ความรักของสายลมทะเล

            เงาของความคิดถึงอบอวลเต็มหัวใจ ไม่ต่างจากดาวดวงเล็กดวงน้อยที่เกลื่อนกระจายทั่วท้องฟ้าดวงเดียวกันนี้กับที่กรุงเทพฯ  จะเหมือนกันไหมแพรถามตัวเองในใจ ก็ได้รับคำตอบว่าคงไม่หรอก เพราะกรุงเทพฯ   ดาวไม่เคยสวยใสอย่างนี้ รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 แล่นตามระยะทางสายกรุงเทพฯ - สุราษฏร์ธานีด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมเมื่อต้องแซงรถบรรทุก แพรหลับตาลงอย่างหวาดเสียว เมื่อรถเบรคกึกศรีษะชนกับเบาะหน้าโดยอัตโนมัติ  เสียงผู้โดยสารที่อยู่ในความหลับไหลตื่นมาพึมพำ ๆ แล้วเงียบเสียงต่อ เงาตะคุ่ม ๆ  ของภูเขาและต้นไม้ทอดทะมึนในความมืด แสงดาวกระพริบวิบวาวชวนมอง ดึกขนาดนี้จริง ๆ เธอก็น่าจะนอนด้วยเหมือนกัน แต่คงนอนไม่หลับ ไม่มั่นใจว่าเพราะแปลกที่ ตื่นเต้น หรือรถยนต์ไม่นิ่ง มีการสั่นสะเทือนเบา ๆ มาตลอดการเดินทางนี้

             คุณแน่ะ...สายลมทะเลเจ้าเล่ห์
             มีเสน่ห์มากเสียจนน่าหลงใหล
            ไม่รู้นะ..ว่ารักคุณเพราะอะไร
             รู้แต่ว่า..เต็มใจตกหลุมพรางทั้งตัว

             เมื่อก่อนนี้เคยกลัวฟ้า..แม้สีธรรมดา ๆ
             ไม่รู้อะไรมา..ข่มความหม่นหลัว
             มองอย่างไร..ฟ้าวันนี้ก็ไม่น่ากลัว
             หรือฉันมัวแต่มองตาคุณมากกว่าดาว

             รักของคุณ..ดูซับซ้อนซ่อนเงื่อน
             มีสุข มีทุกข์ เปื้อนปน ซน เสื่อม ฉาว
             จะเก็บเกี่ยวความเป็นคุณทุกเรื่องราว
             เมื่อถึงคราว...จากไกล..ไม่กลัวเกรง

             คุณนี่นะ..สายลมทะเลเจ้าเล่ห์
             ถึงจะเกเร..แต่ก็ไม่เคยข่มเหง
             เถอะ..ฉันทำข้อสอบของคุณด้วยตัวเอง
             อย่ามัวเกรงใจ..ผ่านหรือไม่? ... บอกมา

             เธอหยิบปากกามาลากบนกระดาษตามความคิดใช่ ตอนนี้ความคิดถึงกำลังเกลื่อนกระจายรายรอบตัวเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่ามาที่นี่แล้วจะเจออะไร ก็ยังมา รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่อาจจะไม่สดสวยเหมือนเก่าก็ยังฝืน ว่าต้องมาเจอคนของความผูกพันและคนของหัวใจของเขา รู้ว่า ระหว่างเธอกับเขาไม่มีทางที่จะเรียกความรู้สึกดี ที่เรียกว่ารักกลับคืนมาได้ เฮ้อ... เธอถอนหายใจรอบที่ 32 มันเหนื่อยใจนะ ที่หัวใจดื้อรั้นจะมาเพียงเพื่อขอให้เห็นหน้าเขาก็ยังดีเนี่ยนะ อยากทำให้เขาสะอึกเล่น ๆ มา เธอมาคนเดียว มาเพื่อดูคนของเขาตามที่เขาชวนเล่น ๆ แล้วเธอจะเก่งพอไม่สะอึกสะอื้นให้เขาเห็นแน่หรือเปล่า แน่สิ.. เธอตอบตัวเองอีก.. แหมก็แค่คนเคยรักจะสักแค่ไหนกันเชียว แค่ความอยากรู้อยากเห็นแล่นเป็นริ้ว ๆ  เมื่อเขาบอกทางโทรศัพท์ว่าคนของหัวใจเขามาหาเท่านั้นเอง รถทัวร์เข้าจอดเทียบชานชาลา ตอนหกโมงครึ่ง เธอก็เหมารถตุ๊ก ๆ ให้มาส่งที่ท่าเรือ เพื่อจะมุ่งหน้าต่อไปที่เกาะกลางทะเลแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าสงบเงียบและทะเลสวยเรือออกตอนเก้าโมงเธอฝากกระเป๋าเสร็จก็ออกเดินเตร็ดเตร่ตลาดเช้าของตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ ที่ไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสมาเยือน จนกระทั่งได้เวลาเรือออกก็มาขึ้นเรือ เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งเพื่อที่จะไปหาเขา  ทำไมมันถึงได้นานนักก็ไม่รู้เสียงคนในเรือคุยกันเอ็ดอึง เป็นคนไทยภาคใต้บ้าง อีสานบ้าง และฝรั่งนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่อังกฤษอย่างเดียว เพราะภาษาที่ใช้ไม่คุ้นเอาเสียเลย เมื่อเรือจอดเทียบท่าเธอมองหาคนมารับ ก็เขานั่นแหละให้สัญญาว่าจะมารับ หึ! ไม่เห็นแม้เงา  ดีจริง ๆ

