ไฟพุ่งขึ้นข้างกระทะ แสดงว่ามันแรงไปหน่อย หากปล่อยไว้ผัดกระเพราไก่กระทะนี้คงเป็นกระเพราดินปืน
เขาหรี่ไฟลง..เติมน้ำซุบที่ต้มทิ้งไว้ตั้งแต่เช้า..เหยาะซีอิ้วขาว น้ำตาลเล็กน้อย แล้วตามด้วยเกลือป่นพอติดปลายนิ้ว
อาหารที่เขาปรุงจะไม่เติมน้ำปลา เพราะน้ำปลาจะทำให้อาหารมีกลิ่นแรง จนดับกลิ่นอื่น ๆ ไปซะหมด
จากนั้นก็เป็นน้ำมันหอย..
แล้วจึงขยุ้มกระเพราสดจากชามเล็ก ๆ ที่ปริ่มน้ำ สลัดให้น้ำเสด็จก่อนหนึ่งครั้ง แล้วใส่ลงไปในกระทะ
เขาเร่งไฟให้แรงขึ้นในช่วงท้าย
แล้วหันหลังไปจามพรืดด้วยความฉุน..
ก่อนจะเทใส่ชาม..
กระเพราไก่โต๊ะสี่
เขาเรียกเด็กเสริฟ
จากนั้นก็เตรียมปรุงอาหารจานต่อไป
.
เด็กเสริฟคนนั้นแปลกหน้าสำหรับเขา
เป็นเด็กสาว ร่างอวบ อายุคงเกินสิบสี่ปีมาได้ไม่นานนัก
เธอไว้ผมสั้นแค่คอ ผิวขาวผ่องเหมือนคนเหนือ
ดวงตาดำ คิ้วเข้ม ไม่แต่งหน้า
น่ารักเหมือนเด็ก ๆ ทั่วไป
พี่คะ..โต๊ะสองสั่งต้มยำทะเลเพิ่มอีกที่หนึ่งค่ะ..
เธอบอกเขาเบา ๆ
เขาพยักหน้ารับทราบ
.
ต้มยำทะเลนั้น ถ้าไม่รู้วิธีการทำที่แท้จริง จะมีกลิ่นคาว
ขั้นแรกต้องเตรียมกุ้ง ปลาหมึก และปลา ตลอดจนหอยที่ลวกแล้ว เตรียมไว้ให้พอเหมาะ
ตั้งกระทะให้ร้อน..ใส่น้ำมันเล็กน้อย
ใส่ของทะเลเหล่านั้นลงไป แล้วรีบใส่น้ำพริกเผา..ผัดให้พอหอม
อีกเตาหนึ่งตั้งน้ำซุป และเครื่องต้มยำรอเอาไว้
กะเวลาให้ดี เมื่อได้ที่ก็เอาเทรวมกัน
จากนั้นก็ปรุงรส
ถ้าชอบน้ำข้น ควรใส่นมสดรสจืด ขณะผัดกับน้ำพริกเผา เวลาทานจะได้รสความมันของนม มากกว่าใส่ลงไปในน้ำเฉย ๆ
เคล็ดลับเหล่านี้..เป็นความลับส่วนตัว ที่เขาไม่เคยบอกใคร
จะบอกใครไปทำไม เพราะมันทำให้เขาเรียกเงินเดือนได้ตามต้องการ และจำกัดชั่วโมงทำงานของตัวเองได้ตามร้องขอ
พ่อครัวฝีมือดี ๆ อย่างนี้ หายากมาก โดยเฉพาะในธุรกิจร้านคาราโอเกะเล็ก ๆ เช่นนี้
เด็กเสริฟคนเดิมเข้ามายกต้มยำชามนั้น
คราวนี้เขามีเวลามองเธอได้เต็มตา
แล้วรู้สึกหน้าแดงวูบขึ้นมาเฉย ๆ
.
