ถึงพ่อที่รัก
สวัสดีค่ะพ่อ สบายดีอยู่มั้ย
แต่สำหรับหนูแล้วไม่ค่อยสบายเลยค่ะ
หนูมีปัญหาที่ยากจะถามพ่อหน่อยค่ะ
เวลาที่พ่อมีปัญหาในชีวิตพ่อทำอย่างไรค่ะ
หนูเดาว่าพ่อและรวมถึงทุกๆคน
ต้องเป็นเหมือนกัน
คือมองหาใครสักคนที่ไว้ใจและเข้าใจ
หรือใครคนนั้น
ที่คอยรับฟังเรื่องราวปัญหาของเราอยู่เสมอ
จากนั้นก็ระบายปัญหาหนักอก
ให้เขาคนนั้นฟัง
แต่พ่อคงจะได้รับคำตอบที่เหมือนกับที่หนูได้รับมาใช่มั้ยค่ะ
กับประโยคที่ว่า
ใจเย็นๆนะ
ค่อยๆคิดแก้ไข
เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น
อย่ากังวลเลย
เราเป็นกำลังใจให้เสมอนะ
ทุกคนพร้อมจะช่วยเสมอ
มีอะไรมาบอกได้ตลอดเวลา
อย่าเก็บไว้คนเดียว
เราเป็นเพื่อน ..เป็นอาจารย์ .
.เราจะช่วยซึ่งกันและกัน
ประโยคเหล่านี้พ่อเคยได้ยินมันมาก่อนหนูแล้วใช่มั้ยค่ะ
พ่อเคยคิดบ้างมั้ยว่าคนที่พูดประโยคเหล่านี้
พวกเขาเหมือน[^_^]ใส่พ่อ
แต่บางทีพ่อก็อาจไม่เคยคิดเช่นนี้
เพราะหนูรู้ว่าพ่อเป็นคนดี ดีเกินไป
ที่จะคิดไม่ดีเหมือนกับที่หนูคิด
แต่หนูอยากบอกพ่อว่า
คนพวกนั้นเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ
พ่อลองคิด
ทบทวนไปในวันที่พ่อเจอกับปัญหา
พ่อลองคิดดูสิว่ามีมั้ย
คนที่เมื่อได้รับฟังปัญหาของพ่อแล้ว
ไม่ว่าปัญหาอะไร จะเล็กหรือใหญ่
มีไหมคนที่จะลุกขึ้นแก้ปัญหาให้
โดยที่ไม่ต้องพูดไอ้ประโยคเหล่านี้
ประโยคที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ
(จนดูออกมาเป็นการแสดงบทมารยา)
ปรโยคที่มีคำซึ้งๆ พร้อมแสดงอาการท่าที เพื่อสร้างภาพคนดีเรียกเรตติ้ง
หนูเดาว่าพ่อต้องเคยเจอ
...เพียงแต่พ่ออาจตอบหนูว่าไม่เคยก็ตาม
เพราะหนูรู้ดีว่าพ่อมักรับผิด
แทนเพื่อนๆของพ่อ
ตลอดจนคนที่พ่อแค่เพียงรู้จักอยู่เสมอ
แต่ไม่ว่าอย่างไรหนูแค่อยากให้พ่อรู้ว่า
ปัญหาที่เจอในชีวิตจริง
มันแก้และหาทางออกยาก
มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่ลมปากใครๆพูด
หรือจะทำได้ง่ายอย่างที่ผู้ใหญ่มักสอนเด็กว่า ปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ
เพราะว่าในความเป็นจริง
มันโหดร้ายกว่าที่ทุกคนเห็นและเข้าใจ
หนูจึงคิดว่ามันคงจะเสียเวลาน่าดู
หากเรามัวแต่ไปปรึกษาใครต่อใคร
เพื่อให้เขาเห็นใจและช่วยแก้ปัญหา
หนูว่าเขาคงไม่ได้อยากจะช่วยเรา
อย่างที่ปากเขาบอกหรอกค่ะ
เพราะเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด
และทุกข์ทรมานอะไรกับเราด้วยนี่ค่ะ
(หากจะมีก็คงเป็นความรู้สึกรำคาญที่ต้องทนรับฟังเรื่องของเรามากกว่า)
หนูคิดว่าคนที่เข้าใจและแก้ปัญหาให้เราอย่างเต็มใจและทำได้ดีที่สุด
ก็คือ ตัวของเราเอง
หาใช่คนอื่น หรือคนที่เราคิดว่า
เข้าใจเราที่สุด
(เพราะจริงๆก็แค่ฉากหนึ่งที่เขาได้รับบทให้ต้องแสดง)
ก็เพราะโลกนี้ไม่มีใครที่จะรักเรา
เท่ากับที่เรารักตัวของเราเอง
เหมือนที่พ่อเคยสอนหนูอยู่บ่อยๆ
ดังนั้นปัญหาจึงอยู่ที่ว่าเราจะยอมช่วย
ตัวของเราแก้ปัญหาหรือเปล่า?