             แพรเคาะประตูห้องเบา ๆ ก็รู้สึกได้ยินเสียงคนบอกให้รอ พักใหญ่ก็เห็นหน้าชายหนุ่มร่างสูงเพรียว คุ้นตา แต่.. รุ้สึกไปเองหรือเปล่าว่าหน้าเขาตอบไปนิด ๆ เออนะ.. ความอาทรแล่นเป็นริ้ว ๆ

    "ขอโทษครับแพร.. ไปไม่ไหวจริง ๆ เป็นไข้น่ะ"

    "ไม่เป็นไรค่ะ"      เสียงเธอแข็ง ๆ และตัวแข็งทื่อเมื่อเขา เข้ามาโอบ ไออุ่นจากตัวเขาแผ่ซ่านมาถึงตัวอย่างไม่ยาก เลยไม่คิดจะขัดขืนอีกต่อไป ยอมให้เขาพยุง หรือเธอพยุงเขาก็ไม่รู้ไปที่เตียง แอบมองรอยยับ ๆ ก็มีรอยคนนอนเพียงลำพัง

    "เป็นไงบ้าง เล่าเรื่องการเดินทางให้ฟังบ้างสิ"    เขาถามเหมือนเคยถาม เขาก็คือคนของความผูกพันคนเดิมนี่นา เธอเข้าข้างตัวเอง

    "ก็เหมือนเดิม"    ใช่ทุกอย่างเหมือนเดิม เธอคิดถึงเขาตลอดการเดินทาง เหมือนการเดินทางมาครั้งแรก นี่ถึงแม้สองปีผ่านไป ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเธอผู้ซึ่งเคยเป็นสายลมพเนจรมาขอพักอาศัยยามบอบช้ำจากการทำงานเมื่อคราวก่อนอย่างไร หนนี้ก็เหมือนเดิมจริง ๆ ถ้าเขาจะยังจำความรู้สึกเก่า ๆ ได้ วันที่เขายื่นมือมาให้เธอ และจูงเดินเล่นไปบนผืนทรายสีขาวสะอาดริมน้ำทะเลสีใส

    "ขอนอนอีกสักพัก แล้วสัญญาว่าจะพาไปเดินเล่มริมทะเลนะครับ"

    "ได้ค่ะ..แพรจะอ่านหนังสืออยู่ตรงนอกชานรอคุณก็แล้วกัน"    เขาล้มตัวลงนอน แพรฝันอดไม่ได้ที่จะไปห่มผ้าให้ มองคนหลับไหลด้วยฤทธิ์ยาอย่างเอ็นดู เขาก็ยังเป็นเขาอย่างนี้เสมอ อาทร ความรู้สึกของคนรอบข้าง ไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล เธอยิ้ม เดินไปหยิบสมุดบันทึกในกระเป๋า เดินไปนั่งทีเก้าอี้หวายตรงระเบียงห้อง


    09. 02. 2003

    ดอกไม้สีขาว.. ใบดอกออกสีแดง
    ยิ้มทักแสงตะวันบ่าย
    อยากเด็ดดอกหญ้าที่ไร้ความหมาย
    มาเป็นของขวัญง่าย ๆ ให้คุณ
    ดอกไม้..ยิ้มรับแสงตะวันทอ
    ขอนะ..ขอ.. ไปให้คนของความอบอุ่น
    แทนน้ำใจ แทนคำขอบคุณ
    ในวันที่เขาการุณย์..อาทรมากมาย

