*****รักคงอยู่เช่นเดิม***** (ครึ่งแรก)
ไง..คุณครูมานั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวคนเดียวหรือจ๊ะ
กวินาเงยหน้าจากชามบะหมี่เกี้ยวเพื่อมองหน้าคนทัก
อ้าว..นิดเองเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเป็นไงมั่ง นั่งสิ
นิตยดามองบรรยากาศรอบ ๆ แล้วย่นจมูก เนื่องจากบริเวณนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นควันจากยวดยานซึ่งสัญจรบนท้องถนน แต่ก็ยอมหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันมานเป็นแรมปี
เห็นตัวเองทีแรกเราไม่อยากจะเชื่อเลย นิตยดาพูดพลางหย่อนกระเป๋าถือลงบนโต๊ะเหล็กแบบพับได้ที่ดูไม่ค่อยมั่นคงนักหลังจากดูจนแน่ใจว่าไม่รอยน้ำหลงเหลือบนโต๊ะมาทำให้กระเป๋าราคาแพงต้องมัวหมองไป
ทำไม? เราสวยขึ้นจนไม่น่าเชื่อหรือไง
นิตยดาค้อนใส่เพื่อนสาวเมื่อได้ยินประโยคนั้น ข้อหาหมั่นไส้
กวินายิ้ม รู้ดีว่านิตยดากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงจะหัวสูงไปบ้าง แต่เพื่อนของเธอคนนี้ก็เป็นคนตรงไปตรงมาคบง่าย
ก็ใครจะไปคิดว่านักเรียนนอกจะมานั่ง กินก๋วยเตี๋ยวรมควันอยู่ข้างถนนล่ะยะ
แล้วคิดว่าครูเงินเดือนต่ำอย่างเราจะไปหาอะไรกินที่ไหนล่ะ
จะที่ไหน ก็ในภัตคารหรูกับนายอาณัติ เพื่อฉลองการกลับมาของเขาไง
ชื่อที่หลุดออกจากปากเพื่อนสาว มีผลทำให้กวินาชะงักไป เธอพาดตะเกียบกับขอบชามก๋วยเตี๋ยว ดึงกระดาษทิษชูราคาถูกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมีบริการสำหรับลูกค้าขึ้นมาซับคาบมันบนริมฝีปาก
ณัติกลับมาแล้วเหรอ?
เสียงเรียบ ๆ บวกกับคำถามนั้น ทำเอานิตยดาต้องกระพริบตาปริบ ๆ
เฮ้ย..! นายณัติน่ะมันแฟนเธอไม่ใช่หรือไง แล้วมาถามฉันอย่างงี้ได้ไง?
กวินาก้มหน้า ริมฝีปากสีชมพูเม้มสนิทอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจไม่ตอบคำถามนั้น
แล้วเธอรู้ได้ไงว่าณัติกลับมาแล้ว เขาบอกเธอเหรอ
ขนาดแฟนเขาอย่างเธอยังไม่รู้ แล้วฉันเป็นใคร เขาถึงจะมาบอก.. นิตยดาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของคู่รักคู่นี้ ในบรรดาเพื่อนฝูงไม่เห็นมีข่าวเลยว่าสองคนนี้เลิกคบกันแล้ว แต่ไหงเพื่อนสาวของเธอถึงมีท่าทางแปลก ๆ ทำอย่างกับเลิกคบกับชายหนุ่มผู้นั้นแล้วอย่างนั้นแหละ ..วันก่อนน่ะ ฉันไปดูงานที่สิงคโปร์ ขากลับนั่งเครื่องบินไฟล์เดียวกันมา แต่ฉันไม่ได้ทักหรอกนะเห็นมีเพื่อนมาด้วย นิตยดาตัดสินใจไม่บอกว่าเพื่อนที่ว่ามาด้วยกันกับอาณัตินั้นเป็นผู้หญิง และเป็นคนที่ทั้งเธอและกวินาต่างรู้จักดี
ชมภูนุช..
เพื่อนสมัยเรียนของมหาวิทยาลัยของเธอและกวินา เจ้าหล่อนเป็นดาวคณะที่มีหนุ่ม ๆ หลายคนคอยห้อมล้อมตลอดเวลาจนกระทั่งเรียนจบ เป็นไปได้มั้ย? ว่าอาณัติและกวินามีปัญหากันเพราะชมภูนุชเข้ามาแทรก
งั้นเหรอ กวินาพึมพำรับคำ
เฮ้ย..เปลี่ยนเรื่องพูดดีกว่า นี่ๆ
นี่ของนิตยดาคือซองสีขาวข้างในบรรจุการ์ดอะไรซักอย่างไว้
อะไรล่ะเนี่ย? ซองผ้าป่าไม่เอานะ กวินายื่นมือออกไปรับมาเปิดดู
ไม่ใช่ซองผ้าป่า นี่บัตรเชิญร่วมงานศิษย์เก่าย่ะ จองโต๊ะไว้แล้วจ่ายตังค์มาซะดี ๆ
อ๋า?? มัดมือชกนี่นา
ช่วยไม่ได้ ฉันจองไว้ตั้งสองโต๊ะนี่ยะ นิตยดารับกระดาษสีม่วงจากเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี แล้วนี่เธอรู้มั้ยว่าที่ไหนเพื่อนเรามันไปรวมตัวกันเยอะ ๆ มั่ง
คืนวันเสาร์ลองไปคลับของนายอู๋ดูสิ น่าจะมีเหยื่อหลงมาให้เธอเชือดอีกนะ
ฉันก็ว่าจะไปอยู่แล้วล่ะ ไม่มีใครก็ได้อีตาอู๋น่ะแหละ
แล้วนี่ไม่เอาไปเผื่อณัติหรือไง? นิตยดาลองแย็ปเรื่องอาณัติอีกทีเพื่อดูปฏิกิริยาของเพื่อนสาว
กวินาอึ้งไปเล็กน้อย
ไม่รู้สิ..เราไม่รู้ว่าณัติจะไปหรือเปล่า ไม่อยากซื้อแทน เธอลองไปถามเขาเองแล้วกัน
เอางั้นเหรอ..
