รักคงอยู่เช่นเดิม(เรื่องสั้น2ตอนจบมั้ง?)

    *****รักคงอยู่เช่นเดิม***** (ครึ่งแรก)

    “ไง..คุณครูมานั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวคนเดียวหรือจ๊ะ”

    กวินาเงยหน้าจากชามบะหมี่เกี้ยวเพื่อมองหน้าคนทัก

    “อ้าว..นิดเองเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเป็นไงมั่ง นั่งสิ”

    นิตยดามองบรรยากาศรอบ ๆ แล้วย่นจมูก เนื่องจากบริเวณนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นควันจากยวดยานซึ่งสัญจรบนท้องถนน แต่ก็ยอมหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันมานเป็นแรมปี

    “เห็นตัวเองทีแรกเราไม่อยากจะเชื่อเลย” นิตยดาพูดพลางหย่อนกระเป๋าถือลงบนโต๊ะเหล็กแบบพับได้ที่ดูไม่ค่อยมั่นคงนักหลังจากดูจนแน่ใจว่าไม่รอยน้ำหลงเหลือบนโต๊ะมาทำให้กระเป๋าราคาแพงต้องมัวหมองไป

    “ทำไม? เราสวยขึ้นจนไม่น่าเชื่อหรือไง”

    นิตยดาค้อนใส่เพื่อนสาวเมื่อได้ยินประโยคนั้น ข้อหาหมั่นไส้

    กวินายิ้ม รู้ดีว่านิตยดากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงจะหัวสูงไปบ้าง แต่เพื่อนของเธอคนนี้ก็เป็นคนตรงไปตรงมาคบง่าย

    “ก็ใครจะไปคิดว่านักเรียนนอกจะมานั่ง กินก๋วยเตี๋ยวรมควันอยู่ข้างถนนล่ะยะ”

    “แล้วคิดว่าครูเงินเดือนต่ำอย่างเราจะไปหาอะไรกินที่ไหนล่ะ”

    “จะที่ไหน ก็ในภัตคารหรูกับนายอาณัติ เพื่อฉลองการกลับมาของเขาไง”

    ชื่อที่หลุดออกจากปากเพื่อนสาว มีผลทำให้กวินาชะงักไป เธอพาดตะเกียบกับขอบชามก๋วยเตี๋ยว ดึงกระดาษทิษชูราคาถูกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมีบริการสำหรับลูกค้าขึ้นมาซับคาบมันบนริมฝีปาก

    “ณัติกลับมาแล้วเหรอ?”

    เสียงเรียบ ๆ บวกกับคำถามนั้น ทำเอานิตยดาต้องกระพริบตาปริบ ๆ

    “เฮ้ย..! นายณัติน่ะมันแฟนเธอไม่ใช่หรือไง แล้วมาถามฉันอย่างงี้ได้ไง?”

    กวินาก้มหน้า ริมฝีปากสีชมพูเม้มสนิทอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจไม่ตอบคำถามนั้น

    “แล้วเธอรู้ได้ไงว่าณัติกลับมาแล้ว เขาบอกเธอเหรอ”

    “ขนาดแฟนเขาอย่างเธอยังไม่รู้ แล้วฉันเป็นใคร เขาถึงจะมาบอก..” นิตยดาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของคู่รักคู่นี้ ในบรรดาเพื่อนฝูงไม่เห็นมีข่าวเลยว่าสองคนนี้เลิกคบกันแล้ว แต่ไหงเพื่อนสาวของเธอถึงมีท่าทางแปลก ๆ ทำอย่างกับเลิกคบกับชายหนุ่มผู้นั้นแล้วอย่างนั้นแหละ “..วันก่อนน่ะ ฉันไปดูงานที่สิงคโปร์ ขากลับนั่งเครื่องบินไฟล์เดียวกันมา แต่ฉันไม่ได้ทักหรอกนะเห็นมีเพื่อนมาด้วย” นิตยดาตัดสินใจไม่บอกว่าเพื่อนที่ว่ามาด้วยกันกับอาณัตินั้นเป็นผู้หญิง และเป็นคนที่ทั้งเธอและกวินาต่างรู้จักดี

    ชมภูนุช..

    เพื่อนสมัยเรียนของมหาวิทยาลัยของเธอและกวินา เจ้าหล่อนเป็นดาวคณะที่มีหนุ่ม ๆ หลายคนคอยห้อมล้อมตลอดเวลาจนกระทั่งเรียนจบ เป็นไปได้มั้ย? ว่าอาณัติและกวินามีปัญหากันเพราะชมภูนุชเข้ามาแทรก

    “งั้นเหรอ” กวินาพึมพำรับคำ

    “เฮ้ย..เปลี่ยนเรื่องพูดดีกว่า นี่ๆ”

    นี่ของนิตยดาคือซองสีขาวข้างในบรรจุการ์ดอะไรซักอย่างไว้

    “อะไรล่ะเนี่ย? ซองผ้าป่าไม่เอานะ” กวินายื่นมือออกไปรับมาเปิดดู

    “ไม่ใช่ซองผ้าป่า นี่บัตรเชิญร่วมงานศิษย์เก่าย่ะ จองโต๊ะไว้แล้วจ่ายตังค์มาซะดี ๆ”

    “อ๋า?? มัดมือชกนี่นา”

