ละไว้...ในฐานที่เข้าใจ(ต่อ)

    ความใจดีของ “พี่เขา” คนนี้..พิสูจน์ได้ในคืนวันหนึ่ง
    คืนนั้นดึกแล้ว..แต่แขกโต๊ะสุดท้ายยังไม่กลับ
    เขา..พ่อครัวหนุ่ม..กำลังเคร่งเครียดอยู่หน้าเตา
    ความร้อนระอุทำให้ใบหน้าเขามัน..แม้จะมีผ้าสีขาวตุ่น ๆ โผกศีรษะไว้ เธอก็ยังเห็นหยาดเหงื่อของเขาที่หัวคิ้ว และปลายคาง
    เขากำลังทอดปลาช่อนตัวโต..ด้วยไฟที่แรงขนาดปานกลาง
    จะทอดปลาให้กรอบทั่วถึง..กรอบไปจนถึงกระดูก ไฟต้องไม่แรงและไม่อ่อนเกินไป
    ที่สำคัญ จะต้องมีเวลาให้มันอย่างเพียงพอ
    แต่ลูกค้าไม่เข้าใจ มีการตำหนิผ่านเจ้าของร้านมาถึงเขา..แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะทำไมนานอย่างนี้
    เขาเองก็เข้าใจ แต่เขายอมให้อาหารที่ไม่ได้คุณภาพผ่านมือของเขาไปไม่ได้
    อีกเตาหนึ่ง น้ำแกงส้มกำลังเดือดพล่าน จนเขาต้องหรี่แก๊สลง
    น้ำแกงนี้เขาใช้เนื้อปลาช่อนลวก โขลกกับพริกแกงที่ใช้แต่ของสด ก่อนจะนำลงกระทะก้นลึกใส่น้ำพอประมาณ แล้วทิ้งไว้ให้เดือด ทำให้มันส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ไม่รวมถึงความข้นเข้มที่ปรุงจากน้ำมะขามเปียก เกลือ และน้ำตาลปี๊บ
    ผักสดทั้งยอดกระเฉด กระหล่ำปลี ถั่วฝักยาว หัวผักกาดหั่นขวาง เหล่านี้แช่ไว้ในน้ำปูนใสรอไว้เรียบร้อยแล้ว
    ในที่สุดปลาก็กรอบได้ที่..มันมีสีเหลืองเข้ม..ส่งกลิ่นหอมน่าทาน..เขาช้อนมันขึ้นมาวางไว้ในตะแกรงเหนือกระทะให้สะเด็ดน้ำมัน หยิบหม้อไฟที่ทำเป็นรูปตัวปลาขึ้นมา..บรรจงวางตัวปลาลง จัดวางผักให้ดูสวยงาม แล้วราดน้ำแกงส้มลงไป
    เมื่อจุดไฟใต้หม้อไฟแล้วเขาก็พยักหน้าเรียกเธอ ผู้ยืนดูเขาทำอยู่ด้วยสีหน้ากังวล
    “เสร็จแล้ว..ถือดี ๆ ล่ะ..มันร้อน..”
    เธอพยักหน้า..ค่อย ๆ ถือหม้อไฟนั้นขึ้นมา
    ด้วยความร้อน และด้วยความรีบร้อน ทำให้มันเอียง
    น้ำแกงที่กำลังร้อนจัด ไหลลงมาจากการขอบหม้อจนลวกมือของเธอ
    ด้วยความร้อน เธอชักมือหนีโดยอัตโนมัติ
    หม้อไฟรูปตัวปลานั้น จึงกลิ้งโคโร่ลงสู่พื้น ส่งเสียงดังไปทั่ว
    เธอหน้าซีด ในขณะที่เขาก็หน้าตื่น
    เจ้าของร้านได้ยินเสียง เดินจากเคาน์เตอร์เข้ามาด้วยความรีบร้อน
    แต่เขาเร็วกว่า ใช้มือดันให้เธอออกไปห่าง ๆ ส่วนเขาทรุดตัวลงเก็บ
    ภาพนี้ใครเห็นก็ต้องเชื่อว่าเขาเป็นคนทำให้แกงส้มแป๊ะซะหม้อนั้นตกลงสู่พื้น
    เจ้าของร้านเท้าสะเอว..หน้าตาของเขาบึ้งตึงมากยิ่งกว่าที่เขาทำอาหารหม้อนี้ได้ช้าเสียอีก
    “แกถูกตัดเงินเดือน ๆ นี้ห้าร้อยบาท..”
    นั่นคือเสียงคำราม..ที่เขารับด้วยคำสั้น ๆ ว่า
    “ครับ..”
    ………

