@@~ฝนสุดท้าย...ที่ปลายฟ้า~@@ [ตอนที่2]

    มาแล้วค่ะตอนที่สอง

    ก่อนอื่นขอเปลี่ยนชื่อเรื่องนิดหน่อยนะคะ รู้สึกว่าชื่อนี้จะเหมาะกับพล็อตเรื่องมากกว่าอ่ะค่ะ แหะ แหะ

    ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนแรก ก็แวะไปอ่านได้นะคะ ไม่รู้ว่าจะเขียนใช้ได้ป่าว

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2579425/W2579425.html

    ตอนที่ 2

    ท้องฟ้าค่อยๆ มืดครึ้ม  เมฆเริ่มตั้งเค้า อีกไม่นานฝนคงตก   รถเมล์คันเดิมยังคงวิ่งไปเรื่อยๆ  ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรีบเร่งของผู้คน    เหล่านักเรียนที่กระวนกระวายเพราะกลัวจะไปโรงเรียนสาย  นักศึกษาที่อ่านตำหรับตำราขณะรถติด   หนุ่มสาวออฟฟิศที่ดูนาฬิกาครั้งแล้วครั้งเล่า  ส่วนคนที่ไม่รีบร้อนคนอื่นๆ บ้างก็คุยโทรศัพท์  บ้างก็คุยกับเพื่อนเพื่อฆ่าเวลา ขวัญธิดาได้แต่มองภาพคนเหล่านั้นอย่างสนอกสนใจ    นี่ถ้าเธอไม่ตัดสินใจขออนุญาตคุณพ่อมาขึ้นรถเมล์  เธอคงไม่มีโอกาสได้เห็นภาพเหล่านี้แน่ ...

    “ป้ายหน้าถึงมหา’ลัยเธอแล้ว”  เสียงเด็กหนุ่มคนเดิมปลุกเธอขึ้นมาจากภวังค์
    พร้อมกับฝนที่เริ่มสาดลงมาเป็นสาย  
    “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”  ขวัญธิดากระวีกระวาดรีกระวาดเดินไปที่ประตูรถ ขณะที่ชายคนนั้นเดินตามมาติดๆ …


    …สายฝนพรั่งพรูลงมาเหมือนจงใจแกล้ง   สาวน้อยวิ่งไปยังป้ายรถเมล์เพื่อหาที่หลบฝน  โดยมีเด็กหนุ่มวิ่งตามมาด้วย  ขวัญธิดาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหน้าที่เปียกละอองฝน  ทำให้ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางค์ของเธอยิ่งดูขาวใส  ตัดกับสีผมที่ดำขลับ  ก่อนที่เธอจะตัดสินใจก้าวขาวิ่งเข้าไปในมหาวิทยาลัย  ชายแปลกหน้าก็ถอดเสื้อช็อปที่สวมใส่  โยนมาที่เธอ

    “เอาคลุมหัวแล้วเข้าไปเรียนซะ  เปียกหมดแล้ว   เดี๋ยวห้าโมงเย็นมาเจอกันตรงนี้นะ  เราจะมาเอาเสื้อคืน”

    เด็กหนุ่มยิ้มกวนๆ  ก่อนวิ่งจากไป   ขวัญธิดามองตามร่างที่เปียกปอนของเขาก่อนที่จะกางเสื้อช็อปในมือคลุมศีรษะเดินเข้ามหาวิทยาลัยด้วยความรู้สึกประหลาด...

    .................................................

    ชีวิตนักศึกษาวันแรกไม่เหงาอย่างที่คิด ...   ขวัญธิดากลายเป็นที่จับตามองตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเรียน  เธอเป็นขวัญใจทั้งรุ่นพี่และเพื่อนรุ่นเดียวกัน  ด้วยหน้าตาที่น่ารัก  ประกอบกับการพูดการจาที่อ่อนหวานไพเราะ  ทำให้ใคร ๆ ก็อยากพูดคุย อยากเข้าใกล้   และนอกจากเรื่องเรียนแล้วเธอยังให้ความสนอกสนใจกับกิจกรรมของคณะ  เพิ่มเสน่ห์ในตัวเองมากยิ่งขึ้น  ความเพลิดเพลินจากสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่งได้รับเกือบทำให้เธอลืมเรื่องราวของชายหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันเมื่อเช้านี้    รู้สึกตัวอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบจะห้าโมงเย็น...

    “ขวัญกลับก่อนนะคะ  วันนี้ขวัญมีธุระ  แล้วยังไงพรุ่งนี้เจอกันนะคะ”  เธอลาเพื่อนที่คณะอย่างรีบเร่ง  ก่อนที่จะสาวท้าวเดินออกจากตึกคณะ  ไปยังป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย   ก้มมองนาฬิกาข้อมืออีก 5 นาทีจะ 5 โมง

    เธอนั่งรอเงียบๆ  อ่านหนังสือเรียนเล่มใหม่เอี่ยมไปพลางๆ  มีต้นหูกวางอยู่ใกล้ๆ  ใบแก่ปลิวหลุดลงมาตามลม  แสงแดดอ่อนๆ สะท้อนสีส้มเหลืองของใบไม้ที่ร่วงโรย   หญิงสาวเหลือบมองไปตามทางเดินเป็นระยะ  ยัง... เขายังไม่มา  เธอวางหนังสือเรียนในมือลงข้างตัว  หยิบเสื้อช็อปสีเทาขึ้นมาดู   เขาเรียนอยู่เทคนิคใกล้ๆ นี่เอง    

    “แล้วเค้าให้เสื้อเรามาทำไมเนี่ย”  เธอรำพึงคนเดียวเบาๆ” ก่อนจะวางเสื้อลง แล้วหยิบหนังสือเรียนมาอ่านต่อไปเรื่อยๆ  จากหนึ่งหน้าเป็นหนึ่งเล่ม  จนตะวันเริ่มลับตาก็ไม่มีวี่แววของชายผู้นั้น...

