เวลาสิบวันจะทำให้ผมลืมเธอได้ เธอหวังว่าผมจะทำใจได้ หึ คิดอะไรบ้าๆ คนทั้งคน ใครจะไปลืมได้ในสิบวัน ในคราวแรกผมตั้งใจว่า ผมจะง้อเธอต่อไป ผมจะคืนดีกับเธอให้ได้ แต่หลังจากที่ได้คุยกับพี่สาวของผมแล้ว ผมสบายใจขึ้นเยอะเลย เก้าวันที่ผ่านมาผมแทบไม่ได้คุยกับใครเรื่องนี้เลย ผมเอาแต่จมอยู่กับอดีต อดีตของผมกับเธอ นึกถึงมันแล้วผมก็นั่งยิ้มอยู่คนเดียว
วันคืนที่ดีเหล่านั้น ไม่มีประโยชน์ ไม่มีค่า อะไรต่อเธอเลยหรือนี่
เพื่อนผมมันบอกว่าผม งมงาย
พักนี้เอ็งจะน้ำเน่าไปหน่อยแล้ว ไอ้ห่าเอ้ย ผู้หญิงแค่คนเดียว หาใหม่สิว่ะ
ผมตัดสินใจแล้ว คงถึงเวลาที่ผมต้องปล่อยให้เธอไปได้แล้ว ผมกักตัวเธอไว้ในใจผมนานเกินไปแล้ว และที่สำคัญที่สุด ผมจะได้ปลดปล่อยตัวเองด้วย ปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการทั้งปวง
ผมคงต้องทนกับการอยู่คนเดียวให้ได้ ผมต้องอยู่ต่อไปให้ได้
ใช่สิ ความรักของผม มันเดินมาสุดทางแล้วนี่
ผมจะไปลาเธอ จะไปยินดีกับเธอและเขาคนนั้นของเธอ
.
.
.
ผมได้แต่ภาวนา ว่าผมคงไม่ไปร้องไห้ให้เธอเห็นนะ ผมหวังว่าผมคงร้องมาพอแล้ว
** เพลง รักเธอให้น้อยลง - Bandwagon **
จากคุณ :
ปลาน้อย [..<\\\><..] จอมงมงาย
- [
17 ธ.ค. 46 11:48:58
A:210.1.38.20 X:
]