           วันแรกที่พบคุณ รู้สึกแบบนี้จริง ๆ สายลมทะเลใจดี ขอบคุณมากนะคะ อยากรู้เรื่องราวการเดินทางมั้ย สิ.. มาฟังนิทานของกาลเวลา จะเล่าให้ฟัง ฉันอ้อยสร้อยไม่ยอมจากเจ้านายที่รัก ที่เข้ารับการผ่าตัดแล้วฟักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล โดยการสอนวิธีใช้ program สำเร็จรูปง่าย ๆ อย่าง Microsoft word แล้วก็มาที่ บขส. สายใต้ ที่พึ่งมาใช้บริการหนนี้เป็นหนที่ 2 ครั้งแรก ไปชลบุรีกับเพื่อน หนนี้ก็มาที่นี่แหละ..มาหาสายลมทะเล ที่นี่มี ร.ป.ภ. ใจดีด้วยล่ะ เขาช่วยแนะนำอะไรให้หลายอย่าง รวมทั้งช่วยขนสัมภาระไปฝากให้ด้วย อืมม.. ก็นะ.. เพื่อนตัวน้อยของคุณมักจะได้รับความอาทรเล็ก ๆ แบบนี้เสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร  ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ เวลาที่เหลือฉันก็เลยไปตระเวนสำรวจพื้นที่แถวนี้ซะเลย ขากลับก่อนขึ้นรถ ฉันก็เลยซื้อน้ำอัดลมกระป๋องมาฝากพี่ รปภ. ใจดี เผื่อครั้งหน้ามา ฉันจะได้มีคนช่วยไง

             แพรฝันวางสมุดกางไว้เท่านั้น ก็เดินไปหยิบซาวด์อะเบ้าท์ในกระเป๋าเดินทาง เฮ้อ.. อิ่มแล้วก็ง่วงแฮะ.. เธอเสียบหูฟังแล้วทอดกายเอนลงบนเก้าอี้หวายตัวเดิม

              "สวัสดีค่ะ..."    เทปเริ่มเดิน อ๋อ..เป็นเทปที่เธออัดเสียงตัวเองเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นเองที่ค้างอยู่ในเครื่อง อัดมาให้เค้านั่นแหละ สายลมทะเลตัวดี มาถึงเขาก็หลับซะแล้ว ฟังเสียงตัวเองอีกสักรอบเป็นไรไป

    "สวัสดีค่ะ ที่กรุงเทพฯ แล้วนะ เอ่อออ..คงจะมีแบล็คกราวด์แปลก ๆ ไม่ใช่เสียงคลื่น เสียงลม ที่นี่จะเสียงดังมาก ถ้าไม่ใช่ห้องอัด ไม่สามารถหรอกที่จะเงียบ และยังไงก็หาเสียงที่เป็นธรรมชาติแบบนั้นได้ มาถึงที่นี่ตั้งแต่วันที่ 17 เช้าที่ตรงไหนนะ เค้าเรียกอ่ะ หลานหลวงหรือคะ แล้วก็ต่อแท็กซี่มา ปรากฏว่าเข้าบ้านไม่ได้ เพราะต้องไปนั่งรอกุญแจที่ตึก จ๋อยย..ไปเลย กว่าจะมาก็ 10 โมง ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย การเดินทางรู้สึกยาวนานมากและทรมานมาก จนคิดอยู่ว่าเข็ดการเดินทางแบบนั้น เข็ดหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าตะเกียกตะกายจะไปอีกแล้ว จะไปซะให้ได้เลย จะไปวันนี้พรุ่งนี้ ของยังเก็บไม่เสร็จ งานยังเคลียร์ไม่เรียบร้อย แต่เธอก็จะไปนะ.. ความดันทุรังสูง โรคนี้แก้ยาก วิธีปราบนี้คืออะไรคะ รู้มั้ย เห็นทีว่า..จะต้องใช้ความรักเป็นตัวจัดการถึงจะดี ต้องเป็นอะไรที่อ่อนหวาน หวามไหว ออเซาะเข้าไว้ เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนเองแหละ

    หนทางข้างหน้า
    ทอดยาวแค่กาลเวลาดุ่มเดิน
    อย่าให้ชีวิตระหกระเหิน
    มาจูงมือกันเดินก้าวไป
    เมื่อความผูกพันเดินทาง
    โลกรอบข้างก็สว่างไสว
    มีเพียงฉันเธอก็สามารถมั่นใจ
    เพื่อนไม่เลือนหายไปจากเธอ
    เดินล่วงหน้าไปบ้าง..พักบ้าง
    แต่ในเส้นทางจะมีฉันเสมอ
    เหลียวมองทางไหนก็ได้เจอ
    มา..กล้า ๆ ยื่นมือเธอ..ส่งมา

    แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 46 00:24:49

    แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 46 00:21:00

    จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 18 ธ.ค. 46 00:13:41 ]