    19.30 น.  ขวัญธิดาถือเสื้อช็อปเดินไปโบกรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน   นี่ก็เริ่มค่ำแล้ว  ถ้าเขาไม่มาเธอก็ควรจะกลับบ้านเสียทีก่อนที่จะดึกมากไปกว่านี้แล้วนี่เธอจะทำอย่างไรกับเสื้อตัวนี้ดี...

    จากวันนั้นทุกๆ เย็น  หากใครเดินผ่านไปที่บริเวณนั้น จะเห็นเด็กสาวคนหนึ่ง  นั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นหูกวางเป็นประจำ   ใบหน้าเนียนใส  สยายผมดำขลับเป็นประกายสะท้อนแสงแดดยามเย็น   กลายเป็นภาพที่คนบริเวณนั้นเห็นกันจนชินตา...

    ………………………………………………


    เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ขวัญธิดาเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้   ด้วยหน้าตาที่สะสวย  บวกกับ เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี  เพื่อนๆ จึงลงมติให้เธอเป็นตัวแทนฝ่ายหญิงของคณะ  เพื่อขึ้นประกวดดาวมหาวิทยาลัย ในงานฉลองรับน้องใหม่  ในคืนวันที่ 31 กรกฎาคม  ที่กำลังจะมาถึง

    คืนวันงานบรรยากาศคึกคักไปด้วยเหล่าผู้คนที่คับคั่ง  มีทั้งนักศึกษาในสถาบันและต่างสถาบัน ผู้คนที่ให้ความสนใจกับงานนี้ทำให้สถานที่ดูเล็กไปถนัดตา  ไหนจะร้านค้าที่จัดขึ้นโดยนิสิตแต่ละคณะ  ซุ้มเล่นเกมต่างๆ เสียงดนตรีที่เปิดกระหึ่มทั่วมหาวิทยาลัย   แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดึงดูดใจไปกว่า “เวทีประกวดดาวเดือนประจำปี”

    “ขวัญจ้ะ  ตื่นเต้นมากหรือเปล่า”  เสียงของพี่รหัสดังมาก่อนที่ตัวจะเดินมาถึงเสียอีก  
    “ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ค่ะ  แต่เขินๆ มากกว่า  คนเยอะจังเลยนะคะพี่”  ขวัญธิดาตอบทั้งๆ ที่ ช่างแต่งหน้ายังทาลิปสติกให้เธอไม่เสร็จ
    “อยู่นิ่งๆ สิจ้ะหนู  เดี๋ยวไม่สวยนะ”  

    หลังเวทีวุ่นวายแต่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้เข้าประกวดทุกคน  ขวัญธิดาได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ต่างคณะ  ซึ่งเธอก็คิดว่าคุ้มค่าแล้วกับการตัดสินใจเข้าประกวดครั้งนี้

    “ต่อไปนี้จะเป็นการประกวดดาวเดือนประจำปี 2540 ชอบใคร  ก็เชียร์กันได้เลยนะครับ  ที่ด้านหน้าของหอประชุมเรามีลูกโป่งขาย  ราคาลูกละ 10 บาทเท่านั้น  ดาวและเดือนจากคณะไหนได้รับลูกโป่งจากผู้ชมมากที่สุด  จะได้ตำแหน่งขวัญใจดาว และขวัญใจเดือนไปครอง  ชอบใครเชียร์ใครรีบหน่อยนะครับ  ลูกโป่งมีจำนวนจำกัด”

    เสียงของประธานนักษาศึกษาดังมาจากหน้าเวที   ขณะที่ดาวเดือนดวงใหม่ๆ  กำลังเตรียมตัวจะก้าวขึ้นสู่เวทีประกวด

    ความตื่นเต้นทำให้ผู้เข้าประกวดเดินผิดเดินถูก  คิวต่อไปจะเป็นเธอ  สิ้นเสียงพิธีกรกล่าวชื่อ - สกุล ขวัญธิดาก้าวขึ้นเวทีพร้อมๆ กับรอยยิ้ม  เสียงเชียร์ดังแค่ไหนไม่รู้  ตอนนี้ความตื่นเต้นทำให้เธอหูอื้อ ตาลาย  เธอเดินเคียงคู่กับตัวแทนฝ่ายชายจากคณะออกไปยังหน้าเวที   เสียงปรบมือทั้งบรรดารุ่นพี่ที่เชียร์กันอย่างออกหน้าออกตาและผู้ที่ชื่นชอบดังกึกก้อง

    หลายๆ คนกรูกันเข้ามามอบลูกโป่งให้กำลังใจ  ขณะที่เธอกำลังก้มรับลูกโป่งจากเพื่อนๆ อยู่นั้น สายตาก็พลันสะดุดกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า   ใช่แล้วไม่ผิดตัวแน่  เจ้าของเสื้อช็อปที่เธอตามหามาเป็นเดือน

    “ไม่ยักรู้ว่าขึ้นประกวดกับเค้าด้วย”  เด็กหนุ่มชิงพูดเสียงดังก่อนจะยื่นลูกโป่งในมือส่งให้เธอ

    ทำให้ขวัญธิดาเกือบหลุดหัวเราะออกมา  เธอรับลูกโป่งก่อนจะหันหลังเดินไปกลับไปยืนเรียงแถวกับเพื่อนๆ ดาวเดือนคนอื่นๆ ...

    (รออ่านตอนหน้านะจ้ะ)

    จากคุณ : LoVe~WonBiN` - [ 17 ธ.ค. 46 17:50:52 A:203.170.250.98 X: ]