    เด็กสาวทรุดกายลงนั่งยอง ๆ หลังจากหายตกใจ
    อาการปวดท้องที่มีมาทั้งวันในวันนี้ดูเหมือนจะกำเริบขึ้นเป็นทวีคูณ
    เธอมีประจำเดือนมาได้ปีสองปี ทุกเดือนที่มันมาเธอจะปวดท้องทุกครั้ง แต่ไม่มากเหมือนครั้งนี้
    ความปวดแผ่นซ่านไปทั่วร่าง ท้องน้อยเหมือนถูกบิดด้วยมือที่มองไม่เห็นให้แหลกคามือ
    หน้าซีดยิ่งขึ้น เหงื่อแตก ตาลาย แล้วล้มทรุดลงไป
    เขารีบเข้าประคองโดยเร็ว
    …….

    ค่อยบรรจงร่างแรกสาวนั้นลงบนที่นอนที่บางแทบแนบพื้นห้อง
    หันไปเปิดพัดลมตัวเก่าที่สั่นพั่บทันทีที่มันเริ่มทำงาน
    “น้อย..เอ็งเป็นอะไรวะ?” เขาพร่ำถาม แต่เธอยังตอบเขาไม่ได้
    “เอ็งไม่ต้องตกใจเกินไป เรื่องแค่นี้มันเรื่องเล็ก..คุณชาติเขาไม่ได้ว่าอะไรเอ็งสักหน่อย..”
    เขายังเข้าใจว่าเธอตกใจกลัวจนเป็นลม
    ตู้เสื้อผ้าโย้เย้มีผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ แขวนอยู่
    เขาหยิบมันมาเช็ดหน้าให้เธอ
    ผิวที่ขาวอยู่แล้วซีดมากในแสงนีออนนั้น
    คิ้วที่เข้มหนาเป็นปื้นจึงดูเด่นชัดมากขึ้น
    วงหน้าเล็ก ๆ ที่น่ารัก..คราวนี้เขามองอย่างสงสารจับขั้วหัวใจ
    “ไหวหรือเปล่า??..เดี๋ยวข้าพาเอ็งไปหาหมอนะ..”
    เธอพยายามส่ายหน้า  เธอเกรงใจเขา..เขาถูกตัดเงินเดือนเพราะเธอมาแล้ว
    แต่ไม่ทัน เขาออกจากห้องเธอไปแล้ว
    ความปวดทวีขึ้นจนเธอแทบสิ้นสติ
    มือที่กดท้องน้อยกดแรงขึ้น ดูเหมือนมันจะช่วยได้บ้าง
    น้ำอุ่น ๆ ซึมไหลออกมาจากส่วนล่างของร่างกายจนเธอรู้สึกได้ว่ามันมากกว่าปกติ
    เธอเป็นอะไรไป??
    ……….

