love at first sight
โดย ศิขรินธาร < ขุนเขา+สายน้ำ >
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!...... เสียงโทรศัพท์ที่แสนน่ารำคาญดังขึ้นติดกันหลายครั้ง ทำให้ฉันต้องละสายตาจากหนังสือนวนิยายเล่มโปรดด้วยความเสียอารมณ์อย่างที่สุด เพราะฉันไม่ชอบให้ใครโทรมารบกวนเวลาที่ฉันกำลังอ่านหนังสือ
" ฮัลโหล! ใครวะ " ฉันกระแทกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างแรงด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
" เราเอง หวาน ถามหน่อยสายน้ำ เธอไปกินรังแตนที่ไหนมา เสียงถึงได้เป็นแบบนั้น " หวานเพื่อนโรงเรียนและหอเดียวกันของฉันนั่นเองที่โทรมา
" ไม่ได้ไปกินรังแตนที่ไหนมาหรอก เรากำลังอ่านนวนิยายอยู่ โทรมากวนเราทำไมวะ " ฉันตอบกลับไปทั้งๆที่ยังเสียอารมณ์ไม่หาย
" เราจะรู้ได้ไงฮะว่าเธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ ที่โทรมานี่ก็แค่อยากจะบอกว่า พรุ่งนี้พวกเราต้องตื่นเช้าๆหน่อย เพราะเป็นวันไหว้ครู ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันมั่ง พวกเราต้องรีบไปเช้าๆหน่อย อย่าลืมเตือนกานต์ด้วยละ " ฉันคิดไว้ละว่าหวานต้องโทรมาเรื่องนี้ เวลาโรงเรียนมีงานทีไร หวานก็มักจะโทรมาบอกให้ตื่นแต่เช้าเสมอ แต่ผลก็คือไปโรงเรียนสายเหมือนเดิม เพราะต่างคนต่างขี้เกียจตื่นนั่นเอง
" เออ... รู้แล้วน่า เดี๋ยวจะเตือนกานต์ให้ ตอนนี้มันกำลังอาบน้ำอยู่ แค่นี้นะ"
ฉันพูดจบและกำลังจะวางหูโทรศัพท์แต่เสียงหวานก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
" เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน แล้วเธออาบน้ำยังนี่ " หวานถาม
" ยังเลยอะ ตอนนี้กี่โมงแล้วนี่ " ฉันพูดพร้อมกับเหลือบมองเข็มนาฬิกาเข็มสั้นที่ชี้ตรงเลขหนึ่งพอดี " ตายแล้ว!!! ตีหนึ่งแล้วเหรอนี่ " ฉันตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่นึกเลยว่าเวลาจะเดินเร็วขนาดนี้ เผลอแป๊บเดียวก็วันใหม่ละ
" ก็เธอมัวแต่อ่านนิยายบ้าบอคอแตกอยู่นะสิ " หวานกล่าวตำหนิ " รีบไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนได้แล้วไป เราก็จะนอนละ บาย กูดไนท์ "
" อืม บาย กูดไนท์ ซียู " ฉันวางหูโทรศัพท์พร้อมกับที่กานต์เปิดประตูห้องน้ำออกมา
ทันที ฉันดีใจมากเพราะขี้เกียจรอกานต์อาบน้ำเป็นที่สุด กานต์ใช้เวลาอาบน้ำอย่างต่ำเป็นชั่วโมง ฉันรีบไปเก็บหนังสือที่ทิ้งกระจัดกระจายอยู่บนเตียง หลังจากนั้นก็รีบไปอาบน้ำก่อนที่จะเข้านอนหลับฝันดีไปด้วยความสุข
--------------------------------------------------------
" เร็วๆ รีบแต่งตัวเร็ว เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทันนะสายน้ำ " กานต์เร่งเพราะฉันพึ่งเดินออกจากห้องน้ำมา
" เออน่า ระดับไหนแล้ว แต่งตัวห้านาทีก็เสร็จ " ฉันตอบพร้อมกับเร่งแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
เมื่อฉันและกานต์แต่งตัวเสร็จ เราทั้งสองก็พากันออกไปรอหมวย หวาน และรินข้างหน้าหอพักเพื่อเตรียมตัวจะเดินไปโรงเรียนด้วยกัน เมื่อพวกเราไปถึงโรงเรียน นักเรียนส่วนมากก็มาตั้งแถวกันแล้ว พวกเราจึงรีบเอากระเป๋านักเรียนขึ้นไปเก็บบนห้องเรียนและรีบวิ่งไปเข้าแถวอย่างรวดเร็ว
วันนี้ในตอนเช้าจะมีการประกอบพิธีไหว้ครู นักเรียนชั้นมัธยมปลายทุกคนต้องเดินแถวเข้าไปทำพิธีในโรงยิม นักเรียนทุกคนต่างก็นั่งเป็นแถวตามที่ซ้อมกันไว้เมื่อวาน แต่เสียงคุยก็ดังขึ้นเป็นระยะๆตามประสาเด็กวัยรุ่น
" นี่ แซนด์ วันนี้วันที่เท่าไหร่อะ สมองเราเบลอจนจำวันเวลาไม่ได้ละ " ฉันเอ่ยถามแซนด์เพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉันที่มีรสนิยมชื่นชอบเพลงสากลเหมือนกัน ฉันกับแซนด์มักจะชวนกันร้องเพลงในทุกเวลาที่เราว่าง ซึ่งมันก็ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