คงไม่มีใครเชื่อ ว่าพ่อครัวมีฝีมืออย่างเขา เพิ่งจะมีอายุได้ยี่สิบห้าปีในปีนี้
เด็กหนุ่มร่างเล็ก ผอมโย่ง ผิวดำผมหยิก เวลายิ้มเห็นแต่ฟันเรียงเป็นแถว
เงยหน้าจากก้นควายที่ต้องเดินตามขณะไถนา ก็มาเจอเตาไฟและกระทะร้อนตอนเป็นลูกมือให้แก่ญาติคนหนึ่งตั้งแต่อายุไม่ครบสิบห้าปีดี
ด้วยเพราะเขาเป็นคนขยัน และมีความจำดี ทำให้เขาได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาปรุงอาหารจากญาติคนนั้นมาได้เกือบทั้งหมด
ลืมบอกไป ญาติของเขาเคยเป็นกุ๊กในโรงแรมระดับห้าดาวมาแล้ว และแยกออกมาเปิดร้านขายอาหารเอง
วิชาฝีมือที่เขาได้มา ทำให้เขามีงานทำ มีเงินใช้ และสามารถแบ่งปันไปให้พ่อกับแม่ที่บ้านนอกใช้ได้อีกเดือนละหลายบาท
แม้เขาจะถูกไล่ออกจากร้านของญาติคนนั้นด้วยความผิดที่เขาไม่ได้ทำ แต่เขาก็ยังสำนึกในพระคุณอันนี้อยู่
และกะว่าหากเขาจะแต่งงาน เขาจะพาแฟนของเขาไปกราบญาติคนนั้นในวันหนึ่ง
เด็กหนุ่มวัยอย่างเขา..ว่างขึ้นมาก็อยากจะมีแฟนเป็นเหมือนกันนี่นา..
.
ยามว่างจากการทำครัว เขามักจะถือโอกาสมานั่งรับแอร์อยู่หลังเคาน์เตอร์เก็บเงิน
ฟังเพลงจากที่แขกร้อง บางครั้งถึงกับขยับปากไปด้วยหากเพลงไหนเขาพอร้องได้
ดีที่ร้านคาราโอเกะเล็ก ๆ อย่างนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ร้องเพลงสตริง(ถ้าไม่ฮิตจริง ๆ) โดยมักจะร้องเพลงลูกทุ่งมากกว่า
มีหลายครั้งตอนหัวค่ำ ขณะนั้นลูกค้ายังไม่เข้าร้าน เขามักจะคว้าไมค์มาร้องเสียเอง โดยยอมเสียเงินหยอดเหรียญครั้งละเพลงสองเพลง โดยมีพนักงานเสริฟ ซึ่งก็คือเพื่อนร่วมงานของเขาคอยปรบมือและส่งเสียงเชียร์
เขาร้องเพลงเพราะดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ดีกว่าแขกหลาย ๆ คน
อย่างเช่นแขกโต๊ะสี่วันนี้ ร้องไม่เป็นสรรพรสขลุ่ย แต่บังเอิญที่เป็นแขกแค่โต๊ะเดียว เลยมีโอกาสได้ร้องหลายเพลง
ยิ่งเมายิ่งร้องไม่เป็นภาษา
อีกทั้งยังหันมายั่วเย้ากับพนักงานเสริฟ..เด็กใหม่คนนั้นด้วยถ้อยคำและพฤติกรรมที่หยาบโลนมากยิ่งขึ้น
คราวนี้ถึงกับจับหน้าอก
เธอร้องกรี๊ด
เขาผวาพรวดเดียวถึง เงื้อมือกะจะซัดโครมให้เต็มเบ้าตา
แต่เจ้าของร้านร้องห้ามไว้ได้ทัน
ไม่งั้น..ไม่เขาก็มัน..ต้องม้วนลงไปกองกับพื้นแน่ ๆ
แขกโต๊ะนั้นไปแล้ว มีเขามองตามด้วยดวงตาที่น่ากลัว
เขาก็ไม่รู้ตัวเอง ว่าทำไมถึงเจ็บแค้นได้ขนาดนั้น
เขาแค่รู้ว่ามันไม่ถูก ไม่ถูกที่จะมาทำกริยาราวสัตว์ป่ากับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ทำมาหากินไปวัน ๆ อย่างนั้น
แค่คุณมีเงินเท่านั้น คุณก็มีฐานะเป็นลูกค้า ลูกค้าที่ได้เป็นพระราชาตลอดกาลอย่างนั้นล่ะหรือ??