หรือเราจะปล่อยให้เราเวียนว่ายตายเกิด
ในวังวนแห่งปัญหานั้นอยู่ร่ำไป
พ่อเห็นด้วยกับหนูใช่มั้ยค่ะ
เพราะเมื่อครั้งหนึ่งที่หนูมีปัญหา
(ความจริงก็เป็นปัญหานิดเดียว
แต่ตอนนั้นหนูคงอ่อนแอเกินไปมั้ง)
หนูหาทางออกไม่ได้
(อาจเพราะน้ำตาที่ไหลเยอะเกินไป
เลยทำให้หนูมองไม่เห็นทางออก)
หนูจึงปรึกษาเพื่อนพร้อมกับแสดงบทเศร้าด้วยการร้องไห้
เพื่อให้เพื่อนช่วยเห็นใจ
และช่วยคิดหาทางออกให้
(แต่เมื่อหนูไว้ใจให้เค้าเป็นคนที่แสนดี
เป็นคนที่ระบายความทุกข์ใจ บ่อยเข้า)
อ้อ! หนูต้องขอโทษพ่อด้วยนะค่ะ
ที่ไม่ได้ไว้ใจให้พ่อ
เป็นคนที่รับฟังปัญหานั้นของหนู
แต่เพราะหนูคิดว่าบางปัญหา
เพื่อนอาจเป็นคนที่เหมาะสมมากกว่า
ที่จะเป็นพ่อ
หนูไม่ได้หมายความว่า
พ่อเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี
หรือปัญหาที่หนูมีเป็นปัญหาที่เลวร้าย
ที่ไม่อาจให้พ่อรู้ได้นะคะ
(หรือบางทีหนูอาจเข้าใจผิดไปเอง
ที่คิดว่าพ่อไม่ควรรับรู้)
กลับมาเรื่องเพื่อนหนูดีกว่านะพ่อ
เพื่อนหนูเริ่มรำคาญที่จะรับฟังเรื่องราว ปัญหาของหนู
หนูคิดว่าเพื่อนคงหมดความอดทน
ที่จะแสดงบทเพื่อนที่ดีแล้ว
วันนั้น (ครั้งสุดท้ายที่หนูไปเล่าระบายความทุกข์ให้เพื่อนฟัง)
เพื่อนหนูแสดงอาการเบื่อ
และรำคาญอย่างเห็นชัด
นับจากวันนั้นมา
หนูก็ไม่เคยปรึกษาใครอีกเลย
แม้แต่อาจารย์ที่ปรึกษา
ที่บอกหนูเสมอว่า รักและห่วงใย
พร้อมจะช่วยหนูในทุกเรื่อง
เอาเข้าจริง อาจารย์หนูบอกได้เพียงว่า
ครูเห็นใจนะและก็คิดว่าหนูจะต้องหา
วิธีการดีมาแก้ไขได้แน่ๆ
ครูขอเอาใจช่วยนะ
แต่ตอนนี้ครูมีสอน และก็ประชุมต่ออีก
ครูขอตัวนะค่ะ ไว้พบกันวันใหม่ค่ะ
พ่อคิดดูสิค่ะว่า จะให้หนูบอกหรือเล่า
ความทุกข์และปัญหาที่มี
ให้อาจารย์ท่านฟังได้อย่างไรล่ะค่ะ
ในเมื่อท่านไม่เคยมีเวลาว่างให้หนูเลย
หรือคนที่เป็นอาจารย์ทุกคนต้องมีหน้าที่
แค่สอนแล้วก็ประชุมค่ะ
พ่ออาจตอบหนูว่าไม่ใช่
แต่หนูว่าถ้าพ่อเป็นหนู พ่อจะตอบว่าใช่
แต่จะอย่างไรก็ตามนะคะ
หนูไม่ได้บอกว่าเพื่อนและอาจารย์ของหนูเป็นคนที่ไม่ดีนะค่ะ
แต่หนูกำลังจะบอกพ่อว่า
เพื่อนและอาจารย์ของหนู
เป็นคนที่มีพระคุณกับหนูต่างหากล่ะค่ะ
พ่ออาจสงสัยว่าทำไมหนูไม่โกรธ
หนูไม่โกรธหรอกค่ะ
เพราะหนูยังจำคำพ่อสอนได้เสมอ
ที่พ่อสอนหนูว่า
"คนเราต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา"
'ไม่มีใครเป็นได้อย่างที่เราหวังไว้ทุกคน"
ที่สำคัญทำให้หนูได้รู้ว่า