" วันนี้เหรอ วันที่ 12 มิถุนายน " แซนด์ตอบฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย
" เราไม่ชอบนั่งกับพื้นนานๆอย่างนี้เลย ปวดขาวะ เราขี้เกียจเปลี่ยนท่านั่งทุกๆสิบห้านาที"
ฉันบ่นให้แซนด์ฟัง
" เออ เราก็ไม่ชอบนั่งกับพื้นนานๆเหมือนกันแหละ " แซนด์เห็นด้วยกับฉัน พิธีไหว้ครูก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างน่าเบื่อหน่าย
" แซนด์ แซนด์ เรามาร้องเพลงกันดีกว่าไหม เรารู้สึกเบื่อๆวะ " ฉันชวนแซนด์เพราะหากไม่หาอะไรทำสักอย่าง ฉันต้องหลับแน่ๆ
" ก็ดีเหมือนกัน เราก็เบื่อ ร้องเพลงไรดี " แซนด์ถาม
" อืม Don't say it's too late ของ Westlife " ฉันเสนอเพราะตอนนี้ฉันกับแซนด์บ้า Westlife มาก
And I would risk it all for you
To prove my love is true
I 'll build a wall around my heart
That would only break a part for you
Can't change the way I feel
To tell me what's the deal
Don't say Don't say it's too late
" เพลงนี้เพราะดี ความหมายก็ดี เราโคตรชอบเลย " แซนด์พูดขึ้นเมื่อร้องเพลงจบลง ฉันกับแซนด์นั่งคุยกันอีกมากมายหลายเรื่อง โดยไม่สนใจสังคมรอบข้างว่าเขาทำอะไรกันไปถึงไหนแล้ว และแล้ววินาทีที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันให้ตกลงไปในห้วงแห่งความรักที่ยากจะถอนตัวก็มาถึงฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันจะไปชอบใครจริงๆจังๆเข้า เพราะที่ผ่านมาฉันก็แค่ชื่นชมว่าใครดูดีไปวันๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่ในหัวใจฉันได้สักที มีหลายๆคนที่เขาพูดกันว่าหน้าตาดีและนิสัยดีมากแต่ฉันก็ไม่เคยชอบใครเลย ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน บางทีฉันอาจจะไม่อยากทิ้งหัวใจไว้ที่นี่ซึ่งไม่ใช่บ้านเกิดของฉัน สักวันหนึ่งฉันก็ต้องจากที่นี่ไป ฉันเคยคิดว่าสามปีที่มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ฉันคงจะไม่ชอบใครเลยล้านเปอร์เซ็นต์ ฉันเกือบจะตัดเรื่องความรักออกไปจาก หัวใจได้เลย แต่ผิดคาดทั้งหมด ฉันได้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามความคิดของเราเสมอไป
" ตอนนี้ถึงเวลาประกาศผลรางวัลชนะเลิศประกวดกลอนภาษาไทยวันครูแล้วนะครับ "
เสียงประกาศนี้ทำให้ฉันสนใจขึ้นมาทันที เพราะฉันเป็นคนที่ชอบแต่งกลอนมาก แต่ยังไงครั้งนี้ฉันก็คงไม่ได้เพราะกลอนที่แต่งไปวันนั้นห่วยสุดๆเท่าที่เคยแต่งมา แต่ฉันก็อยากจะรู้ว่าใครจะได้ที่หนึ่ง
เพราะถ้าหากแต่งได้ดีจริงๆ ฉันจะได้เข้าไปทำความรู้จัก
" รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง นายขุนเขา ลำเนาไพร ชั้นม.5/7 " เมื่อประกาศเสร็จเสียงปรบมือก็ดังก้องไปทั่วโรงยิม
" ใครวะไม่เห็นรู้จักเลย เป็นนักร้องประสานเสียงซะด้วย เอ.... อยู่ม.5 เหมือนเราซะด้วยสิ ทำไมไม่เคยเห็นเลยวะ หน้าตาเหมือนเด็กๆเลย น่ารักดี " ฉันคิดในใจ และคำถามมากมายก็ผุดขึ้นมาในใจฉัน
" หัตถ์ประนม ก้มเกศ ด้วยเจตจิต " เขาคนนั้นเริ่มอ่านบทกวีที่เขาแต่งให้ทุกคนได้ชื่นชม
" โห สุดยอด นับถือๆ แค่ขึ้นต้นก็กินขาด " ฉันคิดในใจ ฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมบทกวีนี้ถึงได้รางวัลชนะเลิศ ฉันชักอยากจะรู้จักคนแต่งซะแล้วสิ เพราะคนแต่งกลอนที่ใช้คำได้ถูกใจฉันหายากนัก แต่เวรกรรม..... ฉันจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ฉันกลับจำหน้าตาเขาได้อย่างชัดเจนทั้งๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเมื่อพิธีวันไหว้ครูเสร็จสิ้นลง บรรดานักเรียนต่างพากันแยกย้ายไปเรียนคาบต่อไปตามปกติ
....................................................................................
จากคุณ :
รพินทร์ดารา
- [
18 ธ.ค. 46 22:54:39
]