    “คุณเป็นญาติของน้องเขาใช่ไหมคะ?..” แพทย์สาวเรียกเขาเข้าไปคุย
    เขาเกือบจะส่ายหน้า..แต่เมื่อนึกได้ว่ามีเขาเพียงคนเดียวในเวลานี้ เขาจึงพยักหน้ารับ
    “มีอะไรบางอย่างที่หมอจะตรวจพบในหมดลูกของเธอ..มันน่าจะเป็นเนื้องอกชนิดหนึ่ง แต่หมอยังไม่แน่ใจ..”
    เขาไม่เข้าใจคำว่าเนื้องอก แต่ก็ยังคงเงียบอยู่
    “การบีบรัดตัวของมดลูกขณะมีประจำเดือน ทำให้มันไปกระทบกับเนื้องอกส่วนนี้เข้า เธอจึงได้ปวดจนสิ้นสติไป..”
    “โรคนี้ถ้าจะให้หายจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด..แต่..” แพทย์หญิงคนนั้นมองหน้าเขานิ่ง
    “ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรครับ..” เขารีบตอบโดยเร็ว
    “ไม่ใช่เรื่องนั้น..แต่เป็นเรื่องของผลหลังการผ่าตัด…”
    “ทำไมครับ?..”
    “หมอก็ไม่แน่ใจนะคะ ว่าผลกระทบของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ต่อมโฮโมนบางอย่างของเธอจะต้องถูกตัดทิ้งไป..โฮโมนชนิดนี้จะมีผลต่อความจำของสมอง..”
    “เธออาจจะเป็นคนที่มีความจำสั้น..ขี้ลืม..หรือถ้าหนักกว่านั้น เธอจะกลายเป็นคนที่มีสมาธิสั้น..คล้าย ๆ คนปัญญาอ่อน..”
    “เพราะฉะนั้น..หมอจะยังไม่ผ่าตัด..จะลองใช้วิธีการอื่นรักษาไปก่อน..แต่ถ้าลองใช้ทุกวิธีแล้ว..เธอยังคงปวดท้องอย่างนี้เวลามีประจำเดือน และยังคงมีเลือดออกจำนวนมากอย่างนี้..ถึงเวลานั้นเราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง..”
    “ที่สำคัญ..เป็นเรื่องที่หมอไม่อยากจะบอก แต่ก็จำเป็นที่ต้องบอกให้ทราบ..”
    “เธอไม่สามารถแต่งงานได้..เอ่อ..หมายความรวมไปถึงว่า เธอไม่สามารถจะมีเพศสัมพันธ์ได้หากไม่ได้รับการรักษาโดยวิธีการผ่าตัดเสียก่อน..เพราะนั่นอาจจะทำให้เธอเสียชีวิตได้..”

    ……….

    ความใจดีของเขา ไม่ใช่แค่ออกรับแทนเธอเมื่อเธอทำผิด และแค่พาเธอไปโรงพยาบาลเมื่อเธอเจ็บป่วยเท่านั้น เขายังคงเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีอีกด้วย
    ทำอาหารอร่อยให้กินทุกมื้อ กำชับให้เธอทานยาไม่ให้ขาด..และที่สำคัญ เขาถึงกับเช็ดตัวให้เธอ ในยามที่เธอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
    ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา..ชีวิตของเธอจึงมีแต่เขาเพียงผู้เดียว..
    ……

    เขาไม่ได้บอกในสิ่งที่เขารู้จากหมอให้เธอทราบ
    เขาหวังว่าหมอจะมีวิธีอื่นรักษาเธอให้หายหรือทุเลาลง โดยไม่ต้องผ่าตัด
    เขากลัวเธอกังวลใจ กลัวเธอจะไม่มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป
    โดยเฉพาะข้อห้ามข้อสุดท้าย ที่ห้ามเธอไม่ให้มีเพศสัมพันธ์
    เธอยังเด็กนัก….ยังคงอีกนานที่เธอจะมีเรื่องเหล่านี้เข้ามาในชีวิต
    เมื่อถึงเวลานั้น เธออาจจะหายจากโรคนี้แล้วก็ได้
    เพราะด้วยตัวเองก็ไม่มีความรู้มากไปกว่าชั้นประถมปีที่ 6 ซึ่งทำให้ได้แค่อ่านออกและเขียนได้เท่านั้น
    เพราะด้วยความหวังดีและปรารถนาดี ทำให้เขาคิดไปไม่ไกลเท่าที่ควร
    เขากำลังคิดสั้นแท้ ๆ …
    ………

    จากคุณ : Harvester - [ 19 ธ.ค. 46 16:39:01 A:202.57.174.83 X: ]