คนที่รักและเข้าใจเราเรามากที่สุดความจริงเขาเพียงแค่คนที่ผ่านมาแล้วผ่านไปเท่านั้น
(ยกเว้นพ่อคนหนึ่งที่รักและเข้าใจหนู
เสมอมาและจะตลอดไป
)
พ่อคงจะกำลังอมยิ้มและปลื้มในตัวหนูซินะ
แต่พ่อจะยิ่งปลื้มในตัวหนูมากขึ้น
หากพ่อรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวของพ่อคนนี้
คนที่พ่อเคยบอกให้ได้ยินเสมอว่า
เป็นห่วงเมื่อต้องเจอกับโลกภายนอก
หนูอยากให้พ่อรู้ว่า
ตอนนี้ ณ ขณะนี้จุดที่หนูยืนอยู่
ไม่ว่าหนูเจอปัญหาร้ายแรงแค่ไหน
หนูไม่เคยรู้สึกกลัว
และไม่เคยอยากรับแสดงบทนางเอก
เจ้าน้ำตาอีกเลยค่ะ
หากแต่หนูแสดงบทนางร้าย
นางร้ายที่ฆ่าปัญหาและความทุกข์ทั้งหลายที่เข้ามาเกาะกินหัวใจของหนู
โดยไม่คิดปราณีหรือเมตตาสงสารใดๆ
ที่หนูทำเป็นบาปหรือเปล่าค่ะพ่อ
.หนูอยากให้พ่อวางใจ
ไม่ต้องเป็นห่วงกับการอยู่บนโลกใบนี้
ของหนู เพราะตอนนี้หนูไม่ได้อ่อนแอ
และยอมแพ้อะไรง่ายๆ
เหมือนเมื่อครั้งที่หนูยังเด็กแล้ว
ตอนนี้หนูอดทนและเข้มแข็ง
พร้อมเสมอที่จะเจอกับปัญหา
เหมือนที่พ่อเคยบอกให้หนูจำไว้ว่า
"คนเราควรอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่อยู่กับอดีตและไม่ใช่อนาคต"
หนูสัญญาค่ะพ่อ ว่าในอนาคตไม่ไกลนี้
หนูจะต้องเป็นนักสู้ปัญหา
เจ้าของเหรียญทองแน่นอน
พ่ออย่าได้กังวลว่าบางเวลาหนูอาจล้ม
และปัญหาอาจแซงหน้าหนูไปไกล
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรหนูต้องลุกขึ้น
และก้าวต่อไปแน่ๆ
และหนูก็ไม่ลืมที่จะช่วยพยุงให้คนที่ล้ม
คนอื่นๆลุกด้วย
เพราะพ่อเคยบอกหนูว่า
"เราอยู่รวมสังคมเดียวกันต้องช่วยเหลือ
ซึ่งกันและกัน"
และหนูจะช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อนๆ
ตลอดจนคนที่อยู่ร่วมโลกใบกลมๆใบนี้
อย่างเต็มใจและเต็มที่ ให้ดีที่สุด
เท่าที่หนูจะทำได้
ที่สำคัญหนูสัญญาว่าจะไม่มีประโยคซึ้งๆหลุดจากปากหนูเป็นแน่
เพระหนูไม่อยากเป็นคนที่ดีแต่พูด
และหนูรู้ว่าพ่อก็คงไม่ชอบ
ที่จะเห็นหนูเป็นคนที่ดีแต่พูดด้วย
วันนี้พ่อคงอ่านจดหมายหนูจนเหนื่อย
และเมื่อยล้าเต็มทนแล้ว
คงจะอยากพักผ่อนเต็มทน
เพราะพ่อมักจะนอนพักยามสาย
ที่อากาศร้อนอบอ้าว
ใต้ร่มหูกวางเพื่อรับลมเย็นอยู่เสมอ
แต่พ่ออย่าลืมที่จะใช้หมอนรองหัว
ก่อนนอนนะคะ จะได้หลับสบายยิ่งขึ้น
แล้วหนูจะเขียนมาคุยกับพ่ออีก
รักษาสุขภาพด้วย
รักและคิดถึงพ่อเสมอ
หนูไจ๋ไจ่
จากคุณ :
ngeewjung
- [
18 ธ.ค. 46 08:56:39
A:202.28.45.10 X:10.1.14.5
]