เขาว่ามันไม่ใช่
ลูกจ้างอย่างเขา หรืออย่างเธอ ก็ควรมีสิทธิที่จะได้รับความยุติธรรมบ้าง
อย่างน้อยคำว่า ขอโทษ ก็ยังดี
ขอบคุณค่ะพี่..
เธอ..ยกมือขึ้นไหว้เขา
อย่างนี้หนูไม่เอาแล้ว..หนูคงลาออกไปหางานอื่นทำดีกว่า..
เขาได้แต่ยิ้ม..แม้อยากจะปลอบใจเธอแต่ก็พูดอะไรไม่เป็น
เธอเพิ่งทำงานมาได้สองอาทิตย์..เธอก็โดนอย่างนี้ซะแล้ว
ดีเหมือนกัน..เด็กหญิงบ้านนอกอย่างเธอ ไม่ควรจะมาทำงานอย่างนี้
แล้วจะไปทำงานอะไร? เขาถาม
เธอส่ายหน้า..ไม่รู้เหมือนกันพี่..ไม่ได้งานที่ไหนก็กลับบ้าน..
แล้วเธอก็หันหลังเดินขึ้นชั้นบน
ร้านอาหารร้านนั้น เป็นตึกแถวสามชั้น ข้างล่างเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ กั้นด้วยกระจกติดแอร์
ข้างบนแบ่งเป็นห้องพักพนักงาน เขาเองอยู่ชั้นบนสุด
ส่วนเธออยู่ชั้นสอง
ได้ยินเสียงเธอปิดประตู..คงเข้าไปนอนร้องไห้
เขาหันไปเห็นเด็กสาวอีกคนหนึ่ง ที่เป็นพนักงานเสริฟเหมือนกัน พอดียืนอยู่ใกล้ ๆ
เธอมีอายุมากกว่า แม้จะไม่น่ารักกว่า แต่ก็มีประสบการณ์มากกว่า
ศรี..ขึ้นไปดูน้องมันหน่อยไป..อย่าให้มันเสียใจนัก การทำงานอย่างนี้..มันก็ต้องมีเรื่องอย่างนี้บ้าง..
เขาบอกเสียงเบา ๆ
แต่ถ้ามันคิดจะลาออก..ก็ไม่ต้องไปดึงมันไว้..เอ็งก็รู้ ทำงานอย่างนี้ไม่มีวันได้ดี..
.
วันเดือนเคลื่อนผ่าน..เด็กสาวคนนั้นไม่ได้ลาออกอย่างที่ตั้งใจ
เจ้าของร้านรู้ดี..เด็กสาวหน้าใสหุ้นอย่างนี้ เป็นแม่เหล็กดึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี
กะอีแค่ถูกเกาะแกะเล็ก ๆ น้อย นาน ๆ ไปก็ชินไปเอง
ถ้ามีลูกค้าติดมาก ๆ ได้เงินดี ๆ ถูกลุกล้ำมากกว่านี้ก็คงไม่ร้องสักแอะ
เขาจึงหน่วงเหนี่ยวเธอไว้ ทั้งขู่ทั้งปลอบใจ รวมทั้งขึ้นเงินเดือนให้อีกสองร้อยบาท
อาจไม่ใช่เพราะว่าด้วยเงินที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้เธอตัดสินใจอยู่ แต่ด้วยเพราะเธอไม่รู้จะไปทำอะไรนอกไปจากนี้
ดีไม่ดี เสือกับจระเข้จับมือกันเข้าจะหนักกว่านี้
อยู่ที่นี่ อย่างน้อยยังมีพี่พ่อครัว ที่ใจดี และเข้าใจเธอทุกอย่าง
แม้พี่เขาจะขี้เหร่เหลือเกินก็ตาม
.
จากคุณ :
Harvester
- [
17 ธ.ค. 46 15:43:37
A:202.57.169.64 X:
]