    “ช่วยไม่ได้ ฉันจองไว้ตั้งสองโต๊ะนี่ยะ” นิตยดารับกระดาษสีม่วงจากเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี “แล้วนี่เธอรู้มั้ยว่าที่ไหนเพื่อนเรามันไปรวมตัวกันเยอะ ๆ มั่ง”

    “คืนวันเสาร์ลองไปคลับของนายอู๋ดูสิ น่าจะมีเหยื่อหลงมาให้เธอเชือดอีกนะ”

    “ฉันก็ว่าจะไปอยู่แล้วล่ะ ไม่มีใครก็ได้อีตาอู๋น่ะแหละ”

    “แล้วนี่ไม่เอาไปเผื่อณัติหรือไง?” นิตยดาลองแย็ปเรื่องอาณัติอีกทีเพื่อดูปฏิกิริยาของเพื่อนสาว

    กวินาอึ้งไปเล็กน้อย

    “ไม่รู้สิ..เราไม่รู้ว่าณัติจะไปหรือเปล่า ไม่อยากซื้อแทน เธอลองไปถามเขาเองแล้วกัน”

    “เอางั้นเหรอ..”

    วันนั้นสองสาวจากกันโดยที่คนหนึ่งเก็บงำความสงสัยไว้ในใจ ส่วนอีกคนหนึ่งหงอยเหงาเศร้าซึม


    “พี่กี้..พี่กี้..พี่แนชเป็นอะไรก็ไม่รู้ กลับมาก็หน้าบูดเข้าห้องไปเลย”

    กีรติกดนิ้วค้างบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดตัวอักษรอันไม่พึงประสงค์ขึ้นมากมาย เมื่อน้องสาววัยสิบสี่ส่งเสียงแจ้ว ๆ เข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต กีรติถอนหายใจ ขณะลบตัวหนังสือพวกนั้นออกไปจากรายงานที่เธอต้องส่งอาทิตย์หน้า

    “ต๋าไปกวนอะไรพี่แนชล่ะ”

    “เปล่านะ..ต๋าแค่จะให้พี่แนชสอนการบ้านอังกฤษให้เอง” เกริตากระโดดขึ้นนั่งบนเตียงพี่สาวคนรองพร้อมทั้งคว้าเจ้าตุ๊กตาปลาโลมาตัวใหญ่บนเตียงพี่สาวมากอดเล่น

    “นั่นแหละ ที่เรียกว่ากวน”

    “แต่..พี่แนชเข้าห้องก่อนที่ต๋าจะพูดอะไรซะอีก จะหาว่าเป็นเพราะต๋าได้ไง สงสัยถูกแฟนทิ้งแหง”

    เกริตาพูดไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังอึ้งขึ้นมาตะหงิด ๆ

    นั่นสินะ..นานเท่าไหร่แล้วที่พี่สาวไม่ได้พูดถึงจดหมายของคนรักหนุ่ม เห็นเขาเงียบ ๆ ไป เธอก็คิดว่าทั้งสองอาจยังติดต่อกันทางอีเมล์อยู่ เพราะในห้องพี่สาวเธอก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่เช่นกัน ระยะหลัง ๆ พี่สาวเธอก็แปลกไปจริง ๆ ซะด้วยหรือจะเป็นเพราะเรื่องนี้ พี่แนชเลิกกับพี่ณัติโดยไม่ได้บอกเธอหรือเปล่า?

    กีรติกดเซฟข้อมูลบนหน้าจอ ตัดสินใจไปถามพี่สาวให้สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไปเลย

    “ไปทำการบ้านไป ยัยต๋า”

    “พี่กี้จะสอนใช่ป่ะ”

    “เรื่อง! การบ้านตัวเองก็ทำเองสิ”

    “เชอะ..ไม่ง้อก็ได้” เกริตาเดินสบาย ๆ ออกจากห้อง แต่ก่อนที่ประตูจะถูกปิดอย่างรวดเร็ว เกริตาก็ตะโกนเสียงดังออกมา “ผีเสื้อสมุทรกีรติ!!!!!!!!!”

    กีรติปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามปกติไม่คิดสนใจเสียงตะโกนของน้องสาว เพราะชินแล้วกับความห่ามบ้า ๆ บอ ๆ ของวัยรุ่นนั้น และเธอก็มีวิธีแก้เผ็ดอยู่แล้วด้วย กีรติกดโทรศัพท์ตามเบอร์ที่คุ้นเคย

    “เมฆ มาสอนภาษาอังกฤษให้ต๋ามันหน่อย”

    “….”

    “เออ..ชั่วโมงละห้าสิบ เหมือนเดิม..”

    เมื่อปลายสายวางหูแล้ว กีรติจึงวางบ้าง ห้องพี่สาวของเธอคือจุดหมายต่อไป


    กวินาสลัดกระเป๋าสะพายอย่างไม่แยแส ทิ้งตัวลงนอนลงบนเตียง หัวสมองเธอเต้นตุบ ๆ หวนคิดถึงความหลัง สองปีกว่าแล้วที่เธอกลับมาที่เมืองไทย ขณะที่อาณัติคนรักของเธอยังเรียนปริญญาเอกต่อที่อเมริกา

    (มีต่อจ้า...)

    จากคุณ : wayo - [ 27 ธ.ค. 46 13:42:50 ]