วันนั้นสองสาวจากกันโดยที่คนหนึ่งเก็บงำความสงสัยไว้ในใจ ส่วนอีกคนหนึ่งหงอยเหงาเศร้าซึม
พี่กี้..พี่กี้..พี่แนชเป็นอะไรก็ไม่รู้ กลับมาก็หน้าบูดเข้าห้องไปเลย
กีรติกดนิ้วค้างบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดตัวอักษรอันไม่พึงประสงค์ขึ้นมากมาย เมื่อน้องสาววัยสิบสี่ส่งเสียงแจ้ว ๆ เข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต กีรติถอนหายใจ ขณะลบตัวหนังสือพวกนั้นออกไปจากรายงานที่เธอต้องส่งอาทิตย์หน้า
ต๋าไปกวนอะไรพี่แนชล่ะ
เปล่านะ..ต๋าแค่จะให้พี่แนชสอนการบ้านอังกฤษให้เอง เกริตากระโดดขึ้นนั่งบนเตียงพี่สาวคนรองพร้อมทั้งคว้าเจ้าตุ๊กตาปลาโลมาตัวใหญ่บนเตียงพี่สาวมากอดเล่น
นั่นแหละ ที่เรียกว่ากวน
แต่..พี่แนชเข้าห้องก่อนที่ต๋าจะพูดอะไรซะอีก จะหาว่าเป็นเพราะต๋าได้ไง สงสัยถูกแฟนทิ้งแหง
เกริตาพูดไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังอึ้งขึ้นมาตะหงิด ๆ
นั่นสินะ..นานเท่าไหร่แล้วที่พี่สาวไม่ได้พูดถึงจดหมายของคนรักหนุ่ม เห็นเขาเงียบ ๆ ไป เธอก็คิดว่าทั้งสองอาจยังติดต่อกันทางอีเมล์อยู่ เพราะในห้องพี่สาวเธอก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่เช่นกัน ระยะหลัง ๆ พี่สาวเธอก็แปลกไปจริง ๆ ซะด้วยหรือจะเป็นเพราะเรื่องนี้ พี่แนชเลิกกับพี่ณัติโดยไม่ได้บอกเธอหรือเปล่า?
กีรติกดเซฟข้อมูลบนหน้าจอ ตัดสินใจไปถามพี่สาวให้สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไปเลย
ไปทำการบ้านไป ยัยต๋า
พี่กี้จะสอนใช่ป่ะ
เรื่อง! การบ้านตัวเองก็ทำเองสิ
เชอะ..ไม่ง้อก็ได้ เกริตาเดินสบาย ๆ ออกจากห้อง แต่ก่อนที่ประตูจะถูกปิดอย่างรวดเร็ว เกริตาก็ตะโกนเสียงดังออกมา ผีเสื้อสมุทรกีรติ!!!!!!!!!
กีรติปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามปกติไม่คิดสนใจเสียงตะโกนของน้องสาว เพราะชินแล้วกับความห่ามบ้า ๆ บอ ๆ ของวัยรุ่นนั้น และเธอก็มีวิธีแก้เผ็ดอยู่แล้วด้วย กีรติกดโทรศัพท์ตามเบอร์ที่คุ้นเคย
เมฆ มาสอนภาษาอังกฤษให้ต๋ามันหน่อย
.
เออ..ชั่วโมงละห้าสิบ เหมือนเดิม..
เมื่อปลายสายวางหูแล้ว กีรติจึงวางบ้าง ห้องพี่สาวของเธอคือจุดหมายต่อไป
กวินาสลัดกระเป๋าสะพายอย่างไม่แยแส ทิ้งตัวลงนอนลงบนเตียง หัวสมองเธอเต้นตุบ ๆ หวนคิดถึงความหลัง สองปีกว่าแล้วที่เธอกลับมาที่เมืองไทย ขณะที่อาณัติคนรักของเธอยังเรียนปริญญาเอกต่อที่อเมริกา
(มีต่อจ้า...)
จากคุณ :
wayo
- [
27 ธ.ค. 46 13:42:50
]